ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ตั้งต้นค้นหา "ความสุขอีกครั้ง" ด้วยการออกกำลังกาย

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย Tuta Schweiz » อังคาร พ.ย. 03, 2009 7:10 pm

สวัสดี พี่ๆ น้องๆ
บันทึก
ตั้งต้นค้นหาความสุข ทางกาย
ตื่นตี 5
07:20 ทำงานในร้าน
- กล้วยหอม 2 ลูก
- กาแฟ 1 แก้ว

09:50
-อัลมอนด์ ประมาณ 30 กรัม

12:00
-ไก่ย่าง (อีกแล้วหมักไว้เยอะ กลัวเสียรีบกินก่อน)
-ข้าวโอ๊ตสุกในไมโครเวฟ 1 ทัพพี
-สลัด 1 ถ้วยเล็ก
-กาแฟ

12:35-13:50 เดินทางไปโรงเรียน
เดินได้นิดหน่อย วันนี้ฝนตก

14:00-16:00
-ถั่วต่างๆ 1 กำมือ
-น้ำหนึ่งขวด

17:50
-ข้าวโอ๊ตสุกในไมโครเวฟ 1 ทัพพี
-น้ำพริกปลาย่าง

ยังไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะยังคิดอะไรไม่ออก

ตั้งต้นค้นหาความสุข ทางใจ
อ่านหนังสือ ของ หนูดี บทที่ 6 ว่าด้วย "ก่อนรักใคร ให้รักตัวเอง"
อ่านได้ 2 หน้าตอนนั่งรถไฟไปเรียน
เป็นการยกตัวอย่างที่เข้าใจได้สุดยอดมากๆ คือ ให้นึกถึงเวลาเรานั่งเครื่องบิน เค้าจะมีหนังสือ และหนังสาธิตวิธีการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินกลางอากาศ .... ให้นึกถึงตอนมีหน้ากากออกซิเจนหล่นลงมาตรงหน้าเรา หน้าที่เราคือใส่หน้ากากให้ตัวเอง แต่ถ้าเรานั่งอยู่ข้างเด็กล่ะ เราต้องใส่ให้ตัวเองก่อนเสมอ แล้วจึงใส่ให้เด็ก ฯลฯ
บทความจากหนังสือทำให้หันมามองตัวเอง ว่าวันนี้เราทำตัวเราให้มีค่าหรือยังรักษาชีวิตเราเต็มที่หรือยัง แล้วลูกที่อยู่กับเราตลอดเวลาจะเป็นอย่างไร ถ้าเราเป็นอะไรไป
<span style='color:blue'>วันนี้โชคดี</span> เพิ่มความเข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง ความกดดันมีมาทุกวันไม่ต้องพูดถึงมัน

พี่ส่งกำลังใจเต็มร้อยมาให้ มีอะไรก็อย่าลืมพี่ๆน้องๆในนี้ ทุกคนมีข้อคิดที่ดีๆ และคำปลอบโยนให้เสมอ อยากจะปรับทุกข์อะไรก็ว่ามาได้เลย ความทุกข์ที่บางทีเรารู้สึกว่ามันหนักหนาสาหัสนั้น ถ้าได้ระบายออกมา มันจะทำให้เรารู้สึกว่า อืม... ที่จริงมันก็ไม่หนักอย่างที่เราคิดนะ เราก็จะได้สติ ไม่ทำอะไรไปตามอารมณ์ อย่าลืมว่า ตุ๊ยังมีลูกเล็กๆ ถ้ารักลูกก็ต้องดูแลและรักตัวเองให้มากๆ พี่ไม่อยากให้ลูกตุ๊เห็นแม่เมามาย กินแต่ไวน์ไม่รักตัวเองแบบนี้

<span style='color:red'>พี่ต่าย</span> ตุ๊กำลังทำความเข้าใจการคิดบวก กับคำว่าหลอกตัวเองว่าเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ถึงได้ซื้อหนังสือมาอ่าน 2 เล่ม แต่เพิ่งได้อ่านเมื่อวานนี้เอง ความคิดตุ๊มี 2 อย่างเสมอเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ตั้งแต่มาอยู่กับสามีที่สวิสฯ ความรู้สึกแรกชีวิตต้องไม่รุ้งแน่ๆ ตั้งแต่เจอ พ่อแม่สามี ความคิดที่ 2 ไม่เป็นไร ชาวพุทธ ทำดีได้ดี จะเกือบ 2 ปี มันเหมือนสะสม มีสามีเป็นตัวป้องกัน แต่เมื่อสามีตอนนี้ก็คงหมดปัญญาป้องกันเรา มันเหมือนทุกอย่างระเบิดออกมา มีแต่เรื่องเลวร้ายอยู่ในหัว หาทางออกยังไม่ได้ บอกไม่ถูกจริงๆพี่ต่าย แต่เรื่องดื่มไม่ให้ลูกเห็น ดื่มตอนลูกไปโรงเรียน ดื่มแล้วนอนหลับ ตื่นทำหน้าที่แม่ เมีย และไปเรียนแบบมึนๆ กลับจากเรียน ทำอาหารเย็นเสร็จ แอบดื่มตอนทำกับข้าว เมาแล้วนอน เป็นแบบนี้มาหลายอาทิยต์แล้วพี่ต่าย ดีขึ้นเมื่อวาน แต่ก็ยังนอนไม่หลับ และตั้งใจแล้วคงไม่ทำแบบนั้นอีก ยังมีพี่ๆ น้องๆ อยู่ไม่รู้จักกันตัวต่อตัว ยังดีกว่าคนใกล้ตัวซ่ำเติม สัญญาค่ะพี่ต่าย ตุ๊จะดีขึ้น ในเร็วๆ นี้ สู้ สู้

มองถูก ทุกข์คลาย

มองอะไร ให้เห็น เป็นครูสอน
มองไม้ขอน หรือมองคน ถ้าค้นหา
มีสิ่งสอน เสมอกัน มีปัญญา
จะพบว่า ล้วนมีพิษ อนิจจัง
จะมองทุกข์ หรือมองสุข มองให้ดี
ว่าจะเป็น อย่างที่ เรานึกหวัง
หรือเป็นไป ตามปัจจัย ให้ระวัง
อย่าคลุ้มคลั่ง จะมองเห็น เป็นธรรมดา
มองโดยนัย ให้มันสอน จะถอนโศก
มองเยกโยก มันไม่สอน นอนเป็นบ้า
มองไม่เป็น จะโทษใคร ที่ไหนมา
มองถูกท่า ทุกข์ก็คลาย สลายเอง ฯ

<span style='color:red'>น้องป้อม</span> ขอบคุณจริงๆ มันช่วยพี่ ให้มีสติขึ้นมาได้อีก หายไปนาน คิดถึงนะ รีบมาเปิดห้องสมุดเสียดีๆ เอาธรรมะมาด้วยยิ่งดี ตอนนี้ความอ้วนเป็นรอง เอาสุขภาพจิตไว้ก่อน สู้ สู้

ตื่นเช้าขึ้นมา เข้ามาแวะหาพี่ตุ๊
กำลังตกอยู่ในหลุมดำ งั้นน้องลงมานั่งเป็นเพื่อนนะจ้ะพี่ฮี่ๆๆๆ
ถึงจะช่วยจูงพี่ตุ๊ขึ้นจากหลุมไม่ได้(หนักตรูดไง ก๊ากกกกกกก)
แต่เป็นเพื่อนแก้เหงาได้น๊า 555ตลกโปกฮาล่ะงานถนัด

<span style='color:red'>แม่น้องแตงโม</span> ไม่ต้องลงมานะ พี่ตุ๊กำลังจะขึ้นไปได้แล้ว ขอเวลาอีกนิด หนักตูดน่ะ 555 แม่มดน้องแตงโม ดูทีไรป้าตุ๊ก็อยากกัดแก้มกลมๆจังเลย อย่าให้เจอตัวเป็นๆ นะ โดนแน่
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย Tuta Schweiz » อังคาร พ.ย. 03, 2009 8:36 pm

ไทยแท้แท้ เขียน:หนูตุ๊ ถ้าเราไม่ยืนขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเอง ก็จะไม่มีใครปกป้องเราได้ ถ้าเรามีทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ในประเทศเขาอย่างถูกกฎหมาย พี่ขอแนะนำให้หนูตุ๊ปรึกษาทนายด่วนเลย เริ่มทำ research มองหาองค์กรสำหรับช่วยเหลือผู้หญิงแบบที่เขาทำเพื่อการสงเคราะห์ ไปปรึกษาเขา เล่าให้เขาฟังถึงสถาณการณ์ที่เมียเก่ายังไม่ยอมเลิกรา และหากต้องเกิดการหย่าร้างกันขึ้น ทางตุ๊จะทำอย่างไรที่จะไม่ให้เสียเปรียบ อย่าปล่อยให้เขามาทำกับเราแบบนี้นะ หนูตุ๊ไม่ใช่สิ่งของ ใช้เบื่อแล้ว นึกจะทิ้งก็ทิ้งกันง่ายๆ คิดว่าเราเป็นผู้หญิงต่างชาติต่างภาษาโง่เขลาเบาปัญญาหรือไง ลุกขึ้นสู้ ให้เขารู้ว่า เฮ้ย... ผู้หญิงไทยไม่ใช่จะปล่อยให้ใครมาข่มเหงรังแกกันได้ง่ายๆนะโว๊ย แหม พูดแล้วของขึ้น จำไว้ว่า ผู้ชายน่ะ ถ้าเขาไม่รักเรา เราจะอยู่กับเขาไปทำไม จะไปนั่งรับใช้พ่อแม่พี่น้องเขาไปทำไม สู้เราตัดสินใจเดินออกมา หาหนทางชีวิตที่ดีกว่า ไม่ดีหรือ คนเรามีชีวิตอยู่ชีวิตเดียว จะไปปล่อยให้จมอยู่กับสถาณการณ์ที่ไม่เป็นผลดีกับเราไปตลอดชีวิตได้หรือ

ส่วนเรื่องลูกน่ะ เพราะอะไรเขาถึงไม่ฟังเรา อาจจะเป็นเพราะเขาอยู่ในอารมณ์วัยรุ่นหรือเปล่า หาเวลาที่ทั้งเราและเขาอารมณ์ดีๆด้วยกันทั้งคู่ พูดคุยกับเขา ถามดูว่าเขามีปัญหาอะไรที่โรงเรียนหรือที่บ้านหรือเปล่า ให้เขารู้ว่าเรารักเขาที่สุด และเรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของเขาในทุกเรื่อง เขาอยากพูดอยากระบายอะไร เราก็เป็นที่พึ่งของเขาได้ ลูกสาวตุ๊น่ะ เขาโตพอที่จะรู้ได้ถึงปัญหาในครอบครัวที่กำลังเป็นอยู่ เขาอาจจะกลุ้มใจ ไม่รู้จะพูดกับใคร เดี๋ยวพาลหันไปหายาเสพติดเข้าจะยิ่งยุ่งเลย หนูตุ๊ต้องระวังให้มากๆในเรื่องนี้ พี่ว่าหาหนทางแก้ปัญหาเรื่องลูกก่อนเลยดีกว่า สำคัญกว่าเรื่องปั๋ว เพราะยังไงๆก็ต้องเป็นแม่ลูกกันไปชั่วชีวิต ส่วนไอ้ปั๋วน่ะ โบราณเขาว่า ก้าวขาลงบันไดไปก็อาจจะกลายเป็นปั๋วคนอื่นไปแล้ว

<span style='color:red'>พี่ต่าย</span>
ตุ๊หาทางปรึกษากลุ่มหญิงไทยเพื่อหญิงไทยในสวิสฯ ตั้งแต่ตุ๊รู้ว่ามีสิ่งไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกับตุ๊ แต่สามีไม่รู้หรอก ก่อนอื่นตุ๊ก็พยายามทำตัวให้ทุกคนรู้ว่าตุ๊เป็นภรรยาของสามีโดยเสนอหน้าไปทำงานในร้านทั้งๆ พ่อแม่ก็ไม่ยอมรับและภรรยาเก่าก็ยังมาทำงาน กับสามีก็ครบกันนานถึงแต่ง และเค้าได้บอกทุกอย่างเกี่ยวกับภรรยาว่าเลิกกันนานแล้ว แต่ก็ยังอยู่ทำงาน และภรรยาเก่าก็กำลังจะแต่งงานใหม่ ตุ๊ถึงได้แต่งกับสามีมาอยู่สวิสฯ มั่นใจว่า สามีรักเราจริง เพราะครบกันประมาณ 3-4 ปีถึงแต่ง แต่ด้วยความที่เราไม่มีใคร นอกจากสามี ทางโน้นจะใส่ร้ายอย่างไรเราไม่รู้ รู้แต่ว่าทุกครั้งที่ลงไปช่วยสามีที่ร้านจะต้องมีปัญหากันทุกทีกับสามี ตุ๊รู้สึกตุ๊ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมของเค้า ไม่ใช่เป็นที่ตัวเรา มั่นใจร้อยเปอร์เซ็น ไปขอทำงานกับพ่อแม่วันแรกเค้าแกล้งให้ไปทำแคซเชียร์เลย เราก็พูดได้แต่อังกฤษ ภาษาเยอร์มันก็ได้นิดหน่อย แต่ที่สวิสฯ เค้าใช้ ภาษาสวิสฯ ของเค้า และภาษาฝรั่งเศส ปัญหาก็แก้มาได้เรื่อยๆ ลูกค้าบางกลุ่มก็ยอมรับเราและคอยสอนภาษาให้เราเวลาพูดเยอรมันผิด ยิ่งเราทำงานได้ ภรรยาเก่าก็เริ่มร้อนตูด ละครน้ำเน่าก็เริ่มมา ไม่รู้จะจบตอนไหนเลยพี่ต่าย แต่ตุ๊ก็หาทางไว้แล้วตั้งแต่มาอยู่ได้ครึ่งปีเพราะดูแล้วมันไม่ถูกต้อง แต่อดทนมองทุกอย่างช้าๆเพราะสามียังเข้าใจอยู่ถ้าคุยกันเค้าก็พอจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่สวิสฯ ถึงก่อนกลับเมืองไทยตุ๊สามารถเข้มแข็งอยู่ได้เพราะคิดว่ามีสามีที่รักและเข้าใจเรา แต่คำพูดของเค้าตอนที่ขอกลับก่อนมันไม่เหลือความคิดให้คิดไปในทางที่ดีเลย นอกจากถ้าจะให้ตัวเองและลูกอยู่ต่อและหาทางอื่นต่อไป ต้องกลับไปสวิสฯอีก เพราะลูกยังเรียนไม่จบ ป6 ทางโรงเรียนที่สวิสฯ ก็ไม่มีเอกสารอะไรให้เรา และตุ๊เป็นห่วงลูก อยากให้ลูกได้พื้นฐานภาษาก่อน ตอนนี้เค้า อยู่ ป5 ตอนนี้กำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสอีกภาษาหนึ่ง อายุจะ 11 ขวบ มกราคมปีหน้า เรื่องลูกไม่อยากพูดถึงคิดว่าเป็นเพราะ โรงเรียนที่สวิสฯเค้าสอนให้เด็กเก่ง มีความมั่นใจในตัวเอง ตุ๊คงติดการอบรมแบบไทยๆ เลยอยากสอนลูกให้เป็นเด็กไทย ปัญหาเรื่องลูกอย่างไรก็ทนได้เพราะเป็นลูก ตุ๊ทำอะไรไม่ได้มากก็เพราะลูกนี้แหละ พี่ต่าย
ตอนนี้ตุ๊ต้องปรึกษาและหาข้อมูลกับคนไทยที่อยู่ที่นี่(อำเภอที่ตัวเองอยู่)เรื่องกฏหมาย และสิทธิของหญิงไทยที่อยู่ที่สวิสฯ ทั้งเรื่องงาน เรื่องอยู่ต่อและไม่อยู่ต่อ
แต่2-3 อาทิยต์ที่ผ่านมาย้อมรับว่าตุ๊ผิดพลาดจริงๆ ไม่เป็นไรลุกใหม่ได้
<span style='color:blue'>ขอบคุณพี่ต่าย</span>ค่ะ ที่ทำให้ตุ๊เป็นนักสู้อีกทางหนึ่ง นอกจากสู้กับความอ้วนแล้ว
ส่วนไอ้ปั๋วน่ะ โบราณเขาว่า ก้าวขาลงบันไดไปก็อาจจะกลายเป็นปั๋วคนอื่นไปแล้ว ถูกใจจังพี่ต่าย ตุ๊ก็คิดคล้ายๆแบบนี้แหละ ถึงได้ซื้อหนังสือแปล ของการะแมมา ชื่อหนังสือ "หญิงร้าย ชายรัก" ยังไม่ได้อ่านเลย แต่ก็แอบร้ายไปแล้วหละ 555

<span style='color:red'>น้องพัด</span> ขอบคุณจ้า ตอนนี้ตาสว่างแล้ว ต่อไปก็ใจคงสว่างในไม่ช้า พี่ขอสัญญา ได้ข่าวจะกลับเมืองไทยอีกเหรอ โอ๊ย ตาร้อน อยากกลับอีก ไปเจอพี่ๆ ครัวคลีนิคเรา พี่ไปช่วงปลายเดือนตุลา ไปเล่นน้ำที่ระยอง ไม่สนุกเลยฝนตกทุกวัน เอาไว้ถูก Lotto จะตามไป OK
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย chiangmai » อังคาร พ.ย. 03, 2009 9:34 pm

ถูกใจกะคำพูดขอพี่ต่ายค่ะ ผู้ชายลองลงบันไดบ้านไปแล้ว ก็เป็นคนอื่น ขอให้พี่ตุ๊เข็มแข็งค่ะ หนูรู้ว่าพี่สู้ได้อยู่แล้ว หนูว่าครอบครัวหนูปัญหามากมายแล้วเทียบไม่ได้กับของพี่ตุ๊ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้พี่ตุ๊ค่ะในเมื่อสามีมันไม่ได้เป็นกำลังใจหรืออยู่เคียงข้างเรา ก็ไม่ต้องไปอยู่ให้ปวดใจค่ะพี่ตุ๊ แต่อีกในหนึ่งพี่ก็รักเขาใช่ไหมค่ะ แต่พี่ไม่มีลูกกับเขาด้วย พี่ลองชั่งใจและชั่งอีกหลายๆๆอย่างดูว่าเราจะอยู่ในสภานะการณ์แบบนี้อีกต่อไปได้ไหม ในเมื่อเราทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้วแต่เขาไม่เห็นค่าอะไรสู้ไปอยู่บนล่ำแข่งตัวเอง ภูมิใจกว่าเยอะค่ะพี่ ให้เขาได้รู้สึกว่าเสียสิ่งที่มีค่าไปแล้วจะเสียใจ สำหรับสถานะการบ้านหนู มันมีลูกด้วยกันเป็นพันธะ เขาก็รักลูกมาก(เพราะไม่เคยมีลูกมาก่อน) ก็เลยลองพยายามปรับตัวเวลาทะเลาะกันก็พยายามจับเขาเอ้ย....เข่าคุยกัน เพื่อพยายามแก้ปัญหาให้ได้ ก็เคยมีพูดกันบ้างถ้าไม่มีลูกปานนี้เปิดไปตั้งนานแล้ว ขอให้พี่สู้ค่ะ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆๆไปสร้างฐานของเราดีกว่า ไม่แน่อาจจะมีเจ้าชายรออยู่ข้างหน้า เจ้าชายที่เห็นค่าของเราและรักเราไม่ใช่หูเบาเชื่อคนอื่นมากไปโดยไม่ได้พยายามตรึกตรองก่อน เป็นกำลังใจให้พี่นะคะ

เรื่องลูกสาว ก็พยายามคุยกับเขาอีกทีหนึ่งค่ะ ว่ามันมีปัญหาอะไรหรือเปล่าหรือลองคุยปรับความเข้าใจเราคนไทย คนเป็นลูกควรจะเชื่อฟังพ่อแม่ ทุกวันนี้ลูกหนูต้องอยู่ในกรอบค่ะ เพราะหนูกะสามีหัวโบราณมากไม่ตามใจลูกหรือปล่อยให้ลูกแหกปากใส่ค่ะ อยู่ในกรอบแต่ไม่ได้จะตึงอะไรมากค่ะ

เป็นกำลังใจให้พี่ผ่านพันเหตุการณ์พายุโจมตีเร็วนะคะพี่ สู้ค่ะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ครอบครัวสุขสันต์เบนด้าจ๊า</span></span><br><img src='http://davm.daisypath.com/UcKQm9.png' border='0' alt='user posted image' /><br><img src='http://lbym.lilypie.com/A05om9.png' border='0' alt='user posted image' /><br><img src='http://lbym.lilypie.com/e6Lvm9.png' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://lb5m.lilypie.com/U6N7m9.png' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
chiangmai
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1034
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 12:42 am

โพสต์โดย ไทยแท้แท้ » อังคาร พ.ย. 03, 2009 10:40 pm

อืม... อันนี้พี่ก็เข้าใจนะว่า ถ้ามันจะต้องทนเพื่ออนาคตลูกเรา มันก็ต้องทนจนถึงที่สุด แต่ระหว่างที่ทนนี่ ก็อย่ายอมให้หน้าไหนมันมาเหยียบย่ำน้ำใจกันให้เกินไป ลุกขึ้นตอกมันกลับไปบ้าง จะพ่อผัวแม่ผัว เมียเก่าผัว หรือแม้แต่ผัวเองก็เถอะ ถ้าไม่รักษาน้ำใจกันบ้าง ก็ลุกขึ้นร้ายมันให้ถึงที่สุดไปเลย อ้าว... อันนี้จริงๆนะ บางทีมันก็ต้องเอาเกลือจิ้มเกลือบ้าง ม่ายงั้นพวกที่มันไม่หวังดีกับเรา มันก็จะได้ใจกันใหญ่ คิดว่าเราเป็นลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด เอ... นี่พี่มาสอนให้น้องบู๊ไปหน่อยเปล่าเนี่ย อิ อิ

ดีแล้วนะ ที่ตุ๊เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเอง แต่ตุ๊เคยคุยกับสามีอย่างเปิดอกกันหรือยัง ตั้งแต่เขาพูดแบบนั้นกับตุ๊ที่เมืองไทย ถ้ายังก็ควรนะ อย่างที่หนูตุ๊กตาเขาแนะนำ มันจะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจให้เราเก็บเอาไปคิดมากอยู่คนเดียว พี่ว่ามันก็ถึงเวลาแล้วที่จะพูดกันให้รู้เรื่องไปเลย ว่าเราสองคนผัวเมียจะเอาไงกันดี จะอยู่หรือจะไป ยังรักกันอยู่หรือเปล่า และไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไง ก็หันหน้าเข้าหากันจัดการกับปัญหาที่จะตามมาจากการตัดสินใจของทั้งสองคน ถ้าจะจากกัน ก็ให้จากกันอย่างมิตรจะดีกว่า

ส่วนเรื่องลูกนั้นนะ สิ่งหนึ่งที่พี่ชอบในระบบโรงเรียนและวัฒนธรรมของฝรั่ง ก็คือเขาสอนให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง กล้าพูดกล้าถาม เห็นอะไรที่เขาคิดว่าไม่ถูก ก็พูดได้แยังได้ หากสิ่งที่เขาแย้งมาไม่ถูกต้อง พ่อแม่ก็ต้องอธิบายให้เขาฟังดีๆ ไม่เหมือนวัฒนธรรมของคนไทย ที่มักจะสอนให้เด็กทำตามผู้ใหญ่ในทุกเรื่อง ไม่มีสิทธิออกความเห็นใดๆทั้งสิ้น พ่อแม่บอกให้ทำอะไรก็ต้องทำตาม ไม่มีสิทธิโต้เถียงเลย อันนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเด็กเขาก็มีความคิดความเห็นของเขาเหมือนกัน ซึ่งเราก็ควรต้องรับฟังเขาด้วย การอบรมลูกให้มีความเคารพในผู้ใหญ่ มีมารยาท มีสัมมาคารวะนั้นถูกต้อง ชาติไหนภาษาไหนก็ต้องมี แต่อย่าบังคับเขาในทุกเรื่องทุกอย่าง ต้องใช้เหตุผลที่ดีสอนเขาพูดกับเขา ตุ๊อาจจะต้องปรับความคิดในเรื่องการอบรมลูกบ้าง จะให้เหมือนสมัยที่พ่อแม่เลี้ยงเรามานั้นมันไม่ได้แล้ว และยิ่งเขาจะต้องโตขึ้นมาในวัฒนธรรมตะวันตกอย่างนี้ จะไปอบรมแบบไทยๆร้อยเปอร์เซ็นต์มันคงจะเป็นไปไม่ได้นะ เด็กสมัยนี้โตเร็ว เรียนรู้ได้เร็วกว่าสมัยก่อนมากนัก คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยด้วย
<br><span style='font-family:Times'><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"It does not matter how slowly you go as long as you do not stop."</span></span></span> — <i>Confucius</i>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ไทยแท้แท้
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1088
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 13, 2007 11:13 pm

โพสต์โดย rattikal » อังคาร พ.ย. 03, 2009 11:03 pm

้พี่ตุ๊คะ หนูเป็นกำลังใจให้อีกแรงค่ะ สู้ ๆ นะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rattikal
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 10, 2007 10:53 am

โพสต์โดย tewatera » พุธ พ.ย. 04, 2009 1:03 am

ตั้งต้นค้นหาความสุข ทางใจ
อ่านหนังสือ ของ หนูดี บทที่ 6 ว่าด้วย "ก่อนรักใคร ให้รักตัวเอง"
อ่านได้ 2 หน้าตอนนั่งรถไฟไปเรียน
เป็นการยกตัวอย่างที่เข้าใจได้สุดยอดมากๆ คือ ให้นึกถึงเวลาเรานั่งเครื่องบิน เค้าจะมีหนังสือ และหนังสาธิตวิธีการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินกลางอากาศ .... ให้นึกถึงตอนมีหน้ากากออกซิเจนหล่นลงมาตรงหน้าเรา หน้าที่เราคือใส่หน้ากากให้ตัวเอง แต่ถ้าเรานั่งอยู่ข้างเด็กล่ะ เราต้องใส่ให้ตัวเองก่อนเสมอ แล้วจึงใส่ให้เด็ก ฯลฯ
บทความจากหนังสือทำให้หันมามองตัวเอง ว่าวันนี้เราทำตัวเราให้มีค่าหรือยังรักษาชีวิตเราเต็มที่หรือยัง แล้วลูกที่อยู่กับเราตลอดเวลาจะเป็นอย่างไร ถ้าเราเป็นอะไรไป
วันนี้โชคดี เพิ่มความเข้มแข้งขึ้นมาอีกครั้ง ความกดดันมีมาทุกวันไม่ต้องพูดถึงมัน

เห็นด้วยกับความคิดนี้จ๊ะ
<span style='color:red'>ก่อนรักใคร ให้รักตัวเอง</span> ต้องรักตัวเองให้มากๆนะพี่ตุ๊นะ
ไม่อย่างนั้น เราคงไม่มีพลังแรงกาย แรงใจที่จะไปรักใครใครหรือดูแลใครได้
....เป็นพลังใจอยู่ข้างๆ(อย่างไกลๆ)นะคะ...
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'><b>ความสุขอยู่ใกล้แค่ใจเรา</b></span></span><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl7.glitter-graphics.net/pub/517/517117grkpbyjcvm.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tewatera
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 699
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:58 pm

โพสต์โดย Jeab77 » พุธ พ.ย. 04, 2009 4:09 am

I dreamed a dream
ฉันฝันว่ามีความฝัน
I dreamed a dream in time gone by
When hope was high,
And life worth living
I dreamed that love would never die
I dreamed that God would be forgiving.
ฉันฝันถึงความฝันในอดีตที่ผ่านมา
ยามที่ความหวังยังคงสูงส่ง
และชีวิตมีคุณค่าแก่การดำรงอยู่
ฉันฝันถึงความรักที่จะไม่สูญสลาย
ฉันฝันถึงพระเจ้าที่กำลังให้อภัย
Then I was young and unafraid
When dreams were made and used,
And wasted
There was no ransom to be paid
No song unsung,
No wine untasted.
ยามที่ฉันยังเด็กและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
ยามที่ฝันถูกสร้างและใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์
ยามที่ไม่มีหนี้สินค่าไถ่ที่จะต้องจ่าย
ยามที่ไม่มีเพลงไหนไม่เคยถูกร้อง
ยามที่ไม่มีไวน์สักขวดที่ไม่เคยถูกลิ้มลอง
But the tigers come at night
With their voices soft as thunder
As they tear your hopes apart
As they turn your dreams to shame.
แต่ฝูงเสือก็พากันมายามค่ำคืน
และด้วยเสียงของพวกมันที่นุ่มเบาประหนึ่งเสียงสายฟ้าฟาด
มันก็ฉีกทำลายความหวังเราออกจากกัน
และมันก็ได้แปลเปลี่ยนความฝันของเราให้เป็นความอดสู
And still I dream he’ll come to me
And we will live our lives together
But there are dreams that cannot be
And there are storms
We cannot weather…
และฉันยังคงฝันว่าเค้าจะต้องมาพบฉัน
และเราจะอยู่ร่วมกันจนตราบชั่วชีวิต
แต่ก็มีความฝันบางอย่างที่ไม่อาจเป็นจริง
และมีบางครั้งที่เราไม่สามารถจะคาดการณ์พายุและฟ้าฝนได้
I had a dream my life would be
So different from this hell I’m living
So different now from what it seems
Now life has killed
The dream I dreamed.
ฉันเคยฝันว่าชีวิตจะต้อง
แตกต่างจากนรกที่ฉันกำลังอยู่นี้
แตกต่างจากปัจจุบันที่มันเป็น
บัดนี้ชีวิตของฉันได้ทำลาย
ความฝันที่ครั้งหนึ่งฉันเคยฝันไปหมดแล้ว
มาใหม่ไม่มีอะไรมาฝากนอกจาก เนื้อเพลงดีๆ ที่ ป้าซูซาน ร้องใน Britains Got Talent
<span style='color:blue'>[COLOR=red]สวัสดีค่ะพี่ตุ๊ ขอเรียกพี่ตุ๊นะคะ เจี๊ยบค่ะ เคยเป็นสมาชิคชมรมแม่ครัวไม่กลัวอ้วน แต่ได้หายหัวไปนานมากกกก นานมากๆเลย ขอกราบอภัยพี่ๆทุกคนในที่นี้ที่หายไปนาน หายหัวไป ไม่ไช่อะไร ก้อคือปัญหาของชืวิต หนักมากๆถึงต้องหายไป หายไปหลายเดือนไปทำอะไร ไปตั้งตัวและรักษาหัวใจค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซนดี ก้อเหมือนกับพี่ๆและน้อง เพื่อนๆในที่นี้ที่เข้ามาไห้กำลังใจพี่ตุ๊คะ เข้ามาไห้กำลังใจ เพราะเรื่องพี่ตุ๊คล้ายๆกะของเจี๊ยบ อยากบอกว่าปัญหาบางอย่างถ้ามันแก้ไม่ได้ก้อปล่อยมันเถอะค่ะ บ้างอย่างแก้ได้แต่ต้องใช้เวลา สำคัญที่ว่าตัวเราต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเอง และลูก ไม่มีคำแนะนำสำหรับลูกเพราะตัวเจี๊ยบเองยังจะไม่รอดเลยเรื่องลูก แต่พยายามอยู่ แอบไปก๊อปเพลงข้างบนของพี่ตุ๊เองมาไห้พี่ตุ๊ จำได้มั้ยคะเพลงนี้พี่โพสไว้ตอนมาเนะนำตัว มาแค่นี้ล่ะคะเพราะไม่รู้จะพูดอะไรไห้พี่ดีขึ้น แก้ปัญหาไปทีละอย่างนะคะ พิสูจไห้เค้าเห็นว่าเราเข้มแข็งและก้ออยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเค้า</span>
<img src='http://i604.photobucket.com/albums/tt123/Jeab77/Picture074-2.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeab77
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2058
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 03, 2009 4:57 pm
ที่อยู่: Ohio,USA

โพสต์โดย MissMo » พุธ พ.ย. 04, 2009 3:35 pm

พี่ตุ๊กลับบมาแล้ว ดีใจจัง ไปทำงานก่อนนะคะแล้วตอนเย็นจะกลับมาไล่อ่านทั้งหมด ตอนนนี้มีเวลาบอกได้แค่ว่าดีใจที่พี่ตุ๊กลับมาค่ะ
<img src='http://tickers.TickerFactory.com/ezt/t/whgLQlZ/weight.png' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-family:Impact'><b><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"แม้จะเดินช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปไม่ถึง"</span></span></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
MissMo
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 631
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 11:42 pm

โพสต์โดย MissMo » พุธ พ.ย. 04, 2009 3:37 pm

Jeab77 เขียน: I dreamed a dream
ฉันฝันว่ามีความฝัน
I dreamed a dream in time gone by
When hope was high,
And life worth living
I dreamed that love would never die
I dreamed that God would be forgiving.
ฉันฝันถึงความฝันในอดีตที่ผ่านมา
ยามที่ความหวังยังคงสูงส่ง
และชีวิตมีคุณค่าแก่การดำรงอยู่
ฉันฝันถึงความรักที่จะไม่สูญสลาย
ฉันฝันถึงพระเจ้าที่กำลังให้อภัย
Then I was young and unafraid
When dreams were made and used,
And wasted
There was no ransom to be paid
No song unsung,
No wine untasted.
ยามที่ฉันยังเด็กและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
ยามที่ฝันถูกสร้างและใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์
ยามที่ไม่มีหนี้สินค่าไถ่ที่จะต้องจ่าย
ยามที่ไม่มีเพลงไหนไม่เคยถูกร้อง
ยามที่ไม่มีไวน์สักขวดที่ไม่เคยถูกลิ้มลอง
But the tigers come at night
With their voices soft as thunder
As they tear your hopes apart
As they turn your dreams to shame.
แต่ฝูงเสือก็พากันมายามค่ำคืน
และด้วยเสียงของพวกมันที่นุ่มเบาประหนึ่งเสียงสายฟ้าฟาด
มันก็ฉีกทำลายความหวังเราออกจากกัน
และมันก็ได้แปลเปลี่ยนความฝันของเราให้เป็นความอดสู
And still I dream he’ll come to me
And we will live our lives together
But there are dreams that cannot be
And there are storms
We cannot weather…
และฉันยังคงฝันว่าเค้าจะต้องมาพบฉัน
และเราจะอยู่ร่วมกันจนตราบชั่วชีวิต
แต่ก็มีความฝันบางอย่างที่ไม่อาจเป็นจริง
และมีบางครั้งที่เราไม่สามารถจะคาดการณ์พายุและฟ้าฝนได้
I had a dream my life would be
So different from this hell I’m living
So different now from what it seems
Now life has killed
The dream I dreamed.
ฉันเคยฝันว่าชีวิตจะต้อง
แตกต่างจากนรกที่ฉันกำลังอยู่นี้
แตกต่างจากปัจจุบันที่มันเป็น
บัดนี้ชีวิตของฉันได้ทำลาย
ความฝันที่ครั้งหนึ่งฉันเคยฝันไปหมดแล้ว
มาใหม่ไม่มีอะไรมาฝากนอกจาก เนื้อเพลงดีๆ ที่ ป้าซูซาน ร้องใน Britains Got Talent
<span style='color:blue'>[COLOR=red]สวัสดีค่ะพี่ตุ๊ ขอเรียกพี่ตุ๊นะคะ เจี๊ยบค่ะ เคยเป็นสมาชิคชมรมแม่ครัวไม่กลัวอ้วน แต่ได้หายหัวไปนานมากกกก นานมากๆเลย ขอกราบอภัยพี่ๆทุกคนในที่นี้ที่หายไปนาน หายหัวไป ไม่ไช่อะไร ก้อคือปัญหาของชืวิต หนักมากๆถึงต้องหายไป หายไปหลายเดือนไปทำอะไร ไปตั้งตัวและรักษาหัวใจค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซนดี ก้อเหมือนกับพี่ๆและน้อง เพื่อนๆในที่นี้ที่เข้ามาไห้กำลังใจพี่ตุ๊คะ เข้ามาไห้กำลังใจ เพราะเรื่องพี่ตุ๊คล้ายๆกะของเจี๊ยบ อยากบอกว่าปัญหาบางอย่างถ้ามันแก้ไม่ได้ก้อปล่อยมันเถอะค่ะ บ้างอย่างแก้ได้แต่ต้องใช้เวลา สำคัญที่ว่าตัวเราต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเอง และลูก ไม่มีคำแนะนำสำหรับลูกเพราะตัวเจี๊ยบเองยังจะไม่รอดเลยเรื่องลูก แต่พยายามอยู่ แอบไปก๊อปเพลงข้างบนของพี่ตุ๊เองมาไห้พี่ตุ๊ จำได้มั้ยคะเพลงนี้พี่โพสไว้ตอนมาเนะนำตัว มาแค่นี้ล่ะคะเพราะไม่รู้จะพูดอะไรไห้พี่ดีขึ้น แก้ปัญหาไปทีละอย่างนะคะ พิสูจไห้เค้าเห็นว่าเราเข้มแข็งและก้ออยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเค้า</span>

เจี๊ยบ หายheadไปไหนมานะตะเอง โมคิดว่าเจี๊ยบยุ่ง ๆ เรื่องย้ายประเทศก็เลยไม่มีเวลา คิดถึงนะจ๊ะ
วันนี้ดีแฮะ เข้ามาก็เจอทั้งพี่ตุ๊ทั้งเจี๊ยบเลย lucky dayจริง ๆ
<img src='http://tickers.TickerFactory.com/ezt/t/whgLQlZ/weight.png' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-family:Impact'><b><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"แม้จะเดินช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปไม่ถึง"</span></span></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
MissMo
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 631
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 11:42 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » พุธ พ.ย. 04, 2009 9:26 pm

บันทึก
ตั้งต้นค้นหาความสุข <span style='color:blue'>ทางกาย</span>
ตื่นตี 5 อ่านหนังสือเรียนภาษา
06:00
-กล้วยหอม 2 ลูก
-น้ำเปล่า 1 แก้ว

06:50
-ออกกำลังกายกับ Wii fit 46 นาที ไม่ถึงกับเหนื่อยแต่ได้ยืดเส้นยืดสาย ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดี

09:00
-แซนวิทขนมปังโฮลวีต ทูน่า 2 ชิ้น
-กาแฟ 1 แก้ว

12:00
-ต้มจืดไก่สับ
-ข้าวแดงหุงผสมกับข้าวมะลิ 1 ทัพพี
-ผัดผักรวม นิดหน่อย

15:00
-ลูกพลุนแห้ง 5 ลูก

18:20 หิ้ว
-ต้มจืดไก่สับ 1 ถ้วย
-ข้าวแดงหุงผสมกับข้าวมะลิ 1 ทัพพี
-ลุกแพร 2 ลูก

อิ้มแล้วจ้า ยังไม่มีอารมณ์ คำนวนแคลอรี่ กินแบบความเคยชิ้นเหมือนที่เคยกินมา ก็ยังไม่เบื่อ

ตั้งต้นค้นหาความสุข <span style='color:blue'>ทางใจ</span>
สนใจเรื่องเรียนให้มากขึ้น เพราะเสียเวลาไปกับดื่มและหลับมาหลายอาทิยต์แล้ว
เข้ามาอ่านกระทู้ รู้ว่าพี่ๆน้องๆต้องเอากำลังใจมาให้ และก็ทำให้มีความสุขทุกครั้ง
But there are dreams that cannot be
And there are storms
We cannot weather…
แต่ก็มีความฝันบางอย่างที่ไม่อาจเป็นจริง
และมีบางครั้งที่เราไม่สามารถจะคาดการณ์พายุและฟ้าฝนได้

<span style='color:red'>น้องเจี๊ยบ</span> ขอบคุณมาก ขนาดหายไปนานยังกลับมาให้กำลังใยพี่ การให้กำลังใจของเจี๊ยบมันก็จะต้องกลับไปด้วย การให้กำลังใจของพี่ตุ๊ด้วย สู้ สู้ นะเราจะสู้ชีวิตไปด้วยกันพี่ขอให้น้องเจี๊ยบมีความสุข และแก้ไขปัญหาต่างๆได้เร็วกว่าพี่นะ
<span style='color:red'>ติ๊กา</span> สวัสดีจ้า หายไปนานคิดถึงนะ ยกเวทไปถึงไหนแล้ว พี่ตุ๊บ้าไปยกแก้วไวน์ ตอนนี้เลยห่างยกเวท จะเริ่มใหม่ใน comming soon จ้า
ก่อนรักใคร ให้รักตัวเอง ต้องรักตัวเองให้มากๆนะพี่ตุ๊นะ
ไม่อย่างนั้น เราคงไม่มีพลังแรงกาย แรงใจที่จะไปรักใครใครหรือดูแลใครได้
....เป็นพลังใจอยู่ข้างๆ(อย่างไกลๆ)นะคะ...

<span style='color:red'>น้องเก๋</span> เป็นเภสัชจ่ายยาให้คนไข้หายป่วย แล้วยังจ่ายกำลังใจดีๆให้พี่ตุ๊อีก น้องได้บุญมากๆเลย จะทำตามเภสัชหญิงน้องเก๋ ไม่ดื้อเลย จริงๆไม่โม้

<span style='color:red'>น้องโม</span> พี่ตุ๊กลับมาแล้วกลับมาสู้รบกับไขมันให้มันตายกันไปข้างหนึ่ง และเราจะสู้ไปด้วยกัน
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย Tuta Schweiz » พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 8:32 pm

<span style='color:orange'>ลดความอ้วนสบายๆสไตล์กล้วย</span>
[ บทความคัดลอกจาก "กรุงเทพธุรกิจ" ]
พยายามไดเอ็ทหลายวิธีก็ไม่ผอมลงสักนิด สิ้นหวังแล้วนะ.. งั้นลองหยิบ "กล้วย" ใบน้อย เติมพลังให้เช้าวันใหม่ดู เชื่อหรือไม่ส่วนเกินจะหายไปในพริบตา

วิถีรับประทานกล้วยมื้อเช้าแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมถึงขนาดก่อตั้งชุมชนออนไลน์ (Social Networking Service) สำหรับคนกินกล้วยมื้อเช้ากันเลย (Mixi) และภายในเวลาสองปีครึ่งที่ผ่านมา พบว่า สมาชิกชุมชนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักถึง 300 คนแล้ว

พวกเขามีผู้นำชื่อ "ฮามาจิ" ผู้เปลี่ยนไดอารี่บันทึกวิธีลดน้ำหนักฉบับกล้วยมื้อเช้าให้เป็นพ็อคเกตบุ๊ก
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>สูตรไอเด็ทของเขาคือ กล้วยกี่ลูกก็ได้ตามใจอยาก + น้ำเปล่า เท่านั้นเอง</span></span>

เมนูนี้ “เหมาะเหม็ง” ที่สุดด้วยเหตุผลหลายประการ

มองไปทางไหน เรามักเห็นกล้วยเกลื่อนตลาดไปหมด จึงไม่ยุ่งยากเกินไปที่จะเสาะหามารับประทาน แถมราคายังถูกแสนถูก อาจให้กันฟรีๆ หรือกินทิ้งกินขว้างยังได้เลย

ยิ่งช่วงเวลาเช้า เหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องเร่งรีบกันอยู่แล้ว จะมีสักกี่คนที่สามารถปฏิบัติตามหลักโภชนาการที่ว่า มื้อเช้าสำคัญที่สุดบ้าง

ในเมื่อต้องการลดน้ำหนักแล้ว จงอย่าฝืนใจ หรืออดทนอดกลั้นทำตามกฎเคร่งครัดใดๆ ควรเอาเวลาไปกินมื้อเที่ยงให้อิ่มแปล้ และสังสรรค์มื้อเย็นกับเพื่อนโดยไม่อึดอัดใจกันดีกว่า

อีกอย่าง กล้วยไม่จำเป็นต้องหั่นปอกเปลือกเหมือนผลไม้ชนิดอื่น แค่ใช้มือปอกไม่กี่วินาทีก็กินได้แล้ว

กล้วยมื้อเช้าจึงโดนใจสาวกไดเอ็ท เพราะไม่เปลืองเงิน ไม่ต้องอด ไม่ต้องทน และไม่เสียเวลา

ฮามาจิ พบว่า การลดน้ำหนักสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหารในร่างกายของคนเรา ฉะนั้นการกินผลไม้อย่างเดียว ทำให้กระเพาะได้พักผ่อน ช่วยฟื้นฟูสภาพการทำงานของกระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย

หลังจากรับประทานผลไม้ไป 15-20 นาที ผลไม้จะเคลื่อนที่ไปสู่ลำไส้ และเริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ผักคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน จะใช้เวลาในการย่อยนานกว่า 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ส่วน “น้ำ” ที่เราดื่มตามไปติดๆ จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือด และของเหลวในร่างกายดีขึ้น ส่งผลดีต่อการขับของเสียออกจากร่างกาย

สรรพคุณของกล้วยใบน้อยถือเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

เมื่อกินกล้วย เราจะได้รับวิตามินบี1 และบี 2 เร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า รวมทั้งเกลือแร่ เช่น โปรแตสเซียม

ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ และแมกนีเซียม ช่วยควบคุมความดันเลือด และการทำงานของแคลเซียม อีกทั้งยังมีเส้นใย บรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แต่มักเป็นสารอาหารที่เรามักไม่ได้รับให้เพียงพอในแต่ละวัน

นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ในการขับพิษสูง เพราะแป้งในกล้วยดิบจะช่วยดีท็อกซ์ ส่วนกล้วยสุกช่วยเสริมภูมิต้านทานป้องกันหวัดได้ดี

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงคุณสมบัติพื้นฐาน

กล้วยยังมีสารโพลีฟินอล มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่ชะลอความแก่ และสารยูจินอล ซึ่งเป็นไฟโตเคมีคัล ที่ช่วยเร่งการพัฒนาสภาพร่างกาย

รวมถึงเซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิด และทำให้ความอยากอาหารลดลง ตลอดจนตัวเอ็นไซม์ช่วยย่อยในเนื้อกล้วยเอง ก็จะทำให้การย่อยเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นการประหยัดเอ็นไซม์ในร่างกาย ช่วยให้คลายความเหนื่อยล้าไปในตัว

น้ำตาลในกล้วย ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น และส่งผลให้ความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันลดลงไปโดยปริยาย

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น มีผลวิจัยว่ากล้วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ NK ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่จัดการมะเร็งได้ด้วย

ข้อดีขนาดนี้ ถึงเวลาใช้ชีวิตสไตล์กล้วยมื้อเช้าอย่างถูกวิธีกันแล้ว

เริ่มจากกินกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า จะกี่ลูกก็ได้ตามต้องการ เคี้ยวให้ละเอียด ปล่อยให้ลิ้นได้รับรสอร่อยของกล้วยอย่างเพลิดเพลิน

หลังจากกินเสร็จแล้วยังหิวอยู่ ให้เว้นระยะเวลา 15-30 นาที จึงรับประทานอย่างอื่น เช่น ข้าว หรือแอบอมลูกกวาดก็ได้ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าวันไหนเบื่อกล้วย หรือไม่ชอบกล้วยหอมจริงๆ จะเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นก็ได้ แต่ขอให้เป็นผลไม้ชนิดเดียวเท่านั้น เพื่อแบ่งเบาภาระของกระเพาะของเราไม่ให้เหนื่อยเกินไปที่จะผลิตน้ำย่อยกรดด่างต่างกัน แล้วตีกันให้ปั่นป่วน

มาถึงการดื่มเฉพาะน้ำเปล่า ณ อุณหภูมิห้อง และดื่มบ่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณ เดี๋ยวพานจะเครียดเปล่าๆ

จงดื่มเท่าที่พอใจ เพื่อให้ประสาทการรับรสดีขึ้น ซึ่งต่างจากน้ำดื่มที่มีรสชาติ มันจะทำให้ประสาทการรับรสแย่ลง ส่งผลให้เราต้องเพิ่มปริมาณอาหารโดยไม่จำเป็น

อีกทั้ง น้ำเปล่ายังไม่ต้องย่อยที่กระเพาะอาหารและลำไส้ จึงเป็นการปล่อยให้พวกมันได้เวลาพักไปในตัว

ส่วนมื้อกลางวัน จะกินอะไรก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียด กินให้เต็มที่ หากกั๊กไว้ เสี่ยงกินจุบกินจิบระหว่างวัน แผนการที่วางไว้ตั้งแต่ต้นจะล้มครืนลงทันที

พอถึงบ่ายสามก็กินของว่างได้บ้าง โดยเฉพาะของว่างประเภทข้าว ช็อกโกแลต หรือผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น

และกินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเวลาเหมาะสมจะอยู่ที่ 6 โมงเย็นแต่ไม่เกิน 2 ทุ่ม และพยายามกินให้เร็วขึ้นจากปัจจุบันสักครึ่งชั่วโมงจะดีมาก รวมทั้งไม่รับประทานของหวานหลังอาหารเย็น

หลังจากใส่ใจอาหารการกิน ก็ต้องนอนหลับให้ไวขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้ และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมจนเกินไป ทำให้พอเหมาะ เพื่อร่างกายสดชื่น แล้วสูตรกล้วยไดเอ็ทนั้นก็จะสัมฤทธิผลดั่งใจ

ส่วนผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจต้องกลับไปทบทวนกันสักนิดว่า นอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เหนื่อยล้าตลอดเวลา พึ่งยาเป็นประจำ เครียดมาก และเคยลองไดเอ็ทแบบไม่กินคาร์โบไฮเดรตมาแล้วหรือไม่

หากเป็นเช่นนั้น ลองปรับพฤติกรรมเสียใหม่ ก็ยังไม่สายเกินไปนัก

สำหรับข้อเสียจากวิธีลดน้ำหนักด้วยกล้วยมื้อเช้านั้น นอกจากจะเบื่อหน่ายบ้าง เพราะกินได้แค่กล้วยกับน้ำ แถมมื้อดึกต้องกินเพียงผลไม้เท่านั้น และเข้านอนก่อนเที่ยงคืนด้วย

และอาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะบางคนแพ้ยางกล้วย หรือแพ้กล้วยจนเกิดอาการคัน หรือมีผื่นแดง กับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่กำลังป่วยอยู่

แต่ยังไง ไดเอ็ทก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ.

จะลองสวยเพราะกล้วยอีกครั้ง
รายงานบันทึกการกินยกไปพรุ่งนี้ ตอนนี้ง่วงขอไปกินกล้วย อุ๊ย¨! ไม่ใช่ไปนอนก่อนเพราะปวดหัวนิดๆ บาย
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย ยายหนู » พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 11:40 pm

งั้นลองหยิบ "กล้วย" <span style='color:red'>ใบน้อย</span> เติมพลังให้เช้าวันใหม่ดู
โดยจายยยยย....อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » ศุกร์ พ.ย. 06, 2009 6:11 am

บันทึก การกิน(ย้อนหลัง วันที่ 5/11/09)
ตื่น 6:00
06:50
-กล้วยหอม 2 ใบ
-น้ำเปล่า 1 แก้ว
-ชาอุ่นๆ 1 แก้ว

07:30-08:20
-ยกดัมเบลล์ น้ำหนักข้างละ 3 กก. สลับกับ ข้างละ 5 กก. ประมาณ 20 นาที
-cardio อีก 20 นาที

09:00
-ต้มจืดไก่สับ(เหลือจากเมื่อวาน)
-ขนมปังธัญพืช เยอะเหมือนกัน
-ลูกแพร 1 ลูก

11:50 รีบกินก่อนวันนี้ต้องไปเรียนเร็ว
-ข้าวแดงหุงผสมกับข้าวมะลิ 1 ทัพพี
-ผัดเปรี้ยวหวานไก่
-ลูกแพร 1 ลูก

15:00 ช่วงพักเรียน
-ลูกพลุน 4 ลูก
-ถั่ว 1 กำมือ

18:10
-ลักเลต(ชีดส์ ทั้งนั้น สามีและลูกอยากกินก็เลยต้องกิน เยอะเหมือนกัน)
-ผักดองต่างๆ

จบบันทึก ยังไม่ดีเท่าไร พอใจ 50% <span style='font-size:21pt;line-height:100%'><span style='color:red'>สู้ตาย</span></span>
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย tewatera » ศุกร์ พ.ย. 06, 2009 6:35 am

น้องลืมถามพี่ตุ๊ค่ะ อันที่เป็นเม็ดๆแบนๆ ที่พี่ส่งให้เก๋ มันคืออะไรจ๊ะ แล้วมันทำยังไงกิน
5555 คุณน้องอ่านไม่ออก..(เขินจัง)
จะกินเลยก็ไม่กล้า แอบใส่ในคุกกี้ให้ลูกสาวไปนิดหน่อย คุณนายเธอก็บอกว่าอร่อยดี
ว่าจะถามพี่ ก็ลืมทุกทีเลย...ขอบคุณค่ะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'><b>ความสุขอยู่ใกล้แค่ใจเรา</b></span></span><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl7.glitter-graphics.net/pub/517/517117grkpbyjcvm.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tewatera
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 699
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:58 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » ศุกร์ พ.ย. 06, 2009 7:36 am

tewatera เขียน:น้องลืมถามพี่ตุ๊ค่ะ อันที่เป็นเม็ดๆแบนๆ ที่พี่ส่งให้เก๋ มันคืออะไรจ๊ะ แล้วมันทำยังไงกิน
5555 คุณน้องอ่านไม่ออก..(เขินจัง)
จะกินเลยก็ไม่กล้า แอบใส่ในคุกกี้ให้ลูกสาวไปนิดหน่อย คุณนายเธอก็บอกว่าอร่อยดี
ว่าจะถามพี่ ก็ลืมทุกทีเลย...ขอบคุณค่ะ

<span style='color:red'>น้องเก๋</span>
มันคือ ถั่วเลนทิล อบแห้ง
มีโปรตีนสูง เป็นอาหารเพื่อสุขภาพของสวิสฯ
-กินเล่นก็ได้
-ใส่ในน้ำซุปร้อนๆ 2-3 นาที ก็จะได้เป็นซุปถั่ว พี่ก็ทำให้ลูกกินปล่อย
-เด็กกินได้ น้องเก๋กินดี สามีกินก็ได้

ขอโทษน้องเก๋ไม่ได้อธิบายมาในกล่องตอนส่ง เพราะส่งแบบเมาๆ มึนๆ วันจะกลับสวิสฯพอดี
อยากติดต่อตั้งแต่ช่วงแรกที่อยู่เมืองไทย แต่ก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือจากสวิสฯไป เบอร์ก็อยู่ในเครื่อง ไปอยู่ขอนแก่น 1 อาทิตย์ เช่ารถที่ขอนแก่นขับเข้ากรุงเทพฯ พักกับพี่ชาย 1 คืน ใช้คอมฯบ้านพี่ชายเอาที่อยู่และเบอร์โทรฯน้องเก๋ ตั้งใจว่าตอนขับรถกลับขอนแก่นจะโทรฯหาน้องเก๋นัดเจอกันที่โคราชของฝากก็นอนรออยู่ท้ายรถตอนแรกมีช็อคโกแล็ตมาให้หลานด้วย พาสามีไปเที่ยวระยอง เล่นน้ำทะเล อยู่เกาะเสม็ด กัน 3 คืน 4 วัน แถวๆหาดแม่ลำพึงอีก 2 คืน สามีก็ได้เล่นน้ำไม่เต็มที่เพราะคลื่นแรง หาดแม่ลำพึงคนเล่นน้ำตายกันเยอะ ตั้งใจจะส่งของที่ระยอง เปิดดูอีกทีลืมว่ามีช็อคโกแล็ต เลอะหมดเลย หลานก็อด กินถั่วไปก่อนแล้วกันเด้อ
กลับจากระยองเข้ากรุงเทพฯ สามีบอกที่กรุงเทพฯอยากกลับก่อน .....ต่อมาก็จุดๆๆ เลยทำให้ส่งของฝากให้น้องเก๋แบบไม่มีคำอธิบาย ขอโทษอีกที
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron