ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ลูกไม่ยอมกินนมจากบีกเกอร์

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย prettypass2000 » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 8:05 pm

พี่หนูนา เห็นแล้วนึกถึงชาร์ลอตต์ตอนเด็กๆน่ะค่ะ ตอนนี้ใช้ส้อมกะช้อนแล้วยกเว้นพวกฟิงเก้อร์ฟู๊ด แต่ข้าวเหนียวนี่คุณนายยังใช้มือเปิปอยู่นะคะ อิอิอิอิ หนูว่าเด็กๆเวลาเขาทานข้าวเองอ่ะน่ารักดีค่ะถึงแม้จะเลอะเทอะไปหน่อยก็เหอะ อิอิอิ
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย ainsworth » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 9:03 pm

เจสสิก้า จำเป็นต้องเข้าเนอซรี่น่ะค่ะ<span style='color:red'>โหน่ง</span> เลยต้องหัดให้เหมือนชาวบ้าน ฝรั่งนี่ก็เลี้ยงลูกเป็นขั้นเป็นตอนกันจริงๆ ไอ้เราก็อยากให้เด็กทำเป็นเองอย่างที่โหน่งว่า แต่ฝรั่งนี่ใจร้อนสุดๆ หัดมันตั้งแต่เกิด แบบว่าแม่ยังอยู่ไฟอยู่เล๊ย

<span style='color:orange'>พี่</span><span style='color:orange'>หนูนา</span> ก็หวังว่าเจสสิก้าจะเป็นอย่างที่พี่ว่าค่ะ สาธุ๊ ส่วนเรื่องกินเจสสิก้าก็ไม่มีปัญหาค่ะ แกก็หยิบกินเองได้ ตอนนี้ก็เริ่มหัดให้จับส้อมแล้ว ไม่รู้จะได้สักกี่น้ำ อ้อ แต่ยังไม่เคยลองให้หยิบข้าวแบบน้องญาน่าเลย แบบว่าขี้เกียจตามเช็ดน่ะค่ะ แค่ตามเก็บทุกวันนี้ก็เหนื่อยจะแย่

<span style='color:blue'>น้องมด</span> เจ้าเจสสิก้านี่ชอบทุกซิปปี้คัพที่ซื้อมาค่ะ แต่แกถือเล่นอย่างเดียวเลย ใช้เป็นของเล่นไปซะงั้น แล้วก็สงสัยจะคันฟันเพราะชอบแทะหัวจุก ไม่ยอมดูด แต่ถ้าแกหิวน้ำก็จะยกดื่มเองไม่มีปัญหา จะมีปัญหาเฉพาะตอนที่เราจะให้แกกินนม พอแกยกซิปปี้คัพขึ้นมา แต่รสชาติเป็นนมแกจะไม่เอาเลย แล้วเจสสิก้าเป็นประเภท ช่างมันฉันไม่แคร์ค่ะ จะให้กินนมหรือไม่ให้ก็ไม่เคยร้องกิน แต่ถ้ากระหายน้ำก็จะยกน้ำกินเองน่ะค่ะ แปลกม่ะคะลูกพี่
<br><br><img src='http://i57.photobucket.com/albums/g239/sthelens/Icons/mixfruits.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ainsworth
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย naddyswiss » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 9:16 pm

อันนี้เราเชื่อฮ่ะ เพราะว่าคุณหญิงย่าของแอนดี้เค้าก้อเป็น ฮ่าๆๆๆ อะไรๆก้อต้องเป็นไปตามแบบแผนต้องมี routine

ย่าของเด็กๆ ไม่ชอบถ้าหลานดูการ์ตูนกัน คุณย่าไม่ชอบถ้าหลานยืนบนโต๊ะทานข้าวเด็ก

คุณหญิงย่าไม่ชอบถ้าเด็กกินขนมจุกจิก และอื่นๆอีกมากมาย

โหน่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะทุกวันนี้สามีโหน่งโดนเลี้ยงมาอย่างงั๊นก้อจะไม่กินจุกจิก

แต่เริ่มหัดกินจุกจิกตอนได้ภรรยาเป็นโหน่งเนี่ยแหละฮ่ะ มีนอนกินด้วยนะฮ๊ะ บางทีภรรยาต้องป้อนด้วยฮ่ะ พี่ท่านนอนกิน ฮ่าๆๆๆ มีตอนนึงสามีนอนรับประทานข้าวเหนียวปิ้งฮ่ะ ไอ้เราก้อป้อนข้าวเหนียวพี่ท่านก้อตอดด้วยความอร่อย อิฉันก้อเลยรอให้เผลอๆ เอาใบตองยัดปากพี่ท่านก้อยังกินเข้าไปอีก อิอิอิ

ยังไงขอให้น้องแจ๊สดื่มนมจากขวดได้ไวๆนะคะ แต่โหน่งสงสารน้องแจสไม่อยากให้ถูกบังคับเลยค่ะ แต่เอาใจช่วยแว๊วกันนะคะ แต่ความจริงฝรั่งเค้าไม่น่าจะมาซีเรียสเลยอ่ะ น้องเจสิก้าอยากดื่มนมใส่ขวดบ้างก้อไม่น่าจะบังคับกันเลยอ่ะ เพราะโหน่งเห็นเมืองไทยเด็กอนุบาลเค้าก้อเอาขวดนมไปโรงเรียนกันอยู่เลย แต่ก้อดีแล้วค่ะ เพราะขวดนมก้อไม่ค่อยดีเหมือนกัน เค้าบอกว่ามันทำให้เด็กฟันผุไวด้วยน่ะค่ะ
naddyswiss
 

โพสต์โดย prettypass2000 » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 9:19 pm

