ครัวไกลบ้าน • แสดงกระทู้

พี่ก็พูดไปงั้นแหละเรื่องวิ่งตามตูดน้องอ่ะ คลานยังกับเต่าแบบนี้ ไม่รู้ปีไหนจึงจะทันคุณน้อง...

รูปร่างเนื้อหนังของพี่ มันลายเนื่องจากน้ำเหลืองไม่ดีตั้งแต่เกิด กระดำกระด่างไปทั่วตัว มิกล้าโชวอย่างเด็ดขาด แต่นุ่งขาสั้นออกนอกบ้านยังไม่เคย เนื่องจากเส้นเลือดขอดใหญ่เท่าตัวไส้เดือน...หุหุ

เที่ยงแล้ว วันนี้นั่งหน้าคอมซะจุใจไปเลย 3ชั่วโมงแน่...ไปทำงานก่อนล่ะ

โดย **Ing-Ing** » จันทร์ พ.ย. 16, 2009 9:11 am

เข้ามารอลุ้นอยู่เรื่อยๆค่ะ เราจะมีวาสนาได้เจอใครบ้างหนอ โอมเพี้ยงๆๆๆๆๆ

โดย **naddyswiss** » เสาร์ พ.ย. 21, 2009 9:22 am

ยายหนู เขียน:
naddyswiss เขียน: ไปไหนกันอ่าค๊า คือว่าหนูจองตั๋วแว๊วเหมือนกันค่ะ กลับไทยวันที่ 5 ธ.ค. กลับสวิสประมาณวันที่ 9 ม.ค.

ถึง กทม. วันที่ 6 ธ.ค. ถึงวันที่ 19 ธ.ค. น่าจะอยู่กรุงเทพ ไม่ได้ไปไหนเพราะเอาลูกไปส่งให้พ่อกะแม่เลี้ยง เพราะโหน่งจะบินไปเจอกะสามีที่อินเดียวันที่ 19 ธ.ค. กลับจากอินเดียวันที่ 2 ม.ค. จะมีโอกาสได้เจอใครบ้างไหมค๊า

ที่แน่ๆ คุณพัฒนรีย์ แกต้องมาเจอฉัน คริๆๆๆ

ยายหนูมาเมืองไทยวันที่ 2 ก.พ. หรือคะ ว๊าไม่ได้เจอกันเลยค่ะ อยากเจอยายหนูเหมือนกัน

อยากเจอโหน่งเหมือนกัน แต่ตั๋วช่วงนั้นแพงลิบ เพราะคนที่อลาสก้าหนีหนาวอ่ะ...

คนที่สวิสก้อหนีหนาวกันน๊า ยายหนูลองดูตั๋วดีๆสิคะ เพราะว่าตั๋วที่โหน่งได้มาถูกกว่าปีก่อนถึง 200 CHF เลยทีเดียวค่ะ ปรกติโหน่งกลับช่วง พ.ย. ถึงมกราคมตั๋วราคาประมาณ 1,900 CHF อัพค่ะ แต่คริสมาตปาเข้าไป 2500 CHF อัพ แต่ปีนี้ทำไมมันด๊ำมาอยู่ 1750 CHF ก้อไม่รู้แปลกใจมากค่ะ หรือฝรั่งไม่ค่อยอยากเที่ยวไทย กลัวไข้หวัดหมูหรือเปล่า อันนี้เดาเอาเองค่ะ

ธุรกิจและงานในรัฐอลาสก้า จะคึกคักในช่วงฤดูร้อน พอเข้าฤดูหนาวเขาก็จะคัดคนออก หรือไม่ก็ปิดกิจการไปเลยก็มีคือเปิด6เดือน ปิด6เดือน 6เดือนที่ปิดนี้ใครที่เป็นพนักงานก้จะสมัครกินเงินคนว่างงานได้ แต่เขาให้แค่6เดือนเท่านั้น และต้องทำกับบริษัทเดียวไม่ต่ำกว่า6เดือนด้วยจึงจะมีสิทธิ์สมัครขอเงินนี้ได้...

พอต้นเดือนตุลาของทุกๆปี พลเมืองของอลาสก้าก็จะได้เงินปันผลน้ำมันอีกก้อนหนึ่ง และช่วงนี้แหละที่ผู้คนต่างพากัยขทอยออกจากรัฐเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนตามที่ต่างๆ และเนื่องด้วยรัฐอลาสก้านี้ อยู่โดดเดี่ยว ระยะทางห่างไกลจากรัฐอื่นๆ สายการบินจึงมีให้เลือกไม่มากนักและค่าตั๋วจึงแพงและไม่มีการลดราคาแต่อย่างใด เพราะถึงอย่างไรคนก็ต้องเดินทางกันอยู่ดี ไม่มีทางเลือก เช่นสายการบินจากอลาสก้าตรงไปไทเป มีแค่ไชน่าเท่านั้นโดยเครื่องจะรับผู้โดยสารมาจากนิวยอร์ค มาแวะเปลี่ยนเครื่องและรับผู็โดยสารเพิ่มที่แอ้งค์เคร็จ แล้วก็มีสายการบินเกาหลี ก็บินตรงไปกรุงโซน แต่แวะที่ฮ่องกงอีกทีและต้องเดินไปเช็กอินใหม่ด้วย รอเครื่องก็นาน เครื่องถึงเมืองไทยก็ค่ำ ขากลับบินตี2คือคืนนั้นไม่ต้องหลับต้องนอน แต่ของไชน่าถึงเมืองไทยเกือบๆเที่ยงและขากลับบิน 8โมงครึ่ง(เช้า)

แล้วก็มีสายการบินอื่นๆที่ต้องบินลงไปแวะที่ซีแอ็ทเติ้ล เปลี่ยนเครื่อง และรับผู้โดยสารก่อนบินไปเอเซีย และแวะสองที่ เหมือนอย่างที่ตุ๊กตาบิน เสียเวลาเพิ่มขึ้นอีก1วัน อันนี้พี่ไม่เลือกแน่นอน...

ดังนั้นสายการบินที่ระยะเที่ยวบินสั้นที่สุด เวลาในการรอเปลี่ยนเครื่องสั้นที่สุด กำหนดเวลาถึงปลายทางและเวลาในการเดินทางกลับสะดวกที่สุด และราคาถูกที่สุดก็คือไชน่าเนื่องจากคนจีนที่อาศัยอยู่ในอเมริกาและต้องเดินทางกลับบ้านมากที่สุดในบรรดาคนเอเซีย และด้วยเหตุผลนี้เขาจึงไม่ลดราคาหรือมีโปรโมชั่นใดๆเลย เพราะไม่มีสายการบินอื่นทำได้ คือไม่มีคู่แข่งนั่นเอง และตั๋วจะถูก-แพงกว่ากันนิดหน่อยขึ้นอยู่ที่วันเดินทาง และช่วงที่ซื้อตั๋วด้วย คือตอนที่เช็กราคาก่อนวันบิน 3เดือนจะได้ตั๋วถูกกว่าประมาณ$50 ประมาณว่าเขาเอาเงินเราไปหมุนได้ก่อนตั้ง 3เดือน(มั้ง) เพราะเมื่อวานเช็กราคาอีกครั้ง วันเดินทางและวันกลับอันเดียวกัน ราคากลับแพงขึ้น ทำให้เสียอารมณ์ไปแล้ว1อย่าง พี่อาจจะละเอียดรอบคอบไปนิด ตามประสาคนไม่ค่อยจะมีเงิน..อิอิ

อย่างที่สอง คุณบิลไม่ต้องการไป ด้วยเหตุผลเพื่อประหยัดเงิน แต่พี่รู้สึกไม่ดี เพราะเราเหนื่อยด้วยกัน เราก็ต้องหยุดพักด้วยกัน ทำไมจะมาประหยัดอีแค่เงินค่าตั๋วเครื่องบินแล้วกักตัวเองอยู่ในเมืองเล็กๆในป่าใหญ่ๆแบบนี้ด้วย ถ้าพี่ไปคนเดียวมันเหมือนเป็นการเอาเปรียบอ่ะทั้งๆที่อีกใจหนึ่งสุดแสนจะดีใจที่ได้ฉายเดี๋ยว อิอิ เพราะไม่ว่าจะไปพบปะเพื่อนฝูง หรือพูดคุยกับญาติพี่น้องก็ไม่ต้องห่วงความรู้สึกของเขา....

ตอนนี้กำลังรอติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร เพราะทางธนาคารมาเสนอให้เปลี่ยนบัญชีใหม่ซึ่งเป็นของธุรกิจและประหยัดเงินค่าธรรมเนียมไปหลายอย่าง แต่ไมล์ที่สะสมไว้ในบัญชีเก่าซึ่งมีอยู่หลักแสนหายไป เขาไม่ได้โอนมาให้ ต้องคุยกันก่อน ถ้าได้ไมล์สะสมนั้นกลับคืนมาอาจจะแลกตั๋วฟรีได้เลยหนึ่งใบหรือไม่ก็จ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย...

บางคนอาจจะสงสัยว่า มีเงินมากแค่ไหนจึงเพียงพอสำหรับเรา...

ถ้าเป็นลูกจ้างเขา จะไม่มีปัญหานี้เลย เพราะเราจะได้วันหยุดประจำปีกันทุกคน ส่วนใหญ่จะเป็น2สัปดาห์ ถ้สสะสมไว้2ปีก็หยุดได้เลย 4สัปดาห์ เงินเดือนก็ยังได้อยู่ ไม่เดือดร้อนกับบิลต่างๆ แต่เจ้าของร้านอาหารอย่างเรา ปิดร้าน ไม่มีรายได้เข้า แต่รายจ่ายมีคือค่าเช่าร้าน และค่าไฟที่ต้องเสียบตู้เย็นและตู้แช่แข็งไว้ และยังต้องเปิดฮิทไว้อ่อนๆเพื่อสร้างความอบอุ่น เพราะถ้าเราไม่เปิด ท่อน้ำจะเป็นน้ำแข็ง เสื้อผ้าและข้าวของจะชื้นและขึ้นรา ซึ่งค่าเช่าร้านเดือนละ $2400 ค่าไฟตีไป 600ก็แล้วกัน เพราะปรกติจ่ายอยู่ที่ 1600-1800ในหน้าหนาว ก็เท่ากับว่าก่อนไป หลังจากจ่ายบิลทุกอย่างหมดแล้ว ต้องมีเงินอยู่เกือบหมื่นเหรียญ คือ

ค่าตั๋ว สองคน $2600 เก็บไว้จ่ายหลังจากกลับมาอีก $3000 ค่าโรงแรมคืนวันบินเพราะเช็กอินหลังเที่ยงคืน ต้องเดินทางออกจากบ้านในเวลากลางวันซึ่งมีอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง คือพระอาทิตย์ขึ้น10-11โมงเช้า และตกดินที่ 3-4โมงเย็น เราจึงต้องไปถึงเมืองใหญ่ก่อนค่ำใช้เวลาในการขับรถ 5ชั่วโมง ถึงเมืองใหญ่ต้องพักในโรงแรม และเอารถไปฝากจอดอีก1เดือน รวมเงินตรงนี้ก็ประมาณ 6000แล้ว และยังเงินที่จะต้องติดตัวไปเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่อยู่เมืองไทยอีกล่ะ...

2เดือนที่ผ่านมา ขายได้ก็จ่ายบิลไปหมด ไม่มีกำไรเหลือเก็บเลย คุณบิลเกรงว่า เดือนธันวาและมกรา อาจจะแย่กว่านี้คือ อาจจะต้องควักกระเป๋ามาจ่ายบิลบ้าง แต่พี่ก็ค้านไปว่าการที่เธอจะไปหรือไม่ไป มันก็ประหยัดแค่ค่าตั๋วเครื่องบินเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า เธออยู่แล้วจะเปิดขายมีเงินเพียงพอจ่ายค่าบิลซะเมื่อไร เขาบอกว่า ไม่แน่ เขาอาจจะขายแค่ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด และผัดกะเพราไข่ดาวก็ได้ อย่างน้อยๆก็ผ่อนจากหนักเป็นเบา พี่บอกว่าเอางี้ไหม ฉันจะบอกลูกว่าบวชปีหน้า เขาบอกว่า เด็กมันตั้งใจบวชก็ไปเถอะ ไม่ต้องการให้พี่ล้มเลิกความตั้งใจที่อยากจะทำอะไรดีๆให้กับชีวิต พูดแบบนี้เลยยิ่งไม่อยากกลับคนเดียวใหญ่เลย สงสารเขาอ่ะ...

ค่าตั๋ว สองคน $2600 เก็บไว้จ่ายหลังจากกลับมาอีก $3000 ค่าโรงแรมคืนวันบินเพราะเช็กอินหลังเที่ยงคืน ต้องเดินทางออกจากบ้านในเวลากลางวันซึ่งมีอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง คือพระอาทิตย์ขึ้น10-11โมงเช้า และตกดินที่ 3-4โมงเย็น เราจึงต้องไปถึงเมืองใหญ่ก่อนค่ำใช้เวลาในการขับรถ 5ชั่วโมง ถึงเมืองใหญ่ต้องพักในโรงแรม และเอารถไปฝากจอดอีก1เดือน รวมเงินตรงนี้ก็ประมาณ 6000แล้ว และยังเงินที่จะต้องติดตัวไปเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่อยู่เมืองไทยอีกล่ะ...

ยายหนูลองหาจ้างใครสักคน ให้เขาขับรถไปส่งยายหนูไม่ได้เหรอ จะได้ไม่ต้องเอารถไปจอดให้เสียเงินมากมายแบบนั้น ขากลับก็ติดต่อให้เขามารับกลับ พี่ว่า $500-600 ก็น่าจะมีคนทำแล้วนะ เสียค่าจอดทีละ $6000 นี่เสียดายเงินมากๆเลยจ้ะ พี่เห็นใจยายหนูกับคุณบิลจัง พี่เคยเสนอให้ยายหนูมาพักกับพี่สักคืนหนึ่งให้หายเหนื่อย ก่อนเดินทางกลับไปตาคลี ข้อเสนอก็ยังคงอยู่นะ หากยายหนูกับคุณบิลอยากมาพักกับพี่ พี่ก็ยินดีต้อนรับเสมอจ้ะ

โดย **chiangmai** » อาทิตย์ พ.ย. 22, 2009 11:53 pm

อ่านแล้วก็เห็นใจพี่กับคุณบิลมากๆๆเลยค่ะ แกคงจะคิดถึงภาระที่ต้องจ่ายตอนช่วงที่ร้านปิดก็เลยคิดว่าถ้าไม่ไปกับพี่จะประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินลงไปอีก แต่หนูก็คิดแบบพี่ค่ะ เหนื่อยมาด้วยกันทั้งปีแล้วไหนๆๆก็ปิดร้านก็ต้องไปพักผ่อนด้วยกัน ดีกว่าให้เราไปคนเดียวแต่แกกลับติดแหง่อยู่ในร้าน อ่านแล้วก็เห็นใจพี่สองคนมากเลยค่ะ ไม่รู้จะเขียนอะไรอีก มันไม่มีคำพูดที่จะให้พี่ได้มากกว่า ขอให้พี่รู้ว่าหนูเป็นกำลังใจให้พี่กับคุณบิลนะคะ ยังไงก็ลองคุยกับคุณบิลให้ไปพักผ่อนด้วยกันนะคะ ไหนๆๆก็เครียด เหนื่อย มาด้วยกันทั้งปี ไปพักผ่อนบางเป็นการดีนะคะ
ตารางการบินของหนูก็เสียเวลาเยอะเหมือนกันค่ะพี่ หนูต้องออกจากบ้านวันอังคารนี้ โดยเฟอรรี่ ไปถึงจูโน่ ตีหนึ่งของวันพุธ ค้างไม่ถึงคืน เทียงวันพุธก็ต้องเซ็คเอาส์ ขึ้นเครื่องไปลงซีแอลเตอร์ต่อ จากซีแอลเตอร์ไปรอเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง 11 ชั่วโมง กว่าถึงบ้านเราก็วันศุกร์เช้า เจ็ดโมงเช้ามั่งค่ะ เคยถามสามีแกบอกว่าเดินทางแบบนี้แหละตั๋วถูกแต่เสียเวลาเยอะ ยังดีที่พวกหนูใช่ไมล์สะสมเป็นค่าตั๋ว จากจูโน่ไปซี่แอลเติลทั้งไปและกลับก็ช่วยประหยัดไปตั้งเยอะ ไม่งันก็คงจ่ายบานเลยค่ะ

โดย **ยายหนู** » จันทร์ พ.ย. 23, 2009 1:33 am

ไทยแท้แท้ เขียน:
ค่าตั๋ว สองคน $2600 เก็บไว้จ่ายหลังจากกลับมาอีก $3000 ค่าโรงแรมคืนวันบินเพราะเช็กอินหลังเที่ยงคืน ต้องเดินทางออกจากบ้านในเวลากลางวันซึ่งมีอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง คือพระอาทิตย์ขึ้น10-11โมงเช้า และตกดินที่ 3-4โมงเย็น เราจึงต้องไปถึงเมืองใหญ่ก่อนค่ำใช้เวลาในการขับรถ 5ชั่วโมง ถึงเมืองใหญ่ต้องพักในโรงแรม และเอารถไปฝากจอดอีก1เดือน รวมเงินตรงนี้ก็ประมาณ 6000แล้ว และยังเงินที่จะต้องติดตัวไปเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่อยู่เมืองไทยอีกล่ะ...

ยายหนูลองหาจ้างใครสักคน ให้เขาขับรถไปส่งยายหนูไม่ได้เหรอ จะได้ไม่ต้องเอารถไปจอดให้เสียเงินมากมายแบบนั้น ขากลับก็ติดต่อให้เขามารับกลับ พี่ว่า $500-600 ก็น่าจะมีคนทำแล้วนะ เสียค่าจอดทีละ $6000 นี่เสียดายเงินมากๆเลยจ้ะ พี่เห็นใจยายหนูกับคุณบิลจัง พี่เคยเสนอให้ยายหนูมาพักกับพี่สักคืนหนึ่งให้หายเหนื่อย ก่อนเดินทางกลับไปตาคลี ข้อเสนอก็ยังคงอยู่นะ หากยายหนูกับคุณบิลอยากมาพักกับพี่ พี่ก็ยินดีต้อนรับเสมอจ้ะ

อ่านยังไงว่าเป็นค่าจอดรถ$6000 ถ้าต้องเสียค่าจอดเดือนละ6000 ซื้อใหม่ไม่ดีกว่าหรือ...

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ หนูเคยบอกไปแล้วว่าถ้าไม่กลับตาคลีภายในวันนั้น ก็อาจจะพักอยู่กับหลานสาวเพราะคอนโดเขาอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าอโศก...

แต่จะอย่างไรก็ตาม จะพยายามให้คุณบิลไปด้วยให้ได้ วันนี้ก็คุยกันอีก เขาก็ทำตาแดงๆ และบอกว่าเขาก็อยากจะไป แต่ต้องรอดูอีกสองเดือนว่าจะควักทุนหรือไม่ ถ้าขายได้เพียงพอต่อรายจ่ายโดยไม่ต้องควักทุน เงินที่มีอยู่นี้ก็เพียงพอ แต่ถ้ามันขาดมือจริงๆ กลับมาเราจะขอค้างค่าเช่า เพราะ3ปีที่ผ่านมาเราจ่ายตรงตามเวลาตลอดไม่เคยมีติดค้างจึงไม่น่าจะมีปัญหา...

ขอบคุณตุ๊กตาสำหรับกำลังใจ เราคงได้ไปกินส้มตำด้วยกัน ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ยายหนู เขียน:
ไทยแท้แท้ เขียน:
ค่าตั๋ว สองคน $2600 เก็บไว้จ่ายหลังจากกลับมาอีก $3000 ค่าโรงแรมคืนวันบินเพราะเช็กอินหลังเที่ยงคืน ต้องเดินทางออกจากบ้านในเวลากลางวันซึ่งมีอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง คือพระอาทิตย์ขึ้น10-11โมงเช้า และตกดินที่ 3-4โมงเย็น เราจึงต้องไปถึงเมืองใหญ่ก่อนค่ำใช้เวลาในการขับรถ 5ชั่วโมง ถึงเมืองใหญ่ต้องพักในโรงแรม และเอารถไปฝากจอดอีก1เดือน รวมเงินตรงนี้ก็ประมาณ 6000แล้ว และยังเงินที่จะต้องติดตัวไปเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่อยู่เมืองไทยอีกล่ะ...

ยายหนูลองหาจ้างใครสักคน ให้เขาขับรถไปส่งยายหนูไม่ได้เหรอ จะได้ไม่ต้องเอารถไปจอดให้เสียเงินมากมายแบบนั้น ขากลับก็ติดต่อให้เขามารับกลับ พี่ว่า $500-600 ก็น่าจะมีคนทำแล้วนะ เสียค่าจอดทีละ $6000 นี่เสียดายเงินมากๆเลยจ้ะ พี่เห็นใจยายหนูกับคุณบิลจัง พี่เคยเสนอให้ยายหนูมาพักกับพี่สักคืนหนึ่งให้หายเหนื่อย ก่อนเดินทางกลับไปตาคลี ข้อเสนอก็ยังคงอยู่นะ หากยายหนูกับคุณบิลอยากมาพักกับพี่ พี่ก็ยินดีต้อนรับเสมอจ้ะ

อ่านยังไงว่าเป็นค่าจอดรถ$6000 ถ้าต้องเสียค่าจอดเดือนละ6000 ซื้อใหม่ไม่ดีกว่าหรือ...

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ หนูเคยบอกไปแล้วว่าถ้าไม่กลับตาคลีภายในวันนั้น ก็อาจจะพักอยู่กับหลานสาวเพราะคอนโดเขาอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าอโศก...

แต่จะอย่างไรก็ตาม จะพยายามให้คุณบิลไปด้วยให้ได้ วันนี้ก็คุยกันอีก เขาก็ทำตาแดงๆ และบอกว่าเขาก็อยากจะไป แต่ต้องรอดูอีกสองเดือนว่าจะควักทุนหรือไม่ ถ้าขายได้เพียงพอต่อรายจ่ายโดยไม่ต้องควักทุน เงินที่มีอยู่นี้ก็เพียงพอ แต่ถ้ามันขาดมือจริงๆ กลับมาเราจะขอค้างค่าเช่า เพราะ3ปีที่ผ่านมาเราจ่ายตรงตามเวลาตลอดไม่เคยมีติดค้างจึงไม่น่าจะมีปัญหา...

ขอบคุณตุ๊กตาสำหรับกำลังใจ เราคงได้ไปกินส้มตำด้วยกัน ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

อ๋อ... ป้าดโธ่ ไอ้พี่ก็นึกว่า ค่าฝากจอดรถอะไรฟระ มันถึงได้แพงมหาศาลประมาณนี้ นึกว่าฝากไว้ในตู้นิรภัยที่ธนาคารซะอีก ที่แท้ก็รวมยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี่เอง เออ... หยั่งงี้ค่อยยังชั่วหน่อย ก็ตามใจนะ ถ้าสะดวกพักกับหลาน แต่พี่ก็ยินดีถ้ายายหนูอยากมาพักด้วย หวังว่าคุณบิลคงได้มาด้วย เขาควรได้มาเปิดหูเปิดตาบ้าง กลับไปจะได้แบตเต็ม มีแรงมีกำลังใจสู้งานหนัก

โดย **ยายหนู** » จันทร์ พ.ย. 23, 2009 8:05 am

หนูหาทางให้ตาบิลไปด้วยจนได้แหละ วันนี้ก็ได้ความคิด ให้เอารถไปไฟแน้นท์กับธนาคาร ดอกเบี้ยถูกหน่อย แต่ยังไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร และดอกเบี้ยคิดยังไง ทำเอาไว้ก่อนไป มีเงินนอนไว้ในบัญชีกันฉุกเฉิน...

บอกคุณบิลว่าเข้ามาโพสเรื่องนี้ให้เพื่อนๆรู้ด้วย เขาถามว่าไม่อายหรือ หนูว่า มันอยู่ที่ความคิดของแต่ละคน ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่างคนสองคน

นางก. ออกรถใหม่ กับนางข. เอารถที่ผ่อนหมดแล้วไปเข้าไปแน้นท์ สถานะภาพของทั้งสองคนไม่ได้ต่างกันเลยคือเป็นหนี้ที่ต้องชำระเหมือนกัน โดยนางก.อาจจะเสียดอกเบี้ยสูงกว่านางข.ก็ได้ แต่คนภายนอกคิดว่า นางก. รวยมีเงินไปดาวน์ออกรถใหม่ แต่นางข.จนเพราะเอารถไปเข้าไฟแน้นท์...5555

แต่หนูว่านางก.จนอ่ะ เพราะต้องจ่ายเงินก้อนไป ส่วนนางข.รวยเพราะได้รับเงินก้อนมา ต่างความคิด ต่างมุมมอง....

ยายหนู เขียน: หนูหาทางให้ตาบิลไปด้วยจนได้แหละ วันนี้ก็ได้ความคิด ให้เอารถไปไฟแน้นท์กับธนาคาร ดอกเบี้ยถูกหน่อย แต่ยังไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร และดอกเบี้ยคิดยังไง ทำเอาไว้ก่อนไป มีเงินนอนไว้ในบัญชีกันฉุกเฉิน...

บอกคุณบิลว่าเข้ามาโพสเรื่องนี้ให้เพื่อนๆรู้ด้วย เขาถามว่าไม่อายหรือ หนูว่า มันอยู่ที่ความคิดของแต่ละคน ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่างคนสองคน

นางก. ออกรถใหม่ กับนางข. เอารถที่ผ่อนหมดแล้วไปเข้าไปแน้นท์ สถานะภาพของทั้งสองคนไม่ได้ต่างกันเลยคือเป็นหนี้ที่ต้องชำระเหมือนกัน โดยนางก.อาจจะเสียดอกเบี้ยสูงกว่านางข.ก็ได้ แต่คนภายนอกคิดว่า นางก. รวยมีเงินไปดาวน์ออกรถใหม่ แต่นางข.จนเพราะเอารถไปเข้าไฟแน้นท์...5555

แต่หนูว่านางก.จนอ่ะ เพราะต้องจ่ายเงินก้อนไป ส่วนนางข.รวยเพราะได้รับเงินก้อนมา ต่างความคิด ต่างมุมมอง....

พี่ไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอายนะ การที่เราต้องหาทางออกให้กับสถาณการณ์คับขันด้วยการกู้ยืมเงินธนาคารนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เป็นเรื่องของธุรกิจซึ่งใครๆก็ทำกัน คนส่วนใหญ่ที่ทำธุรกิจกันทุกวันนี้ ก็เป็นลูกหนี้ธนาคาร ผ่อนดอกเบี้ยกันทุกคน จริงๆแล้ว ไม่มีใครสักกี่คนหรอกที่มีเงินสดๆมาลงทุนทำธุรกิจ ยายหนูบอกตาบิลว่าไม่ต้องไปอายหรอก ของธรรมดาแท้ๆ

โดย **Ing-Ing** » พุธ พ.ย. 25, 2009 3:13 pm

อ่านแล้วเห็นใจพี่ยายหนูกับคุณบิลจังค่ะ อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สงสารคุณบิลด้วย

เกาะที่อิ๋งอยู่เป็นเกาะที่อยู่ตอนเหนือของนอร์เวย์ ก็คล้ายๆกับอลาสก้าค่ะ จะคึกคักช่วงหน้าร้อนเรียกได้ว่าช่วงหน้างานเลยหละใครทำไหวก็ทำเข้าไปเพราะพอเข้าหน้าหนาวงานก็จะน้อยลง บางโรงแรมก็จะปิดแล้วเปิดใหม่ในปีต่อไป คนที่มาทำงานที่นี้ก็มีทั้งพวกที่เป็นพนักงานประจำกับพวกที่เซ็นสัญญาเฉพาะฤดูท่องเที่ยว พอหมดสัญญาก็ไปที่อื่นปีต่อไปก็มาใหม่

ของอิ๋งเป็นพวกพนักงานประจำแบบรายชั่วโมงคือว่าถ้างานมากเราก็จะได้ชั่วโมงการทำงานมาก พอเข้าฤดูหนาวไม่มีนักท่องเที่ยว คนที่ทำงานที่นี่ก็น้อยลงเพราะเขาหมดสัญญาก็ไปที่อื่นกัน งานของเราก็น้อยไปด้วย เงินก็น้อยลง

ทุกๆปีช่วงคริสมาสต์อิ๋งกับพ่อบ้านก็จะกลับไปเยี่ยมแม่ย่าที่เชค ก็จะจองตั๋วล่วงหน้าไว้เลยหลายเดือนเพราะค่าตั๋วแพงมาก เพราะว่ามีสายการบินเพียงแค่สายการบินสแกนดิเนียเวย์สายการบินเดียวที่บินจากเกาะนี้เข้าไปที่นอร์เวย์แผ่นดินใหญ่ แล้วไม่มีเครืองบินตรง ต้องไปแวะรับผู้โดยสารที่เมืองทรุมเซอก่อนที่จะบินไปออสโล แล้วค้างที่ออสโลหนึ่งคืนรอเครื่องไปเชคในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อก่อนเรานอนค้างกันที่สนามบินเลยเพื่อประหยัดตังค์ แต่ตอนนี้อายุมากขึ้นพ่อบ้านนอนที่สนามบินไม่หลับเราก็ต้องพักโรงแรม

จริงๆแล้วอิ๋งก็ไม่อยากไปหรอกค่ะ เพราะกลับบ้านทีค่าใช้จ่ายก็แยะ ทั้งที่เชคและที่นี่เพราะเราเช่าบ้านเขาอยู่ อยู่ไม่อยู่เราก็ต้องจ่ายไหนจะค่าจิปาถะอื่นอีก ไปแล้วรายได้ก็ไม่มีมีแต่รายจ่าย ก็คิดไปตามปะสาคนงกแหละค่ะ แต่สงสารแม่ย่าที่แกอยู่คนเดียว ช่วงเทศกาลคนอื่นเขาอยู่กันเป็นครอบครัว ก็เลยตัดใจค่ะ

เรื่องของอิ๋งอาจไม่ได้ครึ่งหนึ่งของพี่ เพียงอยากบอกว่าเห็นใจและเข้าใจพี่ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้พี่สู้สู้ๆๆๆนะคะ

โดย **roziiniite** » พุธ พ.ย. 25, 2009 3:35 pm

ไปด้ววววววยยย

สวัสดีค่ะว่าที่คุณหมอ และเจ้าของร้านอาหารไทย..อิอิ ยายหนูเห่อออกนอกหน้ามากไปหรือเปล่า...อิอิ น้องเกดจะอยู่เมืองไทยช่วงไหน แจ้งให้ทราบด้วยค่ะ อาจจะนัดพบกันได้ ถ้าเกดอยู่ถึงกุมภานะ เพราะพี่อาจจะไปแวะทักทายทั้งฮิสั้น และฮิยาว แถวจันทร์กับระยองบ้านน้องเกดด้วย...

โดย **roziiniite** » ศุกร์ พ.ย. 27, 2009 2:48 pm

หึหึ ยายหนูอ่ะ เหอๆๆ ให้มันเป็นรูปร่างก่อนแล้วค่อยเรียกเนอะ
เกดอาจจะอยู่เกือบถึงต้นเดือนกุมภานะคะยายหนู แต่ว่าเกดไม่ค่อยได้อยู่ระยองค่ะ กลับไทยคราวที่แล้วเกดไม่ได้ไปบ้านที่ระยองเลย อยู่แต่บ้านที่กทมค่ะ เกดยังไม่ได้ซื้อตั๋ว รอกะตังอยู่ กะตังใกล้มาละคะ เอิีกๆ

ตั๋วยังไม่ได้ซื้อเลย อิอิ เนื่องจากรอทางธนาคารติดต่อกลับมาอยู่ เรื่องไมล์สะสมอ่ะ แต่คิดว่าถึงเมืองไทยวันที่ 2กุมภาแน่นอน ถ้าตั๋วไม่เต็มนะ ลูกชายจะมารับแล้วกลับบ้านต่างจังหวัดเลย อยากเห็นหน้าแม่อ่ะ คงนอนค้างในกรุงเทพไม่ได้แน่ ถึงนอนก็นอนไม่หลับ อีกอย่างเอาปลาแซลมอนแช่แข็งใส่กระติกไปด้วยยิ่งค้างไม่ได้ใหญ่เลย...

จะกลับเข้ากรุงเทพหลังเสร็จธุระ คือวันที่15 จะอยู่ในกรุงเทพ 1สัปดาห์พาคุณบิลเที่ยว และนัดเจอเพื่อนๆในช่วงนั้นด้วย และจะลงไปเกาะช้างสัก2-3วัน แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน ต้องรอดูเพื่อนๆก่อนว่าจะนัดเจอกันวันไหน...

สงสัยจะไม่ได้เจอน้องเกดมั้งเนี่ย...

รวมพลคนรักสุขภาพ

ผู้ใช้งานขณะนี้