tewatera เขียน: เก๋เคยลองสูตร low carb แบบสูตร 7 วัน ไม่รู้พี่ยายหนูเคยเห็นมั้ย
น่าจะออกแนว atkin's diet เพราะให้กินเนื้อทอด เนื้อย่าง ไก่ทอด ไก่ย่าง เท่าไหร่ก็ได้
ไม่มีข้าวซักเม็ดตลอด 7 วัน ไม่ต้องออกกำลังกายด้วย ยกเว้นมื้อสุดท้ายของวันที่ 7 ให้กินอะไรก็ได้
ผลที่ได้ คือน้ำหนักลงเร็วมาก 7 วัน 4 กิโลครึ่ง แต่เหนื่อยและหิวทั้งๆที่กินเยอะมาก
ปากแห้งคอแห้งถึงจะกินน้ำตลอด ปล่อยปลาไม่ออกเลย 4 - 5 วัน
ที่สำคัญ ฉี่สีเข้ม เหมือนมีสีแดงปน หยุดเลยค่ะ กลัวตาย
แล้วภายใน 2 อาทิตย์ น้ำหนักที่ลดก็กลับมาพร้อมดอกเบี้ย
หลายคนจะบอกกันแต่ว่าสูตรนั้นดี สูตรนี้ดี ทำแล้วเห็นผล แต่จะมีสักกี่คนที่จะกลับมาบอกว่า หลังจากออกจากสูตรแล้วน้ำหนักเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับสูตรซุปผัก ลดได้จริง ก็แค่ช่วงที่กินแต่ซุป กินแต่ผัก หลังจากนั้นพอกลับมาทานข้าวตามปรกติถึงแม้ว่าเราจะควบคุมปริมาณแล้วก็ตามแต่น้ำหนักมันก็กลับขึ้นมาและอาจจะมากกว่าเดิม เนื่องจากระบบภายในร่างกาย ตามบทความที่ข้างบนนั้นเลย....
คำแนะนำ...
เราควรศึกษาเรื่องคุณค่าทางอาหารแต่ละประเภทก่อนว่า สารอาหารประเภทใดให้พลังงานมากแค่ไหน และควรทานในปริมาณเท่าไร และพลังงานที่ร่างการควรได้รับในแต่ละวันควรอยู่ในระดับใด จากนั้นทานให้ครบตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน เป็นการรักษาระบบการเผาผลาญไม่ให้ลดต่ำลง และใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย วิธีที่อยากจะแนะนำก็คือฝึกเวทเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อเพราะมันจะช่วยในการรีดไขมันได้อีกแรงหนึ่ง ร่างกายจะแข็งแรง เต่งตึง เนื้อแน่น ไม่เหิ่ยวย่น และต้องไม่ยึดเรื่องน้ำหนักเป็นเกณฑ์ ต่างกับคนที่ควบคุมอาหารและทำคาร์ดิโอซึ่งจะยึดเอาน้ำหนักเป็นมาตรฐาน...
บองคนอาจจะถามว่าแล้วทำไมยายหนูจึงทำกราฟน้ำหนักทุกวัน คำตอบจะอยู่ในกระทู้ของเดือนถัดไป...
ส่วนการควบคุมอาหาร จะต้องทำโดยค่อยๆลดปริมาณลง อย่าลดแบบฮวบฮาบ โดยทานอาหารให้ครบทั้ง5หมู่ ค่อยๆลดปริมาณลงจนกว่าจะถึงเป้าหมาย ร่างกายก็จะชินกับปริมาณอาหารที่เราทานน้อยลง ตามน้ำหนักตัวที่น้อยลงไปด้วย เมื่อถึงตอนนี้ถ้าเรายังไม่พอใจกับหน้าท้องที่ป่องๆ ค่อยกำจัดมันออกด้วยการโลวคาร์บและฝึกAbs. แบบหนักหน่วง...
คำถาม...
ทำไม่ตอนนี้เราถึงโลวคาร์บได้ล่ะ
คำตอบ...
ก็เพราะร่างกายเราชินกับปริมาณที่เราทานน้อยลงแล้วไง ต่างกับตอนที่เราอ้วน ร่างกายยังต้องการคาร์บมากอยู่พอเราลดมันลงคราวละมากๆ จึงเกิดอาการ เช่นเดียวกับการฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง ถ้าเราเริ่มฝึกเวททั่วร่างมาตั้งแต่ต้น ในทุกๆท่าของการฝึกเวทจะต้องมีการเกร็งหน้าท้อง และนั่นแหละคือการฝึกAbs ไปในตัว พอถึงช่วงนี้เราจึงสามารถฝึกแบบหนักหน่วงได้และเห็นผลเร็ว
สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกยกเวททั่วร่างมาก่อน แล้วมาฝึกแต่กล้ามหน้าท้องอาจจะต้องใช้เวลานานและอาจจะเห็นผลช้ากว่า ซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ไขมันสะสมที่มีอยู่ในขณะนั้นด้วย...
สรุป....ไม่ว่าจะเป็นการลดไขมัน หรือเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เราจะต้องปล่อยในเป็นไปตามกฏธรรมชาติของร่างกาย ฝืนเมื่อใด ร่างกายต่อต้านทันที และถ้าดันทุรังฝืนทำต่อไป เราก็อาจจะตายไปพร้อมกับเจ้าร่างกายก็ได้ ตายแบบผ่อนส่งโดยที่เราไม่รู้ตัว ผอมแต่ไม่แข็งแรง แล้วจะผอมไปทำไม....