พี่โจ๋ย งั้นคงต้องงดให้น้ำแล้วเล่นใส่แต่นมเพียวๆเลยค่า เจสสิก้าคงร้องน่าดูนะคะแต่ถ้าเขาคอแห้งก็คงต้องจำใจดื่มน่ะค่ะ พอดีเพื่อนฝรั่งเขาฝึกลูกเขาอย่างนี้น่ะค่ะ ลูกเขาร้องอยู่วันสองวันจนสุดท้ายก็จำใจดื่มน่ะค่ะ มดยังคิดเลยว่าเพื่อนอ่ะโหดแต่เขาบอกว่าหมอเขาแนะนำมาหลายวิธีแล้วจนมาวิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายน่ะค่ะ อิอิอิอิ แต่ที่พี่โจ๋ยพูดก็ถูกคือที่นี่เขาเลี้ยงเด็กเป็นขั้นตอนมากน่ะค่ะ ตอนนี้คุณหมอเขาก็บอกว่้าชาร์ลอตต์ต้องเลิกจุกนม แต่มดยังสงสารอยู่เลยให้ดูดจุกนมแค่ตอนนอนน่ะค่ะ
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย naddyswiss » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 9:46 pm

prettypass2000 เขียน: พี่โจ๋ย งั้นคงต้องงดให้น้ำแล้วเล่นใส่แต่นมเพียวๆเลยค่า เจสสิก้าคงร้องน่าดูนะคะแต่ถ้าเขาคอแห้งก็คงต้องจำใจดื่มน่ะค่ะ พอดีเพื่อนฝรั่งเขาฝึกลูกเขาอย่างนี้น่ะค่ะ ลูกเขาร้องอยู่วันสองวันจนสุดท้ายก็จำใจดื่มน่ะค่ะ มดยังคิดเลยว่าเพื่อนอ่ะโหดแต่เขาบอกว่าหมอเขาแนะนำมาหลายวิธีแล้วจนมาวิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายน่ะค่ะ อิอิอิอิ แต่ที่พี่โจ๋ยพูดก็ถูกคือที่นี่เขาเลี้ยงเด็กเป็นขั้นตอนมากน่ะค่ะ ตอนนี้คุณหมอเขาก็บอกว่้าชาร์ลอตต์ต้องเลิกจุกนม แต่มดยังสงสารอยู่เลยให้ดูดจุกนมแค่ตอนนอนน่ะค่ะ

มดแอนดี้ลูกพี่มันไม่ติดจุกนมเหมือนน้องชาร์ลอตนะ มันติดดูดนิ้วเนี่ยดิ ฮ่าๆๆๆ ดูดจนนิ้วปูดด้านๆไปแว๊วอ่ะ

ก้อไม่รู้จะทำไง จะตัดนิ้วลูกออกไปก้อกลับจะเหลือแค่สี่นิ้ว ฮ่าๆๆๆ

แต่ก้อไม่ได้ดูดตลอดเหมือนกัน เค้าจะดูดตอนง่วงนอนมากกว่าค่ะ
naddyswiss
 

โพสต์โดย Kiblemongrass » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 10:29 pm

<span style='color:green'>แต่กิ๊บสงสัยมากเลยพี่โจ๋ย
ทำไมเขาไม่ให้น้องเอาขวดนมไปเดย์แคร์ล่ะพี่

กิ๊บว่า ขวดนม กะ บีกเกอร์ มันก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันเท่าไหร่เลย</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:green'>แม่ค้ากิ๊บกลับมาประจำการอีกครั้ง แวะชมสินค้าใหม่ได้เลยจ้า</span> <a href='http://kiblemongrass.webs.com/' target='_blank'>จิ้มที่นี่เพื่อแวะเยี่ยมร้านกิ๊บกันเลยค่ะ</a></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kiblemongrass
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 3381
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 04, 2006 11:12 pm

โพสต์โดย naddyswiss » จันทร์ ต.ค. 27, 2008 10:45 pm

Kiblemongrass เขียน: <span style='color:green'>แต่กิ๊บสงสัยมากเลยพี่โจ๋ย
ทำไมเขาไม่ให้น้องเอาขวดนมไปเดย์แคร์ล่ะพี่

กิ๊บว่า ขวดนม กะ บีกเกอร์ มันก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันเท่าไหร่เลย</span>

พี่คิดว่า ความแตกต่างคือ ขวดนมมีรูเดียว บิ๊กเกอร์มีหลายรูกะมัง เค้าคงอยากให้เด็กทำไรเร็วๆหรือเปล่าวะ ไม่รู้เหมือนกันว่ะค่ะ

พี่จะกลับไทยเดือนหน้าใช่ป่ะ เพื่อนพี่มันหาโรงเรียนที่ทำเป็น daycare เหมือนเนอสเซอรี่ แต่เค้าสอนร้องรำทำเพลงอ่ะกิ๊บ ที่เมืองไทยอ่ะ เดินไปตดสองทีถึง เพื่อนพี่มันก้อบอกว่าโรงเรียนให้เอาขวดนมเด็กมาได้ แพมเพิร์สก้อมีคนเปลี่ยนให้ด้วยนะถ้าเด็กยังใส่อยู่อ่ะ เดือนละสี่พันเองว่ะ เก้าโมง ถึง สามโมงเย็น จะพาคุณชายไปฝากเรียนดู ไม่รู้จะได้เรื่องหรือเปล่า เหอๆๆๆ

เมืองไทยกะเมืองนอกต่างกันจริงๆ เพราะพี่เห็นเด็กอนุบาลที่เมืองไทย ก้อเดินดูดขวดนมกันอยู่เลย ฝรั่งเค้าปลูกฝังให้เด็กมีระเบียบ ทำอะไรเหมือนๆกันเป็นแน่แท้ แต่พี่ว่าบางทีมันก้อเป็นอะไรที่ กดดันเด็กเล็กไปหน่อยว่ะ แต่อย่างว่า คำสุภาษิตไทยเราว่าไว้ ไม่อ่อนดัดง่าย ไม่แก่ดัดยากน่ะกิ๊บ

แต่เมื่อก่อนพี่ก้อคิดจะให้ลูกพี่กินไอ้ถ้วยหัดดื่ม แบบเห็นเด็กคนอื่นเค้าดื่มแบบนั้นเอามั่งไง สรุปลูกสำลักน้ำว่ะ พี่ก้อเลยปล่อยไปเลยตามเลย แต่เดี๋ยวนี้มันก้อกินน้ำจากแก้วโดยตรงของมันเองน่ะ
naddyswiss
 

โพสต์โดย Kiblemongrass » อังคาร ต.ค. 28, 2008 12:11 am

naddyswiss เขียน:
Kiblemongrass เขียน: <span style='color:green'>แต่กิ๊บสงสัยมากเลยพี่โจ๋ย
ทำไมเขาไม่ให้น้องเอาขวดนมไปเดย์แคร์ล่ะพี่

กิ๊บว่า ขวดนม กะ บีกเกอร์ มันก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันเท่าไหร่เลย</span>

พี่คิดว่า ความแตกต่างคือ ขวดนมมีรูเดียว บิ๊กเกอร์มีหลายรูกะมัง เค้าคงอยากให้เด็กทำไรเร็วๆหรือเปล่าวะ ไม่รู้เหมือนกันว่ะค่ะ

พี่จะกลับไทยเดือนหน้าใช่ป่ะ เพื่อนพี่มันหาโรงเรียนที่ทำเป็น daycare เหมือนเนอสเซอรี่ แต่เค้าสอนร้องรำทำเพลงอ่ะกิ๊บ ที่เมืองไทยอ่ะ เดินไปตดสองทีถึง เพื่อนพี่มันก้อบอกว่าโรงเรียนให้เอาขวดนมเด็กมาได้ แพมเพิร์สก้อมีคนเปลี่ยนให้ด้วยนะถ้าเด็กยังใส่อยู่อ่ะ เดือนละสี่พันเองว่ะ เก้าโมง ถึง สามโมงเย็น จะพาคุณชายไปฝากเรียนดู ไม่รู้จะได้เรื่องหรือเปล่า เหอๆๆๆ

เมืองไทยกะเมืองนอกต่างกันจริงๆ เพราะพี่เห็นเด็กอนุบาลที่เมืองไทย ก้อเดินดูดขวดนมกันอยู่เลย ฝรั่งเค้าปลูกฝังให้เด็กมีระเบียบ ทำอะไรเหมือนๆกันเป็นแน่แท้ แต่พี่ว่าบางทีมันก้อเป็นอะไรที่ กดดันเด็กเล็กไปหน่อยว่ะ แต่อย่างว่า คำสุภาษิตไทยเราว่าไว้ ไม่อ่อนดัดง่าย ไม่แก่ดัดยากน่ะกิ๊บ

แต่เมื่อก่อนพี่ก้อคิดจะให้ลูกพี่กินไอ้ถ้วยหัดดื่ม แบบเห็นเด็กคนอื่นเค้าดื่มแบบนั้นเอามั่งไง สรุปลูกสำลักน้ำว่ะ พี่ก้อเลยปล่อยไปเลยตามเลย แต่เดี๋ยวนี้มันก้อกินน้ำจากแก้วโดยตรงของมันเองน่ะ

<span style='color:green'>ไม่รู้ซิพี่โหน่ง กิ๊บว่านะ บีกเกอร์ มันรูใหญ่ ถ้าเด็กถือไม่ดี ร่วงหล่นพื้น นมมันจะหกออกมา เลอะเทอะมากกว่าขวดนมอีกอ่ะ ขวดนมมันมีแค่รูเดียวเล็กๆ ทำร่วงนมก็ไม่หก แค่หยดหน่อยๆเอง

แล้วทำไมไม่ให้เอาขวดนมไปอ่ะ แปลก

จะเอานมใส่บีกเกอร์ ก็ต้องเปิดฝา จะเอานมใส่ขวดนม มันก็ต้องเปิดฝาเหมือนกัน แล้วมันยุ่งยากอะไรตรงไหนเนี่ย?

แล้วพี่จะไปเมืองไทย เอากุมารไปเลี้ยงด้วยกี่ท่านล่ะพี่

ลองเอาไปเดยแคร์ดูซิ กิ๊บว่ากุมารคงชอบนะ ได้มีเพื่อน ได้ฝึกพูดภาษาไทยไปในตัวด้วยไง
แต่ไอ้ที่ว่า เดินไปตดสองทีก็ถึงเนี่ย มันไกลแค่ไหนอ่ะพี่ คือว่ากิ๊บเป็นคนตดนานเสียด้วยซิ นับไม่ถูกจริงๆอ่ะ อิ อิ

เดือนละสี่พัน ขอบอกว่า ไม่แพงเลย </span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:green'>แม่ค้ากิ๊บกลับมาประจำการอีกครั้ง แวะชมสินค้าใหม่ได้เลยจ้า</span> <a href='http://kiblemongrass.webs.com/' target='_blank'>จิ้มที่นี่เพื่อแวะเยี่ยมร้านกิ๊บกันเลยค่ะ</a></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kiblemongrass
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 3381
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 04, 2006 11:12 pm

โพสต์โดย prettypass2000 » อังคาร ต.ค. 28, 2008 12:25 am

น้องกิ๊บ เท่าที่พี่เข้าใจคือ คุณหมอของชาร์ลอตต์บอกว่าขวดนมมันจะทำให้ฟันเด็กที่กำลัีงจะขึ้นมาเรียงกันไม่สวยงาม
และเด็กในวัยหนึ่งขวบควรที่จะเรียนรู้การดื่มจากซิปปี้เพื่อเป็นการฝึกการใช้คัำพต่อไปน่ะค่ะ
หมอของลูกพี่มีบอกให้เลิกมให้ขวดนมลูกตอนกลางคืนด้วยนะหลังจากเขาสิบถึงสิบสองเดือนไปแล้วน่ะค่ะ พี่ว่าที่นี่เขาเลี้ยงเด็กได้แปลกๆนะตอนพี่มาอยู่ใหม่ๆแต่พอมีลูกตัวเองก็เลยเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามจ้า อิอิอิอิ เวลาพี่พาลูกไปหาหมอนะ พี่ไม่ได้เป็นคนถามนะคะ คุณหมอของเด็กๆถามถึงการเจริญเติืบโตของเด็กๆแล้วพี่ต้องตอบตลอดอ่ะ จนตอนหลังพี่ต้องจดลงกระดาษเพื่อจะได้ไม่ลืมแล้วคุณหมอของเด็กๆจะเป็นอะไรที่ชอบpushมากๆ ประมาณว่าลูกเธออายุเท่านี้ควรจะพัฒนาถึงขั้นนี้ แต่พี่ชอบคุณหมอน่ะค่ะเลยไม่อยากเปลี่ยน อิอิอิ

พี่โหน่้ง โรงเรียนที่เมืองไทยดีน่ะค่ะ หนูจะให้ชาร์ลอตต์ไปโรงเรียนปีหน้าน่ะค่ะ 9am-noonแต่เจ้าหน้าที่เขาถามเลยนะคะว่าลูกเธออ่ะ potty-trainedยังเพราะถ้ายังเขาจะคิดตังค์เพิ่มน่ะค่ะ คือที่นี่หลายๆโรงเรียนนะคะถ้าเด็กอายุสามขวบครึ่งไปแล้วเขาชอบให้เด็ก potty-trainedได้ก่อนน่ะค่ะ หนูโทรไปสามโรงเรียนก็เจอคำถามเดียวกันเลย อิอิอิอิ เรื่องดูดนิ้วกะจุกนมนี่หนูว่ามันคงช่วยให้เขานอนง่ายขึ้นมั๊งคะเพราะชาร์ลอตต์ดูดจุกนมแค่สิบนาทีก็หลับแล้วแต่ถ้าไม่มีจุกนมก็นานหน่อยค่ะ บางทีคุณนายก็มีเดินหาจุกนมแล้วพูดว่า "Bingbie, where are you? Come out here!" เหมือนกะจุกนมสามารถโต้ตอบได้เลยน่ะค่ะ อิอิอิอิ หนูว่าเขาคงเลิกเองแหละเวลาไปโรงเรียน
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย naddyswiss » อังคาร ต.ค. 28, 2008 8:07 am

