ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ใครให้ Omega3 Supplements กับลูกน้อยบ้างคะ

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย ainsworth » อาทิตย์ ธ.ค. 20, 2009 11:34 pm

<span style='font-family:Arial'>
เรื่องของเรื่องก็คือว่า ตอนที่เจ้าเจสสิก้าเริ่มทานอาหารตั้งแต่หลังอายุหกเดือน ก็พยามยามทำอาหารเมนูปลา (oily fish) ให้แกทาน แกก็ทานดี๊ดีเรื่อยมา
จนตอนนี้แกอายุจะสองขวบกับสามเดือนแล้ว เริ่มเลือกมาก ชอบนู่นไม่ชอบนี่ และไม่ค่อยอยากจะทานปลาเท่าไหร่น่ะค่ะ
เลยลองศึกษาเรื่องวิตามินเสริม Omega3 ในเด็ก ซึ่งอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อให้เด็กได้รับ DHA และ EPA อย่างเพียงพอ
แต่ใจจริงๆ แล้วไม่อยากให้ลูกใช้พวกวิตามินเสริมใดๆทั้งสิ้น เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของธรรมชาติ ทุกวันนี้แกสุขภาพดีก็เพราะอาหารปรกติธรรมดานี่เองค่ะ
ขนาดตัวเองเป็นหวัด ยังไม่อยากจะทานพวกวิตามินซีเม็ดเลย อยากได้เป็นพวกสมุนไพรมากกว่า (หัวโบราณว่างั้น ฮี่ๆ)


วันนี้ก็เลยลองตั้งกระทู้ หาข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมจากแม่บ้านคนเก่งในครัว เผื่อจะได้แง่คิดหลากหลายออกไป
ท่านใดที่พอมีความรู้เรื่องนี้ ขอแชร์ความรู้บ้างนะค๊า</span>
<br><br><img src='http://i57.photobucket.com/albums/g239/sthelens/Icons/mixfruits.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ainsworth
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » จันทร์ ธ.ค. 21, 2009 2:59 am

ainsworth เขียน: แล้วไม่อยากให้ลูกใช้พวกวิตามินเสริมใดๆทั้งสิ้น เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของธรรมชาติ ทุกวันนี้แกสุขภาพดีก็เพราะอาหารปรกติธรรมดานี่เองค่ะ
ขนาดตัวเองเป็นหวัด ยังไม่อยากจะทานพวกวิตามินซีเม็ดเลย อยากได้เป็นพวกสมุนไพรมากกว่า (หัวโบราณว่างั้น ฮี่ๆ)


วันนี้ก็เลยลองตั้งกระทู้ หาข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมจากแม่บ้านคนเก่งในครัว เผื่อจะได้แง่คิดหลากหลายออกไป
ท่านใดที่พอมีความรู้เรื่องนี้ ขอแชร์ความรู้บ้างนะค๊า[/font]

<span style='color:deeppink'>ลองถามหมอประจำตัวลูกรึยังคะน้องโจ๋ย
ถ้าถามพี่(พยาบาลโบราณพอๆกับพี่แจ๋) วิตตามินเสริมลูก พี่ว่าไม่จำเป็นค่ะ
หมอก็ไม่แนะนำวิตตามิน อาหารเสริมเพราะลูกเราไม่แสดงอาการขาด
ตัวพี่เองก็ไม่ชอบสารสังเคราะห์(ยา วิตตามิน อาหารเสริมที่ไม่ใช่อาหารตามธรรมชาติ)


</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย prettypass2000 » จันทร์ ธ.ค. 21, 2009 4:00 am

แนะนำเหมือนพี่หนูนาว่าให้ถามหมอของเจสสิก้าก่อนให้นะคะ ที่บ้านไม่ให้เด็กๆกินวิตามินใดๆจนกว่าจะคุยกับคุณหมอค่ะ อันนี้เอามาฝากให้อ่านนะคะ

What are Omega 3s?
Omega 3s are a type of polyunsaturated fatty acids. They are found in various foods, including fish, game, seeds, and plants. Polyunsaturated fatty acids are one of four types of fats you’re your body gets through your food. Though Omega 3s are called "fatty acids," they are actually very good for you and are a necessary component for both mental and physical health. Omega 3 fatty acids are often referred to as essential fatty acids. This is because they cannot be produced by your own body, but instead need to be gotten through essential foods.

Types of Omega 3s

There are three main types of Omega 3 essential fatty acids. Your body can use all three of these Omega 3s to help perform different functions.

 &nsbp; &nsbp;* Eicosapentaenoic acid (EPA): EPA is found primarily in fish and fish oil.
 &nsbp; &nsbp;* Docosahexanoic Acid (DHA): DHA is especially important to your body, and is also found primarily in fish.
 &nsbp; &nsbp;* Alpha-Linolenic Acid (ALA): ALA is found mostly in seeds, vegetable oils, and leafy green vegetables. It is converted into EPA and then into DHA in your body.
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย นิรินธนา » จันทร์ ธ.ค. 21, 2009 4:17 am

<span style='color:black'><a href='http://www.oknation.net/blog/print.php?id=411342' target='_blank'>http://www.oknation.net/blog/print.php?id=411342</a>

น้ำมันปลา omega-3 ความเชื่อกับความจริง โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล
มาดูความจริงทางโภชนาการและทางการแพทย์ที่มีการทดลองและวิจัยให้เห็นกันว่า

น้ำมันปลามีสรรพคุณตามที่คุณได้พบเห็นจากโฆษณากันจริงหรือไม่
ผลข้างเคียงหากบริโภคมากเกินไปและคำแนะนำในการเลือกซื้อ


ความเชื่อและความจริงของน้ำมันปลา

ความเชื่อ น้ำมันปลาช่วยพัฒนาสมองในเด็ก ทำให้ลูกของคุณฉลาดขึ้น

ความจริง DHAจะ ช่วยสร้างเสริมสร้างระบบเซลล์สมองและระบบประสาท
เพื่อเพิ่มความสามารถในการ สื่อสารของเด็กทารกจนถึงอายุประมาณ 5 ปีเท่านั้น

ในเรื่องของการช่วยความจำ จากการศึกษาแล้วพบว่ามันมีส่วนช่วยเรื่องให้มีความจำได้ดีในช่วงระยะเวลา สั้นๆเท่านั้น

ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สารวิเศษที่จะช่วยให้เกิดเด็กเกิดความฉลาดมากกว่าปรกติแต่อย่างใด

การได้สารอาหารครบทุกหมู่และสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กได้เรียนรู้ จึงจะช่วยพัฒนาความสามารถในการคิดและใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมต่างหาก


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการกินน้ำมันปลา

1. การเกิดเลือดออก เนื่องจากน้ำมันปลาสามารถลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด
จึงส่งผลดีในกรณีโรคหัวใจทำให้เลือดใสขึ้น แต่หากคุณเกิดมีบาดแผลขึ้น
เลือดที่ใสจนเกินไปก็จะทำให้แผลหายได้ยากขึ้น และเกิดเลือดออกได้นานมากกว่าปรกติ

ยิ่งไปกว่านั้นการได้รับน้ำมันปลาที่มี omega-3 มากเกินกว่า 3 กรัมต่อวัน
จะมีความเสี่ยงในคนไข้ที่ระบบหลอดเลือดอ่อนแออยู่แล้ว ที่จะทำให้เกิดหลอดเลือดในสมองแตกได้
และการกินในปริมาณที่มากขึ้น อาจทำให้เกิดเลือดกำเดาได้ง่ายหรือมีเลือดออกปนออกมากับปัสสาวะได้

2. ความดันโลหิตลดลง ผลต่อระบบเลือดที่กล่าวมาทั้งหมด
หากคุณเป็นคนที่มีภาวะความดันต่ำอยู่แล้ว หรือได้รับยาลดความดันควบคู่ไปด้วย
ต้องให้ความใส่ใจในผลที่ของน้ำมันปลาที่อาจทำให้เกิดภาวะความดันต่ำได้

3. การได้รับสารพิษที่ตกค้างในปลา ในปัจจุบันในบางน่านน้ำทะเลจะมีสารพิษตกค้างอยู่ในปริมาณสูง
ในปลาบางชนิดที่จับได้ในแหล่งเหล่านี้ จึงอาจมีการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ เช่น Dioxin, Methyl mercury และ polychlorinated biphenyl
พอคุณแม่ให้ลูกๆที่ยังเล็กๆที่ยังมีการพัฒนาระบบกำจัดของเสียยังไม่ดี
อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของสารพิษเหล่านี้ จนเด็กๆแสดงอาการออกมาได้

และหากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ได้รับสารพิษเหล่านี้ ก็จะส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้โดยตรง</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย prettypass2000 » จันทร์ ธ.ค. 21, 2009 4:32 am

พี่หนูนา อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ ตอนมีชาร์ลอตต์อ่ะกังวลเรื่อง DHAเหมือนกันแต่คุณหมอบอกว่าถ้าจะให้ลูกกินก็ให้หนูกินเองแล้วให้นมลูกค่ะ แต่หมอเด็กเขาไม่แนะนำให้เด็กๆที่บ้านกินอะไรนอกจาก multivitamin น่ะค่ะ วันละสองเม็ด ส่วนของไข่แดงก็หยดลงน้ำผลไม้แทนค่ะ
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย ainsworth » จันทร์ ธ.ค. 21, 2009 3:13 pm

ขอบคุณพี่หนูนากับน้องมดค่ะ
ได้อ่านหลายๆรีเสริท์ มันมีข้อดีกับข้อเสียต่างกันไป ยิ่งอ่านยิ่งสับสน
ที่อังกฤษมีการทดลองให้เด็กประถมใช้ Omega3 เสริม ปรากฏว่าเด็กประมาณ 40% มีการเปลี่ยนแปลง
ถ้าสนใจลองอ่านบทความจาก BBC นี้ได้นะคะ

<a href='http://www.bbc.co.uk/science/humanbody/mind/articles/intelligenceandmemory/omega_three.shtml' target='_blank'>http://www.bbc.co.uk/science/humanbody/min...ega_three.shtml</a>

บอกได้เลยว่าถ้าไปถามคุณหมอละก็ คุณหมอไม่ให้ใช้แน่นอนค่ะ ที่อังกฤษนี่ อะไรแปลกๆมาหมอจะเซย์โนตลอด

ปรกติตัวเองชอบปลาอยู่แล้ว แต่อ่านเจอว่าไม่ควรทานเกิน 2 มื้อต่ออาทิตย์ ตอนท้องเจสสิก้าเลยลดลงไปให้พอดี (อยู่เมืองไทยกินน้ำพริกปลาทูบ่อยจะตาย)

และพอเจสสิก้าเริ่มโตขึ้นก็พยายามให้แกทาน แต่ตอนนี้แกเลือกมากค่ะ โตแล้ว บอกได้แล้วว่าไม่เอานู่นไม่ชอบนี่
แล้วปลาพวก oily fish พวกนี้มันจะมีกลิ่นคาวมากกว่าปลาเนื้อขาวอื่นๆ เสียด้วย
ตอนนี้พอจะมีแต่ปลาซาร์ดีนกระป๋องที่เจสสิก้ายังทานได้อยู่ และพวกทูน่า ส่วนแซลมอนแกไม่เอาเลยเพราะกลิ่นแรงค่ะ
แต่แกชอบพวกปลาเนื้อขาวชุบแป้ง ไอ้เราก็ไม่ค่อยอยากให้บ่อยๆ เพราะมันเป็นอาหารทอดน้ำมัน

เด็กๆที่บ้านน้องมดและพี่หนูนาชอบทานปลาหรือเปล่าคะ มีเมนูเด็ดๆมั้ย เผื่อจะได้ขโมยมาทำบ้างจ้า
<br><br><img src='http://i57.photobucket.com/albums/g239/sthelens/Icons/mixfruits.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ainsworth
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย นิรินธนา » อังคาร ธ.ค. 22, 2009 3:39 am

ainsworth เขียน:

บอกได้เลยว่าถ้าไปถามคุณหมอละก็ คุณหมอไม่ให้ใช้แน่นอนค่ะ ที่อังกฤษนี่ อะไรแปลกๆมาหมอจะเซย์โนตลอด 

ปรกติตัวเองชอบปลาอยู่แล้ว  แต่อ่านเจอว่าไม่ควรทานเกิน 2 มื้อต่ออาทิตย์ ตอนท้องเจสสิก้าเลยลดลงไปให้พอดี (อยู่เมืองไทยกินน้ำพริกปลาทูบ่อยจะตาย)

เด็กๆที่บ้านน้องมดและพี่หนูนาชอบทานปลาหรือเปล่าคะ มีเมนูเด็ดๆมั้ย เผื่อจะได้ขโมยมาทำบ้างจ้า

<span style='color:deeppink'>บางทีสองอาทิตย์ผ่านไปลูกยังไม่ได้กินปลาเลยจ้าแม่น้องเจส
หิ หิ ลูกไม่ชอบ ชอบกินแต่ไก่ย่างหมูย่าง บวกกับแม่ขยันน้อยด้วย
แหะ แหะ เกิดเป็นลูกพี่ต้องทำใจจ้า ตอนนี้ชอบพิซซ่ามาก 555 แม่ก็สบายไป

ปล.พี่ก็กินข้าวคลุกกับปลาทูตั้งแต่เล็กๆค่ะ อิ อิ ลูกเมืองปลาทูจ้ะ
เรื่อง หมอไม่ให้ใช้นี่ หมอคงทบทวนบวกลบคูณหาร ผลได้ผลเสียแล้วมังคะเลยไม่แนะนำ
แต่ลูกพี่นี่แม่เซย์โนก่อนค่ะ เลยไม่ต้องถามคุณหมออ่ะจ่ะ

</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
นิรินธนา
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2540
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 11, 2006 3:29 pm

โพสต์โดย prettypass2000 » อังคาร ธ.ค. 22, 2009 4:40 am

พี่โจ๋ย ไม่เป็นไรค่ะ เราช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปค่ะ ตอนนี้ไข่แดงเป็นanemicค่ะ แต่ไม่มากเพราะตอนตรวจเลือดจุดผ่านอยู่ที่ 33points แต่ไข่แดงอยู่แค่ 32.8pointsน่ะค่ะ หนูขอให้คุณหมอสั่งสารเสริมให้แกบอกว่าไม่ต้องให้กินยาแต่ให้กินพวกอาหารที่มีไอรอนเยอะๆน่ะค่ะ ตอนนี้เลยจับพี่ไข่แดงโด๊ปด้วยเนื้อวัวและผักที่มีไอรอนเยอะๆทุกวันเลยค่ะ เดี๋ยวจะพาไปหาหมอเช็คร่างกายครบขวบพรุ่งนี้แล้สจะได้เจาะเลือดอีกรอบค่ะ
<img src='http://i134.photobucket.com/albums/q90/prettypass2000/180032_160763360641641_100001239355999_351328_6246049_n-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
prettypass2000
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2049
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 3:22 am

โพสต์โดย Amelia » อังคาร ธ.ค. 22, 2009 3:39 pm

นีราไม่กินข้าวเลยเป็นมาตั้งแต่ 10 เดือนแล้ว
หมอยังไม่แนะนำให้อะไรเสริมเลย
ยิ่งคุณพ่อยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ชอบพวกอาหารเสริมเอามากๆ
ถามหมอว่ากลัวลูกขาดสารอาหาร ธาตุเหล็กในน้ำนมแม่ไม่พอแล้ว
คุณหมอบอกว่า ดูปากลูกสิ แดงแบบนี้มีหรือจะขาด
ดูแข็งแรงจะตายไป ตกลงไม่ได้ให้อะไรเพิ่มเลยค่ะ
ปลาก็ไม่ได้กินเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Amelia
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2791
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 5:45 pm
ที่อยู่: ใกล้ๆรังสิต

โพสต์โดย Slimcoach » เสาร์ มี.ค. 13, 2010 3:29 pm

ขอเสนอแนวความคิดอีกด้านนึงนะคะ

ยุ้ยได้รู้จักกับคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่ทานน้ำมันปลา ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนกระทั่งให้นมลูก เพื่อเสริมสร้างเซลล์สมอง ก็พบว่าลูก ๆ แต่ละคนแข็งแรงดี และมีพัฒนาการทางสมองที่ดีด้วยค่ะ เด็กแต่ละคนฉลาด เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ไว สุขภาพแข็งแรงมาก ๆ ค่ะ เพราะ EPA และ DHA เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสมองของเด็กและผู้ใหญ่ทุกคน

ในแง่ของอาหารเสริมนั้นจะไม่จำเป็นต้องซื้อหามารับประทานเลย ถ้าเรามั่นใจว่าเราได้สารอาหารเพียงพอที่ปริมาณร่างกายต้องการในแต่ละวันจากอาหารที่เราทาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ๆ คุณค่าทางสารอาหารลดลง เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิต และมีสารปนเปื้อน สารเติมแต่งมากขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ ผักที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง เราได้วิตามิน แต่ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายด้วย ปลาแซลมอนที่ว่ามีโอเมก้า 3 เยอะ ถ้าเป็นปลาที่เลี้ยง กับปลาที่อยู่ในทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติ ก็มีปริมาณโอเมก้า 3 ต่างกันค่ะ เพราะปลาตามธรรมชาติจะได้รับสารอาหารจากแพลงตอน สาหร่ายธรรมชาติ แต่ปลาเลี้ยงก็จะไม่ค่อยได้รับสารอาหารที่จำเป็น จึงผลิตโอเมก้า 3 น้อย

ฉะนั้นอาหารเสริมจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะน้ำมันปลาที่อเมริกาจะมีการบริโภคกันเยอะมาก ๆ ค่ะ เคยมีศาสตราจารย์ที่เป็น The best doctor of America ท่านนึงได้กล่าวในงานสัมมนาว่าน้ำมันปลาจัดเป็นอาหารเสริมอันดับ 1 ที่อเมริกาที่คุณหมอจะแนะนำให้ทานกันค่ะ

แต่ที่คุณหมอหลาย ๆ ท่านไม่แนะนำให้ทาน เนื่องจากคุณหมอส่วนใหญ่จะเน้นการรักษาด้วยยา เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ และจะมีคุณหมอส่วนน้อยที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับคนไข้ในแง่ของการป้องกันสุขภาพด้วยโภชนาการที่ดี และแน่นอนย่อมเป็นผลมาจากความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นถ้าคุณหมอยอมให้คนไข้ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณหมอไม่คุ้นเคย หรือไม่รู้จักค่ะ ถ้าเกิดคนไข้เกิดเป็นอะไรขึ้นมา คุณหมอก็แย่เลย จริงมั้ยคะ

การเลือกใช้โอเมก้า 3 หรือน้ำมันปลาของแต่ละยี่ห้อ ก็ต้องดูดี ๆ ด้วยนะคะ เพราะน้ำมันปลามีหลายเกรดค่ะ เกรดที่ราคาถูกมาก ๆ ก็จะมีความบริสุทธิ์น้อย เกรดที่แพงที่สุดก็จะเป็นเกรดที่มีความบริสุทธิ์สูง และเป็นเกรดเดียวกับที่คุณหมอใช้รักษาโรคซึมเศร้า รักษาคนที่เป็นโรคหัวใจค่ะ แต่ต้องเข้าใจว่าเป็นอาหารเสริมนะคะ ถึงใช้ร่วมในการรักษาโรคก็ไม่ได้จัดเป็นยาค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจบ้างนะคะ เพราะว่าส่วนตัวก็ทานน้ำมันปลาทุกวัน ทานกันทั้งครอบครัว ผิวพรรณและสุขภาพดีมาก ๆ

ขอแถมเรื่องประโยชน์ของน้ำมันปลาไว้ให้อ่านเล่น ๆ นะคะ

- ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดการแข็งตัวของเลือด และเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
- ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- ช่วยการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น รักษาระดับความดันโลหิต
- ลดการอักเสบของโรคข้อรูมาตอยด์
- มีงานวิจัยว่าช่วยเพิ่มไอคิว ในเด็ก
- ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- เป็นไขมันที่ดี ที่ช่วยนำไขมันไม่ดีในร่างกายไปเผาผลาญให้กลายเป็นพลังงาน

ยุ้ย ^_^
<img src='http://i531.photobucket.com/albums/dd352/mysuccessjob/rt389x120.gif' border='0' alt='user posted image' /><br><br><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>หุ่นสวย สุขภาพดี</span></span> <a href='http://www.Nutrition4Shape.com' target='_blank'>http://www.Nutrition4Shape.com</a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Slimcoach
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 2:38 pm


ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron