ครัวปิดหลายวัน เป็นไงกันบ้างคะ ลดกันไปถึงไหนแล้ว ส่วนยายหนูยังอยู่กับที่เหมือนเป็นการรักษาน้ำหนัก
หลังจากที่ลองFast-5 แค่1สัปดาห์น้ำหนักลดลงตั้ง1.4กิโล แต่จิตใต้สำนึกมันบอกว่านี่ไม่ไช่วิธีที่ถูกต้อง จึงเลิกลาไป หลังจากออกจากระบบ ก็ตะบี๋ตะบันกินซะแหลกลาน น้ำหนักก็กลับขึ้นมาอยู่ที่เดิม นี่ถ้าใช้สูตรนี้ไปนานๆ ถ้าวันไหนเกิดหลุดแล้วทานแบบนี้ มันก็คือโยโย่ไช่ไหม....แค่คิดก็กลัวแล้ว....เพราะมันเป็นการทานแบบถมไม่รู้จักเต็ม กินหาย กินหาย เท่าไรก็ไม่อิ่ม....เป็นอันว่าที่ทำไปนั้นเป็นเพราะแค่อยากลอง....นี่แหละ (ยาย)หนูลองยา พูดแล้วคิดถึงยายจันว่ะ....
เนื่องจากนิสัยยายหนูเป็นคนที่ไม่ชอบลอกการบ้านคนอื่น ชอบทำอะไรที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง มันเหมือนกับได้ความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า นี่ฉันได้ทดลองด้วยตัวเองแล้วนะ จะเห็นผลหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะระบบการทำงานของร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน อายุก็เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง จะให้ไปวิ่งเหมือนคนที่อายุน้อยๆย่อมไม่ได้ ยิ่งเคยมีปัญหาเรื่องไขข้อมาด้วยยิ่งต้องหลีกเลี่ยงในเรื่องของการออกกำลังกายแบบที่ต้องแรงกระแทกหรือเสียดสี เช่นการวิ่งหรือการปั่นจักรยาน
หลังจากที่คร่ำเครียดทบทวนจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้สรุปได้ว่า 10กิโลที่หายไปนั้นมาจากการเบิร์นด้วยการบริหารกล้ามเนื้อตามซีดี ไม่ไช่การเดินเร็วบนเทรดมิล
และที่น้ำหนักนิ่งก็เพราะขาดการบริหารกล้ามเนื้อ โดยไปเน้นที่อิลิปตอคอลเป็นส่วนใหญ่ เพราะเข้าใจว่าการทำ HIIT เป็นการเบิร์นไขมันที่ดีอีกวิธีหนึ่ง
และสิ่งที่ทำให้ปวดหัวมากไปกว่านั้นก็คือ การที่ได้เครื่องออกกำลังกายมาในความตั้งใจแรกก็คือ อยากจะพัฒนากล้ามเนื้อ เพราะคิดว่าการที่เราผ่านขั้นตอนการปั้นกล้ามให้ขึ้นรูปแล้ว ก็ต้องมีกรเล่นแบบหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น จึงไปหาซื้อมา แล้วมันก็ทำให้ปวดกระบาลมากยิ่งขึ้น คือ ต้องมานั่งเรียนรู้ก่อนว่าท่านี้เรียกว่าอะไร ทำแบบไหนอย่างไร และเพื่ออะไร แล้วก็ต้องมานั่งจัดตารางอาหารอีก เพื่อความเหมาะสม ซึ่งในความจริงแล้ว ถ้าใครปฎิบัติได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ยายหนูหัวเดียวกระเทียบลีบไม่มีที่ปรึกษา ต้องเสาะแสวงหาอ่านตามแหล่งข้อมูลต่างๆ อายุก็มาก สายตาก็ไม่ค่อยดี นั่งเพ่งหน้าจอนานๆก็ปวดหัว ปวดตา เวลาแต่ละช่วงก็มีไม่มากนัก อีกทั้งอ่านแล้วก็ต้องนำมาคิด ทบทวนกับความรู้ที่มีอยู่ แล้วทำความเข้าใจ รวบรวมให้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างต่อเนื่อง จะไปถามใครก็ยากที่จะมีคนตอบ เพราะคงจะเป็นหนึ่งในร้อยกระมัง ที่เลือกวิธีลดความอ้วนด้วยการ "บริหารกล้ามเนื้อเพื่อเบิร์นไขมัน" ส่วนใหญ่เขาจะลดน้ำหนักแบบไม่สนใจอย่างอื่น ขอเพียงแค่น้ำหนักลดลงก็พอ
ทุกๆครั้งที่ทำการบริหารอยู่ในท่านั้นๆ จะมีความรู้สึกร้อนในบริเวณกล้ามเนื้อซึ่งถูกให้ออกแรงซ้ำแล้วซ้ำอีกจนสั่นและอ่อนล้า และนั่นมิไช่หรือคือการ "เบิร์น"
วันนี้เลยตัดสินใจ ประกาศขายเครื่องออกกำลังกายตัวใหญ่ เพื่อเอาพื้นที่มาออกกำลังกายตามซีดี พร้อมคนข้างๆซึ่งเห็นด้วยและพร้อมแล้วที่จะลงสนามไปพร้อมๆกัน เย้เย้....
นี่ถ้าฉันไม่ทำเป็นตัวอย่างมีรึที่เธอจะอยากออกกำลังกาย คงจะสั่งไวตามินมากินไปตลอดชีวิต
ตั้งแต่วันนี้ เราจะบริหารกล้ามเนื้อเพื่อเบิร์นไขมันไปพร้อมๆกัน ที่ผ่านมา 10กิโล ยายหนูใช้เวลาในการเล่นตามซีดีประมาณ 5เดือน ไม่รวมเริ่มต้น 1เดือนที่ยังไม่ได้ซีดีมา และไม่รวม 2เดือนหลังซึ่งละเลยแบบเล่นบ้างไม่เล่นบ้าง น้ำหนักจึงคงที่ แต่ผลพิสูจน์ที่ได้ก็คือ ยายหนูยังทานอาหารได้เหมือนเดิม โดยที่น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น คือไม่โยโย่
ต่อไปนี้ มาลองดูซิว่า 10กิโลที่เหลือนี้ จะใช้เวลานานแค่ไหน.....
เข้านอน 5ทุ่ม ตื่น 8โมง
ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6-8ชั่วโมง
มื้อที่1...08.00... Muscle Light Milk 1กล่อง(160)
หลังตื่นนอน ควรป้อนโปรตีนให้กับร่างกายเป็นอันดับแรก ที่เลือกนมเพราะร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ทั้นที แล็คตาซอยหรือน้ำเต้าหู้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง
มื้อที่2...09.00...นมพร่อง+โกโก้+น้ำตาล(150)ขนมปังโฮลเกรนปิ้ง 2แผ่น(220)ทาถั่วบด 1ชต(100)กล้วยหอม1ผล(120)โยเกิร์ต(70)-แอลคาร์นิทีน-ไวตามิน C+B12+Centrum+CO Q-10+ไวตามินบำรุงไขข้อ
มื้อเช้า ยายหนูเลือกอาหารที่ย่อยได้ง่ายๆ และให้อิ่มสำหรับ4ชั่วโมง ถ้าใครรู้สึกว่ายังไม่ทันถึง4ชั่วโมงก็หิวแล้ว วันต่อไปก็เพิ่มปริมาณมากขึ้นอีก
อาหารว่างระหว่างมื้อ เมื่อก่อนยายหนูขาดไม่ได้เลย ต้องทานแสน็กประจำ แต่ตอนนี้สบายแล้ว ตัดออกไปได้ เพื่อนๆก็ลองดูค่อยๆลดจนกระทั่งอดได้นะคะ
มื้อที่3...13.00...แอปเปิ้ล 1ผล(120)โยเกิร์ต1ถ้วย(70)
มื้อกลางวัน บางคนจัดให้เป็นมื้อหลัก แต่ยายหนูจะจัดมื้อนี้ให้เป็นมื้อเบาๆสบายๆเคี้ยวนาน ผู้ที่เพิ่งเริ่มถ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ก็ให้ทานข้าวได้ตามปรกตินะคะ
มื้อที่4...17.00...ไส้กรอกเต้าหู้(270)สลัด+ซอส(130)โยเกิร์ต1ถ้วย(70)
มื้อเย็น เป็นมื้อหนักแต่หนักไปทางโทรตีนพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ เพราะย่อยช้า ทำให้อาหารยังคงอยู่ในกระเพาะนานไปจนถึงเวลาเข้านอน ถ้าทานอาหารพวกผักหรือผลไม้อย่างเดียวไม่อยู่ท้องจะทำให้หิวก่อนเวลาเข้านอน
มื้อที่5...23.00...ก่อนเข้านอน...Muscle Light Milk 1กล่อง(160)
และเมื่อรู้สึกหิว นั่นก็หมายความว่าร่างกายได้ย่อยสลายอาหารมื้อก่อนหน้านี้หมดแล้ว ไม่มีเหลือสะสม ก็ดื่มนมแล้วเข้านอนเลย
รวมพลังงานที่รับทั้งหมด 1640
ตารางอาหารนี้ไม่แนะนำให้ทำตาม แต่อยากให้นำไปเป็นแนวทาง บางวันหิวมากก็ทานมาก ไม่จำเป็นต้องอดจนท้องร้อง บางวันไม่ค่อยหิวจะทานน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร คือเราต้องฟังร่างกายของเรา มากกว่าฟังคนอื่น หิวก็ต้องกิน ไม่หิวก็ไม่ต้องกิน แต่บ่อยครั้งที่ไม่หิวแต่อยากกิน ฮิฮิ ก็กินได้แค่ให้หายอยากนะคะเพื่อป้องกันการตบะแตก.....
ทีนี้ปัญหาคือ เราจะแทรกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับเวลาไว้ในช่วงใด ยายหนูชอบที่จะเบิร์นไขมันในตอนเช้า เพราะ
1 เบิร์นในขณะท้องว่างดีที่สุด เพราะร่างกายจะไปดึงเอาไขมันมาเป็นพลังงาน ง่ายๆคือออกกำลังกายตอนท้องว่าเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ แต่ถ้าหลังจากนี้ มันจะเผาผลาญอาหารที่เราทานเข้าไปก่อนหน้านั้น ซึ่งขึ้นอยู่ที่ว่าพลังงานในขณะนั้นเหลืออยู่มากน้อยขนาดไหน
2 สายแล้วขี้เกียจ ข้ออ้างเยอะ งานก็เป็นอุปสรรค
3 เสร็จแล้วอาบน้ำจะรู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวัน
ปัญหาอีกแล้วคือหลังจากตื่นนอนร่างกายต้องการโปรตีนซึ่งเราสมควรป้อนในทันที่หลังจากตื่นนอน แต่ถ้าเราต้องการเบิร์นไขมันก็เอาไว้ดื่มหลังจากออกกำลังกายก็ได้
ทีนี้ถ้ายายหนูจัดการออกกำลังกายไว้ในตอนเช้าหลังตื่นนอน หลังออกเสร็จก็เป็นเวลาอาหารเช้าพอดี เราก็ต้องตัดการดื่มนมหลังตื่นนอนออกไป
หลังตื่นนอน...กาแฟดำ 1แก้วช่วยให้ออกกำลังกายได้อึดขึ้น ทานแคร็กเกอร์สัก2แผ่นหรือกล้วยสักครึ่งผลเพื่อปรับระดับน้ำตาลในเลือดแล้วสิ่งที่จะลืมไม่ได้ก่อนออกกำลังกายก็คือ แอลคาร์นิทีนช่วยในเรื่องลำเลียงไขมันออกมาเผาผลาญ(ไม่ไช่ช่วยเผาผลาญนะคะ แต่เป็นการลำเลียงออกมาและยังช่วยบำรุงสมองด้วย)
จากนั้น15นาที ก็เริ่มบริหารกล้ามเนื้อได้ เพื่อนจะใช้วิธีใดๆก็ได้ ที่เป็นการบริหารกล้ามเนื้อแบบยกน้ำหนักปานกลาง ช้าๆแต่นานๆ จนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆร้อนวูบวาบหรือยกไม่ไหวแล้วเกิดอาการสั่น นั่นคือเราบริหารถึงจุดเบิร์นไขมัน แต่ถ้ายังไม่มีอาการที่ว่ามานี้ก็ยังไม่เบิร์นนะคะ ขอให้อดทนทำจนกว่าจะรู้สึกสั่นหรือล้าจึงจะเห็นผลนะคะ...
จะขออธิบายถึงการทำงานของกล้ามเนื้อตรงจุดนี้เพิ่มเติมอีกสักนิด คือ เมื่อกล้ามเนื้อถูกบริหารจนล้านั่นหมายถึง ไขมันได้ถูกเผาผลาญออกไป หลังจากนั้นกล้ามเนื้อก็จะเติบโตขึ้นแทนที่ว่างของไขมันในส่วนนั้นๆ ถ้าเราไม่ทานโปรตีนแล้วกล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้...แป้ง,ไขมัน มีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโตด้วย ฉะนั้นอย่าทานอาหารแบบ Non Fat แต่ให้ทานแบบ Low Fat แต่ไม่ไช่พอบอกว่าทานไขมันได้ก็ทานแบบไม่เลือกนะคะ ต้องดูด้วยว่าไขมันดี หรือไขมันเลว การรับไขมันดีจะช่วยขับไล่ไขมันเลวออกจากร่างกาย ไขมันดีไม่ได้สะสม แต่ไขมันเลวรับเข้าไปแล้วสะสมรวมไปถึงแป้งที่รับเกินความต้องการก็จะเหลือสะสมในรูปของไขมันเช่นกัน
ยายหนูใช้ออกกำลังกายตามซีดี ง่ายๆ ทำตามได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย ไม่ต้องเปลืองเนื้อที่ เพียงแค่มีเสื่อยาง 1ผืน ดัมเบล 2คู่ และสายยาง 1เส้น
ยายหนูเริ่มต้นที่สายยางสีเหลือง แล้วก็เพิ่มความหนืดมาใช้สีเขียว ตอนนี้คงต้องลองเปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนดัมเบลก็เริ่มจาก 3-5ปอนด์ แล้วก็มาเป็น 5-8 ตอนนี้ใช้ 8-10
ความยาว 60นาที วอร์มอัพ 15นาที เล่นจริง 40นาที คูลดาวน์5นาที แค่วอร์มอัพ เหงื่อหยดปลายคางแล้วค่ะ....มันคือซีดีที่พี่ต่ายแนะนำ อีตา กีหลาดนั่นแหละค่ะ....