Kiblemongrass เขียน:
naddyswiss เขียน:
Kiblemongrass เขียน: <span style='color:green'>แต่กิ๊บสงสัยมากเลยพี่โจ๋ย
ทำไมเขาไม่ให้น้องเอาขวดนมไปเดย์แคร์ล่ะพี่

กิ๊บว่า ขวดนม กะ บีกเกอร์ มันก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันเท่าไหร่เลย</span>

พี่คิดว่า ความแตกต่างคือ ขวดนมมีรูเดียว บิ๊กเกอร์มีหลายรูกะมัง เค้าคงอยากให้เด็กทำไรเร็วๆหรือเปล่าวะ ไม่รู้เหมือนกันว่ะค่ะ

พี่จะกลับไทยเดือนหน้าใช่ป่ะ เพื่อนพี่มันหาโรงเรียนที่ทำเป็น daycare เหมือนเนอสเซอรี่ แต่เค้าสอนร้องรำทำเพลงอ่ะกิ๊บ ที่เมืองไทยอ่ะ เดินไปตดสองทีถึง เพื่อนพี่มันก้อบอกว่าโรงเรียนให้เอาขวดนมเด็กมาได้ แพมเพิร์สก้อมีคนเปลี่ยนให้ด้วยนะถ้าเด็กยังใส่อยู่อ่ะ เดือนละสี่พันเองว่ะ เก้าโมง ถึง สามโมงเย็น จะพาคุณชายไปฝากเรียนดู ไม่รู้จะได้เรื่องหรือเปล่า เหอๆๆๆ

เมืองไทยกะเมืองนอกต่างกันจริงๆ เพราะพี่เห็นเด็กอนุบาลที่เมืองไทย ก้อเดินดูดขวดนมกันอยู่เลย ฝรั่งเค้าปลูกฝังให้เด็กมีระเบียบ ทำอะไรเหมือนๆกันเป็นแน่แท้ แต่พี่ว่าบางทีมันก้อเป็นอะไรที่ กดดันเด็กเล็กไปหน่อยว่ะ แต่อย่างว่า คำสุภาษิตไทยเราว่าไว้ ไม่อ่อนดัดง่าย ไม่แก่ดัดยากน่ะกิ๊บ

แต่เมื่อก่อนพี่ก้อคิดจะให้ลูกพี่กินไอ้ถ้วยหัดดื่ม แบบเห็นเด็กคนอื่นเค้าดื่มแบบนั้นเอามั่งไง สรุปลูกสำลักน้ำว่ะ พี่ก้อเลยปล่อยไปเลยตามเลย แต่เดี๋ยวนี้มันก้อกินน้ำจากแก้วโดยตรงของมันเองน่ะ

<span style='color:green'>ไม่รู้ซิพี่โหน่ง กิ๊บว่านะ บีกเกอร์ มันรูใหญ่ ถ้าเด็กถือไม่ดี ร่วงหล่นพื้น นมมันจะหกออกมา เลอะเทอะมากกว่าขวดนมอีกอ่ะ ขวดนมมันมีแค่รูเดียวเล็กๆ ทำร่วงนมก็ไม่หก แค่หยดหน่อยๆเอง

แล้วทำไมไม่ให้เอาขวดนมไปอ่ะ แปลก

จะเอานมใส่บีกเกอร์ ก็ต้องเปิดฝา จะเอานมใส่ขวดนม มันก็ต้องเปิดฝาเหมือนกัน แล้วมันยุ่งยากอะไรตรงไหนเนี่ย?

แล้วพี่จะไปเมืองไทย เอากุมารไปเลี้ยงด้วยกี่ท่านล่ะพี่

ลองเอาไปเดยแคร์ดูซิ กิ๊บว่ากุมารคงชอบนะ ได้มีเพื่อน ได้ฝึกพูดภาษาไทยไปในตัวด้วยไง
แต่ไอ้ที่ว่า เดินไปตดสองทีก็ถึงเนี่ย มันไกลแค่ไหนอ่ะพี่ คือว่ากิ๊บเป็นคนตดนานเสียด้วยซิ นับไม่ถูกจริงๆอ่ะ อิ อิ

เดือนละสี่พัน ขอบอกว่า ไม่แพงเลย </span>

กิ๊บมันเป็นโรงเรียนอนุบาลดีๆนี่เอง แล้วเค้ารับฝากเด็ก อายุก่อนอนุบาลด้วยไง เพราะปกติอนุบาลเค้าเข้ากันตอนอายุสามขวบน่ะ แต่แอนดี้อายุยังไม่ถึง

เป็นโรงเรียนอนุบาลเล็กอยู่ในซอยจรัญ 35 สามารถเดินไปส่งกันได้ ที่อยากให้คุณชายไปเรียนเพราะอยากให้ได้ภาษา สองมีเพื่อนคนไทย สามลดภาระของคุณหญิงยาย เพราะคุณหญิงยายจะได้ดูแค่นาตาลีคนเดียว สี่คุณหญิงแม่จะได้ออกไปเที่ยวแล้วไม่ต้องดูลูก ฮ่าๆๆๆ ความฝันของฉันใกล้เป็นจริงแว๊ว หุๆๆๆ ปีละสองเดือน สวรรค์ของโหน่งคือการมิต้องเลี้ยงลูกเอง ฮ่าๆๆๆ

ความจริงอยากไปฝาก Temple Convent (โรงเรียนวัด) แต่ว่าอ่ะนะ วัดเดินไกลไปหน่อย แล้วโรงเรียนรัฐเค้าคงไม่รับเด็กมาเรียนแค่ไม่กี่เดือนน่ะ

พี่พาลูกไปหมดเลย ฮ่าๆๆๆ ตอนแรกพี่ก้อเข็ดอ่ะนะ แต่ว่าพี่อยากกลับนี่หว่า พี่มีแผนชั่วน่ะ คือมีึคนเค้ากลับก้อไปช่วงนั้นพอดี พี่ก้อเลยขอกลับกะเค้าด้วย คริๆๆๆ นี่คือวิธีการกลับไทยของหญิงไทยที่มีลูกพะรุงพะรังและสามีไม่กลับด้วย เหอๆๆ

เมื่อเช้าพี่เฒ่าทำเป็นมาอ้อนว่าผมต้องเหงาแน่ๆเลยที่รักพาลูกไปกันหมด พี่เลยถามไปว่า แล้วเมิงให้ตูกลับทำไมฟะ คริๆๆๆ ไม่ให้เงินค่าตั๋วตูก้อกลับไม่ได้แระ อิอิ ทำเป็นบอกว่าวันแรกๆผมอาจจะสบายไม่มีใครกวน แต่วันอื่นๆผมคงเศร้าปากหวาน อาจจะรื่นเริง เปิดฮาเร็มก้อได้นะฮ๊ะ นางมารไม่อยู่บ้านเนี่ยฮ่ะ

ส่วนเรื่องตด กิ๊บตดนานเสียด้วย ก๊ากๆๆ กิ๊บๆ ไอ้สิ่งที่นานกว่าตดนี่พี่ว่า น่าจะเป็นการกวนข้าวเม่าแว๊วมั๊งคะ คนไรตดนาน ฮ่าๆๆๆๆ
naddyswiss
 

โพสต์โดย swomoakor » อังคาร ต.ค. 28, 2008 9:42 am

เอดีนามก็ ไปโรงเรียนแล้วน่ะเข้า nursery แต่เขายังไม่สามขวบเลยน่ะแต่ก็บอกเวลาปวดวีวี ได้แล้วล่ะใช้เวลาเกือบเดือนน่ะค่ฝึกตอนอยู่บ้าน
เวลาพาเข้าห้องน่้ำก้จะบอกเขาว่า วีวี ตอนนี้ก็บอกได้แล้วสบายแม่อิอิ,, เรื่องขวดนมก็หัดเหมือนกันน่ะคะแบบเอาซิปคับใส่ให้ดื่มและก็สสับ
กับให้ขวดนมและก็ใส่แก้วให้ดื่มน่ะคะและถ้าเขาดื่มนมจากแก้วเองก็จะปรบมือบอกว่าเก่งมากหนูโตแล้ว ตอนนี้ก็โยนขวดท้ิงไปนานแล้วเหมือนกัน
แต่กว่าจะเลิกได้ก็นานน่ะคะค่อยเป็นค่อยไปค่ะ แต่ยังติดก็ไอ้ดูดนิ้วนี่แหละจะดูดเวลาจะนอนน่ะยังแก้ไม่หายน่ะ

อุ๋ยว่าที่ฝรั่งไม่ให้เอาขวดนมไปnursery คงเพราะเด็กหลายคนดูดจนหลับไปน่ะคะแล้วมันอาจจะทำให้ฟันไม่สวย แต่ซิปคับน่ะมีหลายรูและ
ก็เป็นการฝึกเด็กให้ยกแก้วและก็การกลืนเพราะจะคล้ายกับการดืมจากแก้วมากกว่าขวดนมหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะคะ เดาเอาอะ
เพราะอุ่๋ยเองก็เคยทำงานที่เนอเซอรีมาก่อนเหมือนกันน่ะก็เห็นเด็กๆหลายเคสน่ะน่ะแต่ก็ต้องค่อยๆฝึกกันไปน่ะกว่าจะเลิกได้ แต่พ่อแม่ก็มีส่วนเหมือนกันน่ะคะที่จะช่วยให้เด็กนั้นทำอะไรได้เองเร็วหรือช้าน่ะค่ะ เพราะเด็กบางคนนะอยู่ที่โรงเรียนเขาก็ทำอะไรเองได้ดื่มจากแก้วได้
เริ่มทานอาหารเข็งได้ แต่พอกลับบ้านไม่ยอมพ่อแม่ก็ใจอ่อนน่ะค่ะ แต่ก็ต้องอดทนค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วน้องเขาก็จะทำได้ค่ะแต่เราอย่าใจ
อ่อนมากนะเพราะเด็กเดี๋ยวนี้ฉลาดกันเยอะ เหอๆๆๆ
...@ WOMOAKOR family@ .. <a href='http://ouisuphaluck.hi5.com' target='_blank'>http://ouisuphaluck.hi5.com</a><br><img src='http://i370.photobucket.com/albums/oo141/swomoakor/family/familyinus.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
swomoakor
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 84
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 11:14 am

โพสต์โดย ainsworth » อังคาร ต.ค. 28, 2008 6:34 pm

<span style='color:red'>น้องกิ๊บ</span> ก็แบบที่น้องมดว่าเลยน่ะค่ะ ไอ้เจ้าขวดนมเขาว่ามันจะไปสะกัดกั้นพัฒนาการทางการพูดของเด็ก และฟันไม่ดีด้วยค่ะ แต่พี่ก็คิดนะ ไอ้เจ้าซิปปี้คัพนี่ก็ต้องดูดเหมือนกัน แล้วมันต่างตรงไหน อันนี้คงต้องค้นหาคำตอบต่อไป อีกอย่างเจ้าซิปปี้คัพนี่คงเป็นขั้นเริ่มต้นให้เด็กเปลี่ยนมาใช้แก้วแทน
อันที่จริงพี่ไม่เครียดหรอกนะ พี่เองโตมา กว่าจะเลิกขวดนมก็สองขวบโน่น ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน ก็เห็นพูดปกติ ฟันสวยกว่าฝรั่งอีก (แป่ว) นี่ถ้าไม่จำเป็นต้องไปเข้าเนอซรี่ พี่คงปล่อยไปตามเรื่องน่ะค่ะ

เนอซรี่ที่ไทยเดี๋ยวนี้เขาดีเหมือนกันนะคะ เห็นเพื่อนที่บ้านเขาก็คิดจะเอาไปเข้าเหมือนกัน ให้เด็กเตรียมพร้อมก่อนเข้าอนุบาล เด็กเดี๋ยวนี้ฉลาดกว่าเด็กสมัยก่อนอย่างเราๆคงเพราะแบบนี้นี่เอง

ตอนนี้ปกติจะพาเจสสิก้าไปเพลย์กรุ๊ปทุกๆวันจันทร์กับศุกร์ พาไปตั้งแต่เล็กๆ จนตอนนี้เดินได้แล้ว ฝรั่งที่นี่เวลาไม่มีไรทำก็พาไปเพลย์กรุ๊ป สักชั่วโมงให้ลูกได้เล่น ได้เห็นเด็กอื่นๆ ได้เล่นของเล่นที่ไม่เหมือนที่บ้าน ได้ร้องเพลงเต้นรำ ที่สำคัญคือฟรีค่ะ อิอิ

<span style='color:orange'>คุณอุ๋ย</span>ก็พูดถูกเช่นกันค่ะ พ่อแม่ชอบใจอ่อน เห็นลูกน้ำตาเล็ดหน่อยก็ยอมไปโดยปริยาย บางคนยอมลูกตั้งแต่เล็กจนโตเลยค่ะ
<br><br><img src='http://i57.photobucket.com/albums/g239/sthelens/Icons/mixfruits.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ainsworth
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย naddyswiss » อังคาร ต.ค. 28, 2008 7:01 pm

ainsworth เขียน:

ตอนนี้ปกติจะพาเจสสิก้าไปเพลย์กรุ๊ปทุกๆวันจันทร์กับศุกร์ พาไปตั้งแต่เล็กๆ จนตอนนี้เดินได้แล้ว ฝรั่งที่นี่เวลาไม่มีไรทำก็พาไปเพลย์กรุ๊ป สักชั่วโมงให้ลูกได้เล่น ได้เห็นเด็กอื่นๆ ได้เล่นของเล่นที่ไม่เหมือนที่บ้าน ได้ร้องเพลงเต้นรำ ที่สำคัญคือฟรีค่ะ อิอิ


โหมีplay group แบบฟรีด้วยเหรอคะ โหน่งชอบมากฮ่ะ ของฟรี

แต่ทว่า สวิสเนี่ยไม่เห็นยักกะมี มีแต่แบบเสียเงินน่ะค่ะ คือเหมือนประมาณว่าเค้าดูรายได้ของพ่อแม่เป็นหลัก มันเป็นของ Community เนี่ยแหละ เค้าจะรู้เรื่องการเสียภาษีของพ่อแม่เด็ก แว๊วเค้าก้อเอามาวัดการเรียกค่าเล่าเรียนน่ะค่ะ

ถ้าพ่อแม่ใครเงินเยอะ ก้อเสียเยอะ ถ้าใครพ่อแม่ไม่มีรายได้ไม่ถึง เค้าก้อให้เรียนฟรี เหมือนเอาเงินของคนรายได้เยอะ ไปเฉลี่ยให้ลูกของคนรายได้น้อยกว่า คือสรุป เหมือนไอ้คนมีรายได้เยอะกว่า ต้องไปจ่ายให้ลูกชาวบ้านว่างั๊นเหอะค่ะ

ตอนแรกก้อพาแอนดี้ไป เค้าก้อไม่ได้สอนไรนะ ไปแอบดูมา แค่มีของเล่นวางกองพะเนินไว้ แล้วก้อให้เด็กเล่นไป แบบแกก้อเล่นไปสิ ก้อมีพี่เลี้ยงหาข้าว หาปลาให้กินด้วยเหมือนกัน ในกรณีที่ฝากไว้ทั้งวัน เมื่อก่อนพาแอนดี้ไป แต่แอนดี้รู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดในกลุ่มเด็กหรั่งหัวทองไงก้อไม่รู้ เราเห็นลูกเรามองคนรอบข้างแล้วกลัวร้องไห้ ที่รับฝากโทรตามอิฉัน เหมือนมีภาระหนักกว่าเก่า ก้อเลยนะ ตรูดูแลเองดีกว่า ถ้าให้ลูกเราไปเล่นกะของเล่นกองพะเนินเฉยๆ อิฉันกองไว้ที่บ้านให้เล่นเองดีกว่าฮ่ะ

แต่เดี๋ยวนี้แอนดี้จะกล้าพูดคุยกะคนอื่นมากขึ้น ตั้งแต่โดนทิ้งไว้สองอาทิตย์ เหมือนว่าย่าเค้าพาออกไปหาเพื่อนๆของย่า แล้วเค้าได้คุยสนทนากะคนอื่นๆ แอนดี้เลยกลัวน้อยลงที่จะคุยกะคน โหน่งก้อภาวนาว่าเมืองไทยให้แอนดี้ไปโรงเรียนและมีความสุขเถิด เพราะอิฉันอยากมีความเสรีฮ่ะ ขี้เกียจเลี้ยงอภิชาตบุตร

เอาเป็นว่าโหน่งเอาอันนี้มาฝากคุณแม่ๆกันนะคะ เผื่อจะมีประโยชน์ฮ่ะ

<span style='color:blue'><span style='font-size:21pt;line-height:100%'><span style='font-family:Impact'>มาเลิกขวดนมลูกกันเถอะ</span></span></span>

เรามักจะพบเห็นเด็กจำนวนมากที่ยังดูดขวดนมจนโต เช่นอายุ 3-6ขวบ ซึ่งเป็นวัยอนุบาลแล้วก็ยังกินขวดนมอยู่ ก็จะตามมาด้วยปัญหาฟันผุ ซึ่งมีสาเหตุุุมาจากการดูดขวดนมก่อนนอนแล้วหลับคาปาก (Nursing bottle caries) เด็กกลุ่มนี้่พออ้าปากก็จะเห็นฟันผุทันทีครับ โดยเฉพาะฟันหน้า บ้างก็เป็นสีดำปี๋ บ้างก็ผุเหลือแต่ตอ บ้างก็หลุดไปแล้ว ผมรู้สึกว่าปัจจุบันนี้คุณพ่อคุณแม่จะเลิกขวดนมช้าขึ้นเรื่อยๆและจะพบว่ามันยากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันครับ

• ควรเลิกขวดนมลูกเมื่อไรดี
โดยพัฒนาการตามวัยของเด็กนั้น เขาจะสามารถกินนมจากแก้ว หรือดูดจากหลอดได้ตั้งแต่อายุประมาณ 1 ขวบครึ่งครับ ซึ่งถ้าเราสามารถเลิกขวดนมช่วงนี้ได้ก็จะง่ายมาก และจริงๆ สะดวกด้วยครับ เพราะมีนมกล่องสำหรับเด็กอายุ1 ปี ขึ้นไปมากมายหลายยี่ห้อในซุปเปอร์มาร์เกต เอาหลอดเจาะรูแล้วดูด กินเสร็จก็ทิ้งกล่องไป แต่ปัญหาคือคุณพ่อคุณแม่มักจะเกรงใจลูก สงสารลูก เลยให้ดูดขวดนม จนโต
• ทำไมต้องเลิกขวดนมลูก
ก็เพราะขวดนมทำให้เกิดฟันผุในเด็กครับ เหตุผลก็คือก่อนที่เด็กจะเข้านอน พ่อแม่ก็มักจะเอาขวดนมที่ใส่นมอยู่ให้เด็กดูดจนกระทั่งเด็กหลับไป โดยฟันผุจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กได้รับของเหลวที่มีรสหวาน แล้วของเหลวนั้นไปสัมผัสกับฟันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปาก จะอาศัยน้ำตาลที่อยู่ในของเหลวเหล่านี้ สร้างกรดขึ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่ละครั้งที่เด็กดูดของเหลวเหล่านี้ กรดที่เกิดจะไปทำอันตรายต่อตัวฟัน เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดซ้ำๆหลายๆครั้ง ก็จะเป็นสาเหตุุุที่ทำให้เกิดฟันผุได้
ความบ่อยในการดูดนมรวมถึงระยะเวลาที่เด็กใช้ในการดูดนมแต่ละครั้ง ก็เป็นอีกสาเหตุุุหนึ่งที่จะทำให้เกิดฟันผุได้ ฟันผุที่เกิดในเด็กเล็กโดยมากจะเกิดที่ฟันหน้าบนมากที่สุด อย่างไรก็ตามฟันหน้าล่างและฟันซี่อื่นๆในปากก็สามารถผุตามไปได้ด้วย การที่เด็กกินนมจากแก้วหรือดูดจากหลอด นอกจากจะทำให้ปัญหานี้หมดไป ยังทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถแปรงฟันให้ลูกหลังจากกินนมเสร็จแล้ว หรืออาจให้กินน้ำเปล่าตามเพื่อล้างคราบนมบนผิวฟันก่อนจะเข้านอนได้ แต่ถ้าให้ลูกดูดนมขวดจนหลับ คงไม่มีพ่อแม่คนไหนปลุกลูกขึ้นมาแปรงฟันอีก

• ฟันน้ำนม มีความสำคัญด้วยหรือ
เป็นความเข้าใจผิดของคนส่วนหนึ่งที่ว่าฟันน้ำนมไม่สำคัญอะไร ถ้ามันผุ เดี๋ยวมันก็หลุดไป ฟันแท้ใหม่ก็ขึ้นมาแทน แต่แท้ที่จริงแล้วฟันน้ำนมนั้นมีความสำคัญมากครับ เด็กทุกคนจำเป็นต้องมีฟันที่แข็งแรง เพื่อที่จะใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร พูดคุย และมีรอยยิ้มที่สวยงาม นอกจากนี้ฟันน้ำนมยังมีประโยชน์ในการ ช่วยรักษาเนื้อที่ในขากรรไกร เพื่อให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาแทนที่ สามารถขึ้นมาได้อย่างถูกต้องและมีระเบียบ ถ้าเด็กสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนเวลาอันควร ฟันน้ำนมซี่อื่นที่อยู่ข้างๆช่องว่างที่ถูกถอน ก็จะเคลื่อนที่เข้ามาสู่ช่องว่างนั้น เป็นผลให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมาไม่มีเนื้อที่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุุุที่ทำให้เด็กมีฟันเกเมื่อโตขึ้น คิดดูนะครับว่าถ้าเราต้องมาเสียเงินเพื่อจัดฟันตอนโต จะยิ่งสิ้นเปลืองมากขึ้นแค่ไหน
• เราจะป้องกันฟันผุได้อย่างไร
คุณพ่อคุณแม่บางคนพอเห็นลูกน้อยเริ่มจะงอแงหรือหงุดหงิด ก็มักจะเอาขวดนม น้ำผลไม้ หรือน้ำหวานต่างๆ จับใส่ในปากเด็กให้เด็กดูด เมื่อเด็กเริ่มมีฟันขึ้นก็จะทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายครับ ดังนั้นถ้าเด็กงอแง หงุดหงิด โดยไม่ได้เกิดจากความหิวก็ควรแก้ที่สาเหตุุุ อาจอุ้มปลอบ หรือถ้าร้องมากก็ให้ดูดขวดนมที่ใส่น้ำเปล่าแทน อีกปัญหาหนึ่งก็คือการที่เด็กตื่นมากินนมกลางคืนครับ ส่วนใหญ่ของเด็กอายุ 3-6 เดือนที่กินนมผสมมักหลับยาวได้ตลอดคืนแล้ว (โดยทั่วไปเด็กที่อายุ4เดือนขึ้นไปมักหลับกลางคืนต่อเนื่องกันได้8ชั่วโมง) แต่ถ้าพ่อแม่ตอบสนองต่อการตื่นของเด็กด้วยการให้กินนมขวดทุกครั้งที่ร้อง จะทำให้เด็กเชื่อมโยงการร้องกับการกินนม เด็กจะถูกฝึกให้ตื่นขึ้นมากินนมเวลากลางคืนหลายครั้งจนโต
ดังนั้นเราควรพยายามไม่ให้ขวดนม แต่ใช้การปลอบ ตบๆก้นให้หลับต่อ หรือถ้าร้องมากก็ให้ดูดขวดนมที่ใส่น้ำเปล่า ถ้าทำได้อย่างนี้เด็กก็จะไม่ตื่นมากินนมขวดตอนกลางคืนครับ
นอกจากนี้การรักษาสุขอนามัยของช่องปากก็สำคัญ ทุกครั้งหลังการให้นมเด็ก ให้ใช้ผ้าหรือผ้าก็อซที่สะอาด ชุบน้ำหมาดๆแล้วเช็ดไปตรงบริเวณเหงือกของเด็กให้ทั่วทั้งปากครับ เริ่มแปรงฟันให้เด็กทันทีที่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นมาในช่องปาก ซึ่งโดยปกติจะเมื่อเด็กอายุได้ 6-9 เดือน ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เป็นส่วนประกอบ ร่วมกับการทำความสะอาดและนวดเหงือกให้เด็กในบริเวณที่ฟันยังไม่ขึ้น เริ่มใช้ไหมขัดฟันให้เด็ก เมื่อเด็กมีฟันน้ำนมขึ้นครบทั้ง 20 ซี่แล้ว ซึ่งโดยปกติจะเมื่อเด็กมีอายุครบ 2 ขวบ
ห้ามไม่ให้เด็กหลับในขณะที่ยังมีขวดนมที่บรรจุด้วยนม น้ำผลไม้หรือน้ำหวานอื่นๆอยู่ในปากเป็นอันขาด ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องให้เด็กดูดขวดนมในระหว่างมื้อนม ให้ใส่น้ำเปล่าลงในขวดให้เด็กใช้ดูดแทน หลีกเลี่ยงการใช้ขวดนม ไปบรรจุของเหลวที่มีน้ำตาล หรือเครื่องดื่มอื่นๆที่ไม่ใช่นม ถ้าบริเวณพื้นที่ๆอาศัยอยู่ มีปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำที่ไม่เพียงพอ ให้ปรึกษาทันตแพทย์ ถึงวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม และเริ่มพาเด็กไปพบทันตแพทย์เมื่อเด็กมีอายุครบ 1 ปีครับ

• ถ้าลูกติดขวดนมไปแล้ว จะเลิกอย่างไร
ตรงนี้ล่ะครับที่เป็นหญ้าปากคอก จริงๆ ฟังดูง่ายถ้าใครจะแนะนำว่าก็อย่าให้ลูกกินนมขวดสิ พูดง่ายแต่ทำยากครับ เพราะจะตามมาด้วยลูก ร้องกวน ไม่ยอมนอน บางคนพูดขอร้องชวนให้พ่อแม่ใจอ่อนเช่น " สงสารหนูเถอะ นะ อีกครั้งเดียว หนูหิว อยากดูดนม " วิธีเลิกขวดนม พอจะสรุปได้เป็น2 วิธีหลักๆ ครับ
วิธีที่1 ตัดเลย โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องหนักแน่นและตั้งใจมั่นที่จะเลิกขวดนมลูก อาจอธิบายบอกลูกสั้นๆ และแนะนำให้เก็บขวดนม อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับนมขวดเช่นจุกนม ที่นึ่งขวดนม เข้าตู้หรือเข้าห้องเก็บของให้ลูกเห็น เปรียบเหมือนพระเจ้าตากสินมหาราชทุบหม้อข้าวเพื่อตีเมืองจันทบุรีเลยครับ คือเป็นสัญญาณบ่งบอกความตั้งใจมั่นที่จะทำ และเมื่อลูกขอดูดขวดนมคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไม่ใจอ่อน อาจอธิบายความสั้นว่า ลูกโตแล้ว ถึงเวลาต้องเลิกขวดนมแล้ว ต้องเผื่อใจและเวลาไว้เลยครับว่าลูกจะร้องไห้งอแง และปัญหาหลักจะอยู่ที่มื้อก่อนนอน ถ้ายื่นแก้วนม หรือนมกล่องให้แล้วลูกไม่ยอมกิน ก็เก็บ ลูกอาจร้องเป็นชั่วโมง ไม่ยอมนอน อาจต้องนอนดึกบ้างก็ต้องอดทนครับ เด็กบางคนก็เพลียหลับไปเอง หลังจากนั้น2-3 คืน เด็กส่วนใหญ่ก็จะเริ่มปรับตัวได้ ยอมกินนมจากแก้วหรือดูดหลอดเองครับ บางคนอาจง่ายกว่าที่พ่อแม่คิด แต่ถ้าลูกร้องๆ แล้วพ่อแม่ใจอ่อนยอมเอาขวดนมมาให้กิน ก็จะเลิกไม่ได้สักทีครับ
วิธีที่2 เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเลิกแบบค่อยเป็นค่อยไป คืนแรกให้ลูกกินนมก่อนนอนโดยกินจากแก้วหรือดูดหลอด แต่ยังอนุญาตให้ลูกดูดขวดนมที่ใส่น้ำเปล่าจนหลับได้ เพราะเด็กที่ติดขวดนมส่วนใหญ่ต้องการดูดขวดนมก็เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองหลับ หลังจากนั้นอีก2-3 คืนจึงค่อยๆให้เลิกดูดขวดนมไป

ทั้ง2 วิธี ต้องการความหนักแน่น มั่นคงจากคุณพ่อคุณแม่ครับ เมื่อลูกร้องขอขวดนม ต้องคิดในใจว่าเราไม่ได้ทำร้ายจิตใจเขา แต่กำลังจะช่วยให้เขาสุขภาพปากและฟันที่ดีขึ้น และเมื่อลูกยิ่งโตขึ้นเท่าใดก็ยิ่งเลิกยากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อลูกถึงวัยอันควรแล้ว เรามาเลิกขวดนมกันเถอะครับ
น.พ. กมล แสงทองศรีกมล
กุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
kamolss@hotmai

เครดิต <a href='http://gotoknow.org/blog/kamolss/185434?page=1' target='_blank'>http://gotoknow.org/blog/kamolss/185434?page=1</a>
naddyswiss
 

โพสต์โดย มุ้ยเองค่ะ » พุธ ต.ค. 29, 2008 7:07 am

<span style='color:green'>มาแอบอ่านอยู่หลายวันแล้วไม่มีเวลาโพสต์ วันนี้มาเจอบทความของน้องโหน่ง
รูปภาพได้ที คืนนี้ไอ้ตัวแสบเสร็จแน่ แม่ได้วิชาไปปราบขวดนมแล้ว เหอ เหอ เหอ</span>
<img src='http://i47.photobucket.com/albums/f182/mamuii/al_m.gif' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://i47.photobucket.com/albums/f182/mamuii/al_u.gif' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://i47.photobucket.com/albums/f182/mamuii/al_i.gif' border='0' alt='user posted image' /> <span style='color:purple'><b><br><br>~ แม่ครัวหัวเป็ด จากดูไบค่ะ ~</b></span><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
มุ้ยเองค่ะ
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 108
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 20, 2006 1:01 pm

โพสต์โดย Nok HI » พฤหัสฯ. ต.ค. 30, 2008 5:23 am

[I]<span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>คุณโหน่ง...</span></span>ที่ฮาวายนี่ก็มีเหมือนกันค่ะ เพลย์กรุ๊ป แต่ของน้องแจสอยู่ในโรงเรียนเค้าเรียก เพลย์สกูล ก็ฟรีตลอดงานจ้า...
ที่โรงเรียนทีี่น้องแจสไป ก็จะเปิด จันทร์ ถึง พฤหัส 8.00 - 11.00 ...
จะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ตามเวลาที่เค้ากำหนด ว่าช่วงไหนจะทำกิจกรรมอะไร
ชอบที่เค้ามีสอนให้เด็กหัดอ่าน หัดเขียน เต้น ของเล่นในคลาสเยอะมาก ๆ เลยจ๊ะ
เสียอย่างเดียว น้องแจสชอบไปทะเลาะกะเด็กผู้ชาย
แถมมีสแน็คในกินฟรีด้วยจ้า....

พรุ่งนี้มีกิจกรรมพ๊อทลัค ฉลองวันฮาโลวีน ให้ผู้ปกครองนำอาหารไปแจมคนละนึงอย่าง นกทำแกงฮังเลไปจ๊ะ
ส่วนเด็ก ๆ ก็แต่งตัวตามธรรมเนียม...น้องแจสแต่งเป็นเจ้าหญิงจ้าาา....
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nok HI
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1488
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 13, 2008 7:07 pm
ที่อยู่: เมืองสองแคว.

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน