ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ซิทอัพวันละหลายครั้ง พุงไม่ลด กล้ามท้องก็ไม่ขึ้น เป็นเพราะอะไร

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย ยายหนู » อังคาร พ.ย. 03, 2009 8:11 am

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'> ซิทอัพวันละหลายครั้ง พุงไม่ลด กล้ามท้องก็ไม่ขึ้นเสียที เป็นเพราะอะไร</span></span>

การซิทอัพ คือการทำให้หน้าท้องแข็งแรงเท่านั้นครับ ไม่ได้ทำให้พุงลด หรือผอมลง หรือเกิดกล้ามท้องเป็นลอนได้หรอกครับ ผมขออธิบายเรื่องกล้ามท้องก่อนสักนิดนะครับ ความคิดที่ว่าบริหารแต่กล้ามท้องมากๆ แล้วพุงจะลดจนมีหน้าท้องเป็นลอนนั้น เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยครับ เหตุผลก็คือ ในร่างกายเราทุกคน จะมีชั้นไขมันคลุมเป็นแผ่นบางๆ (เขาเรียกว่า Layer) ไว้ทั่วร่าง ใครก็ตามที่ทำให้แผ่น Layer นี้บางลงได้ คนนั้นก็จะมีกล้ามเนื้อชัดทั้งตัวครับ รวมไปถึงหน้าท้องด้วย

ในทางกลับกัน ถ้าคุณบริหารแต่หน้าท้อง โดยหวังที่จะให้ Layer ตรงหน้าท้องหายไปที่เดียว เพื่อจะได้กล้ามท้องชัดๆนั้น ไม่มีทางทำได้ครับ แล้ววิธีแก้คืออะไร วิธีแก้ก็คือต้องออกกำลังกาย ให้ร่างกายไปนำเอา Layer เหล่านี้มาแปลงเป็นพลังงาน การทำเช่นนี้จะทำให้ Layer บางลงเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้พลังงานมากแค่ไหนนั่นเอง และวิธีดีที่สุดคือการฝึกเวท เพิ่มมวลกล้ามเนื้อครับ คุณฝึกเวทครึ่งชั่วโมง โดยยกน้ำหนักมากๆ ยังมีค่ามากกว่าไปวิ่งตั้งสามชั่วโมง เพราะการวิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบ arobic คือใช้ออกซิเจนมาสร้างพลังงาน แต่การยกน้ำหนักจะใช้พลังงานในร่างกาย (ที่มาจาก Layer) เป็นวัตถุดิบครับ เรียกว่า nonarobic จึงทำให้คุณสลาย Layer ได้ดีกว่า

เมื่อเรามีอายุมากขึ้น อัตราการเผาผลาญอาหาร (Metabolism) ก็จะช้าลงครับ สมมติว่าในวัยที่คุณอยู่วัยรุ่น คุณทานข้าวหนึ่งจาน ร่างกายก็เผาผลาญเป็นพลังงานไปหมด โดยไม่เหลือเก็บไว้ จึงทำให้คุณในวัยนั้นไม่มีไขมันจับตามหน้าท้องหรือต้นขา หรือใต้คางครับ คราวนี้เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณทานข้าวจานเดียวกันนั้น ในปริมาณเท่ากัน แต่เนื่องจากร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหารที่ต่ำลงกว่าแต่ก่อน จึงทำให้ยังไม่ทันที่จะเผาผลาญอาหารพวกนั้น เป็นพลังงานได้หมด มันก็หนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ใต้ผิวหนังคุณซะแล้ว (ไปซ่อนเป็น Layer ไงครับ) ก็คือไขมัน หรือความหนาที่หน้าท้องคุณยังไงเล่าครับ

ดังนั้นวิธีแก้มีสองวิธีคือ 1.เอา Layer ที่มีอยู่แล้วออก(ไขมันสะสม) และข้อ 2.กำจัดสิ่งที่จะไปเป็น Layer ใหม่ซะ(คาร์บสะสม) และสองวิธีนี้ วิธีการมีอยู่ข้อเดียวครับ คือการออกกำลังกาย โดยข้อ 1.ที่ว่าให้เอา Layer ที่มีอยู่แล้วออกนั้น ผมก็ได้อธิบายไปแล้วข้างต้นนะครับ ส่วนข้อ 2. ที่ว่ากำจัดสิ่งที่จะไปเป็น Layer ก็คือการทำให้อัตราการเผาผลาญอาหารสูงขึ้นนั่นเองครับ และวิธีที่จะทำให้มันสูงขึ้นก็คือการฝึกยกน้ำหนักครับผม

ย้อนกลับมาเรื่องการซิทอัพสักเล็กน้อยนะครับ ว่าทำไมมันก็เป็นการเล่นกล้ามอย่างหนึ่ง แต่ทำไมละลาย Layer ไม่ได้ ความจริงมันละลายได้ส่วนหนึ่งนะครับ แต่ถ้าคุณซิทอัพอย่างเดียว มันใช้พลังงานน้อยมากครับ อย่างมากก็ไม่เกิน 50 แครอลี แต่อาหารที่เราทานเข้าไปทุกวันน่ะ จะอยู่ที่ 2,000 แครอลี่ คิดดูแล้วกันว่าคุณใช้พลังงานไปแค่นิดเดียว ดังนั้นที่เหลือมันก็กลายเป็นไขมันน่ะสิครับ นี่แหละคือคำตอบที่ว่าคุณควรจะฝึกเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ร่างกายเอาไขมันพวกนั้น มาสลายใช้เป็นพลังงาน

ส่วนถ้าสงสัยว่า แล้วการวิ่งจะลดหน้าท้องได้หรือไม่ อาจจะตอบว่าได้ แต่สู้การฝึกเวทไม่ได้ เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า จริงอยู่ที่ขณะเราที่เราวิ่งออกกำลังกาย ใช้เวลาเท่าๆกับการฝึกยกน้ำหนักนั้น การวิ่งจะเอาไขมันมาสลายเป็นพลังงานได้มากกว่า แต่ว่าทันทีที่เราพัก คือหมายถึงเลิกออกกำลังกายในแต่ละวันแล้ว การฝึกเวทจะทำให้ขบวนการเผาผลาญไขมันนั้น ดำเนินไปตลอดเวลา ส่วนผู้ที่เป็นนักวิ่ง ขบวนการมันหยุดตั้งแต่หยุดวิ่งแล้ว แล้วคิดดูว่า วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง แต่สำหรับการวิ่ง มันจะเผาผลาญไขมันแค่ช่วงเวลาวิ่ง ก็ประมาณ ไม่ถึงชั่วโมง เทียบกับการเพาะกายแล้ว มันเผาผลาญตลอดทั้งวันเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานยืนยัน

หลังจากบริหารท่า Flat bench dumbbell flyes อันเป็นท่าจบสำหรับการบริหารหน้าอกแล้ว วิคเตอร์ก็ถามแจ็คสันว่า เราจะบริหารอะไรต่อล่ะ ,แจ็คสัน งง (ทำนองว่าทำไมจะต้องบริหารต่อหรือ?) ,ตอนนี้ คิดว่าวิคเตอร์ กำลังรอให้แจ็คสันคิดได้ว่าน่าจะต้องบริหารกล้ามท้องต่อ เพราะคนทั่วไปก็มักจะบริหารกล้ามท้องเป็นท่าสุดท้ายก่อนจบการบริหารในแต่ละวัน ,แจ็คสัน คงจะพึ่งคิดออก เลยบอกออกมาชัดเจนเลยว่า "ผมไม่เล่นกล้ามท้อง" ,วิคเตอร์งง จนต้องถามซ้ำว่า ไม่เคยเล่นกล้ามท้องเลยเหรอ? ,แจ็คสัน ย้ำอีกที "ไม่เคย"

วิเคราะห์ 1.แจ็คสันบอกว่า don't do abs ก็คือไม่เล่นกล้ามท้องเลย ไม่ได้บอกว่า ไม่เล่นกล้ามท้องหลังการเล่นกล้ามหน้าอก ,หรือว่าไม่เล่นกล้ามท้องในช่วงเวลานี้ นะครับ

2.คำว่า Never ของแจ็คสันนั้น ไม่ได้หมายความว่าตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเล่นกล้ามท้องนะครับ แต่เขาต้องการย้ำให้นายวิคเตอร์รู้ว่า เขาไม่เล่นกล้ามท้อง เท่านั้นเอง คือหมายความว่าเขาอาจจะเล่นเมื่อปีที่แล้ว หรือหลายปีก่อนหน้านั้น แต่ ณช่วงเวลานี้ (ก่อนการประกวด) เขาไม่เล่นกล้ามท้อง และก็ไม่มีในตารางฝึกของเขาด้วย

สรุป เพื่อนสมาชิก น้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม คิดเอาเองว่า หนทางสู่การมีกล้ามท้องมีหนทางเดียว คือต้อง "เล่นกล้ามท้อง" เท่านั้น ถามว่า ที่คุณเล่นกล้ามท้องวันละเป็นพันครั้ง เล่นติดต่อกันมาเป็นปีๆ สามารถสู้กล้ามท้องของคนที่ หนัก 116 กิโลกรัม "แต่ไม่เล่นกล้ามท้องเลย" เลยได้ไหม ต้องกลับไปคิดใหม่นะครับว่า การเล่นกล้ามท้องไม่ได้ทำให้เกิด Six Pack อย่างที่เข้าใจกัน

ทิ้งท้าย แล้วอะไรล่ะที่ทำให้กล้ามท้องแจ็คสันคมอย่างนี้ คำตอบก็คือการ ลด Layer ของชั้นผิวหนังเท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวกับการบริหารกล้ามท้องเลยครับ ส่วนรายละเอียดของการที่แจ็คสันมีกล้ามท้องที่คมกริบตามที่เห็นในรูปนั้น มีอะไรบ้าง ตรงนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคส่วนตัวของแจ็คสันไป (ซึ่งหลักใหญ่ๆก็หนีไม่พ้นการเพิ่มปริมาณมัดกล้าม เพื่อไปช่วยสลายไขมัน ,การเพิ่มการทำคาร์ดิโอเข้าไปในช่วงก่อนการประกวด ฯลฯ) แต่ในส่วนของหน้านี้ ผมเอาเรื่องของแจ็คสัน มาชี้ให้เห็นว่า Six Pack ไม่ได้เกิดจากการเล่นกล้ามหน้าท้อง อย่างที่พวกเราๆ ท่านๆ เข้าใจกัน การที่คุณขยันเล่นกล้ามท้องวันละเป็นพันครั้งนั้น ก็ชี้ให้เห็นว่าคุณขยันและเอาใจใส่ดีอยู่หรอก แต่ถ้าคุณจับหลักถูก ไม่หลงคิดว่าต้องเล่นกล้ามท้องแบบเอาเป็นเอาตาย จึงจะได้ Six Pack ก็คงจะทำให้คุณหาหนทางอื่น ที่ประหยัดเวลา และพละกำลังที่ใช้บริหารไปได้มากทีเดียว จะได้เหลือเวลาไปทำอย่างอื่นบ้างน่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย หนูป้อม » อังคาร พ.ย. 03, 2009 1:20 pm

อืมๆ เข้าใจขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณ พี่ยายหนูค่ะ หนูป้อมจะพยายาม

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>สู้ๆ</span></span>
<img src='http://images.lovelovekitty.multiply.com/image/oRDcKeSOhJP29Y7O0WLamA/photos/1M/300x300/2163/dMy-DocumentsMy-PicturesMiscL8066944-0.jpg?et=86rooCd76XJH4ZwkffO8Qw&nmid=0&nmid=340064964' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
หนูป้อม
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 364
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 1:42 pm

โพสต์โดย พัฒน์นรี » อังคาร พ.ย. 03, 2009 5:54 pm

ขอบคุณค่ะพี่ยายหนู
<a href='http://www.facebook.com/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
พัฒน์นรี
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1463
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 27, 2006 3:04 pm

โพสต์โดย rattikal » เสาร์ พ.ย. 07, 2009 7:19 pm

ขอบคุณค่ะพี่ยายหนู
ภาพประจำตัวสมาชิก
rattikal
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 354
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 10, 2007 10:53 am

โพสต์โดย ป้ามุกดา » จันทร์ พ.ย. 09, 2009 1:06 pm

ป้ามาขอแจมด้วยค่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งคนที่เลื่อมใสผลจากการยกน้ำหนักมากๆ ป้าจะเฝ้าบอกพี่ีน้องและเพื่อนๆเสมอว่าวิธีสร้างเสริมกระดูกให้แข็งแรงที่ดีที่สุดคือการยกน้ำหนัก ยกให้สม่ำเสมอ นานๆทีก็ยกให้หนักกว่าปรกติซะหน่อย เป็นการทำให้ร่างกายของเราสดุ้ง อิ อิ จะได้เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันปัญหากระดูกกร่อน กระดูกหัก กระดูกแตกในวัยสุกค่ะ
<a href='http://www.facebook.com/allloveking#!/' target='_blank'><img src='http://a.imageshack.us/img830/482/40514961.gif' border='0' alt='user posted image' /></a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ป้ามุกดา
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 796
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 17, 2006 2:08 am

โพสต์โดย tAd natchadapOrn » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 3:36 pm

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล เริ่มตาสว่างบ้างแล้วค่ะ
<span style='color:gray'><i><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>วาง&deg;&deg;&deg;เบา&deg;&deg;&deg;ว่าง</span></i></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tAd natchadapOrn
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 516
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 08, 2009 6:31 pm

โพสต์โดย ยายหนู » อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 7:58 pm

ป้ามาขอแจมด้วยค่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งคนที่เลื่อมใสผลจากการยกน้ำหนักมากๆ ป้าจะเฝ้าบอกพี่ีน้องและเพื่อนๆเสมอว่าวิธีสร้างเสริมกระดูกให้แข็งแรงที่ดีที่สุดคือการยกน้ำหนัก ยกให้สม่ำเสมอ
ตอนนี้ป้ายังยกอยู่หรือเปล่า ถ้าไช่เราก็สาวกลูกเหล็กเหมือนกัน เย้เย้...

นานๆทีก็ยกให้หนักกว่าปรกติซะหน่อย เป็นการทำให้ร่างกายของเราสดุ้ง อิ อิ จะได้เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันปัญหากระดูกกร่อน กระดูกหัก กระดูกแตกในวัยสุกค่ะ
แต่ข้อนี้ไม่ได้ค่ะป้า...นานๆยกที ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่เลย เนื่องจากกล้ามเนื้อเราไม่ได้ถูกออกแรงมานานๆ ถ้ากลับมาแล้วยกหนักกว่าเดิม อันตรายค่ะ กล้ามเนื้ออาจอักเสบหรือฉีกขาดได้ (ต่างกับเซลของกล้ามเนื้อฉีกขาดจากการฝึกเพื่อเพิ่มขยายขนาดนะคะ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm


ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron