ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ความรู้ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับเซลมะเร็ง

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย ไทยแท้แท้ » พุธ ก.พ. 11, 2009 5:06 am

ได้รับฟอร์เวิดมา เห็นว่าข้อมูลดี เชื่อถือได้ เพราะเป็นของ John Hopkins โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงมากของประเทศอเมริกา ฟอร์เวิดมามีคำแปลภาษาไทยมาให้ด้วยเสร็จสรรพ อ่านได้ทั้งไทยและเทศ

<span style='color:green'>AFTER YEARS OF TELLING PEOPLE CHEMOTHERAPY IS THE ONLY WAY TO TRY AND ELIMINATE CANCER, JOHNS HOPKINS IS FINALLY STARTING TO TELL YOU THERE IS AN ALTERNATIVE WAY . &nsbp; &nsbp;

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

Cancer Update from Johns Hopkins
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

1. Every person has cancer cells in the body. These cancer cells do not show up in the standard tests until they have multiplied to a few billion. When doctors tell cancer patients that there are no more cancer cells in their bodies after treatment, it just means the tests are unable to detect the cancer cells because they have not reached the detectable size.

ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. Cancer cells occur between 6 to more than 10 times in a person's lifetime.

เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. When the person's immune system is strong the cancer cells will be destroyed and prevented from multiplying and forming tumours.

เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร้งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. When a person has cancer it indicates the person has multiple nutritional deficiencies. These could be due to genetic, environmental, food and lifestyle factors.

เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

5. To overcome the multiple nutritional deficiencies, changing diet and including supplements will strengthen the immune system.

เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

6. Chemotherapy involves poisoning the rapidly-growing cancer cells and also destroys rapidly-growing healthy cells in the bone marrow, gastro-intestinal tract etc, and can cause organ damage, like liver, kidneys, heart, lungs etc.

การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุุุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

7. Radiation while destroying cancer cells also burns, scars and ! damages healthy cells, tissues and organs.

การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อ และอวัยวะ

8.. Initial treatment with chemotherapy and radiation will often reduce tumor size. However prolonged use of chemotherapy and radiation do not result in more tumor destruction.

การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

9. When the body has too much toxic burden from chemotherapy and radiation the immune system is either compromised or destroyed, hence the person can succumb to various kinds of infections and complications.

เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

10. Chemotherapy and radiation can cause cancer cells to mutate and become resistant and difficult to destroy. Surgery can also cause cancer cells to spread to other sites.

การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุุุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุุุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

11. An effective way to battle cancer is to starve the cancer cells by not feeding it with the foods it needs to multiply.

วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

WHAT CANCER CELLS FEED ON:

อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง

a. Sugar is a cancer-feeder. By cutting off sugar it cuts off one important food supply to the cancer cells . Sugar substitutes like NutraSweet, Equal,Spoonful, etc are made with Aspartame and it is harmful. A better natural substitute would be Manuka honey or molasses but only in very small amounts. Table salt has a chemical added to make it white in colour. Better alternative is Bragg's aminos or sea salt.

น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น ' นิวตร้าสวีต ' ' อีควล ' ' สปูนฟูล ' ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ ' แบรก อมิโน ' หรือเกลือทะเลแทน

b. Milk causes the body to produce mucus, especially in the gastro-intestinal tract. Cancer feeds on mucus. By cutting off milk and substituting with unsweetened soy milk, cancer cells are being starved .

นมเป็นสาเหตุุุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะไ้ด้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

c. Cancer cells thrive in an acid environment. A meat-based diet is acidic and it is best to eat fish, and a little chicken rather than beef or pork. Meat also contains livestock antibiotics, growth hormones and parasites, which are all harmful, especially to people with cancer.

เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแงดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

d. A diet made of 80% fresh vegetables and juice, whole grains, seeds, nuts and a little fruits help put the body into an alkaline environment. About 20% can be from cooked food including beans. Fresh vegetable juices provide live enzymes that are easily absorbed and reach down to cellular levels within 15 minutes to nourish and enhance growth of healthy cells. To obtain live enzymes for building healthy cells try and drink fresh vegetable juice (most vegetables including bean sprouts) and eat some raw vegetables 2 or 3 times a day. &nsbp; &nsbp; Enzymes are destroyed at
temperatures of 104 degrees F (40 degrees C).

อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 15 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด (ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F (ประมาณ 40 องศา C)

e. Avoid coffee, tea, and chocolate, which have high caffeine. &nsbp; &nsbp;Green tea is a better alternative and has cancer-fighting properties. Water-best to drink purified water, or filtered, to avoid known toxins and heavy metals in tap water. Distilled wate! r is acidic, avoid it.

ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

12. Meat protein is difficult to digest and requires a lot of digestive enzymes. Undigested meat remaining in the intestines become putrified and leads to more toxic buildup.

โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

13. Cancer cell walls have a tough protein covering. By refraining from or eating less meat it frees more enzymes to attack the protein walls of cancer cells and allows the body's killer cells to destroy the cancer cells.

ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

14. Some supplements build up the immune system (IP6, Flor-essence, Essiac, anti-oxidants, vitamins, minerals, EFAs etc.) to enable the body's own killer cells to destroy cancer cells. &nsbp; &nsbp;Other supplements like vitamin E are known to cause apoptosis, or programmed cell death, the body's normal method of disposing of damaged, unwanted, or unneeded cells.

สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน (สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

15. Cancer is a disease of the mind, body, and spirit. A proactive and positive spirit will help the cancer warrior be a survivor.. Anger, unforgiveness and bitterness put the body into a stressful and acidic environment. Learn to have a loving and forgiving spirit. Learn to relax and enjoy life.

มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

16. Cancer cells cannot thrive in an oxygenated environment. Exercising da ily , and deep breathing help to get more oxygen down to the cellular level. Oxygen therapy is another means employed to destroy cancer cells.

เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆ จะช่วยให้่ร่างกายนำอ๊อกซิเจนส่งลงไปจนถึงระดับเซลได้มากขึ้น การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

(PLEASE FORWARD IT TO PEOPLE YOU CARE ABOUT)
(กรุณาช่วย Forward ไปยังบุคคลที่คุณรักและห่วงใย)
This is an article that should be sent to anyone important in your life.
นี่คือเรื่องที่คุณควรส่งออกไปให้คนที่มีความสำคัญกับชีวิตคุณได้รับรู้รับทราบ
</span>
<br><span style='font-family:Times'><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"It does not matter how slowly you go as long as you do not stop."</span></span></span> — <i>Confucius</i>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไทยแท้แท้
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1088
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 13, 2007 11:13 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » พุธ ก.พ. 11, 2009 9:12 pm

ไทยแท้แท้ เขียน:Cancer Update from Johns Hopkins
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์


5. To overcome the multiple nutritional deficiencies, changing diet and including supplements will strengthen the immune system.

เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น


11. An effective way to battle cancer is to starve the cancer cells by not feeding it with the foods it needs to multiply.

วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว


12. Meat protein is difficult to digest and requires a lot of digestive enzymes. Undigested meat remaining in the intestines become putrified and leads to more toxic buildup.

โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

13.  Cancer cell walls have a tough protein covering.   By refraining from or eating less meat it frees more enzymes to attack the protein walls of cancer cells and allows the body's killer cells to destroy the cancer cells.

ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น



<span style='color:purple'>เอ้อกราบขอบคุณพี่ต่ายค่ะ
มีซาว์แทรกด้วย ดีค่ะดี
อิอิ จะเอาไว้ปะทะคารมกะพี่สาวสามี

เนี่ยเป็นมะเร็งขั้นแรก ยังจะดริ๊ง แด๊บแต่หมูเห็ดเป็ดไก่อยู่ได้
แกว่าหมอไม่ห้าม (อ้าวหมอเค้าจะห้ามทำไมล่ะคู๊ณ)จริงมะพี่

แต่แบบแหม ตัวเราเองก็ต้องรู้จักวิธีดูแลตัวเองสิใช่ป่ะคะ
นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่ปั๋วนะตัดหางปล่อยวัดไปแระ อยากทำไรเชิญ

เฮ้อ แต่เวลาชีครายยยยยยยนะ ก็อดสงสารมิได้ กรรมค่ะกรรมบอกได้คำเดียว


</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย ไทยแท้แท้ » พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 3:50 am

หนูนา จริงจ้ะ คนเราถ้าไม่รู้จักดูแลตัวเอง ก็ไม่มีใครช่วยเราได้ หวังว่าพี่ปั๋วหนูจะได้ความรู้จากบทความนี่ แล้วเอาไปใช้กับตัวเองมั่งนะจ๊ะ พี่เอาใจช่วย ขอให้แกหายวันหายคืน
<br><span style='font-family:Times'><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"It does not matter how slowly you go as long as you do not stop."</span></span></span> — <i>Confucius</i>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไทยแท้แท้
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1088
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 13, 2007 11:13 pm

โพสต์โดย ขวัญทรายแก้ว » ศุกร์ ก.พ. 13, 2009 1:40 pm

ขอบคุณมากนะคะ พี่ต่าย สำหรับข้อมูลดี ๆ
ขออนุญาตทำเมลส่งให้กับคนที่เป็นมะเร็งอยู่นะคะ
<img src='http://i66.photobucket.com/albums/h246/thaobe_cb/2.gif' border='0' alt='user posted image' /><br><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:green'>&sect; มองโลกในแง่ดี ชีวีมีสุข &sect;</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ขวัญทรายแก้ว
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 28, 2007 4:32 pm

โพสต์โดย ตนคอน » อังคาร มี.ค. 24, 2009 5:22 am

<span style='color:red'>ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้เพิ่ม</span>
<img src='http://i387.photobucket.com/albums/oo319/linasara/thailand2003028-1.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><b><span style='color:red'>นุชค่ะ แม่น้องเซลิน่า ณ เยอรมนี</b></span><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ตนคอน
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1083
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 8:00 pm

โพสต์โดย ยายหนู » เสาร์ มิ.ย. 27, 2009 6:21 am

หนูยังไม่ได้อ่านเลย ไม่รู้ช่วงนี้มะเร็งถามหาหรือเปล่า อาการไม่ค่อยจะดีเลย ฮี่ฮี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย leo » พฤหัสฯ. มิ.ย. 24, 2010 1:20 pm

แล้วมะเร็งในเม็ดเลือดขาวละค่ะ ต้องทำอยางไรมั่ง เพราะตอ้งไปฟอกเลือดทุก๓เดือน ทรมานมากค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
leo
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 2:02 pm

โพสต์โดย พัฒน์นรี » ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 5:55 am

ขอบคุณค่ะ หนูยังไม่ได้อ่าน แต่มาขอบคุณไว้ก่อนค่ะ แล้วเดี๋ยวจะเข้ามาอ่านนะคะพี่ต่าย ฮิฮิ
<a href='http://www.facebook.com/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
พัฒน์นรี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1463
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 27, 2006 3:04 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 6:31 am

leo เขียน: แล้วมะเร็งในเม็ดเลือดขาวละค่ะ ต้องทำอยางไรมั่ง เพราะตอ้งไปฟอกเลือดทุก๓เดือน ทรมานมากค่ะ

<span style='color:deeppink'>ใครป่วยคะน้องจอย
หลักการก็ใช้วิธีเดียวกันหมดนะคะ
คือเจ้ามะเนี่ย เราต้องควบคุมให้เค้าหยุดเจริญเติบโตแพร่กระจาย
และพร้อมกันนั้นเราก็ต้องสร้างภูมิทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงด้วยจ้า


</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 6:40 am

<span style='color:deeppink'>พี่ตัดตอนเรื่องอาหารจากบทความมาให้นะคะ
อันนี้จะเป็นเรื่องอาหารสำหรับคนที่เป็นมะเร็ง
คือเมื่อเรามีเจ้ามะเนี่ย เราต้องสกัดดาวรุ่งค่ะ อย่าให้เค้าแพร่กระจาย
อาหารที่เรากินเข้าไปนี่แหละค่ะจะไปเร่งให้เค้าโตได้ดีแท้นีกเชียว

"เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ
ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับ โภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหาร
รวมทั้งสารอาหารบางอย่าง จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง
น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง
สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น ' นิวตร้าสวีต ' ' อีควล ' ' สปูนฟูล ' ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย
สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น
เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ ' แบรก อมิโน ' หรือเกลือทะเลแทน

นมเป็นสาเหตุุุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร
เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแงดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น
ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู
ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์
และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง
ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง
น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง "




</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย leo » ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 11:56 am

ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีฯค่ะ จอยค่ะเป็นฯมา๗ปีแล้ว จอยก็ดูแลตัวเองทุกอย่างค่ะ แ้วดื่มกรีนทีทุกวันฯละ ๓ลิตร จอยเหนีอยกับการฟอกเลือดทรมานมาก ค่ารักษาก็แพง ก็ไม่รู้จะอยู่ถึงวันไหน แต่จอยโชคดี่ที่มีสามีดีให้กำังใจและดูแลจอยทุกอยา่ง ังไงจอยก็จะสู้ฯค่ะเพื่อลูกและครอบครัวค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
leo
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 2:02 pm

โพสต์โดย พัฒน์นรี » ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 5:45 pm

เข้ามาให้กำลังใจคุณจอยค่ะ คุณจอยมีสามีที่ดี ดูแลคุณจอยดี ก็มีส่วนทำให้เรามีกำลังใจสู้กับโรคภัยได้ดี ยังไงก็สู้กับมันต่อไปนะคะ พัฒน์นรีเป็นกำลังใจให้ค่ะ
<a href='http://www.facebook.com/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
พัฒน์นรี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1463
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 27, 2006 3:04 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 6:01 pm

<span style='color:deeppink'>น้องจอยดูแลเรื่องอาหาร อากาศ ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพจิตใจ
ถ้าเป็นพุทธก็สวดมนต์ถือศีลนั่งสมาธิด้วยนะคะ
ใจที่สงบจะทำให้ร่างกายเรามีภูมิชีวิตที่มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ

ส่วนเรื่องรักษาทางการแพทย์การฟอกเลือดก็คงต้องทำควบคู่ไปแหละนะจ๊ะ
เพื่อผลการรักษาที่ได้ผลดียิ่งขึ้น
ขอเป็นกำลังใจในการรักษาให้น้องจอยนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงๆจ้ะ


</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย ไทยแท้แท้ » เสาร์ มิ.ย. 26, 2010 10:45 pm

น้องจอยดูแลเรื่อง อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพจิตใจ
ถ้าเป็นพุทธก็สวดมนต์ถือศีล นั่งสมาธิด้วยนะคะ
ใจที่สงบจะทำให้ร่างกายเรามีภูมิชีวิตที่มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ


พี่เป็นกำลังใจให้หนูจอยนะคะ สู้นะคะ คำแนะนำของหนูนาดีมากและถูกต้องที่สุดค่ะ
<br><span style='font-family:Times'><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"It does not matter how slowly you go as long as you do not stop."</span></span></span> — <i>Confucius</i>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไทยแท้แท้
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1088
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 13, 2007 11:13 pm

โพสต์โดย rattikal » จันทร์ มิ.ย. 28, 2010 1:50 pm

<span style='color:red'>พี่ต่าย</span> ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทความดี ๆ ที่เอามาฝากกัน
พี่ต่ายสบายดีนะคะ ติ๊กาสบายดีค่ะ วันอาทิตย์นี้จะเดินทางกลับเมืองไทย
เดี๋ยวหนูจะเที่ยวเผื่อพี่ต่ายนะคะ
<span style='color:red'>น้องจอย</span> พี่ขอเป็นกำลังใจให้อีกคน รักษาสุขภาพให้ดีนะคะ สู้ ๆ ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rattikal
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 10, 2007 10:53 am

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน