ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

วิธีง่ายๆ ต่อสู้กับมะเร็ง

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย leo » จันทร์ ต.ค. 04, 2010 8:02 am

วิธีง่ายๆ ต่อสู้กับมะเร็ง







วิธีง่ายๆต่อสู้กับมะเร็ง(ส่งต่อได้กุศล)
พ่อเลี้ยงวรรณ พิมพนิช
เจ้าของรวมเกษตรฟาร์ม
มาบรรยายวิธีรักษามะเร็งเมื่อเดือนที่แล้ว
ผมเห็นว่ามีประโยชน์
จึงนำมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆฟัง ดังนี้
พ่อเลี้ยงวรรณฯ อายุ 60 ปี
เป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายที่กระดูกสันหลัง
คุณหมอทั้งไทยและเยอรมัน
ไม่รับรองว่าจะรักษาหาย
จึงไปทำการรักษาที่เกาหลีเหนือ
เป็นเวลา 1 เดือน ก็หายจากโรค
กลับมาเมืองไทย จึงตั้งเป็นมูลนิธิวรรณ
รับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ฟรี!
ปัจจุบันมีผู้รับการรักษา 2000 กว่าคน
ณ อ.แม่สอด ห่างจาก จว.ตาก 100 กิโลเมตร

วิธีการรักษามะเร็งแบบธรรมชาติง่ายๆ 4 ข้อ ดังนี้
1. จิตใจ ต้องสู้
2. อาหารงดเว้นเนื้อสัตว์
แล้วหันมารับประทานอาหารที่มะเร็งไม่รับประทาน 15 ชนิด ได้แก่
2.1 ธัญพืช 5 ชนิด ได้แก่
ข้าวกล้อง , ข้าวม้ง ,ข้าวบาเล่ย์ , ข้าวสาลี, และลูกเดือย
นำมาหุงด้วยหม้อข้าวไฟฟ้า
2.2 ผักผลไม้ 10 ชนิด ได้แก่
หอมหัวใหญ่ ,มันฝรั่ง,หรือมันเทศ ,กล้วยน้ำว้าสุก (8 ลูก/วัน),ฟักทอง,
ข้าวโพดหวาน ,ยอดแค ,ถั่วพู(2ชนิดนี้ห้ามขาด),บลอคโคลี่หรือกะหล่ำดอก ,ถั่วหวาน
และคะน้าฮ่องกง(ผักผลไม้ 5 ชนิดแรกใช้นึ่ง)
นำทั้ง 10 ชนิด หั่นเป็นชิ้นๆ นำมาเข้าเครื่องปั่นแบบไม่ต้องละเอียดมาก
เพื่อให้กระเพาะอาหารทำหน้าที่ย่อย
จากนั้นนำมารับประทานหนัก 1 กก./วันกับธัญพืช
3.อาบน้ำร้อนสลับเย็นหรือเย็นสลับร้อนอย่างละ 2 นาที รวมเวลา 10 นาที 1 ครั้ง/วัน
เตรียมน้ำร้อนโดยใช้เครื่องทำน้ำร้อน
เตรียมน้ำเย็นโดยหาถังน้ำใส่น้ำแข็ง
แล้วอาบร้อนจัดและเย็นจัดเท่าที่ร่างกายทนได้
ภูมิต้านทานโรคทั้งสิ้น 2 จำพวก จะถูกกระตุ้นขึ้นมาทำหน้าที่อย่างแข็งขัน

4.การออกกำลังกาย เดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ประมาณ 45 นาที/ วัน
ง่ายไหมครับ
ถ้าเพื่อนสนใจ
สามารถเขียนจดหมายติดต่อ
ขอรับธัญพืชปลอดสารพิษจากไร่ อ.แม่สอด ตามสถานที่ข้างล่างนี้
พ่อเลี้ยงวรรณ
" มูลนิธิวรรณ " เลขที่ 3/681 ประชานิเวศน์
ถ.เทศบาลนิมิตเหนือ
ลาดยาว จตุจักร กทม.
เบอร์โทรศัพท์ 02-1580658
มือถือ 086-7886222 /
ภาพประจำตัวสมาชิก
leo
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 2:02 pm

โพสต์โดย leo » จันทร์ ต.ค. 04, 2010 8:05 am

ตามด้วยสารต้านมะเร็ง ในกล้วย BANANAS with dark patches on yellow skin...
กล้วยที่มีจุดดำๆบนผิว.....



The fully ripe banana produces a substance called TNF (Tumor Necrosis Factor) which has the ability to combat abnormal cells.
กล้วยที่สุกเต็มที่จะสร้างสารที่เรียกว่า TNF (Tumor Necrosis Factor) ซึ่งมีความสามารถที่จะไปต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปรกติ



As the banana ripens, it develops dark spots or patches on the skin.

ยิ่งกล้วยสุกมากเท่าไหร่ ก็จะเกิดจุดสีดำที่เปลือกมากขึ้น


The more dark patches it has, the higher will be its' immunity enhancement quality.
ยิ่งมีจุดดำนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เกิดภูมิต้านทานมากขึ้น



According to a Japanese scientific research, banana contains TNF which has anti-cancer properties. The degree of anti-cancer effect corresponds to the degree of ripeness of the fruit, i.e. the riper the banana, the better the anti-cancer quality..
จากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น กล้วยจะมี TNF ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง ยิ่งกล้วยสุกมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็งได้มากขึ้น

In an animal experiment carried out by a professor in Tokyo University comparing the various health benefits of different fruits, using banana, grape, apple, water melon, pineapple, pear and persimmon, it was found
that banana gave the best results. It increased the number of white bloodcells, enhanced the immunity of the body and produced anti-cancer substance TNF.
ในการทดลองกับสัตว์โดยศาสตราจารย์ญี่ปุ่นผู้หนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ในการเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้จากผลไม้ต่างๆ โดยใช้ กล้วย องุ่น แอปเปิล แตงโม สับปะรด ลูกแพร์ ลูกพลับ ปรากฏว่ากล้วยให้ผลดีที่สุด มันช่วยทำให้เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น เพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย และสร้างสารต้านมะเร็ง TNF

The recommendation is to eat 1 to 2 banana a day to increase your body immunity to diseases like cold, flu and others.
คำแนะนำคือให้กินกล้วยวันละ 1-2 ใบเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ และอื่นๆ

According to the Japanese professor, yellow skin bananas with dark spots on it are 8 times more effective in enhancing the property of white blood cells than the green skin version
ตามคำแนะนำของศาสตราจารย์ญี่ปุ่น กล้วยทีมีผิวเหลืองและมีจุดดำๆหลายๆแห่งจะมีคุณสมบัติในการเพิ่มเม็ดเลือดขาวได้มากกว่ากล้วยที่มีผิวเขียวถึง 8 เท่า



บทความนี้เป็นความจริงครับ Necrosis แปลว่าการเปื่อยเน่าตายของเซลล์ ดังนั้น TNF (Tumor Necrosis Factor) ก็คือสารที่จะไปทำให้เซลล์มะเร็งตายได้
กลไกการทำงานของ TNF คือ
1. การเกาะของ TNF กับเซลล์มะเร็งจะเป็นพิษโดยตรงกับเซลล์มะเร็งโดยการเกิดอนุมูลอิสระที่ไปทำลายเซลล์มะเร็ง ที่ไม่มีเอ็นซัยม์ Superoxide Dismutase เซลล์ปรกติจะมีเอ็นซัยม์ Superoxide Dismutase ซึ่งลบล้างฤทธิ์อนุมูลอิสระได้ นอกจากนี้อาจไปทำให้กิดจากการทำลายโปรตีนโครงสร้างของเซลล์มะเร็ง
2. TNF ทำให้ก้อนมะเร็งตายโดยทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็งอุดตัน ก้อนมะเร็งที่ขาดเลือดจึงเน่าตายไป

อย่างไรก็ตาม TNF ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไปสำหรับทุกคน เพราะTNF ที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นมาก็ย่อมจะก่อให้เกิดอาการอักเสบต่อเซลล์ได้เช่นกัน ดังเช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จะมีสาร TNF นี้สูง ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น แทนที่จะเป็นประโยชน์ในผู้ที่มีอาการอักเสบของร่างกาย จึงต้องใช้ยาที่มาต้านกับ TNF เพื่อลดอาการอักเสบแทน






วันนี้มีเรื่องสำคัญอยากจะมาเล่าให้สาวๆ ฟังกัน ได้รับเมลล์มาฉบับหนึ่งน่าสนใจมากๆ เรื่องก็มีอยู่ว่า
คือว่าเมื่อเร็วๆนี้แม่ของเพื่อนฉันได้ตรวจพบมะเร็งที่ทรวงอก ก็ได้ลองทำการหาสาเหตุุของมะเร็งที่เกิดขึ้น ก็ลองสันนิฐานกันหลายอย่างจน สุดท้ายเล่าให้คุณหมอฟังว่า ส่วนมากแล้วคุณแม่จะเดินทางบ่อย จึงทำให้ใช้เวลาอยู่ในรถบ่อยๆ และก็ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่อยู่ในรถบ่อยๆ ซึ่งบางครั้งขวดน้ำที่อยู่ในรถนั้นเก็บไว้ 2-3 วันมาบ้างแล้ว
คุณหมอก็ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้มาบ้างว่า ผู้หญิงไม่ควรดื่มน้ำจากขวดน้ำพลาสติกที่ทิ้งไว้ในรถ ความร้อนบวกกับพลาสติคจากขวดจะก่อเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่นำไปสู่มะเร็งทรวงอก ได้เพราะฉะนั้นได้โปรดระมัดระวังอย่าดื่มน้ำจากขวดน้ำพลาสติคที่ทิ้งไว้ในรถ จะดีที่สุด อย่างน้อยก็กันไว้ด! ีกว่าแก้นะ

ฝาก?อกต่อๆกันไปนะ เผื่อจะเป็นความรู้ดีๆแก่สาวๆหลายคน ให้ดูแลตัวเองกันให้ดีๆขึ้นนะ



ศูนย์ศึกษาโรคมะเร็งจอห์น ฮ็อบกิ้นส์ พบแล้วว่า
สาเหตุุที่ร่างกายของได้รับสารก่อมะเร็งนั้นสามารถเกิดจาก

1. การดื่มน้ำ ขวด พลาสติก ที่แช่ในช่องฟรีซในตู้เย็น
2. การใช้ พลาสติกคลุมอาหาร เพื่ออุ่นในเตาไมโครเวฟ
3. รวมถึงการใช้ ถุงพลาสติคใส่อาหาร เพื่ออุ่นกับเตาไมโครเวฟ
4. การใช้ วัสดุ โฟม ใส่อาหารที่ร้อนและมัน

เนื่องจาก สารพิษจากพลาสติก สามารถละลายออกแล้วไหลปนเปื้อนกับอาหารที่เรารับประทานได้
โดยตรง ทำให้เกิดโรคมะเร็งทรวงอก มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
กรุณาส่งเมล์นี้ให้คนที่คุณห่วงใยให้มากที่สุด




--------------------------------------------------------------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
leo
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 2:02 pm

โพสต์โดย tAd natchadapOrn » จันทร์ ต.ค. 04, 2010 11:35 am

ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อความดีๆมีประโยชน์
ที่บ้านนี่ ลิง3ตัวกินกล้วยกันเกือบทุกวันค่ะ ไม่รู้เป็นไงกล้วยนี่ต้องมีติดบ้านเสมอ
และพยายามซื้อแบบbioน่ะค่ะ
<span style='color:gray'><i><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>วาง&deg;&deg;&deg;เบา&deg;&deg;&deg;ว่าง</span></i></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tAd natchadapOrn
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 516
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 08, 2009 6:31 pm


ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron