ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

Fit&Firm ก่อนกลับเมืองไทย

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย Rattanawadee lamanchai » ศุกร์ พ.ย. 13, 2009 3:25 pm

คิดอยู่หลายวันว่าจะแนะนำยายหนูยังไงดีเรื่องลูก
เจ้เสียดายแทนนะที่จะทิ้งร้านที่ลงทุนลงแรงไปมากมายจนมันเข้าที่เข้าทางแล้วกลับไปอยู่รถบ้านเหมือนเดิม
แต่เจ้ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอย่างไหนมันดีกว่ากัน แต่เป็นร้านมันมั่นคงกว่ามั้ย ค่าเช่าแพงหรือเปล่า

ยายหนู การที่เรารักพ่อ แม่ พี่น้อง ลูก หลาน มันก็ูถูกต้องอยู่หรอกนะ
แต่ต้องอย่าลืมที่จะรักตัวเองด้วย เราต้องมีอนาคตของตัวเราเองด้วย
เวลาเราไม่มี เราลำบาก เราจะพึ่งใครได้บ้างหรือเปล่า ลูกเขาก็มีครอบครัวของเขาที่ต้องดูแล
คนเป็นพ่อแม่เดี๋ยวนี้ต้องทำใจไว้เลยนะ อย่าหวังว่าจะได้พึ่งลูก ให้เขาเอาตัวรอดดูแลครอบครัวเขาได้ไม่เดือดร้อนเราก็พอแล้ว
อย่างยายหนูนี่เป็นลูกกตัญญูมากเลยนะ ให้เงินแม่เยอะทีเดียว
เจ้ว่าผลแห่งความกตัญญูของยายหนูจะส่งผลในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน

ยายหนูคงมีคำตอบของตัวเองแล้วนะป่านนี้
ถ้าขายร้านแล้ว Love Seat จะเอาไปไว้ไหนล่ะ เครื่องออกกำลังกายทั้งหลายอีก
ยังไงก็ขออวยพรให้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านด้วยความปลอดภัยนะจ๊ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rattanawadee lamanchai
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 114
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 15, 2009 2:40 pm

โพสต์โดย ยายหนู » ศุกร์ พ.ย. 13, 2009 7:02 pm

คนเป็นพ่อแม่เดี๋ยวนี้ต้องทำใจไว้เลยนะ อย่าหวังว่าจะได้พึ่งลูก ให้เขาเอาตัวรอดดูแลครอบครัวเขาได้ไม่เดือดร้อนเราก็พอแล้ว
อย่างยายหนูนี่เป็นลูกกตัญญูมากเลยนะ ให้เงินแม่เยอะทีเดียว
เจ้ว่าผลแห่งความกตัญญูของยายหนูจะส่งผลในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
หนูจึงต้องลุกขึ้นมาฮึดสู้กับความอ้วนและไขข้อเสี่อม เพราะหนูยืนด้วยลำแข้งของตัวเองมาตลอด...

เมื่อคืนลูกชายคนโต(คนที่อยากบวช)โทรมาอีก ลูกถามว่าแม่สบายดีไหม และพยายามค่อยๆพูโอ้อมค้อมไม่บอกตรงๆแต่สรุปก็คือ บริษัทที่ภรรยาทำงานอยู่จะหมดสัญญากับบริษัทแม่ในสิ้นปีนี้เพราะทำแล้วขาดทุน เธอได้เงินเดือน3หมื่นกว่า ส่วนลูกชายหนูทำอีกบริษัทหนึ่งได้แค่หมื่นเศษๆรับหน้าที่ผ่อนรถไป ลูกบอกว่า

"มดไม่ได้โทรมาเพื่อรบกวนเงินแม่หรอกนะ เพราะโทรไปหาน้องเอ็มมันเล่าให้มดฟังแล้ว แต่ที่โทรมานี่อยากจะปรึกษาขอความคิดเห็นก่อนตัดสินใจทำคือ มดกับอุ๊มีเงินเก็บอยู่ก้อนเล็กๆ อยากจะเปิดรับล้างรถโดยจะทำเองไปก่อน โดยจะไปเช่าที่แถวๆบ้าน(บางละมุง)ซึ่งเห็นอยู่แล้วแห่งหนึ่งทำเลดีติดถนนใหญ่ ความคิดนี้มดได้มาจากร้านที่มดไปล้างอยู่ประจำ เขาเปิดอยู่ในซอยลึกเข้าไปอีก ลูกค้าไม่เคยขาดเลยมีพนักงานอยู่4คน ทำงานไม่ค่อยละเอียด มดเลยคิดว่าถ้ามดได้ทำงานนี้ลูกค้าต้องติดใจแน่นอน ถ้ามีลูกค้าเพิ่มก็จะเรียกให้น้องมาช่วย ส่วนอุ๊อยากจะขายอาหารตามสั่ง(เคยทำมาก่อน)โดยทำเพิงอยู่ข้างๆ ส่วนตูน(เมียน้องเอ็ม)ก็ขายน้ำปั่น(เขาทำขายอยู่) แม่คิดว่าดีไหม"

หนูว่ามันเป็นความคิดที่ไม่เลวเลยนะ ถ้าลูกจะลงทุนทำ ธุรกิจนี้เราสามารถขยายให้เติบโตได้ด้วยถ้ามีทุนมากพอ อุปกรณ์ครบ บริการแบบครบวงจร เพราะเมื่องไทยเรา "เศรษฐกิจยิ่งจน คนยิ่งมีรถเพิ่ม"

มดบอกว่าทีแรกว่าจะรอให้แม่มาก่อน แต่คิดแล้วอยากจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย พอบริษัทปิดจะได้ไม่ต้องควักเงินทุนออกมาผ่อนรถ หลังจากแม่มาค่อยมาดูอีกทีว่าจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง...

เพื่อนๆคิดว่าไง ใครเคยมีประสบการณ์หรือความคิดดีๆเกี่ยวกับธุรกิจนี้ก็ขอเชิญแนะนำได้นะ ส่วนตัวยายหนูกับบิลคิดว่าเป็นความคิดที่ดี ทำเลต้องมาก่อน และสัญญาเช่าต้องแน่หนาพอ เพื่อป้องกันการตุกติกในภายหลัง ลูกบอกว่าจะให็ญาติของอุ๊ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ไปคุยกับเจ้าของที่ว่าเขาจะคิดค่าเช่าอย่างไร...

เมื่อคืนคิดเรื่องนี้อีก เช้าตื่นขึ้นมาปวดหัวตุ๊บๆเลย แต่ไม่รู้ว่าเป็นหวัดด้วยหรือเปล่า แต่จะอย่างไร ยายหนูก็ยังออกกำลังกายตามโปรแกรมที่วางไว้ โดยไม่มีข้ออ้างแต่อย่างใด

แล้วเพื่อนๆละ ออกกำลังกายกันอย่างสม่ำเสมอหรือว่ายังมีข้ออ้างอยู่...

10โมง สายแล้วไปทำกับข้าวก่อนล่ะ คิดถึงนะจ๊ะ จุ๊บจุ๊บ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย Tuta Schweiz » ศุกร์ พ.ย. 13, 2009 7:41 pm

เมื่อคืนคิดเรื่องนี้อีก เช้าตื่นขึ้นมาปวดหัวตุ๊บๆเลย แต่ไม่รู้ว่าเป็นหวัดด้วยหรือเปล่า แต่จะอย่างไร ยายหนูก็ยังออกกำลังกายตามโปรแกรมที่วางไว้ โดยไม่มีข้ออ้างแต่อย่างใด

แล้วเพื่อนๆละ ออกกำลังกายกันอย่างสม่ำเสมอหรือว่ายังมีข้ออ้างอยู่...

อายพี่ยายหนูจัง
แม่ตุ๊ก็มีข้ออ้างอยู่ ตั้งแต่วันอาทิตย์ ที่ 8 ตั้งใจจะวิ่งกับ Wii fit เพราะปวดแขนที่เกิดจาก ห่างการยกดัมเบลล์นานเป็นเดือน แล้วกลับมายกใหม่ แต่ขาไม่ปวดเท่าไรเลยจะใช้ ขาวิ่ง แต่พอวิ่งมันปวดร้าวไปหมด ถึงหัว คืนวันอาทิตย์เลยไข้ขึ้น และก็ติดหวัดกับสามีเลยทั้งๆ เป็นคนไม่ค่อยติดหวัดกับใครง่ายๆ พอหวัดเริ่มหายวันนี้คุณแดงก็มาเยี่ยมแบบไม่มีสัญญานใดๆ ความตั้งใจมีเกินร้อย หายหมดเหลือ 0 แต่ความตั้งใจในวันข้างหน้ามีแน่นอนจ้าพี่ อยากสวยต้อง ยกนิ้ว <span style='font-size:21pt;line-height:100%'><span style='color:red'>สู้ตาย </span></span>

เรื่องลูกทำธุรกิจตุ๊ไม่มีความคิดเห็นจ้า ลูกใครๆ ก็อยากสนับสนุน ลูกใครๆ ก็มั่นใจว่าลูกเราทำได้ ลองดูสักตั้งก็คงไม่เป็นไร อย่าลืม ฉายา <span style='color:red'>พี่ยายหนูลองยา </span> ฮิ ฮิ (ล่อเล่นนะพี่ยายหนูไม่อยากให้เครียดมาก)
<a href="http://lilypie.com/"><img src="http://lb1f.lilypie.com/TikiPic.php/Adn8.jpg" width="100" height="80" border="0" alt="Lilypie - Personal picture" /><img src="http://lb1f.lilypie.com/Adn8p1.png" width="400" height="80" border="0" alt="Lilypie First Birthday tickers" /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tuta Schweiz
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 675
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 02, 2009 7:44 pm
ที่อยู่: Switzerland

โพสต์โดย หมวยมันเปลว » เสาร์ พ.ย. 14, 2009 5:03 am

Rattanawadee lamanchai เขียน: คิดอยู่หลายวันว่าจะแนะนำยายหนูยังไงดีเรื่องลูก
เจ้เสียดายแทนนะที่จะทิ้งร้านที่ลงทุนลงแรงไปมากมายจนมันเข้าที่เข้าทางแล้วกลับไปอยู่รถบ้านเหมือนเดิม
แต่เจ้ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอย่างไหนมันดีกว่ากัน แต่เป็นร้านมันมั่นคงกว่ามั้ย ค่าเช่าแพงหรือเปล่า

ยายหนู การที่เรารักพ่อ แม่ พี่น้อง ลูก หลาน มันก็ูถูกต้องอยู่หรอกนะ
แต่ต้องอย่าลืมที่จะรักตัวเองด้วย เราต้องมีอนาคตของตัวเราเองด้วย
เวลาเราไม่มี เราลำบาก เราจะพึ่งใครได้บ้างหรือเปล่า ลูกเขาก็มีครอบครัวของเขาที่ต้องดูแล
คนเป็นพ่อแม่เดี๋ยวนี้ต้องทำใจไว้เลยนะ อย่าหวังว่าจะได้พึ่งลูก ให้เขาเอาตัวรอดดูแลครอบครัวเขาได้ไม่เดือดร้อนเราก็พอแล้ว
อย่างยายหนูนี่เป็นลูกกตัญญูมากเลยนะ ให้เงินแม่เยอะทีเดียว
เจ้ว่าผลแห่งความกตัญญูของยายหนูจะส่งผลในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน

ยายหนูคงมีคำตอบของตัวเองแล้วนะป่านนี้
ถ้าขายร้านแล้ว Love Seat จะเอาไปไว้ไหนล่ะ เครื่องออกกำลังกายทั้งหลายอีก
ยังไงก็ขออวยพรให้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านด้วยความปลอดภัยนะจ๊ะ



เห็นด้วยค่ะ พระพุทธเจ้าท่านสอนเอาไว้ว่า การบุญการกุศลเริ่มต้นในบ้านค่ะ ท่านหมายถึงตัวเราเอง


อ้อ และเห็นด้วยเรื่องลูกชายจะเปิดรับล้างรถ และเริ่มจากเล็กๆไปก่อน ไม่ใช่เงินแสนค่ะ


.
ภาพประจำตัวสมาชิก
หมวยมันเปลว
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 27, 2009 2:03 am

โพสต์โดย Rattanawadee lamanchai » เสาร์ พ.ย. 14, 2009 7:23 am

โอเคจ๊ะ ยายหนู
แล้วแวะไปอ่านความประพฤติเจ้บ้างก็แล้วกัน

วันนี้กินเกี๊ยวทอดไปตั้ง 10 ตัวแน่ะ ใส่ในเกาเหลาก๋วยเตี๋ยวเป็ด 5 ตัว จิ้มน้ำจิ้มกินต่างหากอีก 5 ตัว แฮ่ะๆ

เรื่องข้อเสนอใหม่ของลูกชาย เจ้ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจหรอกนะ เพราะรับราชการมาตลอดชีวิต
ยายหนูน่าจะพอรู้ลู่ทางอยู่บ้าง เพราะปลุกปล้ำกับร้านอาหารของตัวเองมาแล้วหลายรอบ

แต่เจ้มีข้อห่วงใยว่า พี่น้อง 2 คนเขารักกันดีหรือเปล่า คู่สะใภ้ล่ะ ปรองดองกันดีมั้ย
ทำธุรกิจด้วยกันนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ
พ่อ แม่ พี่ น้องสายเลือดเดียวกันยังมีปัญหาเลย

แม้แต่ยายหนูกับคุณบิล ยามเหนื่อย ยามท้อยังมีอารมณ์ร้อนใส่กันเลย
เจ้ว่าตรงนี้น่ะน่าห่วง

เมื่่อวันก่อนดูรายการเจาะใจ เมื่อพฤหัสที่ผ่านมานี่เอง ยายหนูลองไปเปิดดูย้อนหลังได้
สัมภาษณ์ป้าเช็ง คุณยายกายสิทธิ์ ชีวิตแกน่าสนใจดี เจ้ดูไม่ตลอดหรอกนะ
แต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่คุยถึงเรื่องการลงทุนทำเคเบิ้ลที่วี ตาดู๋แกถามว่าไม่กลัวเจ๊งเหรอเพราะเป็นธุรกิจใหม่ อาจไม่เป็นที่ยอมรับ
แกตอบว่า ทำธุรกิจ ต้องมีทุนเอาไว้สำรองสำหรับเผื่อเจ๊งไว้ด้วย แกไม่กลัว เพราะมีให้เจ๊ง มันดีแฮะ ป้าเช็งนี่

ดูลูกชายของยายหนูทั้ง 2 คนอยากเป็นเจ้านายตัวเองนะ อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง
คงเบื่อเป็นลูกจ้างทำงานให้คนอื่นเขาเต็มทีแล้ว
อาจได้เลือดนักสู้และเห็นตัวอย่างจากยายหนูก็ได้
แต่อย่างป้าเช็งว่า ต้องมีทุนสำรองเผื่อไว้ด้วย
ทำเลก็สำคัญอย่างยายหนูว่า อิทธิพล เจ้าที่เจ้าทางแถวนั้นล่ะมีหรือเปล่า
จะลงทุนทำอะไรสักอย่างคงต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบเนอะ เพราะที่ลงไปน่ะ เงินทั้งนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rattanawadee lamanchai
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 114
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 15, 2009 2:40 pm

โพสต์โดย tewatera » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 10:00 am

คิดถึงจ้ะ...<a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'>รูปภาพ</a>
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'><b>ความสุขอยู่ใกล้แค่ใจเรา</b></span></span><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl7.glitter-graphics.net/pub/517/517117grkpbyjcvm.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tewatera
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 699
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:58 pm

โพสต์โดย พัฒน์นรี » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 3:24 pm

ลูกค้าเยอะไหมค่ะพี่ยายหนูช่วงนี้ ขอให้ขายดีฯ นะคะ หาเงินเยอะฯ ไว้ไปเที่ยวไทยสนุกฯ ฮิฮิ
<a href='http://www.facebook.com/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
พัฒน์นรี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1463
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 27, 2006 3:04 pm

โพสต์โดย rattikal » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 8:04 pm

แวะมาเยี่ยมค่ะพี่ยายหนู เดี๋ยวก็ได้กลับเมืองไทยแล้ว
ติ๊กาเอากำลังใจมาส่งให้ด้วยค่ะ พร้อมกับอวยพรให้พี่ยายหนูขายดี มีสุขภาพที่แข็งแรงด้วยค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rattikal
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 10, 2007 10:53 am

โพสต์โดย ยายหนู » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 8:08 pm

แม่ตุ๊...การยกน้ำหนักเป็นเรื่องที่ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับการลดอาหารค่ะ ใจเราอยากจะทำแต่ร่างกายเรามันรับไม่ได้ก็จะแสดงออกด้วยอาการปวดเหมื่อยตามกล้ามเนื้อ นักเพาะกายมือใหม่มักจะเข้าใจผิด คิดว่า No pain No gain ก็ฝืนร่างกายฝึกต่อไป สุดท้ายกล้ามเนื้ออักเสบหรือฉีกขาด คราวนี้แหละฝึกไม่ได้ไปหลายเดือนเลย

เช่นเดียวกันการควบคุมอาหาร เคยพุดไปแล้วจะไม่ขอพูดซ้ำอีก คิดว่าแม่ตุ๊คงรู้ดีแล้ว แม่ตุ๊เคยบอกว่าระบบการเผาผลาญของพี่ดี กินมากน้ำหนักจึงไม่ขึ้น พี่ว่ามันก็มีส่วน แต่การที่พี่ค่อยๆลดอาหารลงแบบไม่เก็บกดนั้นก็มีส่วนไม่แพ้กัน...เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ น้องล้มพี่ฉุดให้น้องลุกขึ้น (ผิดเป็นครู) แล้วเราจะเดินไปด้วยกัน แต่ห้ามขี่คอ ใครฟร่ะบังอาจ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย onthana » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 10:15 pm

เข้ามาแวะทักทายค่ะพี่ ตอนยังบีซี่อยู่เหมือนเดิมเหรอคะ ที่นี่หมดครูสชีพ แล้วเงียบเลย เห็นเพื่อนที่เปิดร้านขายของที่ระลึกบอกร้านค้าต่างๆร่วมทั้งร้านแจเวอร์รี่ด้วยปิดกันระนาวปีหน้าคาดว่าคงเหลือเปิดอยู่ไม่เท่าไหร่ ที่โฮมเมอร์ร้านของพี่คงไม่กระทบมั๊งคะ

อ้อ อรอยากรบกวนพี่สักนิดหนึ่ง คืออรจำได้ว่าพี่เคยบอกมีพี่คนไทยเขาเปิดร้านนวดอยู่ไม่ห่างจากร้านพี่เท่าไหร่ พี่จะทราบไหมคะว่ากิจการเขาเป็รยังบ้างไปได้ดีหรือเปล่าอรกำลังคิดว่าจะเปิดซัมเมอร์หน้านี้คะหลังจากกลับจากไทยแล้วแต่ก็หวั่นๆอยู่ว่าจะไปรอดไหมกับสภาวะเศฐกิจแบบนี่ ขอโทษที่รบกวนนะคะ อยากฟังความคิดเห็นของพี่ใหญ่อ่ะคะผู้คว่ำหวอดในวงธุรกิจของอลาสก้ามานานน้องขอเป็นลูกศิษย์ด้วยคนค่ะ
อรเปิดกระทู้ไว้ขอคำแนะนำถ้าพี่ว่างให้คำแนะนำอรด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะพี่ดูแลสุขภาพนะคะหนาวมากแล้วตอนนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
onthana
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 20, 2007 3:37 pm

โพสต์โดย ยายหนู » จันทร์ พ.ย. 16, 2009 2:45 am

เศรษฐกิจแย่ก็ส่งผลกระทบทั่วถึงกันไปหมด แต่ร้านพี่ไปได้เรื่อยๆ ดูจากทูโกที่ลูกค้าซื้อกลับไปทานที่บ้านมีมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ โดยตักจากบัฟเฟ่แล้วชั่งน้ำหนักปอนด์ละ $7.50 เศรษฐกิจแย่ผู้คนก็ต้องรัดเข็มขัด ทางไหนประหยัดก็ต้องเอาไว้ก่อน หุงข้าวที่บ้านไว้หม้อหนึ่งซื้อกับสองอย่างก็พอกินแล้วทั้งครอบครัว อาหารบัฟเฟ่ของพี่จึงอยู่ได้ แต่ตามสั่งน้อยมาก มีแต่กลุ่มที่ไม่กินเนื้อสัตว์ที่มาสั่งบ่อยๆ และสั่งเกตุว่าจะสั่งกับข้าว 1อย่างซื้อข้าว2กล่อง แล้วก็คนที่ลดความอ้วนขาประจำก็จะสั่งปอเปี๊ยะสด...

ส่วนร้านนวด คิดว่าโอเคถ้าทำคนเดียว เพราะเมื่อซัมเม่อร์เธอชวนเพื่อนขึ้นมาช่วย และเพื่อนมาเล่าให้พี่ฟังว่าได้ดีไม่เท่าอยู่ที่แอลเอ เพื่อนอยู่ได้ไม่ทันหมดซัมเม่อร์ก็กลับ แต่เธออยู่คนเดียวก็บอกว่าบีซี่ทุกวัน พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบีซี่ของเธอนั้นได้วันละกี่คน...

แต่พี่ว่าเปิดร้านนวดโอกาสที่จะขาดทุนไม่มี และไม่ต้องใช้ทุนมาก การขอใบอนุญาตก็ไม่ยุ่งยากเหมือนรัฐอื่น ไม่มีลูกค้าของก็ไม่เสีย เธอเล่าว่าวิธีดึงดูดใจลูกค้าของเธอก็คือ ยิ้ม หัวเราะ คุยเก่ง เชื่อ เพราะบางทีเรื่องไม่น่าขำเธอก็ขำ แล้วก็โปรโมชั่นทำเล็บเท้าขัด ตัดหนังทาสีให้กับลูกค้าฟรีเมื่อมานวดครบ 4ครั้งภายใน1เดือน และต่อไปทุกๆสัปดาห์จะเปลี่ยนสีเล็บให้ฟรี ครบเดือนก็ขัด ตัดหนัง เธอเล่าว่าลูกค้าชอบมากๆ...

เปิดร้านใหม่โปรโมชั่น นวดครบ5ครั้ง นวดฟรี1ครั้ง
โปรโมชั่นต่อมา ลด10% สำหรับลูกค้าประจำที่นวดตั้งแต่10ครั้งขึ้นไป
และเมื่อซัมเม่อร์ปีนี้ เธอปรับราคาจากชั่วโมงละ $50 เป็น $60 แต่ก็มีคนมานวดกันไม่ขาด เธอเล่าว่างั้นนะ...

แต่ร้านที่เธอเช่าสามารถอาศัยอยู่ได้เหมือนที่ร้านพี่ จึงประหยัดไม่ต้องเสียสองต่อ ไม่ทราบว่าเมืองที่น้องอรอยู่ เขาอนุญาตเหมือนที่นี่หรือเปล่า และถ้ามีบ้านเป็นของตัวเองก็สามารถเปิดทำที่บ้านได้ด้วย...

วันนี้พี่บีซี่เพราะถึงจะปิดร้านก็ต้องทำความสะอาดค่ะ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย MissMo » จันทร์ พ.ย. 16, 2009 9:34 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>Are You Losing Fat, or Just Losing Weight?</span>
The Importance of Body Fat Percentage

Did you know… That two people can have the same height and weight, but very different percentages of body fat?

Did you know… That as we age, we tend to gain fat around our organs (“visceral fat”) that can’t be detected by measuring “skin folds” or even with a scale?

Did you know… That chances are that if you are losing weight, you will lose muscle as well as fat?

Weight management is a goal on a lot of people’s minds these days. People get on the scales in the morning, and the number they see may determine how they feel about themselves. But the truth is that some people make think they are overweight, when the amount of fat they have on their bodies is just fine, while others may carry hidden fat that the scale won’t tell them about

What is Body Fat Percentage?
Our bodies are made up of a lot of different kinds of tissues (plus a lot of water). There is muscle, fat, bone, and specialized tissue such as is in our various organs. The body fat percentage is just that –- the percentage of our weight which is made up of fat. Body fat percentage is similar to terms such as body fat ratio and body composition. The part that isn’t fat is called our “lean body mass.” A 160-pound person with a lean body mass of 120 lbs has 25 percent body fat (40 lbs of fat). That may sound like a lot, but our bodies need a certain amount of fat for insulation, energy storage, hormone production, and other functions scientists are just discovering.

How Much Body Fat Should a Person Have?
This depends upon a few variables. Women need more body fat than men. Breasts are almost all fat, and women have more fat around their hips -– that’s just the way it was meant to be. If a woman’s body fat drops too low, she will stop menstruating. Also, men naturally have a greater amount of muscle bulk. Another factor is age. As people get older, their muscles tend to shrink, and they tend to accumulate visceral fat. This is at least partially related to the decline in testosterone and other hormones. You can find your individual body fat recommendation in these charts. It is important not to confuse BMI with body fat. The BMI (body mass index) numbers are NOT percentages of body fat. I often see advice on Web sites where the two are plainly being confused. For example, a BMI of 29 is in the overweight range for women. This has nothing to do with 29 percent body fat, which is considered healthy.

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>What’s the Difference between Body Fat Percentage and BMI?</span>
BMI (body mass index) is a formula based on height and weight. It was developed because in the general population, it is correlated with body fat. However, there are quite a few groups of people for whom BMI is not as accurate –- short women and muscular people, to name two. BMI also varies according to some ethnic groups. Also, for people who are interested in changing their body composition and not just their weight, knowing body fat percentage is an improvement over BMI. For example, if you are exercising to build muscle (a good goal), knowing your body fat percentage is a good idea. Also, when losing weight, you want to preserve as much lean body mass as possible. (Low-carb diets generally produce better results than high carb ones for this purpose.)

How can I determine my body fat percentage?
There are several ways to find out your body fat percentage. Unfortunately, the more accurate the method, the more of a hassle and/or expensive it tends to be. This is a short capsule summary. Exercise Guide Paige Waehner has more detail, and here is even more in-depth information.
•DEXA scan – full body X-ray scan of the same type used for bone density. Very accurate.
•Hydrostatic Weighing – Weighing under water (completely submerged, with all air blown out of lungs) – Very accurate when done professionally.
•Skin-fold calipers (“pinch test”) – Simple, but needs to be done by someone who is trained, and you can’t do it on yourself. Wide variations in accuracy for people without training.
•Bioelectrical Impedance (BIA) – These are scales and hand-held devises that run low-level (and painless) electrical current through you. They can be accurate, although the accuracy varies according to the specific device (do your research) and how it is used. Best results are obtained first thing in the morning with no alcohol consumed for 2 days prior, and no exercise the night before.
•Navy tape measure method - This is a formula based on several body measurements taken with a tape measure. It can be quite accurate (it is used by the military), but it does depend upon your ability to accurately measure. Using centimeters rather than inches is the best, but using inches within ¼ of an inch works. To be sure, measure yourself 3 times and take the average. I have a calculator using this method. It is especially useful for tracking yourself over time.

อันนี้เจ๊ใหญ่สั่งแปลค่ะ เอามาแปะไว้ก่อน เวลาแปลจะได้ไม่ต้องคลิกไปคลิกมา อีกอย่างเผื่อโมแปลแล้วมันไม่ make sense จะได้มีต้นฉบับให้ดู
<img src='http://tickers.TickerFactory.com/ezt/t/whgLQlZ/weight.png' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-family:Impact'><b><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"แม้จะเดินช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปไม่ถึง"</span></span></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
MissMo
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 631
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 11:42 pm

โพสต์โดย tewatera » จันทร์ พ.ย. 16, 2009 11:00 pm

มาปูเสื่อ กินลูกชิ้นปิ้ง รออ่านฉบับแปล..หัวข้อน่าสนใจมาก (อารมณ์ประมาณดูหนังกลางแปลง สมัยเด็ก)
อ่านเองคร่าวๆ พึ่งรู้ตัวว่า ตอนนี้เหลือแต่ความรู้ทางยาเท่านั้นที่พอไปได้ เรื่องอื่นๆภาษาคืนหม้อเก่าไปเรียบร้อยแล้ว

พี่ยายหนู ขอบคุณนะคะสำหรับ มิสเตอร์ฮอง ถูกใจและเข้าทางเก๋มากเลย พี่แกแปะที่อยู่ที่ทำงานให้ด้วย
เก๋ไปประชุมที่ รพ.แกบ่อย เผื่อจะมีโอกาสได้เจอตัว

ปล. หายไปเลยนะคุณนายแตงโมคนสวย..รออ่านตอน 2 อยู่นะ หุหุ มาคุยกันในบ้านเจ้ใหญ่นี่แหละ อุ่นใจดี
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:purple'><b>ความสุขอยู่ใกล้แค่ใจเรา</b></span></span><a href='http://www.glitter-graphics.com' target='_blank'><img src='http://dl7.glitter-graphics.net/pub/517/517117grkpbyjcvm.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tewatera
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 699
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 07, 2009 10:58 pm

โพสต์โดย MissMo » จันทร์ พ.ย. 16, 2009 11:13 pm

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>คุณลดไขมันหรือแค่ลดน้ำหนัก!!!</span></span>
ความสำคัญของเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย

คุณรู้หรือไม่ว่า... คนสองคนที่มีความสูงและน้ำหนักเท่ากัน แต่เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายต่างกัน

คุณรู้หรือไม่ว่า... เมื่อเรามีอายุมากขึ้น (แก่) เรามีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันรอบ ๆ อวัยวะภายในซึ่งไม่สามารถบอกได้ด้วยวัดไขมันที่ผิวหนัง (skin fold) หรือเครื่องชั่งน้ำหนัก

คุณรู้หรือไม่ว่า... เมื่อคุณลดน้ำหนัก คุณสามารถที่จะลดไขมันและอาจจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน

การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี เป็นจุดหมายหลักของหลาย ๆ คน ตัวเลขที่เราเห็นบนเครื่องชั่งน้ำหนักทุกเช้าอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับตัวเรา (อ้วน, ผอม, แข็งแรง, อืดอาด, ล้มเหลว, ประสบความสำเร็จ, ท้อแท้ ฯลฯ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลาย ๆ คนที่รู้สึกว่าตัวเองน้ำหนักเกินอาจจะมีปริมาณไขมันที่อยู่ในเกณฑ์ปรกติ แต่หลาย ๆ คนอาจจะมีไขมันแฝงอยู่ในร่างกายซึ่งไม่สามารถบอกได้ด้วยตัวเลขบนตาชั่ง

<span style='color:blue'>เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่าง(Body Fat Percentage)กายคืออะไร</span>
ร่างกายของคนเราประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลาย ๆ ชนิดรวมทั้งน้ำ ตัวอย่างของเนื้อเยื่อ เช่น กล้ามเนื้อ, ไขมัน, กระดูก, และเนื้อเยื่อพิเศษชนิดต่าง ๆ แตกต่างกันไปในในแต่ละอวัยวะ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายก็คือ เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักซึ่งประกอบไปด้วยไขมัน ซึ่งคล้าย ๆ กับอัตราส่วนของไขมันในองค์ประกอบของร่างกาย(Body fat ratio and body composition- อันนี้ไม่รู้ว่าภาษาไทยเค้าเรียกอะไรค่ะ ก็เลยบัญญัติศัพท์ใหม่) ส่วนที่ไม่ใช่ไขมันก็คือมวลกล้สมเนื้อ หรือ Lean Body Mass ซึ่งสาว ๆ ชาวคณะรู้จักกันดี ตัวอย่างเช่น คนที่หนัก 160 ปอนด์หรือประมาณ 72.5 กิโลกรัม มีมวลกล้ามเนื้อ 120 ปอนด์หรือประมาณ 30 กิโลกรัม มีเปอร์เซ็นต์ไขมัน 25%หรือประมาณ 40 ปอนด์/18 กิโลกรัม ซึ่งดูเหมือนเยอะ แต่จริง ๆ แล้วไขมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เราต้องการไขมันเพื่อเป็นเครื่องห่อหุ้มป้องกันร่างกาย(Insulation), เป็นที่กักเก็บพลังงาน, ผลิตฮอร์โมนชนิดต่าง ๆ และยังมีอีกหลายหน้าที่ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กำลังทำการศึกษาค้นคว้า

<span style='color:blue'>เราควรจะมีปริมาณไขมันเท่าไหร่</span>

อันนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ผู้หญิงต้องการไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชายและผู้ชายถูกสร้างให่้มีกล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิง เต้านมเกือบทั้งหมดประกอบไปด้วยไขมัน ไขมันของผู้หญิงมักจะเกาะอยู่รอบ ๆ สะโพก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเป็นแบบที่ผู้หญิงเราถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมา ถ้าปริมาณไขมันในร่างกายของผู้หญิงต่ำเกินไปเจ๊แดงก็จะโกรธ และไม่มาทักทายเราในที่สุด
ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อก็มีแนวโน้มที่จะหดตัวลง (เริ่มเมื่ออายุ30นะคะ)และเรายังมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันรอบ ๆ อวัยวะภายใน (เห็นได้จากคนที่อายุเพิ่มขึ้นจะเริ่มมีไขมันหน้าท้องมากขึ้น)ซึ่งสาเหตุุส่วนหนึ่งมาจากการลดปริมาณลงของtestosterone [ฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งผู้หญิงก็มีแต่มีน้อยกว่าผู้ชาย ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มและรักษามวลกล้ามเนื้อ ความหนาแน่นของกระดูกและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อกระดูก]และฮอร์โมนตัวอื่น ๆ คุณสามารถดูเปร์เซนต์ของไขมันในร่างกายตามลิงค์นี้ค่ะ<a href='http://lowcarbdiets.about.com/library/blbodyfatcharts.htm' target='_blank'>ชาร์ตbody fat percentage</a> แต่อย่าเอาไปสับสนกับดัชนีมวลกายหรือBMI (Body Mass Index)นะคะ เพราะเป็นคนละตัวกันค่ะ หลาย ๆ คนมักจะสับสนระหว่างเปร์เซนต์ของไขมันในร่างกายกับ BMI สมมุติว่าคนที่มีBMI = 29 ซึ่งถือว่าน้ำหนักเกินสำหนับผู้หญิง แต่ถ้าเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย = 29% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปรกติ

<span style='color:blue'>ความแตกต่างระหว่างBMI กับ Body Fat Percentage</span>

BMI เป็นการคำนวนที่ใช้ส่วนสูงและน้ำหนัก สูตรนี้ถูกสร้างขึ้มาเพื่อใช้ในการคำนวนแบบคร่าว ๆ ในคนกลุ่มใหญ่ จริง ๆ แล้วBMI ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับปริมาณของไขมันในร่างกาย แต่ค่าของBMIไม่แม่นยำนักในคนบางกลุ่ม เช่น คนที่เตี้ย หรือคนที่มีกล้ามเนื้อมาก คนบางเชื้อชาติ รวมไปถึงคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของร่างกาย(Body Composition)ที่ไม่ใช่การเพิ่ม/ลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว
การที่เรามีความเข้าใจเรื่องเปอร์เซ็นต์ของไขมันในร่างกายช่วยในการปรับปรุงค่า BMI (แถว ๆนี้มั่วนิดหน่อย ไม่แน่ใจนะคะ) เช่น ถ้าเราออกกำลังกายเพื่อที่จะเพิ่มกล้ามเนื้อ ถ้าเรารู้ปริมาณไขมันในร่างกายก็จะทำให้เราเข้าใจความสำเร็จของการเพิ่มกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น อีกทั้งเวลาที่เราลดน้ำหนักเราก็ต้องพยายามไม่ให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กับน้ำหนักที่ลดลง ซึ่งการใช้วิธีLow carbจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในการรักษามสวลกล้ามเนื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับ high carb

<span style='color:blue'>เราจะสามารถคำนวนเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายได้อย่างไร</span>

มีหลายวิธี แต่วิธีที่ให้ผลแม่นยำค่อนข้างจะยุ่งยากและแพง แต่สามารถสรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้ค่ะ
ส่วนสองลิงค์นี่เป็นข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ<a href='http://exercise.about.com/cs/weightloss/a/bodyfat.htm' target='_blank'>More bodyfat info</a>
<a href='http://lowcarbdiets.about.com/gi/o.htm?zi=1/XJ&zTi=1&sdn=lowcarbdiets&cdn=health&tm=2&gps=460_370_1021_525&f=10&su=p284.9.336.ip_&tt=2&bt=1&bts=1&zu=http%3A//www.bodybuilding.com/fun/kurilla5.htm' target='_blank'>ข้อมูลเชิงลึกของbofayfat percentage</a>

1. DEXA scan เป็นการx-ray ทั้งตัวคล้าย ๆ กับการวัดค่าความหนาแน่นของกระดูก ให้ผลค่อนข้างแม่นยำ
2. Hydrostatic Weighing การชั่งน้ำหนักโดยใช้วิธีแทนที่น้ำ โดยการกดให้จมน้ำรวมทั้งเป่าอากาศออกจากปอดให้หมดแล้วเอาปริมาตรของน้ำที่ล้นออกมาไปคำนวน แม่นยำมากแต่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
3. Skinfold Calipers (Pinch Test)หรือการวัดไขมันที่ผิวหนัง ต้องทำโดยคนที่ฝึกมามิฉะนั้นผลที่ได้อาจจะไม่ตรง
4. Bioelectrical Impedance (BIA) เป็นตาชั่งที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เข้าตัวเรา (ไม่เจ็บ) ผลที่ได้อาจจะแม่นยำหรือไม่แม่นยำขึ้นอยู่กับความแตกต่างของอุปกรณ์ที่ใช้ ผลที่ได้จะเที่ยงตรงหากทำในตอนเช้า ไม่ได้บริโภคแอลกอฮอล์ในสองวันที่ผ่านมา และไม่ได้ออกกำลังกายภายในหนึ่งวันก่อนหน้าที่จะทำการวัด
5. Navy Tape Measure Method เป็นสูตรการคำนวนโดยใช้การวัด(จากเทป)ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนมากใช้สำหรับทหาร สามารถให้ผลที่แม่นยำหากว่าเราสามารถวัดส่วนต่าง ๆของร่างกายได้อย่างเที่ยงตรง(ถ้าวัดผิด ข้อมูลผิด ค่าที่ได้ก็ไม่ตรง) ส่วนมากจะวัดสามครั้งแล้วหาค่าเฉลี่ย วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้ได้ดีสำหรับวัดความก้าวหน้าของเราในการลดน้ำหนักและเพิ่มกล้ามเนื้อ

เสร็จแล้ว เหนื่อยจัง ไปหาอะไรกินก่อนนะจ๊ะ
<img src='http://tickers.TickerFactory.com/ezt/t/whgLQlZ/weight.png' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-family:Impact'><b><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"แม้จะเดินช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปไม่ถึง"</span></span></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
MissMo
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 631
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 11:42 pm

โพสต์โดย MissMo » จันทร์ พ.ย. 16, 2009 11:18 pm

tewatera เขียน: มาปูเสื่อ กินลูกชิ้นปิ้ง รออ่านฉบับแปล..หัวข้อน่าสนใจมาก (อารมณ์ประมาณดูหนังกลางแปลง สมัยเด็ก)
อ่านเองคร่าวๆ พึ่งรู้ตัวว่า ตอนนี้เหลือแต่ความรู้ทางยาเท่านั้นที่พอไปได้ เรื่องอื่นๆภาษาคืนหม้อเก่าไปเรียบร้อยแล้ว

พี่ยายหนู ขอบคุณนะคะสำหรับ มิสเตอร์ฮอง ถูกใจและเข้าทางเก๋มากเลย พี่แกแปะที่อยู่ที่ทำงานให้ด้วย
เก๋ไปประชุมที่ รพ.แกบ่อย เผื่อจะมีโอกาสได้เจอตัว

ปล. หายไปเลยนะคุณนายแตงโมคนสวย..รออ่านตอน 2 อยู่นะ หุหุ มาคุยกันในบ้านเจ้ใหญ่นี่แหละ อุ่นใจดี

คุณนายคะ อาชีพเสริมเป็นยามหรือคะ ตีสามตีสี่แล้วไม่หลับไม่นอน
<img src='http://tickers.TickerFactory.com/ezt/t/whgLQlZ/weight.png' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-family:Impact'><b><span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>"แม้จะเดินช้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปไม่ถึง"</span></span></b></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
MissMo
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 631
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 05, 2007 11:42 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน