มันคือ อิลิปติคอล ไช่เปล่า....
ที่บ้านยายหนูมีแบบนี้ค่ะ คิดว่าเหมือนกันนะ
แม่นแล้ว มันโหดสุดๆ สำหรับมือใหม่หัดปั่น ซึ่งยังไม่มีกล้ามเนื้้อที่หน้าขามากพอ เพราะมันต้องออกแรงโดยการใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าขา ซึ่งมือใหม่ทั้งหลายจะขยาดกับมัน แล้วก็เลิกลา เอามันมาแขวนเสื้อกันหนาว...
เครื่องนี้แหละที่ช่วยกระชากน้ำหนักของยายหนูซึ่งค้างเติ่งหลังจากที่ลดลงมาได้ 10กิโล แล้วก็ไม่ลดลงอีกเลย ที่่เขาเรียกว่า hit the plateau ปั่นวันละ 60นาที ใช้โปรแกรม HR Speed Interval 2สัปดาห์เห็นผลเลย แต่ไม่ทำต่อเพราะไขว่แขวกับเรื่องยกน้ำหนักที่ว่า อย่าทำคาร์ดิโอมาก เพราะจะไปสลายกล้ามเนื้อ เลยหยุดปั่นไปพักนึง
หลังจากที่หยุดพักเพื่อปรับสภาพร่างกายใหม่ สองวันนี้ก็กลับมาเริ่มอีกครั้ง ด้วยโปรแกรมคาร์ดิโอหนึ่งวัน เวทเทรนนิ่งหนึ่งวัน สลับกันไป เสาร์อาทิตย์หยุด....
รายงาน วันพฤหัสที่ 15ธัวา... 70.2 วันนี้ลดลงมาอีกนิด
เข้านอน 5ทุ่ม ตื่น 7โมงครึ่ง...
ใกล้เวลาเจ๊แดงจะมาเยือน มีอาการปวดท้องหนุ่ยๆ ทำให้การนอนหลับไม่ค่อยจะสนิทนัก พอ7โมงนาฬิกาปลุกเพราะเป็นเวลาออกกำลังกายของคนข้างๆ เลยต้องเปลี่ยนเวลาไปกับเขาด้วย เขาเดินบนเทรดมิล เราไปปั่นอิลิปติคอลข้างนอกห้อง ไม่ต้องแย่งกันเล่น...
เรื่องออกกำลังกายได้นานๆ จริงๆแล้วทุกๆคนก็เล่นได้เหมือนกัน ถ้าฝึกติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะทานมากหรือทานน้อย ก็ขออย่าได้ละเลยการออกกำลังกาย จากประสบการณ์ของตัวเอง ถ้าไม่ออกกำลังกายน้ำหนักจะไม่ลดแต่ที่ไม่เพิ่ม เพราะยายหนูควบคุมประเภทของอาหาร ถึงแม้ว่าปริมาณแคลอรี่จะสูงไปบ้าง แต่อาหารเหล่านั้นก็เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจะถูกนำไปใช้หมดและไม่เหลือสะสม...
ไม่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ไขมันไม่ลด ควบคุมแคลอรี่แต่ไม่ควบคุมประเภทของอาหารผลที่ได้ก็คือ น้ำหนักตัวลด แต่ไขมันยังอยู่...และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ระบบการเผาผลาญต่ำลง ...หลายๆคนไม่เคยใส่ใจในข้อนี้กันเลย...ใจร้อน อยากให้น้ำหนักลดเร็วๆ อยากจะถามเพื่อนๆที่ใช้วิธีอดอาหารหลายๆชั่วโมง หรือลดปริมาณอาหารด้วยการทานน้อยๆว่า เราจะอดแบบนั้นไปได้ตลอดชีวิตเลยหรือ ลืมไปแล้วหรือว่า เมื่อใดที่เราออกจากระบบนั้นๆ แล้วกลับมาทานในชั่วโมงปรกติ หรือปริมาณปรกติแบบคนทั่วๆไปเขาทานกัน น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก.....
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ต้องเลือกลดอย่างถูกวิธี ด้วยการควบคุมประเภทของอาหารก่อน ต่อมาก็ควบคุมปริมาณของอาหาร พร้อมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ไช่ทำๆหยุดๆ ให้เวลาร่างกายได้ปรับตัวสัก 6-8สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ ช่วงนั้นน้ำหนักอาจจะลดลงช้าประมาณเดือนละ 1กิโล แต่หลังจากนั้นถ้าทำต่อไปอย่างต่อเนื่องมันก็จะลดเร็วขึ้น เหมือนเราเพิ่งเร่มก่อไป แล้วเอาหม้อน้ำตั้ง จะให้น้ำเดือดทันใจย่อมไม่ได้ ต้องรอให้ถ่านคุก่อน การออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน....เฮ้อ...บ่นอีกแล้ว.....
น้ำตาลคือศัตรูของการรีดไขมัน ไม่ว่าจะมาจากน้ำตาลโดยตรง จากผลไม้ที่มีรสหวาน หรือจากแป้งที่สกัดเป็นสีขาวๆ เมื่อเราทานเข้าไปร่างกายจะดูดซึมนำไปใช้ในคราบของกลูโคสอย่างรวดเร็วซึ่งถ้าเรารับมันมากเกินความต้องการก็จะทำปฎิกริยาจนกลายเป็นไขมันสะสมในที่สุด....
อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการรีดไขมัน ควรลดทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล โดยค่อยๆตัดทอนให้น้อยลง เพื่อให้ร่างกายค่อยๆปรับตัว ไม่ไช่หักดิบ เดี๋ยวจะวูบ....
เรื่องนี้เจอมากับตัวเองเลย เมื่อก่อนตอนเริ่มลดได้ 2-3เดือนแรก ลดข้าวไม่ได้เลย ลดเมื่อไรวูบเมื่อนั้น ต้องทานทุกมื้อ เดี๋ยวนี้สบายมาก เพราะใช้เวลาปรับมานานถึง 10เดือนแล้ว การออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน ค่อยๆปรับค่อยๆเปลี่ยน ทุกอย่างต้องใช้เวลา ช้าๆแต่ถาวรค่ะ.....สู้ๆนะคะ
หลังตื่นนอน...กาแฟดำ1แก้ว
08.30...กำลังพิมพ์ไดอารี่ ขณะที่สามีกำลังเดินบนเทรดมิล กะว่าตัวเองจะไปปั่นอิลิปติคอล แต่พิมพ์บ่นยาวไปหน่อย จนเขาเดินเสร็จ(25นาที) เลยขึ้นต่อ ตั้งโปรแกรมเอง โดยวิ่งเร็วๆ และเดินช้าๆสลับกันอย่างละ 2นาที ความชันที่ระดับ 2 ความเร็วสูงสุดที่ 6ไมล์/ชั่วโมง และต่ำสุดที่ 2ไมล์/ชั่วโมง เป็นเวลา 30นาที เบิร์นไป 300แคลอรี่
09.30...Muscle Light Milk 1 กล่อง(160) เข้าครัว-เริ่มงาน
11.30...เกร็ปฟรุตค่อนผล(100)ข้าวกล้อง 4ชนิดหุงรวมกับถั่วเขียว,เมล็ดเดือยและวีทเจิร์ม 2ทัพพี(200)ต้มยำไข่ขาว3ไข่แดง1(300)ไวตามินต่างๆ เจ๊แดงจู่โจมคร๊าบบบบบ....
15.30...ขนมปังโฮลเกรนปิ้ง1แผ่น(220)ทาถั่วบด1ช้อนโต๊ะ(100)นมพร่องอุ่น 1แก้ว(100)ชงกับผงโกโก้1ช้อนชา(20)ใส่น้ำตาลทรายเทียม1ช้อนโต๊ะ(30)ติดอาหรชุดนี้ซะแล้ว...
19.00...ปั่นอิลิปติคอลความเร็วปานกลาง 45นาที โดย THR อยู่ที่ระดับ 60-70% เบิร์นได้ 400แคลอรี่ ปั่นอิลิปติคอลนี้จะไม่เมื่อยขาเหมือนเดินบนเทรดมิล เพราะใช้กำลังของกล้ามเนื้อที่ขาออกแรงปั่นคล้ายจักรยาน แน่นอนผลของการเบิร์นไขมัน อิลิปติคอลย่อมดีกว่า....
20.00...Muscle Light Milk 1 กล่อง(160)
23.00...ก่อนนอน...Muscle Light Milk 1 กล่อง(160)
พลังงานที่ได้รับ 1550