ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

บันทึกของหมูขุน ลุ้นเลข 53 เป็น 45 (ภาค 3)

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย Tuta Schweiz » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 1:20 pm

ชื่อ<span style='color:blue'> ตุ๊(ต๊ะ)</span> หมูขุน มาจากน้ำหนักที่ขึ้นเร็วภายใน 1 ปี 10 กก.
อายุ 42 ปี ส่วนเตี้ย 150 ซม.
<span style='color:blue'>เหตุผลที่อ้วน</span> คือ กินอาหารที่มีแคลอรี่สูง และขาดการออกกำลังกาย
<span style='color:blue'>เริ่มปฏิบัติการลดความอ้วน น้ำหนักเริ่มต้น <span style='color:red'>60 กก.</span></span> เดือน พค.52 ลดลงเหลือ <span style='color:red'>57 กก.</span> เดือน มิย.52น้ำหนักลดลงเหลือ <span style='color:red'>56 กก.</span> เดือน กค.52 น้ำหนักลดลงเหลือ <span style='color:red'>54 กก.</span>
หลักการที่ทำให้น้ำหนักลดลงเลื่อยๆ คือ ปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกาย รับฟังคำแนะนำถ้าทำได้รีบปฏิบัติตาม ดูและสังเกตตัวเอง หาความรู้อ่านให้เข้าใจและลองทำ **<span style='color:green'>สำคัญที่สุดให้เวลา และไม่เครียด</span>**

รูปภาพ
<span style='color:blue'>สวัสดีค่ะ ท่านผู้ชม</span>
ได้เวลาฟ้องด้วยภาพแล้ว ตอนแรกตั้งใจจะโพสต์ตั้งแต่ตอนเช้า วันนี้เป็นวันชาติที่สวิสเชอร์แลนด์ ร้านเปิด8โมงเช้าถึง 12:00 ร้านมีพนักงานคนเดียวสามีให้ไปช่วยจัดของแต่เช้า เลยอดโชว์ตอนเช้า หน้าท้องแฟ๊บดี น้ำหนักเลยเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยจากที่ชั้งเช้าวันที่ 31 กค เพราะเห็นพี่ยายหนูทายเอาไว้ว่าลดลงเหลือ 53 ตัวเองตั้งใจว่าวันที่ 1 สค จะขึ้นตาชั่ง อดใจไม่ได้เลยชั้งดูอยู่ที่ 53.6 กก. ดีใจใหญ่เลย รีบไปซื้อเสื้อกีฬาเป็นของขวัญตัวเองเพราะเดือนที่แล้วจะซื้อแต่ใส่ได้เบอร์ M ใส่ได้ ช่วงตัวหน้าอกไม่ได้ (หน้าอกเราเล็ก 555) อยากได้เบอร์ S แต่คับก็เลยหาแรงจูงใจให้ตัวเองโดย คิดว่าถ้าน้ำหนักลดจะมาซื้อ เบอร์ S วันนี้ก็ได้มาแล้วจ้า และใส่โชว์ด้วย ไม่ว่ากันนะ เบอร์ 5 เอาด้านข้างไปก่อน ด้านหน้าหลังจากไขมันหายไปแต่หนังหน้าท้องยังไม่กระฉับ มันย่นๆ อายค่ะอายเอาไว้มั้นใจกว่านี้ จะโชว์ไห้ดู

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>ผู้ชนะ</span></span>
<span style='color:blue'>หากไฟเป็นเครื่องพิสูจน์คุณสมบัติความเป็น..เหล็กกล้า
อุปสรรคนานัปการก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์...ความเกร่ง ความอดทนของเรา...
ว่ามีค่าควรแก่การเป็นเจ้าของ...ความสำเร็จหรือไม่.

หากเราต้องการชัยชนะ...ก็จงพร้อมที่จะต่อสู้
หากไม่มีการต่อสู้...เราก็จะไม่ได้รับรางวัลแห่งการต่อสู้เลย
หากว่าเราไม่อยากอดทน...ก็คือเราไม่ต้องการรางวัลนั่นเอง
แต่ถ้าเราอยากได้รางวัล...จงต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว
และต้านทานต่ออุปสรรคด้วยความอดทนและหนักแน่น
แน่นอน...ถ้าไม่มีความเหน็ดเหนื่อย เราก็ไม่ต้องการพักผ่อน
และสุดท้าย...ถ้าไม่มีการต่อสู้
เราจะรู้จักและได้ชัยชนะมาครอบครองได้อย่างไร.

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ความผิดหวัง...จะสอนให้เรารู้จักคำว่า...ไม่ยอมแพ้และอดทน
ความสมหวัง...จะสอนให้เรารู้จักคำว่า...กำลังใจและการต่อสู้
ความสำเร็จ...จะสอนให้เรารู้จักคำว่า...ก้าวต่อไปและไม่หยุดนิ่ง.</span>

ถนนสู่ความสำเร็จ...หากยืนกรานด้วยความมุ่งมั่น และอดทน...แล้วละก็
ไม่มีอะไรจะมาขวางกั้นจิตใจที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าได้
รางวัลแห่งชีวิต...ไม่ได้อยู่ที่ปลายทางของการเดินทาง
แต่อยู่ที่ต้นทางของวันนี้ต่างหาก... นั่นหมายถึง
หากเราเป็นผู้ชนะในวันนี้และเดี๋ยวนี้...เราจะเป็นผู้ชนะตลอดกาล</span>
เราเอง "<span style='color:green'>การชนะที่มีค่าที่สุด คือชนะใจตัวเอง</span>"

..................... EM150 EM251 EM257 EM258 EM239 ........

อาจารย์สง่ากล่าวว่า สาเหตุุุุุที่ทำให้อ้วนลงพุงได้แก่ <span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'>"กินเกิน เพลินไม่ขยับ บังคับสติไม่ได้"</span></span>
สาเหตุุุุุเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยหลักการ "3 อ." ของกรมอนามัยได้แก่ อาหาร (ควบคุม) ออกกำลัง และอารมณ์ (ดีๆ) ผู้เขียนขอเรียนเสริมข้อนอนให้ไปเข้าไปด้วย จึงเป็น "3 อ. 1 น."
ผลจากการศึกษาพบว่า
คนที่นอนวันละ 5 ชั่วโมง > เสี่ยงโรคอ้วนเพิ่มขึ้น
คนที่นอนวันละ 4 ชั่วโมง > เสี่ยงโรคอ้วนเพิ่มขึ้น 73%
แรงจูงใจก็มีบทบาทมากๆ...
ถ้าแรงจูงใจชัดเจน จะมีโอกาสลดความอ้วนสำเร็จเพิ่มขึ้น
ยิ่งถ้ามีบัดดี้ (buddy) หรือคนที่ตั้งใจจะลดความอ้วนพร้อมกันเป็นคู่หู หรือลดกันเป็นกลุ่ม (peers) แล้ว โอกาสลดความอ้วนสำเร็จจะเพิ่มขึ้น
**<span style='color:red'>ต่อไปเป็นคำตอบซึ่งท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยอยู่ในใจว่า ทำไมไม่ลดความอ้วนให้เร็ว เหตุผลสำคัญที่ควรลดความอ้วนช้าๆ ทว่ายั่งยืนได้แก่</span>
-ถ้าลดเร็วเกินสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม > โอกาสเกิดผิวหนังสลด ย่น หย่อน ยานจะสูง เนื่องจากผิวหนังที่ถูก "ยืด" มานาน ปรับตัวไม่ทัน
-ถ้าลดลงเร็ว > โอกาสสูญเสียมวลกล้ามเนื้อจะมาก ทำให้อัตราการเผาผลาญอาหารช้าลง (กล้ามเนื้อเผาผลาญเร็วกว่าไขมัน) ผลคือ โอกาสกลับไปอ้วนใหม่ หรือ "โยโย่ (yoyo = ลูกซิงที่เด้งขึ้นๆ ลงๆ)" สูง แถมน้ำหนักขาขึ้นมักจะเป็นไขมันล้วนๆ
-ถ้าลดลงเร็ว > โอกาสเกิดนิ่วถุงน้ำดีจะเพิ่มขึ้น เรียกว่า เสี่ยงเจ็บตัว และเสี่ยงตายโดยไม่จำเป็น (ไม่มีการผ่าตัดใดที่ไม่มีอัตราตาย)
ตอนผู้เขียนเป็นเด็ก (30+ ปีก่อน) มีหนังกังฟูเรื่องหนึ่งทางโทรทัศน์ อาจารย์ท่านสอนไว้ว่า <span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>"หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" </span></span>

คำสอนนี้ใช้ได้ดีในการลดความอ้วน เนื่องจากถ้าเราปล่อยให้มีสิ่งกระตุ้นมากๆ เช่น อาหารอร่อยๆ ฯลฯ หรือไปงานเลี้ยง... แบบนี้โอกาสพ่ายแพ้สูงมากๆ

ทางที่ดีคือ "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" เช่น
ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้หิว เช่น งานเลี้ยง อาหารบุฟเฟต์ ไม่เข้าไปในตลาดหรือบริเวณใกล้ร้านอาหาร-ร้านขนมโดยไม่จำเป็น ฯลฯ แม้แต่ภาพก็ห้ามดู
เตรียมอาหารสุขภาพกำลังงานต่ำ เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แครอต ฯลฯ ไว้ให้พร้อม ปอกใส่ตู้เย็นไว้ หรือปิดภาพอาหารแคลอรีต่ำไว้ใกล้ตัว เวลาหิวจะได้กินทันที
เรื่องผลไม้นั้น... ควรนั่งลง เคี้ยวช้าๆ กินช้าๆ ถ่วงเวลาให้ครบ 20 นาที เพื่อให้สมองเกินความรู้สึก "อิ่ม"
เมื่ออิ่มแล้ว ควรรีบ "หยุด" กินทันที เพื่อฝึก <span style='color:red'>"คิดใหม่-ทำใหม่"</span> จนเกิดเป็นนิสัยใหม่ หลังกินผลไม้ควรรีบบ้วนปากทันทีหลายๆ ครั้ง เพื่อลดโอกาสฟันสึกหรือผุจากกรดในผลไม้ และกรดจากการย่อยสลายน้ำตาลในช่องปาก
ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องน้ำตาลเทียมนั้น... อาจารย์สง่าท่านว่า ให้งดไปเลย เนื่องจากจะทำให้ลิ้นติดความหวานอยู่
เรื่องนี้ตรงกับการศึกษาที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า คนที่กินน้ำอัดลมประเภท "ไดเอต" หรือใช้น้ำตาลเทียมลดความอ้วนไม่ค่อยสำเร็จ
ทีนี้ถ้า "<span style='color:red'>หลีกเลี่ยง</span>" ไม่ไหว ต้องหัด "<span style='color:red'>ต้านทาน</span>" ให้ได้ คือ รู้จักติดเบรค อยากกินจริงๆ ก็กินได้ แต่ต้องลดปริมาณ และอย่าเสียดายของ ที่เหลือให้ทิ้งไปเลย
ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวผัดไทย... อาจจะขอแบบผัดแห้งๆ ใช้น้ำมันน้อยๆ ผักมากหน่อย เส้นน้อยหน่อย
หรือจะกินแบบ "ครึ่งจาน" ได้ก็ยิ่งดี ที่เหลือทิ้งไปเลย
สิ่งที่มีส่วนทำให้การ "ต้านทาน" อาหารล้มเหลวนั้น นอกจากจะเป็นสี เสียง กลิ่น รส และสัมผัสของอาหารแล้ว แอลกอฮล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ สาโท ฯลฯ) ก็เป็นศัตรูสำคัญ เพราะทำให้แรงต้านทานสูญสลายหายไปกับสายลม

ถ้าท่านหันมาใส่ใจสุขภาพ และหันมาลดความอ้วนแล้ว... นับว่า ท่านมีส่วนช่วยชาติประหยัด และช่วยตัวท่านเองตลอดจนคนที่ท่านรักประหยัดชีวิต ทำให้มีโอกาสมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น

ถึงตรงนี้... <span style='color:green'>ขอเชียร์ครับ EM239 เชียร์ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านลดความอ้วนได้สำเร็จ และมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพไปนานๆ</span>

**ยกมาบางตอนเพราะยาวมาก (ตั้งใจเอามาแปะ จะได้อ่านเตือนสติตัวเอง) และเผื่อสมาชิกชาวอ้วนจ้า
ขอขอบพระคุณค่ะ
ที่มา
-ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
-นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย Tuta Schweiz » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 1:41 pm

รูปภาพ
นำเสนออีกภาพ ไม่ว่ากันนะเพราะภูมิใจที่ตัวเองเปลี่ยนแปลงได้ และขอขอบคุณ <span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>พี่ต่าย พี่ยายหนู</span></span> ที่เป็นแรงจูงใจและเป็นผู้ให้ความรู้จากประสบการณ์ของตัวเองและความรู้จากแหล่งอื่นๆ และขอบคุณเพื่อนๆ น้องๆ ที่คอยให้กำลังใจ **ดีใจจริงๆค่ะ กางเกงตัวโปรดที่ใส่เดินทางมาอยู่กับสามีที่สวิตฯวันแรกก็ใส่ได้แล้ว แต่คับนิดส์ จะพยายามอีกจ้า

อันนี้เอามาฝาก เพราะอยากให้รู้ว่า ที่ทำได้ทุกวันนี้ ก็คือบทความเล่านี้ <span style='color:blue'>"เพราะเชื่อว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ และความคิดของเราเอง"</span>

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่อเมริกา หลายปีมาแล้ว ชายคนหนึ่งเป็นคนทำความสะอาดรถแช่เย็น วันนั้นขณะที่เขากำลังทำความสะอาดห้องเย็นของรถคันหนึ่งอยู่ เกิดลมพัดปิดประตูห้องเย็น เขาพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน คนอื่นกลับบ้านไปแล้ว เพราะเป็นเย็นวันศุกร์ กว่าจะมีคนมาอีกทีก็เช้าวันจันทร์!!!

เขาคิดว่าเขาคงต้องตายแน่ๆ ในอุณหภูมิ -10 องศา คนปรกติคงรอดได้ไม่นาน เขาเลยคิดจะทำความดีครั้งสุดท้ายโดยเขียนให้รู้ว่า คนที่ต้องตายเพราะความเย็นจัด นั้นจะมีอาการเช่นไร อย่างน้อยมันยังเป็นประโยชน์กับวงการแพทย์ เขาเขียนทุกอย่างที่เขารู้สึกอย่างละเอียด...

เช้าวันจันทร์มีคนมาพบศพ ชายผู้นี้ พร้อมกับกระดาษที่เขาเขียนเอาไว้ ทางการแพทย์ บอกว่า มันเป็นอาการของคนที่ตายจากความเย็นจัด จริงๆ ตรงทุกประการ แต่สิ่งเดียวที่ผิดปรกติก็คือ...ห้องเย็นนั้นไม่ได้เปิดระบบทำความเย็นเอาไว้ มันเป็นอุณหภูมิปรกติ!!!!! <span style='color:blue'>เขาตายเพราะเขาคิดไปเอง</span>!!!!!
**********************
เรื่องต่อมา เป็นเรื่องที่โด่งดังมาก เกิดเมื่อ 100 ปีมาแล้ว ที่ประเทศอังกฤษ คุกที่เมือง บริสตรอล นักโทษคนหนึ่งโดนตัดสินประหาร ชีวิตด้วยการแขวนคอในวันรุ่งขึ้น เย็นวันก่อนประหาร มีนักจิตวิทยา2คนที่ ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ทำงานทดลอง ได้ปลอมตัว มาบอก กับนักโทษประหารคนนี้ว่า พรุ่งนี้แทนที่เขาจะโดนแขวนคอ ได้มีการเปลี่ยนกฎหมายใหม่จากการแขวนคอมาเป็นเชือดคอแทน!!!!

นักโทษผู้น่าสงสาร คงไม่ได้นอนทั้งคืนและคิดแต่ว่า พรุ่งนี้เช้าเขาจะต้องโดนเชือดคอ และเมื่อตอนเช้ามาถึง เขาถูกมัดมือไพล่หลังเอาผ้าปิดตา และถูกพาตัวมา ณ ห้องแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่า มัน เป็นแค่ห้องสังเกตการณ์ เฉยๆ เขานึกว่าเป็นห้องประหาร!!!

ได้มีการจัดฉากไว้เรียบร้อย ในห้องนั้นมี นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล และ มีพระมาสวดครั้งสุดท้ายให้เขา และนักจิตวิทยาคนแรก แสดงเป็นคนลงมือเชือดคอนักโทษคนนี้ มีดที่ใช้เชือดคอ ก็คือมีดแบบที่เขาใช้โกนหนวด แต่เขาเอาด้านทื้อของมีด ผาดผ่านไปที่ลำคอ (เขาบอกว่ามีดนั้นไม่ได้สัมผัสลำคอนักโทษเลยแม้แต่น้อย) แล้วนักจิตวิทยา อีกคน ทำเสียงน้ำไหล ให้เหมือนเลือดกำลังไหล

นักโทษคนนี้ รู้สึกเย็นที่ลำคอเพราะโลหะของมีดโกน และได้ยินเสียง น้ำไหลเขาคิดว่า เลือดเขากำลังไหลออกจากคอหอย แล้วเขาก็ล้มลงสิ้นใจตรงนั้นเอง !!!!! <span style='color:blue'>เขาตายเพราะเขาเชื่อว่า เขาตายแน่ เขาคิดไปเอง</span>!!!!
******************
จากเรื่องที่เล่ามาทั้ง 2เรือง เป็นเรื่องจริง และทำให้เราเห็นได้ เลยว่า ความเชื่อ และใจคิดของคนเรา นั้นมีอำนาจมากแค่ไหน และถ้ามันฆ่าเราได้ จินตนาการดูซิว่ามันจะช่วยให้เราได้มากแค่ไหน????

ในทางพุทธศาสนาจึงบอกว่า "<span style='color:red'>ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน</span>" "<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจของเรานี้เอง</span></span>" ถ้าเรากลัวตาย และคิดว่าเราจะตาย เราก็จะตาย เพราะความกลัวที่เกิด จากใจที่คิดไปนั่นเองที่ฆ่าเรา!!!!

ปัญหาส่วนใหญ่ที่เราต้องเจอล้วนมาจาก ใจที่เป็นลบ ใจที่คิดแต่เรื่องไม่ดี ดังนั้น เราต้องแก้ไขที่ใจของเรานี้ เวลาเราอยู่ในอารมณ์ที่ดีๆ ใจสบายๆ มีเรืองเกิดขึ้น เราจะรู้สึกว่าเรื่องเล็กน้อย

ธรรมชาติของคนเรา เวลาเราเป็นสุข เราอยากจะแบ่งปันความสุข เช่น เวลาเราสอบได้ดี ได้เลื่อนขั้น ถูกหวย เราแทบจะวิ่งแจ้นไปบอกเพื่อนฝูง เวลาความรักของเรากำลังไปด้วยดี เราจะเห็นโลกเป็นสีชมพูทุกอย่าง อะไรก็ได้ ดีไปหมด

ขอเอาบทความนี้มาแปะ เผื่อสมาชิกลดความอ้วนเกิดอาการท้อถอย ขอให้เข้มแข็ง ก้าวต่อไป สู้ สู้
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย ยายหนู » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 3:26 pm

เข้ามาดีใจกับความสำเร็จของแม่ตุ๊...และบทความดีๆ อ่านแล้วไม่น่าจะมีคนที่ใจเสาะแบบนั้นเลยเน้อ...
ไปออกกำลังกายก่อนดีกว่า เดี๋ยวยาว...ว่างค่อยเข้ามาคุยใหม่...ดีใจด้วยจ้าาาาา....
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย chiangmai » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 4:09 pm

เข้ามาแสดงความยินดีกับพี่ตุ๊ค่ะที่ประสบความสำเร็จไปแล้วอีกก้าวหนึ่งพี่เก่งจังเลยค่ะหนูก็จะพยายามเหมือนพี่ไม่ว่าใช้เวลานานแค่ไหนก็<span style='color:red'>สู้ตายฮ่ะ</span>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ครอบครัวสุขสันต์เบนด้าจ๊า</span></span><br><img src='http://davm.daisypath.com/UcKQm9.png' border='0' alt='user posted image' /><br><img src='http://lbym.lilypie.com/A05om9.png' border='0' alt='user posted image' /><br><img src='http://lbym.lilypie.com/e6Lvm9.png' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://lb5m.lilypie.com/U6N7m9.png' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
chiangmai
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1034
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 12:42 am

โพสต์โดย หมวยมันเปลว » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 4:11 pm

ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ดูดีมากเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
หมวยมันเปลว
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 27, 2009 2:03 am

โพสต์โดย ไทยแท้แท้ » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 5:10 pm

กรี๊ดๆๆๆ ดีใจด้วยจริงๆจ้ะหนูตุ๊ ปราบไขมันไปได้เยอะมากๆเลย พุงราบชามเด่นแล้ว เก่งท่ีซู๊ด
<br><span style='font-family:Times'><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"It does not matter how slowly you go as long as you do not stop."</span></span></span> — <i>Confucius</i>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไทยแท้แท้
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1088
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 13, 2007 11:13 pm

โพสต์โดย MissMo » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 5:51 pm

พี่ตุ๊จ๋า แสดงความยินดีด้วยค่ะ ลืมตาปุ๊บก็พุ่งมาที่คอมพ์เลย เมื่อวานรอดูอยู่ทั้งวันอย่างกระวนกระวาย พี่ตุ๊เก่งจังค่ะ ดีใจด้วยนะคะ
<img src='http://tickers.TickerFactory.com/ezt/t/whgLQlZ/weight.png' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-family:Impact'><b><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"แม้จะเดินช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปไม่ถึง"</span></span></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
MissMo
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 631
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 11:42 pm

โพสต์โดย Bronte » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 8:45 pm

ฮูเร ดีใจจังเลย เห็นพี่ตุ๊ไส้ ยีนกับเข็มขัด เทร์แล้ว สวยแล้วค่ะ เหมียวชอบบทความที่พี่จัดมา จะเอาเป็นแนวทางค่ะ 54แล้วดีจังเลย อยากได้มั้ง นั้งเก้าอี้ไม่ติดเลย
ต้องไปออกกำลังกายมั้ง 6กก.หายไปแล้ว เยี่ยมมาก
<img src='http://i633.photobucket.com/albums/uu56/anutra1/Decorated%20images/FLOWER.gif' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Bronte
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 193
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 21, 2009 11:59 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » เสาร์ ส.ค. 01, 2009 8:49 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'>เริ่มต้นบันทึกวันที่ 1Aug'09 น้ำหนักวันนี้ 54.4 กก.</span></span>
<span style='color:blue'>พลังงานที่ต้องการต่อวัน</span>
พลังงานขณะพัก = 1256 กิโลแคลอรี่
พลังงานรวมทีต้องการ = 1758.4 กิโลแคลอรี่

<span style='color:blue'>ผลการวิเคราะห์</span>
BMI = 24
คุณมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ปกติ และควรลดน้ำหนักลงเล็กน้อย

เช้าตื่น 6:00

06:40
-น้ำข้าวโอ๊ตที่เหลือจากวันเมื่อวาน
-กล้วยหอม 1/2 ลูก

07:00-12:00 ตั้งใจจะออกกำลังกาย แต่สามีขอให้ไปช่วยเปิดร้านเพราะวันนี้เป็นวันชาติ สวิสฯ พนักงานหยุด

09:30
-ขนมปังโฮลเกรน
-โยเกิร์ตธัญพืช low fat 1 ถ้วย
-แอปพลิคอท 2 ลูก

12:30 กินอาหารเที่ยงกับพ่อ แม่สามี
-สลัดไข่
-ไวน์แดง
-เนื้อสันในอบ(ทำแบบไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอร่อย)เค้าหุงข้าวคิดว่าเราต้องกินข้าว แต่เป็นข้าวขาวแข็งๆ เราก็เลยตักช้อนเดียวไม่ให้เค้าเสียใจและบอกเค้าว่าลดความอ้วนอยู่จ้า เค้าก็ทักนะว่าตัวเล็กลงนิดส์ 555

15:00
-Shake แตงโมอีกแล้วลูกอยากกิน แต่วันนี้ลูกกินเยอะกว่าแม่
-สตรอเบอร์รี่ 5 ลูก

18:50 เดินสาย กินจ้าวันนี้ ไปบ้านพี่สาวในเมือง
-แกงไก่หน้อไม้ดอง
-ปลานึ่งมะนาว
-ตำแตง
-แคนตาลูป 5 คำ

**พรุ่งนี้จะลองคำนวณแคลอรี่ดู วันนี้ไม่ได้กินตามแผนตัวเองก็เลยขี้เกียจคิด
เข้ามาดีใจกับความสำเร็จของแม่ตุ๊...และบทความดีๆ อ่านแล้วไม่น่าจะมีคนที่ใจเสาะแบบนั้นเลยเน้อ...
ไปออกกำลังกายก่อนดีกว่า เดี๋ยวยาว...ว่างค่อยเข้ามาคุยใหม่...ดีใจด้วยจ้าาาาา....

<span style='color:red'>พี่ยายหนู</span> ต่อไปแม่ตุ๊จะตามเรื่องขึ้นตาชั่งทุกอาทิตย์นะ ไม่ค่อยชอบเลยแต่อยากเปลี่ยนแปลงดู


กรี๊ดๆๆๆ ดีใจด้วยจริงๆจ้ะหนูตุ๊ ปราบไขมันไปได้เยอะมากๆเลย พุงราบชามเด่นแล้ว เก่งท่ีซู๊ด

<span style='color:red'>พี่ต่าย</span> ชามยังไม่เด่นเป็นที่น่าพอใจ ไม่งามเหมือนพี่ต่าย ไม่ถอยจ้า 555

ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ดูดีมากเลย

<span style='color:red'>พี่ปิง</span> ขอบคุณค่ะ ตุ๊ต้องขอคำแนะนำจากพี่อีกหลายเรื่องอย่าหนีไปไหนก่อนนะ

พี่ตุ๊จ๋า แสดงความยินดีด้วยค่ะ ลืมตาปุ๊บก็พุ่งมาที่คอมพ์เลย เมื่อวานรอดูอยู่ทั้งวันอย่างกระวนกระวาย พี่ตุ๊เก่งจังค่ะ ดีใจด้วยนะคะ

<span style='color:red'>น้องโม</span> แฟนพันธุ์แท้ ขอบคุณจ้าเราจะทำให้น้ำหนักลดไปด้วยกัน จะน้อยจะมากขอให้มันลดเน๊อะ

เข้ามาแสดงความยินดีกับพี่ตุ๊ค่ะที่ประสบความสำเร็จไปแล้วอีกก้าวหนึ่งพี่เก่งจังเลยค่ะหนูก็จะพยายามเหมือนพี่ไม่ว่าใช้เวลานานแค่ไหนก็สู้ตายฮ่ะ
<span style='color:red'>น้องตุ๊กตา</span> ขอบคุณค่ะ ดีแล้วความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็รออยู่ไม่ไกล


ฮูเร ดีใจจังเลย เห็นพี่ตุ๊ไส้ ยีนกับเข็มขัด เทร์แล้ว สวยแล้วค่ะ เหมียวชอบบทความที่พี่จัดมา จะเอาเป็นแนวทางค่ะ 54แล้วดีจังเลย อยากได้มั้ง นั้งเก้าอี้ไม่ติดเลย
ต้องไปออกกำลังกายมั้ง 6กก.หายไปแล้ว เยี่ยมมาก

<span style='color:red'>น้องเหมียว</span> พี่ตุ๊จะรอน้องเหมียวอีก 10 อาทิตย์เอง สู้ สู้
ขอขอบคุณค่ะ ท่านผู้ชม ที่มาให้กำลังใจ
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย ยายหนู » อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 1:19 am

MissMo เขียน: พี่ตุ๊จ๋า แสดงความยินดีด้วยค่ะ ลืมตาปุ๊บก็พุ่งมาที่คอมพ์เลย เมื่อวานรอดูอยู่ทั้งวันอย่างกระวนกระวาย พี่ตุ๊เก่งจังค่ะ ดีใจด้วยนะคะ

<span style='color:red'>น้องโม...</span>พี่เข้ามาดูก่อน พี่เป็นคนชนะ...กร๊ากกก
เวลาที่อลาสก้าช้ากว่าซีแอทเติ้ล แต่พี่ก็ตื่นก่อนน้องโม อิจฉาคนได้นอนเต็มอิ่มจัง...เอ...แต่เมื่อเช้าเสียงโทรศัพย์ปลุกตรูนี่หว่า....คริคริ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 3:05 am

Tuta Schweiz เขียน: รูปภาพ


<span style='color:purple'>กรี๊ดดดดดดด พี่ตุ๊ไปแอบดูดไขมันมาแน่ๆเลย ก๊ากๆๆๆๆๆ
ล้อเล่นจ้าพี่จ๋า นับถือพี่ตุ๊จริงๆเลย จิตใจแน่วแน่มากๆ พี่ตุ๊ หนูยังทำไม่ได้เลย
ลูกจะสองขวบแล้วพุงยังเหมือนกับท้องห้าเดือนอยูเลย


</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 5:11 am

สวัสดีตอนเช้า (สวิสฯ 06:55)
ก่อนจะไปออกกำลังกาย ไม่ลืมหาข้อมูลดีๆใส่หัว เพื่อรับเช้าวันใหม่ที่สดใส
ขอเน้นเรื่องอาการเช้าอีกครั้ง

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>3 เหตุผลที่พวกเราจะไม่กินอาหารเช้าไม่ได้(อีกต่อไป..)</span></span>
เป็นที่ทราบกันดีว่า สมองของคนเราเป็นอวัยวะที่สะสมอาหารไว้ใช้ไม่ได้ ไม่เหมือนอวัยวะอื่น เช่น กล้ามเนื้อ ฯลฯ ซึ่งสะสมแป้งไว้ใช้เองได้ การงดอาหารเช้าจึงมีส่วนทำให้สมรรถภาพของสมองตกลงอย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียน นิสิต นักศึกษา และคนทำงานประเภทใช้สมอง
ท่านอาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารที่ขึ้นทะเบียนใบอนุญาตวิชาชีพในสหรัฐอเมริกา เขียนหนังสือเรื่อง "กินอย่างไร ไม่อ้วน ไม่มีโรค" ผู้เขียนขอนำข้อมูลจากตอน "อาหารเช้าป้องกันอ้วน" มาเล่าสู่กันฟังครับ
การงดอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายปรับตัวคล้ายกับการเข้าสู่ภาวะ "ข้าวยากหมากแพง" หรือ "ภาวะอดอาหาร" โดยการปรับลดธาตุไฟ หรือลดการเผาผลาญกำลังงานให้น้อยลง ผลคือ ทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วนมากขึ้น
นอกจากนั้นการงดข้าวเช้ายังทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนนิวโรเพพไทด์วาย (neuropeptide Y) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการกินแบบ "มิรู้หยุด" และกินแบบขาดสติตั้งแต่ช่วงสายไปจนถึงเวลานอน
ภาวะนี้เรียกว่า "กลุ่มอาการกินกลางคืน (night eating syndrome)" ซึ่งมีแนวโน้มจะกินจุบกินจิบทั้งวัน แถมยังหนักไปทางอาหารประเภท "หวานๆ มันๆ" ทำให้อ้วนง่าย

เหตุผลที่คนเราควรกินอาหารเช้าทุกวันได้แก่
<span style='color:red'>(1). ป้องกันโรคอ้วน... </span>
คนที่กินอาหารเช้าทุกวันมีแนวโน้มจะเกิดโรคอ้วน และภาวะดื้อต่ออินซูลิน (ภาวะใกล้เป็นเบาหวาน) น้อยกว่าคนที่ไม่กินอาหารเช้า 30-50%
ผู้หญิงที่กินอาหารประเภทให้กำลังงาน (แคลอรี) หนักไปในมื้อเช้าลดน้ำหนักได้ดีกว่าผู้หญิงที่กินอาหารหนักในมื้ออื่นๆ
78% ของคนที่ลดน้ำหนักได้นานเป็นคนที่กินอาหารเช้าทุกวัน
กลไกที่เป็นไปได้คือ อาหารเช้าช่วยให้หิวน้อยลงทั้งวัน ...
<span style='color:red'>(2). ช่วยเพิ่มโอกาสอายุยืนอย่างมีคุณภาพ...</span>
คนที่กินธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังเติมรำ(โฮลวีท) ข้าวโอ๊ต ฯลฯ นาน 5 ปีขึ้นไปมีโอกาสอายุยืนเพิ่มขึ้น ลดความดันเลือด ลดไขมันในเลือด(โคเลสเตอรอล)
กลไกที่เป็นไปได้คือ ธัญพืชไม่ขัดสีมีเส้นใย(ไฟเบอร์) สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ มากพอ
<span style='color:red'>(3). เพิ่มพลังสมอง...</span>
การงดอาหารเช้าเพิ่มความเสี่ยง(โอกาส)ในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจากการอดอาหารมาตลอดคืน ทำให้สมรรถนะสมองตกลงไปมาก
ผลจากการศึกษาวิจัยโดยการให้อาสาสมัครดื่มเครื่องดื่มที่มีโปรตีนล้วน ไขมันล้วน หรือคาร์บ (คาร์โบไฮเดรต / แป้ง-น้ำตาล) ล้วนก่อนทำข้อสอบพบว่า
อาหารประเภทคาร์บ (แป้ง-น้ำตาล) ช่วยให้อาสาสมัครทำข้อสอบที่ใช้ความจำได้ดีที่สุด

<span style='color:blue'>ทีนี้จะเลือกอาหารเช้าอย่างไรจึงจะดี... ท่านอาจารย์ศัลยาแนะนำไว้ดังต่อไปนี้</span>...

<span style='color:red'>(1). ธัญพืชไม่ขัดสีกับผลไม้...</span>
ธัญพืช (พืชตระกูลข้าว) ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท(เติมรำ) ข้าวโอ๊ต ฯลฯ และผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้) ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้นาน ทำให้อิ่มนาน เปรียบคล้ายน้ำซับที่ค่อยๆ รินไหล เพื่อบำรุงเลี้ยงสมอง

<span style='color:red'>(2). โปรตีน...</span>
สมองจำเป็นต้องใช้โปรตีนในการสร้างสารสื่อประสาท (neurotransmitters) หรือสารเคมีที่ใช้สื่อสารกันระหว่างเซลล์ประสาท
อาหารประเภทถั่ว โดยเฉพาะถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร เต้าหู้ ปลาทะเล นมไขมันต่ำ ไข่ เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไข่มีสารโคลีนที่ช่วยเสริมการทำงานของสมอง ทว่า... ไข่แดงมีโคเลสเตอรอลค่อนไปทางสูง
ถ้าวันไหนกินไข่แดง... ควรลดอาหารประเภทผัดๆ ทอดๆ ลดอาหารใส่กะทิ และไม่ควรกินเนื้อสัตว์มากเกิน

<span style='color:red'>(2). เสริมวิตามินธรรมชาติ...</span>
วิตามินธรรมชาติที่ช่วยการทำงานของสมอง โดยเฉพาะความจำได้แก่ วิตามิน B6, B12 และโฟเลต(กรดโฟลิค) อาหารที่มีสารอาหารกลุ่มนี้สูงได้แก่ ธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียว ถั่ว ส้ม
คนที่ควรพิจารณากินวิตามินรวม หรือวิตามิน B เสริมได้แก่ คนสูงอายุซึ่งมีแนวโน้มจะดูดซึมวิตามิน B12 ได้น้อยลง และคนที่กินมังสวิรัติชนิดไม่กินทั้งไข่และนม เนื่องจากวิตามิน B12 มีในอาหารที่มาจากสัตว์เป็นหลัก

<span style='color:red'>(3). เสริมแคลเซียม...</span>
คนไทยส่วนใหญ่ได้รับแคลเซียมไม่พอทุกวัน ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อโรคกระดูกโปร่งบาง หรือกระดูกพรุนในระยะยาว
อาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ นม นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นมถั่วเหลืองชนิดเสริมแคลเซียม (นมถั่วเหลืองที่ไม่เสริมแคลเซียมมีแคลเซียมค่อนข้างต่ำ คือ ประมาณ 6% ของที่ร่างกายต้องการใน 1 วันต่อ 200 ซีซี) เต้าหู้ ถั่วพู ผักใบเขียว
อาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งแนะนำว่า ถ้ามีเวลาน้อย หรือรีบเร่งในยามเช้า ให้เลือกอาหารเช้าสูตร <span style='color:green'>"1+1+1"</span> ได้แก่ กล้วย 1 ผล ส้ม 1 ผล และนมไขมันต่ำ 1 แก้ว อาหารสูตรนี้ดีเยี่ยม ยกเว้นขาดธัญพืช (พืชตระกูลข้าว) ไม่ขัดสี

ผู้เขียนจึงเรียนเสนอให้ท่านลองอาหารเช้าสูตร<span style='color:green'> "1+1"</span> ได้แก่ ขนมปังโฮลวีท(เติมรำ) กับโยเกิร์ตชนิด 0% โดยแนะนำให้ท่านเลือกยี่ห้อที่เสริมเส้นใย หรือไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ หรืออินูลินไป
เส้นใยประเภทละลายน้ำได้หลายชนิดมีส่วนส่งเสริมให้เชื้อแบคทีเรียชนิดดี เช่น แลคโทบาซิลลัส ฯลฯ เติบโตได้ดี ส่งผลทางอ้อมให้ลำไส้แข็งแรง และดูดซึมแคลเซียมได้มากขึ้น
<span style='color:blue'>อาจารย์ศัลยาแนะนำเคล็ดไม่ลับในการกินอาหารให้อิ่มนาน 2 ประการได้แก่</span>
-อาหารประเภท <span style='color:blue'>"ซับน้ำ"</span> หรือมีองค์ประกอบที่เป็นน้ำสูงได้แก่ นมไขมันต่ำ โยเกิร์ต ผลไม้ไม่หวานจัดทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้) เช่น แอปเปิล ส้ม ส้มโอ ฯลฯ
-อาหารประเภท <span style='color:blue'>"เด็กเส้น"</span> หรือมีเส้นใย (ไฟเบอร์) สูงได้แก่ ถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี (ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ข้าวโอ๊ต ฯลฯ) ผลไม้ที่ไม่หวานจัดทั้งผล
เรียนเสนอให้ท่านผู้อ่านกินข้าวเช้าเป็นประจำทุกวัน เพื่อสุขภาพจะได้ดีไปนานๆ และต้านโรคอ้วน
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ขอขอบพระคุณค่ะ
ที่มา
-ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
-นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 16 พฤษภาคม 2551.
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย tewatera » อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 6:14 am

น้องมาดีใจกับพี่ตุ๊ด้วยค่ะ

หุ่นดีจริงจริง ใส่ยีนส์แล้วเหมือนวัยรุ่นเลย
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'><b>ความสุขอยู่ใกล้แค่ใจเรา</b></span></span><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl7.glitter-graphics.net/pub/517/517117grkpbyjcvm.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tewatera
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 699
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:58 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 6:59 pm

บันทึกวันที่ <span style='color:red'>2 Aug'09 </span>
รูปภาพ02/07/09

08:15-09:10
-ออกกำลังกายกับคลิปวิดีโอ Jillian Michaels Level 1 และ Jillian Michaels Level 2 เวลาทั้งหมดประมาณ 53 นาที
-Triceps Dip 15/2
-ขอมีความสุขกับ cool down คลิปนี้อีกครั้ง <a href='http://www.youtube.com/watch?v=czqjxuFUC74' target='_blank'>http://www.youtube.com/watch?v=czqjxuFUC74</a>
-รวมแคลอรี่วันนี้ 1,250 kcal. บวกการชิมอาหารที่ทำให้ลูกกับสามีไปด้วย
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย chiangmai » อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 7:13 pm

เข้ามาเยี่ยมพี่ตุ๊ของเราอาหารพี่น่ากินจังเลยค่ะขออนุญาตถามนะคะว่าเราจะนับแคลเลอรี่ที่กินได้ยังไงค่ะแบบว่ามีเวปไหนบอกรายการอาหารและแคลเลอรรี่ด้วยคือยากไดค่ะจะไดนับแคลเลอรรี่ที่ตัวเองกินเข้าไปรบกวนบอกด้วยค่าาาและเป็นกำลังใจให้พี่ตุ๊สู้ๆๆๆจ๊า EM127
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ครอบครัวสุขสันต์เบนด้าจ๊า</span></span><br><img src='http://davm.daisypath.com/UcKQm9.png' border='0' alt='user posted image' /><br><img src='http://lbym.lilypie.com/A05om9.png' border='0' alt='user posted image' /><br><img src='http://lbym.lilypie.com/e6Lvm9.png' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://lb5m.lilypie.com/U6N7m9.png' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
chiangmai
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1034
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 12:42 am

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน