ผ่าคลอดออกกำลังกายแบบไหนดี

[poussin]

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:green'>ผ่าคลอดออกกำลังกายแบบไหนดีคะ
คือเกดเพิ่งคลอดน้องตะวัน ตั้งแต่วันที่ 10.09.09 ค่ะ
ด้วยการคลอดทางหน้าท้อง หรือว่า ผ่าคลอดนั่นเองค่ะ
แต่พอคลอดน้องแล้ว ก็อยากจะลดความอ้วนแล้วค่ะ
และก็จะใช้วิธีการ ควบคุมอาหาร กับการออกกำลังกาย
เรื่องควบคุมอาหาร ก็ปรึกษาโภชนากรอยู่ตั้งแ่ต่ตอนท้องค่ะ
แต่เรื่องออกกำล้ังกาย เนื่องจากผ่าคลอดเลยไม่รู้จะ
เริ่มแบบไหน อย่างไรดี จะหาข้อมูลเองก็ไม่มีเวลา
เพราะเจ้าตะวันก็ยังแบเบาะ เจ้าทะเลก็ซนได้ใจมาก
เลยต้องขอรบกวน พี่ๆ น้องๆ ชาวครัวหน่อยนะคะ
แล้วก็จะได้เป็นข้อมูล สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดท่านอื่นๆ ด้วยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ</span></span>

[ยายหนู]

พี่กำลังจะตั้งกระทู้ถามอยู่เหมือนกัน เพราะหลานสาวเพิ่งผ่าคลอด เขาถามมา แต่พี่ไม่มีความรู้ทางเรื่องนี้เลย เธอว่าอยากจะเพิ่มกล้ามเนื้อแบบน้าด้วย ฮิฮิ...

เดี๋ยวเพื่อนๆที่ว่างคงช่วยกันหาข้อมูลมาแปะ พี่เองก็ไม่ค่อยว่าเหมือนกันค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้ออกกำลังกายด้วยล่ะ...แย่จัง

[tewatera]

เก๋หามาฝากค่ะ จะทำ link ให้แต่ว่าคอมไม่รู้เป็นยังไง ทำแล้ว link ไม่ได้ค่ะ
ยินดีกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวนะคะ เข้าไปดูหน้าน้องตะวันที่น้องวรรณเอามาให้ดู น่ารักมากๆเลย
ขอให้คุณเกดแข็งแรงเร็วๆนะคะ

หัวข้อ: วิธี Exercise สำหรับคุณแม่คนใหม่
--------------------------------------------------------------------------------
(http://women.impaqmsn.com/imagelib/0720 ... 110efb.jpg)
สมพัฒน์ จำรัสโรมรัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย

หลังจากคลอดแล้วคุณแม่ส่วนใหญ่มักจะกังวลในรูปร่างของตัวเองที่เปลี่ยนไป แล้วจะทำอย่างไรให้มีรูปร่างกลับมาสวยเหมือนเดิมหลังจากตั้งท้องเป็นเวลานาน ซึ่งตามปกติจะต้องปรึกษากับแพทย์ประจำตัวว่าจะมีคำแนะนำให้อย่างไร และโดยส่วนใหญ่ถ้าไม่พึ่งมีดหมอหรือการทำศัลยกรรม ก็จะต้องใช้การออกกำลังกายเพื่อช่วยให้คุณแม่กลับไปมีรูปร่างที่สวยงามเหมือนเดิม การออกกำลังกายหลังคลอดโดยส่วนใหญ่แล้วมักมีคำถามว่าจะเริ่มออกกำลังกายได้เมื่อไหร่? ออกกำลังกายได้มากน้อยแค่ไหน? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง? เป็นต้น
การออกกำลังกายในช่วงหลังคลอดอาจจะต้องคำนึงว่าคลอดด้วยวิธีการใด ถ้าคลอดเองตามธรรมชาติอาจใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า สามารถออกกำลังกายได้ง่ายและเห็นผลได้เร็วกว่าการคลอดโดยการผ่าตัดที่เรียกว่า (Cesarean section หรือ C-section) แต่ก็มีข้อควรระวังที่เหมือนๆ กันอยู่บ้างในการออกกำลังกาย เช่น ภาวะข้อต่อหลวม เกิดจากการปรับฮอร์โมนในร่างกาย ในระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า Relaxin ซึ่งมีผลทำให้ข้อต่อต่างๆ ในร่างกายเกิดการยืดขยายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะข้อต่อบริเวณกระดูกเชิงกรานให้มีการยืดขยายรองรับเด็กในครรภ์ได้อย่างเต็มที่ หลังจากคลอดแล้วก็ยังมีผลอยู่ในช่วงแรกๆ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงท่าทางการออกกำลังกายที่อาจเกิดการบาดเจ็บตามข้อต่อต่างๆ ได้

ภาวะต่อมาคือกล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหน้าท้องถูกยืดขยายอย่างต่อเนื่องนานนับเดือน โดยหลังคลอดแล้วควรจะออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและแข็งแรงมากขึ้น และจากการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องอาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า diastasis recti ซึ่งเป็นการแยกห่างหรือฉีกขาดออกจากกันของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ควรจะรอให้ขนาดของรอยแยกนี้ลดลง (รอยแยกไม่ควรเกินหนึ่งนิ้ว ซึ่งตรวจสอบได้จากการทำท่านอนหงายชันเข่า หายใจออกพร้อมกับทำท่า sit-up โดยยกขึ้นเฉพาะศีรษะแล้วค้างไว้ ใช้นิ้วชี้ไล่ไปตามแนวกึ่งกลางกล้ามเนื้อ ถ้ารอยแยกห่างกันโดยสามารถใช้ทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางกดลงไปได้แสดงว่าเกิดภาวะ diastasis recti ไม่ควรออกกำลังกายในท่า sit-up ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หรือจนกว่ากล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นและรอยแยกมีขนาดลดลง) ก่อนถึงจะเริ่มออกกำลังกายในท่า sit-up ได้ หรืออาจใช้สเตย์รัดหน้าท้องช่วยพยุงในขณะที่ออกกำลังกายในท่านี้ก็ได้

ตามคำแนะนำของสถาบัน American College of Obstetricians and Gynecologists หรือ (ACOG) ได้กล่าวไว้ว่าในคุณแม่หลังคลอดสามารถจะเริ่มออกกำลังกายได้เร็วที่สุดเมื่อสภาพร่างกายพร้อมและไม่มีอาการแทรกซ้อนต่างๆ เกิดขึ้นทั้งในขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด ซึ่งอาจหมายถึง 2-3 วันหลังคลอดก็เป็นได้ในคนที่ค่อนข้างแข็งแรงและคลอดเองตามธรรมชาติ แต่ถ้าคลอดโดยวิธีการผ่าออกจะต้องมีระยะเวลาในการพักฟื้นที่นานขึ้น โดยปกติแผลจากการผ่าคลอดต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นอย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์ถึงจะเริ่มออกกำลังกายได้ แต่ก็ควรคำนึงถึงชนิดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ซึ่งการออกแรงยกของหนักหรือการเดินขึ้นลงบันไดยังถือว่าเป็นข้อห้ามอยู่ในช่วงแรกจนกว่าแผลผ่าตัดจะหายดีก่อน

การเดิน หรือการจ๊อกกิ้งเบาๆ (ใช้รถเข็นร่วมด้วยเป็นการออกกำลังกายพร้อมกับลูก) เป็นวิธีการเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุดในช่วงแรก และหลังจากเข้าตรวรจร่างกายตามปกติเมื่อคลอดไปแล้ว 6 สัปดาห์ให้ปรึกษาแพทย์ในการค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายทั้งแบบ aerobic และค่อยๆ เพิ่มการฝึกแบบ strength training ที่เหมาะสมต่อไป ในส่วนของการออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้อง (abdominal training) การเล่นโยคะโดยเฉพาะในท่าที่ต้องยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง รวมถึงการเริ่มออกกำลังกายแบบ weight training ควรรอประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังจากการผ่าคลอดไปแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับความฟิตแข็งแรงของคุณแม่ในช่วงก่อนคลอด และดูถึงระดับของฮีโมโกลบินหลังจากการผ่าตัดด้วยว่าสามารถเริ่มออกกำลังกายได้มากน้อยแค่ไหน เพราะการผ่าออกมีการเสียเลือดมากกว่าการคลอดเองประมาณ 2 เท่า สิ่งที่เป็นห่วงอีกอย่างในการเริ่มออกกำลังกายหน้าท้องเร็วเกินไป คืออาจมีผลทำให้แผลผ่าตัดหายช้า และอาจทำให้เกิดภาวะไส้เลื่อน หรือ hernia ได้

ในขณะออกกำลังกายควรใช้ความรู้สึกเป็นตัวกำหนดว่าควรออกกำลังกายหนัก-เบามากน้อยแค่ไหน หรือว่าเมื่อไหร่ควรหยุดออกกำลังกาย เพราะถ้ารู้สึกเจ็บขณะออกกำลังกายควรหยุดพัก และรอประมาณ 1 สัปดาห์ค่อยลองดูอีกครั้ง อาการอีกอย่างที่อาจรู้สึกได้คือ การตึงที่แผลผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังจากผ่าตัดอาการจึงจะหายไป ถ้าขณะออกกำลังกายรู้สึกว่าตึงหรือไม่ค่อยถนัดให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในลักษณะนั้นไปก่อน จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นหรือแผลผ่าตัดหายดีแล้วค่อยเริ่มออกกำลังกายในท่านั้นอีกครั้ง

ข้อควรระวังของการออกกำลังกายในช่วงหลังคลอด

ควรให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนจะเริ่มออกกำลังกาย
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องในช่วง 6-8 สัปดาห์แรกหลังคลอด
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในท่ากางข้อสะโพก (hip abduction) ในช่วง 8-10 สัปดาห์แรกหลังคลอด
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในลักษณะกระแทก โยก หรือขย่ม จนกว่ากล้ามเนื้อบริเวณลำตัวจะแข็งแรง และอาการข้อหลวม หรือปวดข้อต่างๆ จะหายไป
ควรรับประทานอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้มีแรงทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย และรวมถึงการผลิตน้ำนมให้กับลูกด้วย (ควรได้รับแคลอรีเพิ่มประมาณ 300–500 แคลอรีในแต่ละวัน)
อารมณ์ซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นได้หลังคลอด
กรดแลคติกที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายที่ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาจเกิดขึ้นและผสมอยู่ในน้ำนมแม่ได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการให้นมหลังจากออกกำลังกายมาใหม่ๆ หรือให้ปั๊มน้ำนมเก็บไว้ก่อนที่จะออกกำลังกายเพื่อหลีกเลี่ยงกรดแลคติกในน้ำนม
ประโยชน์และข้อแนะนำในการออกกำลังกายช่วงหลังคลอด

ช่วยลดอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์แต่ยังมีผลมาถึงในช่วงหลังคลอด เช่น ขาบวม ปวดเข่าและสะโพก ปวดหลัง นอนไม่หลับ เป็นต้น
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและควรเน้นในกลุ่มกล้ามเนื้อ ได้แก่ กล้ามเนื้อก้น ต้นขาด้านหลัง หน้าท้อง บริเวณอุ้งเชิงกราน และหลังส่วนบน
ช่วยลดอาการตึงและคลายกล้ามเนื้อ โดยเน้นในกลุ่มของกล้ามเนื้อหลังช่วงล่าง หน้าข้อสะโพก และหน้าอก
ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความวิตกกังวล
ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินลง
เห็นประโยชน์อย่างนี้แล้วคุณแม่คนใหม่อย่ารอช้า ลุกมาออกกำลังกายตามคำแนะนำที่ถูกต้อง โอกาสกลับมามีรูปร่างสดสวยอย่างเดิมก็อยู่ไม่ไกลครับ

ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

[ยายหนู]

ดีจังเลย ขนาดตาแดงอยู่นะเนี่ย ยังอุตส่าห์ไปหาข้อมูลมาให้อ่านอีก...ขอบคุณค่ะ

[Amelia]

ผ่าคลอดการออกกำลังกายช่วงท้องควรให้เลย 6 เดือนไปก่อนค่ะ
ส่วนอื่นทำได้แต่ไม่หักโหมค่ะ

[แม่เจ้าC D E]

เกดจ๊ะ (ขออนุญาตทำตัวหนิดหนม) ลูกต้อมผ่าออกหมดเลยทั้งสามคน
ต้อมเริ่มออกกำลังกายหลังจากหมอบอกว่า โอเค ยูสามารถออกกำลังกายได้
หลังจากคลอดประมาณ๒ - ๓ เดือน อันนี้ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของแต่ละคนนะ
ว่าจะเร็วแค่ไหน

ต้อม เดินจ็อคกิ้ง ค่ะจับลูกใส่รถเข็นเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆที่พาร์ค
แต่ว่าต้องใช้ความอดทนอย่างสูงเลยอ่ะ
คนเล็กหลับ คนกลางกวน คนโตหิว ส่วนอีแม่ก็อยากผอม ฮ่าๆๆๆ

ต้อมเดินทุกวันเลยจ้าเกด วันละประมาณ ๓ ไมล์ ใช้เวลาเดินประมาณ เกือบสอง
ชั่วโมง อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเดินวันแรกก็ได้ ๓ไมล์เลยนะ วันแรกเดินได้จิดนึง แล้วค่อยๆๆเพิ่มเรื่อยๆๆ
เดินมันทุกวันต้อมใช้เวลา ๙ เดือน
พร้อมกับควบคุมอาหารน้ำหนักลดลงไป ประมาณ ๒๕ กิโล (น้ำหนักขึ้น ๓๕ กิโลตอนที่ท้อง)


ปล. อย่าเพิ่งออกกำลังกายหน้าท้องนะจ๊ะ หลัง ๖ เดือนไปแล้วค่อยคิดอีกที
รอให้แผลปิดสนิทดีเสียก่อนค่อยคิดกัน อีกอย่างห้ามเผลออุ้มน้องทะเลเด้อ
เดี๋ยวแผลจะปริ รักษาสุขภาพนะจ๊ะ

[เจ้าหญิง]

สงสัยต้องเอาวิธีคุณต้อมมาใช้ซะแล้ว ตอนนี้ยังเหลือ อีกสิบห้าโล ที่อยากจะลด จะออกกำลังกายแบบอื่นตอนนี้ก็คงไม่ไหว จริงๆก็ผ่าท้องคลอดมาได้ตั้งสามเดือนแล้ว แต่จะว่าไป อาการเจ็บตึ่งๆตรงแผลก็ยังไม่หายซักที เวลานั่งหรือนอนท่าเดิมนานๆ พอกลับตัวที ยังเจ็บท้องด้านในอยู่เลย ไม่รู้เมื่อไรจะหาย เบื่อตัวเองเหลือเกิน แล้วเดี๋ยวนี้จะนั่งกับพื้นก็ทำแทบไม่ได้ ต้องเอามือค้ำไว้ก่อนถึงจะหย่อนตัวลงไปกับพื้นได้ เพราะมันปวดไปหมด ทั้งท้องทั้งขา นี่ถ้าเลือกได้ จะไม่ผ่าท้องออกแน่นอนเลย ทรมานนานเหลือเกิน

[Jutamas]

สงสัยต้องเอาวิธีคุณต้อมมาใช้ซะแล้ว ตอนนี้ยังเหลือ อีกสิบห้าโล ที่อยากจะลด จะออกกำลังกายแบบอื่นตอนนี้ก็คงไม่ไหว จริงๆก็ผ่าท้องคลอดมาได้ตั้งสามเดือนแล้ว แต่จะว่าไป อาการเจ็บตึ่งๆตรงแผลก็ยังไม่หายซักที เวลานั่งหรือนอนท่าเดิมนานๆ พอกลับตัวที ยังเจ็บท้องด้านในอยู่เลย ไม่รู้เมื่อไรจะหาย เบื่อตัวเองเหลือเกิน แล้วเดี๋ยวนี้จะนั่งกับพื้นก็ทำแทบไม่ได้ ต้องเอามือค้ำไว้ก่อนถึงจะหย่อนตัวลงไปกับพื้นได้ เพราะมันปวดไปหมด ทั้งท้องทั้งขา นี่ถ้าเลือกได้ จะไม่ผ่าท้องออกแน่นอนเลย ทรมานนานเหลือเกิน

เป็นเหมือนกันเลย จู ผ่าคลอดมาได้ 4 เดือนกว่าเกือบจะ 5 เดือนแล้ว แต่ยังเจ็บแผลผ่าอยู่เลย บางทีคิดว่าหายแล้วเพราะไม่เจ็บเท่าไหร่ คิดว่าคงจะยกของหนักได้ ก็เลยจัดการ จัดบ้านใหม่ยกกล่องเสื้อผ้าของลูกชายซึ่งไม่หนักมากเท่าไหร่ ผลออกมาเจ็บแผลมาก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหายสักที อยากผอมจะแย่แล้ว ตอนนี้น้ำหนักเหลืออีก 5 กก.

[chiangmai]

แหม....ใจเย็นๆๆๆคุณแ่ม่ผ่าคลอดทั้งหลายเพิ่งจะผ่าอยากผอมเร็วๆๆไปถึงไหนจ๊ะ น้ำหนักมันจะเริ่มลดลงหลัง 6 เดือนจ๊ะใจร้อนไปทรมานใจตัวเองปล่าวๆๆสู้หันมาสนุกกะการเลี้ยงลูกดีกว่านะจ๊ะ เมื่อก่อนตอนตัวเองผ่า(คนที่ 3)เพิ่งได้ไม่กี่วันโดนปั่วกดดันทุกวันว่าอ้วนเราก็บอกหลัง 6 เดือนลดลงแน่ๆๆพี่แกไม่เชื่อแต่พอหลัง 6 เดือนน้ำหนักเริ่มลดและตัวเองเริ่มแข็งแรงมากขึ้นไม่เจ็บแผลมาก็เริ่มออกกำลังกายมากขึ้น ช่วง 6 เดือนแรกต้องรักษาสุขภาพตัวเองคำนึงถึงแผลผ่ามากกวาความอ้วนนะจ๊ะคุณแม่ๆๆ
คุณแม่น้องเจ้าหญิง ต้องขยับตัวเองมากขึ้นนะจ๊ะเคยแนะนำว่าหลังผ่าได้ 2 วันต้องหัดเดิน ของตุ๊กตาหลังออกจากห้องผ่าคุณหมอให้พยายามพลิกร่างกายเจ็บแต่ทนจะได้หายไวๆๆ พอวันที่ 2 พยาบาลเอาน้ำเกลือ,ถุงฉีออก ก็พยายามนั่งและเกาะขอบเตียงหัดเดินเจ็บากแต่ทนจนพยาบาลบอกว่าเราเป็นแรมโบ้ คุณแม่น้องเจ้าหญิงต้องพยายามทนเจ็บค่ะเวลานอนขยับเปลี่ยนท่าบ่อยๆๆ ถ้านอนท่าเดียวผังพืดมันเกาะด้านเดียวต้องขยับถ้าอยากหายเจ็บ ส่วนตัวคิดว่าผ่าดีกวาคลอดเองๆเจ็บน้องจุ่มจิ๋มเวลาฉีไหนกลัวเย็บไม่ดีเป็นหนองอักเสบอีกกลัวววว ผ่าดีที่สุดดถ้ารู้จักขยับและทนใช้เวลาไม่นานก็หายเ็จ็บจ๊ะ นี้ยังได้คนข้างเคียงช่วยโอ๊ยสบาย ของตุ๊กตาคนที่สองไปผ่าคลอดเชียงใหม่สามีอยู่อลาสก้า(ยังไม่ได้วีซ่า)ดูแลตัวเองเช่าอพาทเมนต์อยู่เองพอครบกำหนดไปโรงบาลกับหลานผ่าคลอดออกมาไม่มีคนให้กำลังใจต้องรีบหัดเดินจะได้ดูแลลูกได้ กลับห้องเองดูแลลูกเองจนลูกได้ 6 เดือนสามีถึงมาหาได้เจ็บแผลแต่ต้องทนเพราะไม่มีผู้ช่วย เป็นแม่คนต้องทนค่ะ
นี้ขนาดยังไม่ได้ทำหมันยังบ่นเจ็บขนาดนี้ ขอบอกว่าทำหมันเจ็บลึกเจ็บนานยิ่งกว่านี้ค่ะ

[naddyswiss]

มาเป็นกำลังใจให้พี่เกดค่ะ แต่ว่าคลอดลูกแบบผ่าคลอดพุงกะทิมันเหมือนจะลงช้ากว่าคนที่คลอดเองน่ะค่ะพี่

โหน่งคลอดนาตาลีได้ปีกว่ากลับไปเมืองไทย เพื่อนถามว่ามึงท้องแว๊วเหรอ (เวร)

ทุกวันนี้กลับเมืองไทยผ่านมาสองปี เพื่อนก้อยังถามเหมือนเดิมว่า มึงยังท้องอีกอยู่เหรอ (อีกแว๊ว) เหอๆๆๆๆ

ตอนนี้หนูก้อกำลังลดน้ำหนักเงียบๆอยู่เหมือนกันค่ะพี่เกด แต่ไม่ได้ไปเขียน เพราะไปเขียนทีไรตะบะแตกทุกที เหอๆๆ

เลยลดน้ำหนักเงียบๆ คนเดียว อิอิ

พี่เกดคะ ที่สวิสเนี่ยที่โรงพยาบาลเลยค่ะ เค้าจะมีคอร์ส gymnastik สำหรับคุณแม่หลังคลอดค่ะ เค้าจะมีทั้งแบบคลอดเองกะผ่าคลอดน่ะค่ะ พี่เกดลองถามที่ปรึกษาคุณแม่ของพี่เกดดูนะคะ โหน่งคิดว่าที่ยุโรปน่าจะเหมือนกันค่ะ มันจะเป็นคอร์สออกกำลังกายอย่างเหมาะสมค่ะ เพราะเค้าจะรู้ว่าพี่เพิ่งผ่าคลอด มันจะเป็นเหมือนช่วยเรื่องมดลูกเข้าอู่อะไรแบบมากกว่า เพราะมันสำคัญกว่าจะผอมตอนนี้ชิมิคะ

ส่วนเรื่องลดอาหารพี่เกดอย่าเพิ่งลดเลยค่ะ ถ้าพี่เกดให้นมน้อง ถ้าพี่เกดทานน้อย น้องตะวันจะได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ได้นะคะ รอๆให้ลูกได้สักขวบดีกว่า แว๊วเรามาสวยกันใหม่ เหอๆๆ (แต่พอลูกครบขวบ น้องตะวันได้น้องคนที่สามนะก๊า) อิอิ

ปล. แต่โหน่งโชคดีอย่างตอนท้องน้ำหนักโหน่งขึ้นแค่ 7 กิโลเองค่ะ และทุกวันนี้ไอ้เจ็ดกิโลนั่นก้อไม่ยอมไปไหน อิอิ

[เจ้าหญิง]

ฟังคุณเจียงใหม่เล่าแล้ว ยอมรับเลยว่า เป็นหญิงแกร่งจริงๆเลย ด้วยความที่ตัวเองก็ผ่าคลอด เลยรู้เลยว่า หลังผ่าเจ็บมากแค่ไหน จริงๆ ถ้าน้องอลิเซียไม่ได้อยู่ตู้อบ คงไม่ได้มีโอกาสเดินมากหลังผ่าคลอดแน่ๆ แต่นี่ พอผ่าแล้ว นอนพักอยู่โรงพยาบาลก็จริงๆ แต่ต้องเดินกุมท้องไปหาลูกอีกตึกหนึ่ง เพราะตึกที่ดูแลเด็กตู้อบจะอยู่คนละตึกกับตึกสูตินารี สองวันแรก แฟนพานั่งรถเข็นไป ก็ยังเจ็บเลย เวลาเข็นแล้วเจออะไรขรุขระ แค่เดินจากประตูเข้าห้องตู้อบก็ยังแทบไม่ได้เลย พอวันที่สาม ผดุงครรภ์มาดุว่า ถ้าอยากแผลหายเร็วๆต้องเดินนะ ให้เดินไปหาลูก ไอ้เราก็นึก มันจะบ้าเหรอวะ แค่ลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำ ตูยังเกือบตาย นี่ให้เดินข้ามตึก
แต่ก็นั่นแหละ พยาบาลมาทำหน้าดุเลยว่า ต้องทำนะ ไม่งั้นแผลหายช้าไม่รู้ด้วย พอวันรุ่งขึ้นวันที่สามหลังคลอด ก็เลยต้องจำใจทิ้งรถเข็น มาเดินกุมท้องไปหาลูก เจ็บอ่ะเจ็บ แต่พอวันรุ่งขึ้น รู็สึกได้เลยว่า ดีขึ้นอ่ะ นึกขอบใจพยาบาลที่มาบังคับให้เดิน

ปล แต่ที่มาห้ามไม่ให้หิ้วของหนัก อันนี้ บอกตรงๆว่ายาก เพราะเราก็อยากอุ้มลูกเรา ทำไม่ได้จริงๆ ทุกวันนี้ น้องอลิเซียน้ำหนักขึ้นแล้ว เวลาอุ้มเค้าจากเตียงขึ้นมา บางครั้งยังเจ็บเสียดๆที่แผลผ่าด้านในอยู่เลย

[chiangmai]

ดีแล้วคุ่ะแม่น้อยเจ้าหญิง เดินบ่อยๆๆมันทำให้แผลของเราสมานเร็วและทำให้เราแข็งแรงเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ตอนอยู่โรงพยาบาลดีหน่อยห้องเด็กออกไม่ไกลมาก พอผ่าเอาสายทุกอย่างออกตุ๊กตาก็เริ่มเดินเลยค่ะเรารู้ว่าเจ็บแต่ทำให้แผลหายเร็ว ยอมเจ็บค่ะ เป็นกำลังใจในการเลี้ยงลูกนะคะ และขอให้แผลหายเร็วๆๆนะคะ EM124

[own_kub]

เป็นกำลังใจในการออกกำลังกายให้พี่เกด และพี่ๆทุกคนครับ



ด้วยรักจากใจ..........ทาเคชิ

[AmandaBKK]

ไม่ทราบว่าคุณเกดเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองหรือเปล่า การที่เราเลี้ยงด้วยนมของเราเองจะทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็ว แล้วมดลูกเข้าอู่ได้เร็วด้วยค่ะ ดิฉันก็คลอดลูกด้วยการผ่าตัดทางหน้าท้องเหมือนกัน น้ำหนักขึ้นมาสิบห้าโล แต่ภายในห้าถึงหกเดือนหลังคลอดก็กลับมาน้ำหนักเท่าเดิมค่ะ เชื่อว่าคุณเกดก็จะทำได้เหมือนกัน เป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ

EM131