ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

เก็บตกปัญหาบนวิถีทางแห่งการลดความอ้วน

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย ยายหนู » พุธ ส.ค. 12, 2009 8:55 pm

<span style='color:red'> <span style='font-size:14pt;line-height:100%'>รบกวนหน่อยค่ะ++ตกลงเอา 6 มื้อเล็กดีหรือ FAST-5 ดีคะ</span></span>

<span style='color:green'>ปรึกษาเพื่อนๆหน่อยค่ะ

อยากลดน้ำหนัก 5 กิโล

(อย่ามองว่าน้อยนะคะ ขอบอกว่าลดแค่ 5 กิโลนี่หินสุดๆค่ะ
แค่ครึ่งโลยังลงยากลงเย็นเหลือแสน)

เข้ามาเห็นเพื่อนๆในนี้ใช้ FAST-5 กันก็เลยลองศึกษาและปฏิบัติ
12 noon - 5 p.m.

ทำตั้งแต่วันศุกร์มาถึงวันอาทิตย์ไม่มีปัญหาอะไร

แต่มาเมื่อวานแม่บ้านทำข้าวต้มกุ้ง ก็เลยกิน 2 มื้อ (ข้ามต้ม 2 ถ้วย)
รู้สึกน้ำเต็มท้องมาก ปกติจะให้เขาปั่นผลไม้ให้กินต่อให้อยู่ท้อง
เลยไม่เอา (หยุดกินตั้งแต่ 4 p.m. ก่อนเวลา 1 ชั่วโมง)

ปรากฏเมื่อคืนหิวแทบตายค่ะ หิวจนรู้ซึ้งถึงคำว่าตาลาย
หิวจนนอนไม่ได้ ตอนหลังหลับไปแล้วก็ต้องตื่นเพราะหิว

ไม่รู้จะทำไงเห็นตีห้าแล้วเลยออกไปเดินเล่นสวนลุมค่ะ
กลับมาอาบน้ำนอนได้สองชั่วโมงก็ตื่นมาหิวจนตาเหล่หนักเข้าไปอีก

รอจะอีก 10 นาทีเที่ยง ทนไม่ไหว คือหิวจนสติพร่าเลือน
เลยยอมกินก่อนเวลา กินมักกะโรนีไปหนึ่งจานกับน้ำมะพร้าวอ่อน
กาแฟดำ (ไม่ใส่น้ำตาล)

ปรากฏว่ายังไม่อาจทำให้อาการแสบรุนแรงในท้องหายไปได้เลยค่ะ

เลยชักงงๆว่าตกลงใช้โปรแกรม FAST-5 ดี
หรือจะซอยย่อยมื้ออาหารเป็น 6 มื้อเล็กดีกว่ากันคะ

หรือว่าเมื่อวานดิฉันกินน้อยเกินไป
(กินเสร็จก็ไปออกรอบตีกอล์ฟค่ะ แต่แค่ 9 หลุมเดินเท้าตลอด)

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

ลืมบอกค่ะ

ทำไมทำ FAST-5 แล้ว ผมร่วงอะคะ
ร่วงผิดปกติเลยค่ะ ทั้งที่ไม่ได้กินยาลดความอ้วนนะคะ งงๆค่ะ </span>

------------------------------------------------------------------------------------------------
<span style='color:red'>ความคิดเห็นที่ 1 </span>
<span style='color:blue'>
ไม่เคยศึกษาเรื่อง Fast-5 มาก่อน

เพราะรู้สึกมันขัดๆกะหลักการลดน้ำหนักน่ะค่ะ

คือเคยรู้มาว่า การกินแบ่งมื้อเล็กๆ มันจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญตลอดเวลา

แต่ Fast-5 ให้กินได้แค่ 5 ชั่วโมง ต่อวัน ฟังดูมันแปร่งๆ

<span style='color:red'>หลักการของเราคือ ทำอะไรที่เราสามารถทำได้ตลอดชีวิต </span>

แต่ Fast-5 เนี่ย เราทำไม่ได้แน่ๆ

ตอนนี้เรากินแบ่งมื้อเล็กๆ 6 มื้อ แล้วมันก็เอาชนะหิดปลาทู ลงมาได้

น้ำหนักตรงที่เราติดอยู่น๊านนาน จนถอดใจ จนแบบไปลองผิดลองถูกมาก็เยอะ

กลับมาทำอะไรที่แบบเราทำได้ตลอดชีวิตดีกว่า สบายใจดีด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องผมร่วง อันนี้เราเคยเจอ ตอนเรางดแป้ง

แต่ของเราเจอเรื่อง ประจำเดือนหาย

คือเรางดแป้ง 4 เดือน สองเดือนแรก ร่างกายปกติทุกอย่าง

จนเดือนที่สาม ประจำเดือนหาย พอเดือนที่ 4 ก็ยังไม่มาอีก

ประกอบกับ ช่วงนั้น อ่านเจอกระทู้ถามเรื่องประจำเดือนขาดเหมือนเรา

คนตอบก็ประมาณว่า มันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายขาดสารอาหาร

โอ้โห เลิกเลย ค่อยๆ Feed แป้ง กลับมา แต่ก็เจอโย่ๆ อืดไปพักใหญ่ๆเหมือนกัน

ถึงต้องหันกลับมาลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็คราวนี้

ก็เอาที่ลองผิดลองถูกทั้งหลายแหล่ ที่ทำมาตลอดหลายๆปี <span style='color:red'>นี่เริ่มหันมาออกกำลังกาย + คุมอาหาร

ตอนนี้รู้สึกว่า เออ เรามาถูกทางแล้ว </span>

(พล่ามยาวไปป๊ะเนี่ย แหะๆ) </span>

<a href='http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L8189758/L8189758.html' target='_blank'>http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L...8/L8189758.html</a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย ยายหนู » พุธ ส.ค. 12, 2009 8:55 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'> อย่างนี้เรียกว่าร่างกายจำศีลหรือเปล่าคะ</span></span>

<span style='color:green'>คือ เดิมทีป้าน้ำหนักเกินแค่ 6 กิโลนะคะ แต่ตอนนี้ น้ำหนักป้าเกินทะลุไป 8 กิโลแล้ว ป้าใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการควบคุมแคลอรี่ จากหนังสือที่อ่านมา ตอนแรกให้ควบคุมให้กินวันละ 1200 แคล ต่อวัน ทำอย่างนี้ 2 สัปดาห์ น้ำหนักจะลง สัปดาห์ละ ครึ่งกิโล แต่ของป้าไม่ลดเลย ป้าก็ไม่เป็นไร ทำตามโปรแกรมต่อไป ควบคุมแคล ฯ ไปเรื่อย จนกระทั่ง เหลือกินวันละประมาณ 800 จนทุกวันนี้กินไม่เคยเกิน 800 ได้เลย เหมือนร่างกายมันชินไปแล้ว ถ้าเกินก็ไม่เกิน 1000 และทุกวันป้าออกกำลังกายทุกเช้า เช้าละ 30 นาที ทำมาจะ 3 เดือนแต่น้ำหนักป้าไม่ลงเลยซักขีดค่ะ

เข้าคำถามนะคะ น้ำหนักป้าเจอกับภาวะตันหรือเปล่าคะ หรือว่าร่างกายจำศีล ตอนนี้กลุ้มมากค่ะ เพราะไม่รู้จะลดน้ำหนักด้วยวิธีไหนแล้ว
ขอบคุณมากๆนะคะ</span>
ที่มา <a href='http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L8187643/L8187643.html' target='_blank'>http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L...3/L8187643.html</a>

<span style='color:red'>หมายเหตุ...</span><span style='color:purple'>เป็นการเริ่มต้นแบบหักดิบ คือลดปริมาณแคลอรี่มากเกินไป หรือสุดโต่ง ทำให้ระบบการเผาผลาญเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน เพื่อป้องกันการขาดแคลน จึงทำให้น้ำหนักไม่ลด... เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรเอาเยี่ยงนะคะ แนะนำให้ค่อยๆลด ค่อยๆปรับเปลี่ยนทีละน้อยๆ แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป...ช้าแต่ชัวร์</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย ยายหนู » พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 3:48 am

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>อยากถามว่าทำไม นน. ไม่ยอมลงคะ</span></span>

อายุ 42 เพศหญิง
สูง 165 หนัก 85
2 ปีที่แล้วได้รับยาโรคซึมเศร้า นน.ลดลงเหลือ 68 กก.และขึ้นมาจน 85 เมื่อปี 49

เริ่มลด นน. เมื่อ 1 สิงหาคม
6.30 กิน เวย์โกโก้ ประมาณ 120 แคลอรี่-ออกกำลังเครื่อง ELLIPTICAL 30 นาที
10 โมง กินโยเกิร์ต ประมาณ 130 แคลอรี่
11.30 อหารกลางวัน ข้าว 2 ช้อนกินข้าว กับข้าวไม่มัน ผักสด 1 ชาม ELLIPTICAL 20-25 นาที
บ่าย ถ้าไม่หิวก็งด ถ้าหิวก็ โยเกิต ประมาณ 130 แคลอรี่
17.00 เวย์โกโก้ 120แคลอรี่ ELLIPTICAL 30-40 นาที elliptical นี่ปรับความฝืดเพิ่มเรื่อยๆ เหนื่อยมากๆๆ เหงื่อโทรมเต็มตัวค่ะ

ช่วงแรกๆ นน.ลดดีมาก จนตอนนี้ ลดไป 5 กก.
เหลื่อ 80 กก. แล้วมันก็นิ่งอยู่ตลอดค่ะ บางวันลงมา ครึ่ง กก. แล้วอีกวันก็เท่าเดิม ไม่เข้าเลข 7 สักที

รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แจงด้วยค่ะ

<span style='color:red'>หมายเหตุ...</span><span style='color:purple'>รายนี้ออกกำลังกายมาก แต่ทานน้อยเกินไป...2สัปดาห์ 5กิโล ป๊าดดดด</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย ยายหนู » พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 5:34 am

<span style='color:red'>นี่คือตัวอย่างที่ค่อนข้างดี แต่วันนี้เธอทานโปรตีนน้อยไปหน่อย...</span>

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>สู้โว้ย!!!!!>>>>>>ช้าแต่ชัวร์เพื่ออนาคตที่สดใส วันที่ 30 เริ่มต้นที่ 82 กิโล</span></span>

วันนี้ชีวิตก็ดำเนินต่อไป เรื่อยๆ ไม่มีอะไรมากมาย วันนี้เป็นวันหยุด เพื่อนๆพี่ๆ คงจะหยุดพักผ่อนอยู่บ้าน หรือไปหาครอบครัวกันใช่เปล่า ส่วนเราอ่ะหรอ ทำงานตามปกติ แต่ว่า เลิกเร็วกว่าทุกวัน ไม่มีไรหรอก ก้แค่เสร็จเร็วเท่านั้นเอง ปกติ ทำงาน ตี 4- 11 โมงเช้า วันนี้ก้ทำ ตี 4 เหมือนเดิม แต่เลิก ตั้งแต่ 8 โมงเช้า สบายจริงๆ นี่ถ้าเป็นวันหยุดพักผ่อน 8 โมงเช้าก็ยังไม่ตื่นเลย

วันที่ 30

ชื่อ>>>ตูน

สูง>>>>160

น้ำหนักเริ่มต้น>>>>
วันที่ 14 ก.ค. 52 หนัก 82 กิโล

-------------ชั่งครั้งที่ 1 3 ส.ค. (20 วัน) ----> เหลือ 80 โล ลดไป 2 กิโลจ้า-----------------
เป้า หมาย>>>> 100 วัน ขอสัก 12 โล ให้เหลือ สัก 70 หลังจากนั้นจะลดอีกรอบ ให้ได้ 60 นั้นคือเป้าหมายที่แท้จิง อยากหนักแค่ 60 อ่ะ สู้ๆ

มื้อเช้า
5.30 น. ดีน่างาดำน้ำตาลน้อย 1 กล่อง

7.30 น. ข้าวต้ม 1 ชาม / ยำกุ้งแห้ง / ปลาหมึกทอดตัวเล็ก 6 ตัว

ของว่าง กล้วยหอม 1 ลูก

มื้อกลางวัน

12.30 ผัดหมี่แดง 10 บาท / ต้มจืด 1 ถ้วย
ของว่าง ฝรั่ง / บะจ่าง ครึ่งลูก

มื้อเย็น

18.30 น. น้ำพริกกะปิ + ผักต้ม 1 จาน / ปลาทู ทอด 1 ตัว / ต้มยำ ปลาช่อน 3 ชิ้น

การออกกำลังกายในวันนี้
นอนตะแคงยกขาขึ้น-ลง 2 เซต / นอนหงาย ยกขาขึ้น แยกขาเข้า-ออก 2 เซต
ปั่นจักรยานกลางอากาศ 200 ครั้ง / หมุนจานทวิสต์ 10 นาที

1.การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า
-Biceps Curl / Hammer Curl / Concentration Curl

2.การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหลัง
-Dumbbell Triceps Extension / Close Grip Bench Press /
Lying Triceps Extension

3.การออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง
-Crunch

***ใน 1 เซ็ต จะทำ 15 ครั้ง แต่ละท่าจะทำ ท่าละ 2 เซ็ต

ท่าไหนมีซ้าย-ขวา ก็ทำข้างละ 2 เซ็ต

วันนี้ได้นอนพักผ่อนเยอะ เลยออก กำลังกายเยอะหน่อย แต่จริงๆ แล้ว ก็ออกกำลังกาย เท่าเมื่อวานนี่แหละ มีเวลาและมีแรงก็เลยออกกำลังกายตุนไว้ กลัวว่าพรุ่งนี้ เลิกงานมาแล้วจะเพลีย อีกอย่างเผื่อคุณหลานมาเยือนอีก แต่ถ้าไม่มีไร ก็จะออกกำลังกายเหมือนเดิม วันนี้ก็ว่าจะเล่นโยคะนะ แต่รู้สึกว่าท้องมันอึดอัด เลยไม่ได้เล่น

กินผักก้เยอะ แต่ทำไมท้องผูกอ่ะ ใครรู้ช่วยบอกทีว่าเป็นเพราะอะไร แล้วใครท้องผูกบ้าง มีวิธีแก้ไขบ้างมั้ย ใครมีอะไรแนะนำ ก็เชิญเลยนะ อยากได้ วิธีที่ทำให้หายท้องผูก และอะไรก็ได้ที่กินแล้วถ่าย นอกจากยาถ่ายอ่ะ จ๊ะ


วันนี้ก็ครบ 30 วันแล้ว อีกแค่ 20 วัน ก็ครึ่งทางแล้ว ยังมีแรงที่จะสู้ต่อไปได้อีก สู้เพื่อวันแต่งงานของฉัน


ขอบคุณกำลังใจที่มามอบให้อย่างสม่ำเสมอ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะคะ สู้ๆ ค่ะ


ใครมีอะไร แนะนำ หรือติชม เชิญเลยนะคะ ยินดีรับฟังเสมอจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย ยายหนู » พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 11:39 pm

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>กลุ้มใจควบคุมอาหารก็แล้ว....ยังไม่ลดเลยย</span></span>

เริ่มลดมาตั้งแต่ต้นเดือนแล้วค่ะ งดข้าวเย็นได้(เกือบ)ทุกวัน เดินเร็วตอนเย็นวันละชั่วโมง

อาทิตย์แรกก็ลดดีหรอกค่ะ(กิโลนึง) แต่ตอนนี้นิ่งสนิทค่ะ น้ำอัดลม ขนมก็ไม่ได้ทานเลยนะคะ

ทำอย่างไหร่ดีคะ กลุ้มใจมากค่ะ

จากคุณ :
เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 52 20:25:04

--------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 1

ขอดูเมนูอาหารแต่ละวันหน่อยค่ะ ว่าทานอะไรไปบ้างเอ่ย
อาจจะทานน้อยไปก็ได้นะคะ

สู้ต่อไปนะคะ

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 2

อย่าเพิ่งท้อนะคะ
สู้ๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 3

ตอนเช้า ดื่มนมหรือไม่ก็น้ำฟักทอง2ถุง พร้อมด้วยผลไม้ บางวันก็แก้วมังกร ฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว

บางทีก็เป็นขนมจีบ ซาลาเปา

กลางวัน วุ้นเส้นใส่ทูน่ากระป๋อง ถ้าเบื่อๆก็ผัดกะเพรา

เย็นไม่ได้ทานอะไรค่ะ

ระหว่างมื้อก็แทบไม่ได้ทานอะไรเลย

จึงยังสงสัยว่าควบคุมขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ลดเลย

ขอบคุณค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 4

น้ำหนักตอนนี้เท่าไหร่เหรอครับ?

ปกติพวกที่เริ่มลดน้ำหนักเยอะๆอย่าง80-100กิโลอัพเนี่ย

ช่วงแรกๆจะลดพรวดๆเลย

แต่ถ่าเริ่มจาก40-50อะไรแบบเนี้ย

มันจะลดไม่ค่อยเร็วครับ

อันนี้ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นอีกนิดหน่อย

ลองเพิ่มจากการเดินเร็ว เป็นวิ่งเหยาะๆสลับเดิน

แล้วเพิ่มๆให้เป็นวิ่ง

คิดว่าน่าจะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นนะครับ
.
.
.
และอีกอย่างถ้าทานน้อยมากติดต่อกันนานๆไป

ร่างกายอาจปรับเข้าสู่โหมดรักษาพลังงานไว้

ทำให้อัตราการเผาผลาญลดลง เพราะคิดว่าเราอยู่ในภาวะอดอยาก

อาจเป็นอีกสาเหตุุุุุหนึ่งที่น้ำหนักไม่ลดนะครับ

ดังนั้นการปรับให้มีช่วงวันที่ทานมากบ้างเป็นระยะๆไป

อาจพอช่วยได้ครับ

ทั้งนี้กระผมก็ไม่ชัวร์นะครับ

ลองศึกษาเพิ่มเติม หรือให้ท่านอื่นๆช่วยเข้ามายืนยันด้วยละกันครับ
.
.
.

อย่าย่อท้อนะครับ

กระผมขอเป็นกำลังใจให้

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 5

ท้อได้ แต่อย่าถอยนะคะ สู้ต่อไปค่ะ ลองหาวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะกับตัวเองดูสิค่ะ เผื่อมันจะช่วยได้ ลองหาวิธีมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดูนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย ยายหนู » ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 11:48 pm

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อยากลดพุงกะทิ แค่วิ่งพอไหม??? </span></span>

เมื่อก่อน สัก 5 ปีก่อน น้ำหนัก 40 สูง 153 กำลังโอเคมาตลอด

แต่ว่าเผลอไปหน่อยเดียว น้ำหนักพุ่งไป 50 ขณะที่สูง 153 เท่าเดิม
อ้วนขึ้น 10 กิโลสำหรับสาวไซด์มินิแล้วเรื่องใหญ่นะคะ
และใหญ่มาก เมื่อเสื้อผ้าทั้งหมดในตู้เสื้อผ้านั้นใส่ไม่ได้
เรื่องใหญ่หากต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ยกตู้

กางเกงต้องใส่ ไซด์ L ประมาณ 28"
(กางเกงไซด์ L ก็เริ่มใส่ไม่ได้แล้ว จึงได้สำเนียกขึ้นมาในใจอย่างเงียบๆ ว่า ต้องลดน้ำหนักแล้ว)

ทีนี้ ใช้เวลา 2 ปีในการลดน้ำหนัก

เคยผ่านทั้ง อดข้าวเย็น (ล้มเหลวภายใน 3 วัน)

เคยทั้ง ยาลดน้ำหนัก
(24 สาระพัด แต่กินประมาณ 3 เดือนกว่า แทบตาย วิ๊งๆๆ จะเป็นลม รู้สึกอ่อนแอมาก จะผอมก่อนหรือตายก่อนเนี่ย)

เคยทั้ง ลดอาหาร
(ปวดหัวมาก เมื่อจะเอาอะไรเข้าปากทีนึง เครียดค่ะ โรคกระเพาะเริ่มถามหา เพราะเครียด ชีวิตต่อไปข้างหน้าจะอยู่ยังไงเมื่อต้องเครียดขนาดนี้)

<span style='color:red'>และสุดท้ายมาจบตรงที่ ควบคุมอาหาร และวิ่ง
ซึ่งวิธีสุดท้ายนี้ใช้เวลาเพียง 4 เดือน ก็เห็นผลทันตา

เวลาที่ผ่านมา 1 ปีครึ่ง ล้มเหลวบ้าง ท้อใจบ้าง โยนกระดาษจดน้ำหนักทิ้งบ้าง กว่าจะหาสิ่งที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวเองในการลดน้ำหนักได้

วิ่งเรื่อยๆๆ เอื่อยๆๆ ไม่ต้องเร่ง แต่อย่าหยุด วิ่งประมาณ 45 นาทีนี่แหละค่ะ
ประเจ้า~ผอมทันตา</span>

เอวลดลงมา 3 นิ้วทันที เหลือ 25"
กางเกงที่เคยใส่ ไซด์ L เหลือไซด์ S ทันที
ภูมิใจมากที่บอกแม่ค้าว่า "พี่ค่ะ หหนูใส่ ไซด์ M ไม่ได้ค่ะ หลวมเกินไป พี่มีไซด์ S ไหมค่ะ"

ที่เล่ามาทั้งหมด ก็เผื่อคนอื่น พี่ๆๆ น้องๆ ในห้องนี้อยากฟัง
อยากเล่าทั้งที่ไม่ได้มีใครถามค่ะ แหะ แหะ

เล่ามาตั้งเยอะ ยังไม่ได้เข้าเรื่องเลย

คือว่า มีเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับลดน้ำหนักค่ะ
1. น้ำหนักลดจาก 50 ลงมาแค่ 5 กิโล
คือ น้ำหนัก 45
ทั้งๆ ที่ ตอนนี้ก็ผอมลงแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักเยอะจังค่ะ เยอะกว่าเมื่อก่อนที่น้ำหนัก 40 นะคะ

2. ตอนนี้ก็ผอมแล้ว แต่ว่ายังมีพุงกะทิน้อยๆๆ หหนูอยากมีหน้าท้องแบนราบเรียบแบบดาราในแม็กกาซีนเงี้ย หหนูวิ่งต่อไปพอไหม?
แต่ว่ากลัวหน้าตอบก่อนที่พุงกะทิจะหายนะคะ มีคำแนะนำไม่ให้หน้าตอบไหมค่ะ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย ยายหนู » เสาร์ ส.ค. 22, 2009 4:52 am

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>แอตกิ้นส์ไดเอท </span></span>

สวัสดีเพื่อนๆ ในคลับทุกคนนะคะ

เรื่องที่วันนี้เราอยากนำเสนอก็คืออาหารสำหรับพวกเราคนรักสุขภาพทั้งหลาย

อาหารที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ โลว์คาร์บ โลว์แฟต โลว์แคลอรี่

มาดูตัวแรกกันเลยดีกว่าค่ะ

โลว์คาร์บ..

โลว์คาร์บคืออาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไฟเบอร์สูง อันนี้จะรู้ได้ว่ามากน้อยแค่ไหนให้ดูได้จากฉลากโภชนาการที่อยู่ข้างบรรจุภัณฑ์ค่ะ

<a href='http://lowcarbdiets.about.com/od/whattoeat/a/substitutes.htm' target='_blank'>http://lowcarbdiets.about.com/od/whattoeat/a/substitutes.htm</a>

โลว์แฟต..

โลว์แฟตคืออาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำ แต่.. อาจจะมีปริมาณแป้งและน้ำตาลสูงมาก

โลว์แคลอรี่..

อาหารโลว์แคลอรี่ เป็นอาหารที่เราหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะมันมีน้ำตาลเทียมเป็นองค์ประกอบ

******************************************

จากประสบการณ์ตรงที่เคยไดเอทด้วยการลดแป้ง จนกระทั้งไปสู่แอตกิ้นส์มานะคะ

ช่วงสองสัปดาห์แรก น้ำหนักมันก็ลงมาเร็ว แต่จะมีปัญหาลมหายใจมีกลิ่น ปวดหัว กระหายน้ำบ่อย ผิวพรรณหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้นอย่างแรง

สัปดาห์ที่สาม.. อาการที่ว่านั้นไม่ใช่เป็นปัญหาหลักของเราอีกต่อไป เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราคือ

"เราวูบลงไปกองบนพื้นถนนในกรุงเทพฯ ค่ะ"

วูบแบบ..

เหมือนไฟฟ้าในตัวตัด แล้วลืมตามาอีกที ลงไปกองบนพื้นถนนแล้ว (ดีไม่โดนรถทับตาย)

หลังจากลืมตามาด้วยความงงๆ ว่าทำไมเราวูบไป เราโทรหาเพื่อน บอกว่าจะเข้างานสาย แล้วก็หันหัวโง่ๆ อันนี้เข้าเซเว่นหาอะไรหวานๆ กินอย่างด่วนเลยค่ะ

เราเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงมาก ไม่เคยล้มหมอนนอนเสื่อ มาวูบแบบนี้ ชักไม่ได้เรื่องเอาซะแล้ว

เราเลยต้องตัดสินใจว่า.. จะลดน้ำหนักต่อไป ทรมานสมองด้วยการงดแป้ง ขาดกลูโคสไปเลี้ยง เพื่อจะได้ผอมสวยอย่างคนอื่นเค้า หรือ เราจะเลือกที่จะรักตัวเอง

สรุปว่า.. เราเลือกที่จะรักสมองก้อนน้อยๆ ของเราค่ะ

โปรดอย่าได้คิดว่าเรากินอาหารน้อยเกิน แคลอรี่ไม่พอนะคะ

อาหารที่เรากินในแต่ละวันที่งดแป้งเนี่ย เรากินเนื้อได้ชิ้นเท่าสองมือติดกันอย่างสบายๆ

ไหนจะนมไร้ไขมันที่แทบจะดื่มแทนน้ำอีก ดังนั้นประเด็นว่ากินน้อยไปเนี่ยตัดไปได้เลย

เมื่อร่างกายขาดน้ำตาล หรือ น้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ อาการวูบแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ดังนั้นเพื่อนๆ คนไหนที่ใช้วิธีโลว์คาร์บ หรือ แอตกิ้นส์ต้องระวังตรงนี้นิดหน่อยนะคะ

ถ้ายังคิดจะทำวิธีที่ใช้อยู่นี้ แล้วได้ผล ก็กรุณาพกลูกอมติดตัวไว้ซักนิด ถ้าแค่มึนๆ จะวูบก็เอามาอมเพื่อเพิ่มระดับน้ำตาล ดีกว่าจู่ๆ แล้วมาวูบเลยแบบเรา

^___^

จากคุณ :
เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 18:05:44

-------------------------------------------------------------------------------
สำหรับเรา low carb , low calorie เมื่อก่อนตอนทำ balance diet เราเอาไว้เป็นเทคนิคค่ะ อิอิ แต่หลังๆ เริ่มเอาไม่อยู่ แตกก่อนทุกที 5555

อ้อ มีอีกเรื่องที่อยากจะช่วยเสริมเอาไว้นะคะ พอดีได้ไปอ่านในหนังสือ diet secret ของคุณนก ชลิดา มาค่ะ ได้เตือนเรื่องการรับประทานอาหารแนวโลว์คาร์บ ไว้อย่างนี้ค่ะ

ในการทานแบบโลว์คาร์บ ช่วงแรกที่น้ำหนักลดลงเร็วมาก เพราะร่างกายดึงเอาพลังงานคาร์โบไฮเดรตสำรองในร่างกายที่ชื่อว่าไกลโคเจนมาใช้ (ไกลโคเจนนั้นสะสมอยู่ในตับและกล้ามเนื้อ และกักน้ำเอาไว้ด้วย) เมื่อพลังงานไกลโคเจนถูกดึงออกมาใช้หมด น้ำที่กักอยู่จึงถูกปล่อยออกไปด้วย ทำให้น้ำหนักตัวลดลง เมื่อไกลโคเจนถูกใช้จนหมด ไขมันสะสมถึงจะเป็นแหล่งต่อไปที่ร่างกายจะดึงเอาพลังงานมาใช้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอเพื่อป้องกันอาการคีโตซิส

นอกจากนี้ เซลล์สมอง ประสาทส่วนกลางและเลือด ต้องการกลูโคสมาหล่อเลี้ยงให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดึงพลังงานจากไขมันและโปรตีนมาใช้ เนื่องจากขาดคาร์โบไฮเดรตนั้นไม่ใช่ข้อเลือกที่ดีที่สุด เพราะเมื่อขาดคาร์โบไฮเดรตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ร่างกายจะเริ่มดึงเอาโปรตีนจากเนื้อเยื่อของตัวเราออกมาใช้ ถึงแม้ว่าจะรับประทานโปรตีนมากก็ตาม แต่การสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ

ข้อควรระวังอีกอย่างคือ การเผาผลาญไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตนั้นเป็นการเผาผลาญที่ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดสารตกค้างชื่อคีโตน เนื่องจากกระบวนการคีโตซิสจะเกิดขึ้นเพื่อปลดปล่อยคีโตนออกไปจากร่างกายโดยขับออกทางปัสสาวะ หากเราไม่สนใจที่จะแก้ไขระบบร่างกายให้กลับเป็นปกติ คีโตซิสสามารถทำให้กรดยูริกในเลือดสูงจนเป็นโรคเกาต์และนิ่วในไตได้ นอกจากนั้นคีโตซิสยังขัดขวางการสะสมของแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย และอาจเกิดอาการโคม่าได้ในกรณีที่รุนแรง

ผู้ที่ให้การสนับสนุนการรับประทานแนวโลว์คาร์บ (แบบงดคาร์บโดยสิ้นเชิง) อาจแย้งว่ากระบวนการคีโตซิสนั้นเป็นเรื่องตามธรรมชาติของร่างกาย และการสะสมของคีโตนในเลือดนั้นเป็นอันตรายเฉพาะกับคนที่มีปัญหาโรคเบาหวาน คนติดเหล้า หรือคนที่ขาดอาหาร ขณะที่นักวิชาการจาก American Dietetic Association(ADA) กล่าวว่า การมีคีโตนอยู่ในร่างกายทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อ่อนเพลีย และสูญเสียมวลกล้ามเนื้อที่ดีได้ ทั้งยังแนะนำว่าแทนที่จะรับประทานอาหารแนวโลว์คาร์บ น่าจะหันมารักษากล้ามเนื้อเพื่อช่วยเผาผลาญแคลอรี่โดยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่พอดีกับความต้องการของร่างกายจะดีกว่า

.....................................................................................................

ของเราเวลาไม่ได้กินแป้งจะเหมือนเป็นเหน็บชาบ่อยๆ ค่ะ เข่าอ่อนเลย เดินๆ อยู่ อยากล้มลงไปกองกับพื้น แต่หน้ายังไม่มืด

.....................................................................................................

ชีวิตไม่เคยลดแป้งได้เลยน่ะค่ะ แต่ไอ้วูบเนี่ย มีประสบการณ์ตอนทานยาลดความอ้วน โชคดีที่วูบในห้องน้ำแต่ไม่หัวแตก

สรุปว่าเดินทางสายกลางน่าจะดีสุดเนอะ อะไรที่มันต้องอดสุดโต่ง ร่างกายมักต่อต้านเสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm


ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน