ครัวไกลบ้าน • แสดงกระทู้

โดย **กาแฟเย็น** » พุธ ม.ค. 20, 2010 12:55 pm

ใครมีเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับปัญหาเรื่องปวดหัวไมเกรนบ้างคะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ..........เวลาเป็นขึ้นมาเนี่ยบอกตรงๆว่าอยากหายไปจากโลกนี้เลยทรมานมาก ถ้าเกิดอาการขึ้นมาแล้วนะ อะไรที่แพลนไว้งดได้เลย นอนอย่างเดียว.....

โดย **Jeab77** » พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 1:57 am

อันนี้จากประสบการณ์ที่เห็นและช่วยปฎิบัตดูแลสามีของเจี๊ยบเองนะคะ สามีเจี๊ยบเค้าเป็นโรคนี้ตั้งแต่๒ขวบเลยค่ะ รักษายังไงก็ไม่หาย เป้รโรคประจำตัวและประจำครอบครัวไปเลยค่ะ อย่างแรกเลยถ้าไปไหนทำอะไรอยู่ต้องไม่อยู่ในที่ ที่ร้อนจัดและไกลห่างจากพวกที่สูบบุหรี่น่ะคะ ดื่นน้ำไห้เพียงพอ เพราะถ้าบางทีร่างกายเริ่งขาดน้ำก็ทำไห้ปวดหัวได้ กาแฟและคาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนี่ไม่แน่ใจนะคะ เพราะแฟนเจี๊ยบเค้าชอบดื่นโคล่า ถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มก็เป็นสาเหตุุไห้ปวดหัวเหมือนกัน ยาแก้ปวดที่หมอหรือตามสามัญประจำบ้านก็ต้องมีพกไว้ในกระเป๋าด้วยนะคะ ใส่กล้องเอาไว้ไนกระเป๋าสะพายเลยค่ะ ปรกกระติอาการปวดหัวแบบเนี้ย จะไม่โจมตีเลยที่เดียว แต่จะเริ่มค่อยๆปวดทีละนิด ถ้าไม่รีบกินยาไว้ก่อนก็จะโจมตีเรากลายเป็นปวดไมเกรนและทำอะไรอยู่ก็ต้องทิ้งอย่างเดียว ถ้าเริ่มปวดไห้กินยาไหว้เลย แฟนเจี๊ยบเค้าต้องนอนในที่มืดๆและเย็นๆ ห้ามมีแสงหรือเสียงโดยเด็ดขาด และไห้เอาผ้า๒ผืนมาชุบน้ำอุ่นหนึ่งผืน และน้ำเย็นอีก๑ผืน ผ้าอุ่นไห้โป่ะตรงด้านหลังคอ และผ้าเย็นไห้โป่ะตรงหน้าผากค่ะ
เดี๋ยวนี้หมอไห้ยามาไหม่ค่ะ อมไหว้ไต่ลิ้น ๒๐นาทีและนอนปิดตาและและปิดไฟสักพักก็หายแล้วต่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่นอนทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณกาแฟเย็นเป็นไมเกรนแบบไหนคะ ของแฟนเจี๊ยบจะเป็นแบบ ห้ามมีแสงและเสียง จะยิ่งทำไห้เค้าทรมาณมากๆเลยค่ะ ลองไปปรึกษาหมอดูหรือยังคะ เผื่อหมอเค้าจะจัดยาไห้ได้ถูก แล้วลองสังเกตตัวเองดูหรือเปล่าคะว่าไปไหน หรือทำอะไรทำไห้มีสาเหตุุทำไห้ไมเกรนขึ้นค่ะ ลองดูนะคะ แล้วค่อยไปหาหมอดูค่ะ ยาแก้โรคนี้เค้ามีหลายแบบค่ะ บางคนทานก็ถูก บางคนทานก็ไม่ถูกกัน เอาใจช่วยนะคะ

โดย **Puimek** » พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 3:09 pm

ไมเกรนมีหลายสาเหตุุค่ะ วิธีรับมือกับมันของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
พี่ปุยเป็นไมเกรนมาเกือบ 20 ปี หมอบอกว่าถ้าอยากรู้สาเหตุุต้องทำเทสต์ ซึ่งบางทีก็ไม่แน่นอน
และถึงรู้ก็รักษายากเย็นจนเกือบเป็นไปไม่ได้ ต้อง [COLOR=red]"เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน" สถานเดียว
นี่คือหมอประจำของพี่ที่ รพ. พญาไท 2 บอก และหมอที่แคนาดาคอนเฟิร์ม

คำแนะนำของพี่คือ สังเกตตัวเองดีๆ ว่าอะไรน่าจะเป็นสาเหตุุไม่เกรนของตัวเองบ้าง
สำหรับของพี่คือ 1.พักผ่อนไม่พอ 2.เครียด 3.ก่อนมีประจำเดือน (ประเด็นหลัก)
นอกนั้นก็มีประปราย ที่มันเกิดขึ้นเฉียบพลันโดยไม่รู้สาเหตุุ
การเตรียมตัวของพี่คือ 1.พกยาติดตัวเสมอ 2.พกถุงพลาสติกหรือถุงใส่อาเจียนที่หยิบมาจากเครื่องบินติดตัวไว้ยามฉุกเฉิน เพราะอาการของพี่รุนแรง ถ้าเป็นหนัก กินยาไม่ทัน อาเจียนทันที
และไม่มีหยุด ต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาให้หยุดอาเจียน (หมอบอกเป็นอาการขั้นรุนแรง)
ถ้าเวลาที่เป็นอย่างเบาะๆ คือปวดหัวมาก กินยาแล้วก็ยังต้องนอนทั้งวัน ปิดหน้าต่างมืดหมด สู้แสงไม่ไหว (เป็นแวมไพร์...อิอิ) แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ประมาณครึ่งวันถึงสองวันแล้วแต่ความแรง

ส่วนเรื่องของกินที่อาจเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนก็ไม่เหมือนกัน
บางคนดื่มกาแฟแล้วไปกระตุ้นไมเกรน บางคนดื่มกาแฟแล้วช่วยให้ปวดหัวน้อยลง
กลุ่มแรกมี 80 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มหลังจำนวนน้อยกว่า พี่ปุยอยู่กลุ่มหลังค่ะ
เคยทดลองไม่ดื่มกาแฟ 2 วันเท่านั้น ไมเกรนขึ้น อาเจียน หามเข้าโรงพยาบาล
เพราะฉะนั้นน้องอยู่กลุ่มไหน ต้องสำรวจตัวเอง อีกอย่างคือช้อคโกแล็ต
รวมทั้งอาหารเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หมอของพี่บอกว่าให้พี่ดื่มกาแฟอ่อนๆ ทุกเช้า
วันละหนึ่งแก้ว อาจเติมตอนบ่ายอีกหนึ่งแก้ว คาเฟอีนไม่ได้ทำร้ายทุกคนเสมอไป
ตรงกันข้าม ของพี่ปุยนั้น คาเฟอีนช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้

วิธีปฏิบัติประจำวัน ให้นวดท้ายทอยตัวเองทุกคืน ตรงส่วนที่เส้นเลือดมาเลี้ยงสมอง
นวดเลยขึ้นไปถึงกลางกระหม่อม และการนั่งสมาธิก็ช่วยได้มากค่ะ
รวมทั้งออกกำลังกายพอประมาณเป็นประจำ เพราะจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี
ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ พี่นวดหัว นั่งสมาธิ และออกกำลังประจำ (ไม่หนัก)
สังเกตว่าอาการไมเกรนโจมตีน้อยลงไปมาก แต่ก็ไม่หายนะคะ ยังมีอยู่
เพียงแต่เป็นแล้วไม่อาเจียน ไม่ถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาลเหมือนก่อน
นอนๆๆๆๆ ก็หายได้ค่ะ

พี่คงแนะนำ เท่านี้นะคะ จากประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับคุณไมเกรน
ตลอด 20 ปีค่ะ

Jeab77 เขียน:อันนี้จากประสบการณ์ที่เห็นและช่วยปฎิบัตดูแลสามีของเจี๊ยบเองนะคะ สามีเจี๊ยบเค้าเป็นโรคนี้ตั้งแต่๒ขวบเลยค่ะ รักษายังไงก็ไม่หาย เป้รโรคประจำตัวและประจำครอบครัวไปเลยค่ะ อย่างแรกเลยถ้าไปไหนทำอะไรอยู่ต้องไม่อยู่ในที่ ที่ร้อนจัดและไกลห่างจากพวกที่สูบบุหรี่น่ะคะ ดื่นน้ำไห้เพียงพอ เพราะถ้าบางทีร่างกายเริ่งขาดน้ำก็ทำไห้ปวดหัวได้ กาแฟและคาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนี่ไม่แน่ใจนะคะ เพราะแฟนเจี๊ยบเค้าชอบดื่นโคล่า ถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มก็เป็นสาเหตุุุไห้ปวดหัวเหมือนกัน ยาแก้ปวดที่หมอหรือตามสามัญประจำบ้านก็ต้องมีพกไว้ในกระเป๋าด้วยนะคะ ใส่กล้องเอาไว้ไนกระเป๋าสะพายเลยค่ะ ปรกกระติอาการปวดหัวแบบเนี้ย จะไม่โจมตีเลยที่เดียว แต่จะเริ่มค่อยๆปวดทีละนิด ถ้าไม่รีบกินยาไว้ก่อนก็จะโจมตีเรากลายเป็นปวดไมเกรนและทำอะไรอยู่ก็ต้องทิ้งอย่างเดียว ถ้าเริ่มปวดไห้กินยาไหว้เลย แฟนเจี๊ยบเค้าต้องนอนในที่มืดๆและเย็นๆ ห้ามมีแสงหรือเสียงโดยเด็ดขาด และไห้เอาผ้า๒ผืนมาชุบน้ำอุ่นหนึ่งผืน และน้ำเย็นอีก๑ผืน ผ้าอุ่นไห้โป่ะตรงด้านหลังคอ และผ้าเย็นไห้โป่ะตรงหน้าผากค่ะ
เดี๋ยวนี้หมอไห้ยามาไหม่ค่ะ อมไหว้ไต่ลิ้น ๒๐นาทีและนอนปิดตาและและปิดไฟสักพักก็หายแล้วต่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่นอนทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณกาแฟเย็นเป็นไมเกรนแบบไหนคะ ของแฟนเจี๊ยบจะเป็นแบบ ห้ามมีแสงและเสียง จะยิ่งทำไห้เค้าทรมาณมากๆเลยค่ะ ลองไปปรึกษาหมอดูหรือยังคะ เผื่อหมอเค้าจะจัดยาไห้ได้ถูก แล้วลองสังเกตตัวเองดูหรือเปล่าคะว่าไปไหน หรือทำอะไรทำไห้มีสาเหตุุุทำไห้ไมเกรนขึ้นค่ะ ลองดูนะคะ แล้วค่อยไปหาหมอดูค่ะ ยาแก้โรคนี้เค้ามีหลายแบบค่ะ บางคนทานก็ถูก บางคนทานก็ไม่ถูกกัน เอาใจช่วยนะคะ

คำแนะนำของพี่คือ สังเกตตัวเองดีๆ ว่าอะไรน่าจะเป็นสาเหตุุุไม่เกรนของตัวเองบ้าง
สำหรับของพี่คือ 1.พักผ่อนไม่พอ 2.เครียด 3.ก่อนมีประจำเดือน (ประเด็นหลัก)
นอกนั้นก็มีประปราย ที่มันเกิดขึ้นเฉียบพลันโดยไม่รู้สาเหตุุุ
การเตรียมตัวของพี่คือ 1.พกยาติดตัวเสมอ 2.พกถุงพลาสติกหรือถุงใส่อาเจียนที่หยิบมาจากเครื่องบินติดตัวไว้ยามฉุกเฉิน เพราะอาการของพี่รุนแรง ถ้าเป็นหนัก กินยาไม่ทัน อาเจียนทันที
และไม่มีหยุด ต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาให้หยุดอาเจียน (หมอบอกเป็นอาการขั้นรุนแรง)
ถ้าเวลาที่เป็นอย่างเบาะๆ คือปวดหัวมาก กินยาแล้วก็ยังต้องนอนทั้งวัน ปิดหน้าต่างมืดหมด สู้แสงไม่ไหว (เป็นแวมไพร์...อิอิ) แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ประมาณครึ่งวันถึงสองวันแล้วแต่ความแรง

ส่วนเรื่องของกินที่อาจเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนก็ไม่เหมือนกัน
บางคนดื่มกาแฟแล้วไปกระตุ้นไมเกรน บางคนดื่มกาแฟแล้วช่วยให้ปวดหัวน้อยลง
กลุ่มแรกมี 80 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มหลังจำนวนน้อยกว่า พี่ปุยอยู่กลุ่มหลังค่ะ
เคยทดลองไม่ดื่มกาแฟ 2 วันเท่านั้น ไมเกรนขึ้น อาเจียน หามเข้าโรงพยาบาล
เพราะฉะนั้นน้องอยู่กลุ่มไหน ต้องสำรวจตัวเอง อีกอย่างคือช้อคโกแล็ต
รวมทั้งอาหารเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หมอของพี่บอกว่าให้พี่ดื่มกาแฟอ่อนๆ ทุกเช้า
วันละหนึ่งแก้ว อาจเติมตอนบ่ายอีกหนึ่งแก้ว คาเฟอีนไม่ได้ทำร้ายทุกคนเสมอไป
ตรงกันข้าม ของพี่ปุยนั้น คาเฟอีนช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้

วิธีปฏิบัติประจำวัน ให้นวดท้ายทอยตัวเองทุกคืน ตรงส่วนที่เส้นเลือดมาเลี้ยงสมอง
นวดเลยขึ้นไปถึงกลางกระหม่อม และการนั่งสมาธิก็ช่วยได้มากค่ะ
รวมทั้งออกกำลังกายพอประมาณเป็นประจำ เพราะจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี
ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ พี่นวดหัว นั่งสมาธิ และออกกำลังประจำ (ไม่หนัก)
สังเกตว่าอาการไมเกรนโจมตีน้อยลงไปมาก แต่ก็ไม่หายนะคะ ยังมีอยู่
เพียงแต่เป็นแล้วไม่อาเจียน ไม่ถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาลเหมือนก่อน
นอนๆๆๆๆ ก็หายได้ค่ะ

พี่คงแนะนำ เท่านี้นะคะ จากประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับคุณไมเกรน
ตลอด 20 ปีค่ะ

ขอบคุณ คุณเจี๊ยบ และพี่ปุยมมากเลยค่ะ............สงสัยกาแฟจะเป็นอย่างพี่ปุยนะคะแบบเดียวกันเป๊ะเลย กาแฟจัดอยู่ในประเภทกลุ่มหลังค่ะขาดกาแฟไม่ได้ ถ้าขาดกาแฟเหมือนขาดใจ ถ้าขนาดหนักก็อาเจียรไม่มีการหยุดทั้งคืนเหมือนกัน ต้องนอนอย่างเดียวอย่างน้อยก็ 24 ชม ถึง 2 วัน.............คุณเจี๊ยบกาแฟเคยได้ยาแบบอมใต้ลิ้นมานะแพงปานทองเลย่ะ กล่องนึงมีแค่ 6 เม็ดเอง แล้วก็แรงมากเลย กินแล้วกลัวค่ะเหมือนจะขาดใจตาย กาแฟไม่อยากมีความรู้สึกแบบนั้นเลยเลิก ทุกวันนี้ก็พยายามทำใจเย็นๆ ไม่เครียด.......แต่มันก็อดมาทักทายเราเสมอๆไม่ได้ แล้วกาแฟจะลองทำตามคำแนะนำ ของคุณเจี๊ยบ และพี่ปุยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

โดย **Jeab77** » พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 6:00 pm

Puimek เขียน: ไมเกรนมีหลายสาเหตุุุค่ะ วิธีรับมือกับมันของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
พี่ปุยเป็นไมเกรนมาเกือบ 20 ปี หมอบอกว่าถ้าอยากรู้สาเหตุุุต้องทำเทสต์ ซึ่งบางทีก็ไม่แน่นอน
และถึงรู้ก็รักษายากเย็นจนเกือบเป็นไปไม่ได้ ต้อง [COLOR=red]"เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน" สถานเดียว
นี่คือหมอประจำของพี่ที่ รพ. พญาไท 2 บอก และหมอที่แคนาดาคอนเฟิร์ม

คำแนะนำของพี่คือ สังเกตตัวเองดีๆ ว่าอะไรน่าจะเป็นสาเหตุุุไม่เกรนของตัวเองบ้าง
สำหรับของพี่คือ 1.พักผ่อนไม่พอ 2.เครียด 3.ก่อนมีประจำเดือน (ประเด็นหลัก)
นอกนั้นก็มีประปราย ที่มันเกิดขึ้นเฉียบพลันโดยไม่รู้สาเหตุุุ
การเตรียมตัวของพี่คือ 1.พกยาติดตัวเสมอ 2.พกถุงพลาสติกหรือถุงใส่อาเจียนที่หยิบมาจากเครื่องบินติดตัวไว้ยามฉุกเฉิน เพราะอาการของพี่รุนแรง ถ้าเป็นหนัก กินยาไม่ทัน อาเจียนทันที
และไม่มีหยุด ต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาให้หยุดอาเจียน (หมอบอกเป็นอาการขั้นรุนแรง)
ถ้าเวลาที่เป็นอย่างเบาะๆ คือปวดหัวมาก กินยาแล้วก็ยังต้องนอนทั้งวัน ปิดหน้าต่างมืดหมด สู้แสงไม่ไหว (เป็นแวมไพร์...อิอิ) แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ประมาณครึ่งวันถึงสองวันแล้วแต่ความแรง

ส่วนเรื่องของกินที่อาจเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนก็ไม่เหมือนกัน
บางคนดื่มกาแฟแล้วไปกระตุ้นไมเกรน บางคนดื่มกาแฟแล้วช่วยให้ปวดหัวน้อยลง
กลุ่มแรกมี 80 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มหลังจำนวนน้อยกว่า พี่ปุยอยู่กลุ่มหลังค่ะ
เคยทดลองไม่ดื่มกาแฟ 2 วันเท่านั้น ไมเกรนขึ้น อาเจียน หามเข้าโรงพยาบาล
เพราะฉะนั้นน้องอยู่กลุ่มไหน ต้องสำรวจตัวเอง อีกอย่างคือช้อคโกแล็ต
รวมทั้งอาหารเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หมอของพี่บอกว่าให้พี่ดื่มกาแฟอ่อนๆ ทุกเช้า
วันละหนึ่งแก้ว อาจเติมตอนบ่ายอีกหนึ่งแก้ว คาเฟอีนไม่ได้ทำร้ายทุกคนเสมอไป
ตรงกันข้าม ของพี่ปุยนั้น คาเฟอีนช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้

วิธีปฏิบัติประจำวัน ให้นวดท้ายทอยตัวเองทุกคืน ตรงส่วนที่เส้นเลือดมาเลี้ยงสมอง
นวดเลยขึ้นไปถึงกลางกระหม่อม และการนั่งสมาธิก็ช่วยได้มากค่ะ
รวมทั้งออกกำลังกายพอประมาณเป็นประจำ เพราะจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี
ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ พี่นวดหัว นั่งสมาธิ และออกกำลังประจำ (ไม่หนัก)
สังเกตว่าอาการไมเกรนโจมตีน้อยลงไปมาก แต่ก็ไม่หายนะคะ ยังมีอยู่
เพียงแต่เป็นแล้วไม่อาเจียน ไม่ถึงกับต้องหามส่งโรงพยาบาลเหมือนก่อน
นอนๆๆๆๆ ก็หายได้ค่ะ

พี่คงแนะนำ เท่านี้นะคะ จากประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับคุณไมเกรน
ตลอด 20 ปีค่ะ

พี่ปุยคะ อาการของพี่ปุยเนี่ยเหมือนแฟนเจี๊ยบตอนเค้าเล็กๆเลยค่ะ สงสารมากๆเลยเวลาเค้าเป็นที เค้าหาหมอตั้งแต่สองขวบเลยค่ะ เมื่อสมัยก่อนการรักษาไม่ค่อยมีมาก แม่เค้าบอกเจี๊ยบว่าหมอสั่งห้ามกินช๊อโกแลีต และไห้ยาประเภทคลายกล้ามเนื้อเผื่อไห้เค้าหลับน่ะคะ ห้ามทุกอย่างเลย แต่พอเค้าโตมาเค้าก็รู้ว่าไม่ไช่เพราะกาแฟ หรือ ช๊อกโกแล๊ต แต่ก็ยังไม่รู้สาเหุเพราะอะไร แต่มันก็เริ่มดีขึ้นค่ะ เป็นพักหลัง๑๐ปีมานี่แฟนเจี๊ยบบอกไม่มีอาเจียรเลย เข้าบอกเค้าเป็นจนรู้เลยว่ามันจะมาโจมตี เมื่อไรที่เริ่มเป็นเค้าจะกินยาดักไว้เลยค่ะ แล้วขับรถกลับบ้านจากที่ทำงานเลย ปิดห้องมืดเหมือนแวมไพร์ แบบที่พี่ปุยบอกเลยค่ะ แต่๒-๓ ปีหลังมานี่เค้าเริ่มไม่ค่อยเป็นบ่อยมาก เพราะเจี๊ยบสั่งไห้ดื่นน้ำเยอะไ ไม่ไปอยู่ในที่ๆมีคนสูบบุหรี ห้ามร้อนจัด พวกเนียบางทีก็เป็นสาเหตุูของการปวดหัว บางทีก็ไม่เกรน แต่เมื่อเดือนก่อนตอนเจี๊ยบไปปรึกษาหมอเรื่องตรวจภายใน เค้าเลยไปหาหมอด้วย หมอไห้ยาอมใต้ลิ้นมา ปรกฎว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนไม่เกรนโจมตีค่ะ เลยลองใช้ ปรกฎว่าขมมากๆเค้าบอก มันทำไห้อยากอาเจียรเลย แต่พอสัก ๒๐นาทีผ่านไปเค้าหายเลยค่ะ นี่หมอไห้ใบสั่งยามาก็ยังไม่แน่ใจจะไปรับยาดีมั้ย เพราะได้ข่าวมาเหมือนกันเปมือนที่คุณกาแฟเย็นบอกน่ะคะ มันแพงเหมือนทองเลย
พี่ปุยสบายดีนะคะ เจี๊ยบยุ่งๆซะหลายวันเลยไม่ได้เข้าไปคุยด้วยเลย ตอนนี้เริ่มจะพอมีเวลาว่างมั่งแล้วค่ะ

โดย **Puimek** » พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 9:28 pm

น้องกาแฟ มิน่าล่ะ ถึงได้ชื่อกาแฟเพราะขาดกาแฟไม่ได้นี่เอง...
น้องเจี๊ยบ พี่ปุยสบายดีตามอัตภาพค่ะ ยุ่งตามประสา แต่วีคเอ็นด์นี้จะสรุปเรื่องโหวต
และจะเปิดโหวตในกระทู้เจอแฟนแล้วค่ะ จะทำให้เสร็จก่อนกลับไทยไม่ให้ค้างคา...
อย่าลืมมาช่วยกันโหวตนะคะ

เรื่องการรักษาไมเกรน พี่เจอแพทย์แผนไทยคนนึงที่เพื่อนแนะนำมา
เพื่อนพี่มีโรคปวดแขนแล้วรักษาหมอไหนก็ไม่หาย
ปรากฏมารักษากับหมอคนนี้หายค่ะ พี่เลยโทรไปปรึกษาแกเรื่องไมเกรน
แกให้คำแนะนำมา (เรื่องนวดท้ายทอยที่บอกไป) พี่ก็ทำตาม ก็ดีขึ้นเยอะ
แต่กลับไทยคราวนี้จะไปรักษากับแกที่เชียงใหม่
เห็นแกเคยรักษาคนเป็นไมเกรนหายมาหลายรายแล้ว

ถ้าน้องๆ สนใจ โทรไปปรึกษาแกก่อนก็ได้ค่ะ ชื่อหมอน้อย
เป็นหมอที่กระทรวงสาธารณสุขออกใบประกอบโรคศิลป์ให้ ไม่ใช่หมอเถื่อนนะคะ
พี่ปรึกษาไปปรึกษามา ก็เลยสัมภาษณ์แกลงคอลัมน์ "ผู้หญิงหลายโลก" ในกุลสตรีเลย
คอลัมน์เดียวกับที่พี่เขียนเรื่องพี่พิมกับคุณหมูแดงล่ะค่ะ
ถ้าโทรหาแกก็บอกว่าได้เบอร์จากพี่ปุย คนที่สัมภาษณ์หมอน้อยลงกุลสตรีนะ

หมอน้อย 053 353556 , 086 659 9958
&nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp;
เป็นแพทย์แผนไทยนะคะ รักษาด้วยสมุนไพรและวิธีไทย

โดย **Karn** » พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 10:31 pm

Puimek เขียน: เรื่องการรักษาไมเกรน พี่เจอแพทย์แผนไทยคนนึงที่เพื่อนแนะนำมา
เพื่อนพี่มีโรคปวดแขนแล้วรักษาหมอไหนก็ไม่หาย
ปรากฏมารักษากับหมอคนนี้หายค่ะ พี่เลยโทรไปปรึกษาแกเรื่องไมเกรน
แกให้คำแนะนำมา (เรื่องนวดท้ายทอยที่บอกไป) พี่ก็ทำตาม ก็ดีขึ้นเยอะ
แต่กลับไทยคราวนี้จะไปรักษากับแกที่เชียงใหม่
เห็นแกเคยรักษาคนเป็นไมเกรนหายมาหลายรายแล้ว

ถ้าน้องๆ สนใจ โทรไปปรึกษาแกก่อนก็ได้ค่ะ ชื่อหมอน้อย
เป็นหมอที่กระทรวงสาธารณสุขออกใบประกอบโรคศิลป์ให้ ไม่ใช่หมอเถื่อนนะคะ
พี่ปรึกษาไปปรึกษามา ก็เลยสัมภาษณ์แกลงคอลัมน์ "ผู้หญิงหลายโลก" ในกุลสตรีเลย
คอลัมน์เดียวกับที่พี่เขียนเรื่องพี่พิมกับคุณหมูแดงล่ะค่ะ
ถ้าโทรหาแกก็บอกว่าได้เบอร์จากพี่ปุย คนที่สัมภาษณ์หมอน้อยลงกุลสตรีนะ

หมอน้อย 053 353556 , 086 659 9958

เป็นแพทย์แผนไทยนะคะ รักษาด้วยสมุนไพรและวิธีไทย

หนูอยากพาแฟนไปรักษาหมอน้อยที่พี่ปุยแนะนำจังเลยค่ะ แฟนหนูก็ปวดไมเกรนบ่อยมาก แล้วทุกครั้งเขาก็จะให้หนูคอยนวดท้ายทอยให้ บางครั้งเป็นเหมือนแฟนของคุณเจี๊ยบเลย คือต้องนอนอยู่ในที่มืด ก็ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นโปะไปที่หน้าผากกับตา แต่มันก็ไม่หายขาด ยังคงเป็นๆ หายๆ กินยาพารากับยาแก้ปวดไมเกรนเป็นว่าเล่นแล้ว แอบมาฉกคำแนะนำของพี่ปุย อิๆๆ คงไม่ว่ากันนะคะ

โดย **Puimek** » ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 2:31 am

Karn เขียน:
Puimek เขียน: เรื่องการรักษาไมเกรน พี่เจอแพทย์แผนไทยคนนึงที่เพื่อนแนะนำมา
เพื่อนพี่มีโรคปวดแขนแล้วรักษาหมอไหนก็ไม่หาย
ปรากฏมารักษากับหมอคนนี้หายค่ะ พี่เลยโทรไปปรึกษาแกเรื่องไมเกรน
แกให้คำแนะนำมา (เรื่องนวดท้ายทอยที่บอกไป) พี่ก็ทำตาม ก็ดีขึ้นเยอะ
แต่กลับไทยคราวนี้จะไปรักษากับแกที่เชียงใหม่
เห็นแกเคยรักษาคนเป็นไมเกรนหายมาหลายรายแล้ว

ถ้าน้องๆ สนใจ โทรไปปรึกษาแกก่อนก็ได้ค่ะ ชื่อหมอน้อย
เป็นหมอที่กระทรวงสาธารณสุขออกใบประกอบโรคศิลป์ให้ ไม่ใช่หมอเถื่อนนะคะ
พี่ปรึกษาไปปรึกษามา ก็เลยสัมภาษณ์แกลงคอลัมน์ "ผู้หญิงหลายโลก" ในกุลสตรีเลย
คอลัมน์เดียวกับที่พี่เขียนเรื่องพี่พิมกับคุณหมูแดงล่ะค่ะ
ถ้าโทรหาแกก็บอกว่าได้เบอร์จากพี่ปุย คนที่สัมภาษณ์หมอน้อยลงกุลสตรีนะ

หมอน้อย 053 353556 , 086 659 9958

เป็นแพทย์แผนไทยนะคะ รักษาด้วยสมุนไพรและวิธีไทย

หนูอยากพาแฟนไปรักษาหมอน้อยที่พี่ปุยแนะนำจังเลยค่ะ แฟนหนูก็ปวดไมเกรนบ่อยมาก แล้วทุกครั้งเขาก็จะให้หนูคอยนวดท้ายทอยให้ บางครั้งเป็นเหมือนแฟนของคุณเจี๊ยบเลย คือต้องนอนอยู่ในที่มืด ก็ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นโปะไปที่หน้าผากกับตา แต่มันก็ไม่หายขาด ยังคงเป็นๆ หายๆ กินยาพารากับยาแก้ปวดไมเกรนเป็นว่าเล่นแล้ว แอบมาฉกคำแนะนำของพี่ปุย อิๆๆ คงไม่ว่ากันนะคะ

คุณ Karn พี่แนะนำให้โทรไปคุยก่อนได้เลยค่ะ
หมอน้อย สามีแกก็เป็นฝรั่งนะ แกไปอยู่เมืองนอกมาเป็นสิบปี
ตอนหลังย้ายกลับมาอยู่ไทยกับสามี แกเรียนวิชาแพทย์แผนไทยหลายปี
จนสอบได้ใบประกอบโรคศิลป์ค่ะ แล้วก็เปิดคลีนิคที่เชียงใหม่
ตอนแรกที่เพื่อนพี่บอกว่าอาการปวดแขนหายสนิทแล้วจากการรักษาของหมอน้อย
พี่ก็เลยโทรจากแคนาดาไปคุยกับแก ขอคำปรึกษา
แกก็ดี๊ดีค่ะ ให้คำปรึกษา แต่ก็รักษาให้ไม่ได้เพราะต้องตรวจก่อน
พี่เห็นชีวิตแกน่าสนใจ เลยสัมภาษณ์มาลงกุลสตรี
ปรากฏมีคนไปหาแกเพิ่มขึ้นเยอะเลย แกก็ช่วยคนไว้ได้อีกมาก

พี่กลับไทยคราวนี้ก็จะไปรักษากับแกค่ะ เพราะเป็นมาเกือบ 20 ปีแล้ว
เบื่อเหลือเกินกับคุณไมเกรน....ลองดูเป็นทางเลือกนะคะ

โดย **Jeab77** » ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 5:01 am

Puimek เขียน:
Karn เขียน:
Puimek เขียน: เรื่องการรักษาไมเกรน พี่เจอแพทย์แผนไทยคนนึงที่เพื่อนแนะนำมา
เพื่อนพี่มีโรคปวดแขนแล้วรักษาหมอไหนก็ไม่หาย
ปรากฏมารักษากับหมอคนนี้หายค่ะ พี่เลยโทรไปปรึกษาแกเรื่องไมเกรน
แกให้คำแนะนำมา (เรื่องนวดท้ายทอยที่บอกไป) พี่ก็ทำตาม ก็ดีขึ้นเยอะ
แต่กลับไทยคราวนี้จะไปรักษากับแกที่เชียงใหม่
เห็นแกเคยรักษาคนเป็นไมเกรนหายมาหลายรายแล้ว

ถ้าน้องๆ สนใจ โทรไปปรึกษาแกก่อนก็ได้ค่ะ ชื่อหมอน้อย
เป็นหมอที่กระทรวงสาธารณสุขออกใบประกอบโรคศิลป์ให้ ไม่ใช่หมอเถื่อนนะคะ
พี่ปรึกษาไปปรึกษามา ก็เลยสัมภาษณ์แกลงคอลัมน์ "ผู้หญิงหลายโลก" ในกุลสตรีเลย
คอลัมน์เดียวกับที่พี่เขียนเรื่องพี่พิมกับคุณหมูแดงล่ะค่ะ
ถ้าโทรหาแกก็บอกว่าได้เบอร์จากพี่ปุย คนที่สัมภาษณ์หมอน้อยลงกุลสตรีนะ

หมอน้อย 053 353556 , 086 659 9958

เป็นแพทย์แผนไทยนะคะ รักษาด้วยสมุนไพรและวิธีไทย

หนูอยากพาแฟนไปรักษาหมอน้อยที่พี่ปุยแนะนำจังเลยค่ะ แฟนหนูก็ปวดไมเกรนบ่อยมาก แล้วทุกครั้งเขาก็จะให้หนูคอยนวดท้ายทอยให้ บางครั้งเป็นเหมือนแฟนของคุณเจี๊ยบเลย คือต้องนอนอยู่ในที่มืด ก็ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นโปะไปที่หน้าผากกับตา แต่มันก็ไม่หายขาด ยังคงเป็นๆ หายๆ กินยาพารากับยาแก้ปวดไมเกรนเป็นว่าเล่นแล้ว แอบมาฉกคำแนะนำของพี่ปุย อิๆๆ คงไม่ว่ากันนะคะ

คุณ Karn พี่แนะนำให้โทรไปคุยก่อนได้เลยค่ะ
หมอน้อย สามีแกก็เป็นฝรั่งนะ แกไปอยู่เมืองนอกมาเป็นสิบปี
ตอนหลังย้ายกลับมาอยู่ไทยกับสามี แกเรียนวิชาแพทย์แผนไทยหลายปี
จนสอบได้ใบประกอบโรคศิลป์ค่ะ แล้วก็เปิดคลีนิคที่เชียงใหม่
ตอนแรกที่เพื่อนพี่บอกว่าอาการปวดแขนหายสนิทแล้วจากการรักษาของหมอน้อย
พี่ก็เลยโทรจากแคนาดาไปคุยกับแก ขอคำปรึกษา
แกก็ดี๊ดีค่ะ ให้คำปรึกษา แต่ก็รักษาให้ไม่ได้เพราะต้องตรวจก่อน
พี่เห็นชีวิตแกน่าสนใจ เลยสัมภาษณ์มาลงกุลสตรี
ปรากฏมีคนไปหาแกเพิ่มขึ้นเยอะเลย แกก็ช่วยคนไว้ได้อีกมาก

พี่กลับไทยคราวนี้ก็จะไปรักษากับแกค่ะ เพราะเป็นมาเกือบ 20 ปีแล้ว
เบื่อเหลือเกินกับคุณไมเกรน....ลองดูเป็นทางเลือกนะคะ

พี่ปุยคะ เจี๊ยบขอขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับเบอร์โทรของคุณหมอแผนไทยที่แนะน้ำคะ พี่ปุยจะหลับไทยเมื่อไรคะ เจี๊ยบคงต้องรออีกปีค่ะ ถ้าพี่ปุยไปแล้วหายดีขึ้น เจี๊ยบจะได้ลากพี่อ้วนไปรักษามั่งดูค่ะ

โดย **Puimek** » เสาร์ ม.ค. 23, 2010 3:07 pm

Jeab77 เขียน: พี่ปุยคะ เจี๊ยบขอขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับเบอร์โทรของคุณหมอแผนไทยที่แนะน้ำคะ พี่ปุยจะหลับไทยเมื่อไรคะ เจี๊ยบคงต้องรออีกปีค่ะ ถ้าพี่ปุยไปแล้วหายดีขึ้น เจี๊ยบจะได้ลากพี่อ้วนไปรักษามั่งดูค่ะ

น้องเจี๊ยบ พี่กลับไทยเดินทางวันที่ 9 กุมภาค่ะ กลับนานหน่อย 2 เดือน...
เพราะธุระเยอะ และจะขึ้นเชียงใหม่ด้วย คือไปรักษาไมเกรนนี้ด้วยค่ะ
ได้ความยังไงจะส่งข่าวนะ ถ้าดีจะรีบบอกต่ออีกทีค่ะ...

โดย **Phakdee** » เสาร์ ม.ค. 23, 2010 7:15 pm

Puimek เขียน:
Jeab77 เขียน: พี่ปุยคะ เจี๊ยบขอขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับเบอร์โทรของคุณหมอแผนไทยที่แนะน้ำคะ พี่ปุยจะหลับไทยเมื่อไรคะ เจี๊ยบคงต้องรออีกปีค่ะ ถ้าพี่ปุยไปแล้วหายดีขึ้น เจี๊ยบจะได้ลากพี่อ้วนไปรักษามั่งดูค่ะ

น้องเจี๊ยบ พี่กลับไทยเดินทางวันที่ 9 กุมภาค่ะ กลับนานหน่อย 2 เดือน...
เพราะธุระเยอะ และจะขึ้นเชียงใหม่ด้วย คือไปรักษาไมเกรนนี้ด้วยค่ะ
ได้ความยังไงจะส่งข่าวนะ ถ้าดีจะรีบบอกต่ออีกทีค่ะ...

คุณปุย , คุณกาแฟเย็น ไหมรู้สึกปวดหัวของเดียว มาเป็นอาทิตย์ บ่นให้พี่สาวฟังเขาว่า มีประจำเดือนก็ปวดอย่างนี้แหละเพราะเราเข้าวัยทอง จนประจำเดือนหมดยังปวดอยู่
ไหมยังไม่ได้อ่านลายละเอียดข้อความในนี้ เห็นคุณกาแฟเย็นตั้งกระทู้ เรื่องไมเกรนไหมกว่าว่าตัวเองจะเป็น
เดียวส่งพ่อพรุ่งนี้แล้วจะมาคุยด้วยนะคะ ทุกคน

โดย **Thai-Sakhon** » เสาร์ ม.ค. 23, 2010 8:52 pm

ยาพาราช่วยให้ทุเลานะคะ ไม่ช่วยให้หยุดปวดได้มากนัก ถ้าอยู่นอร์เวย์ไปหาหมอหมอจะให้ยาแก้ปวดสำหรับไมเกรนมาเลยค่ะ เป็นไมเกรนเหมือนกันค่ะ ในบางคนการกินยาคุมกำเนิดก็เป็นสาเหตุุหนึ่งของการเป็นไมเกรนค่ะ และ สาเหตุุอื่นๆพี่ปุ้ยและท่านอื่นๆพูดมาหมดแล้ว อาการเมื่อเป็นก็นอนในห้องมืดเย็นๆเงียบๆค่ะ กินยาที่หมอให้มา พักผ่อนให้เพียงพอดื่มน้ำเข้าไปมากก็จะทำให้อ๊วก ดื่มพอประมาณ อิอิ ขอให้โชคดีไม่มีไมเกรนมารบกวนบ่อยๆนะคะ กาแฟ

โดย **Amelia** » เสาร์ ม.ค. 30, 2010 2:45 pm

แวดวงอยู่กับหมอด้านสมอง หมอไมเกรนรอบๆตัวเลยค่ะ
จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีใดที่รักษาให้หายขาดได้
มีแต่ให้อาการปวดบรรเทาลงเป็นครั้งคราวค่ะ
อาจารย์หมอสมองที่เก่งๆก็ยังเป็น ยังไม่สามารถเอาตัวเองออกพ้นได้เลย
จงหาวิธีใช้ชีวิตอยู่กับมัน ถูกแล้วค่ะ
เห็นอาจารย์ที่เก่งๆเวลาเป็นทีก็นอนอย่างเดียว
ไมเกรนมาหลายๆอย่าง เท่าที่เห็นเอง(ไม่ได้มาจากทฤษฎี)
บางคนปวดหัว บางคนไม่ปวดหัว แต่เริ่มมีอาการตาพร่า แล้วตาบอดไปชั่วขณะ
แบบนี้เคยคุยกับอาจารย์ฝรั่งสอนภาษาให้เป็นค่ะ

ตัวเราเองก็ใช้ชีวิตอยู่กับมันมาเกือบ 30 ปีแล้ว
เท่าที่จำได้ที่รู้ว่าเป็นไมเกรนก็ประมาณวัยรุ่น
ก่อนหน้าก็คิดว่าปวดหัวจากความเครียดบ้าง(ตามที่หมอที่เคยไปตรวจบอก)
กินยาพาราเซตามอลก็หาย แต่นานๆไปยิ่งเป็นหนักขึ้น
ยาพวกนี้ไม่ได้กระทบอะไรเลย ไม่ช่วยได้ซักกะนิด
แต่ยังโชคดีที่มีอาการแค่ปวดหัว ไม่มีอาเจียน ไม่มีกลัวแสง เสียง หรืออากาศร้อน เย็น
ไม่เกี่ยวกับอาหารการกิน ไม่เกี่ยวกับฮอร์โมน ไม่เกี่ยวกับการนอนหลับไม่เพียงพอ งั้น.เกี่ยวกับอะไรที่มากระตุ้น หมอก็ให้คำตอบไม่ได้
ยาที่เขาใช้รักษาไมเกรนก็เคยมีประสบการณ์ผ่านการใช้งานมาหมดแล้ว
วิตามิน B6 ก็กินมาแล้ว ไวน์ขาวก็กินมาแล้ว ยาป้องกันก็กินจนเบื่อไม่ดีขึ้น
ยาที่กินแล้วหายปวด(ยาแก้ปวดราคาเป็นทองเหมือนคุณๆบอกก็ผ่านมาหมด)
มีหลายแบบ แบบเป็นเม็ด แบบอมใต้ลิ้น แบบพ่นจมูก แต่.............
ยาพวกนี้ก็มีผลเสียค่ะ มันใช้ดี หายปวดเร็วแต่ ใช้ไปนานๆทำให้อาการปวดรุนแรงขึ้น
คุณสามีเลยไม่ให้ใช้ยานี้ และไม่ค่อยสั่งให้คนไข้ด้วย
จนถึงปัจจุบัน งดยาพวกนั้นหมด ทน.อย่างเดียวเพราะให้นมลูกอยู่ ยาอะไรก็กินไม่ได้
ยกเว้นพาราเซตามอล(ก็อย่างที่บอกว่า ไม่มีผลเลยกับการปวดของตัวเอง)
ตอนนี้ก็ได้แต่ทนจนผ่าน 3 วัน และใช้เจลแช่แข็งโปะไว้อย่างเดียวค่ะ
ไมเกรนเกิดจากเส้นเลือดขยายตัวอย่างรวดเร็ว เต้นๆตุ๊บๆจนเรารู้สึกได้ถึงความแรง
เอามือนวดและกดเส้นเลือดบริเวณที่ปวด ก็จะดีขึ้น แต่จะปวดเมื่อยนิ้วมือแทน
การใช้ความเย็นช่วยให้เส้นเลือดหดตัวลงก็ช่วยได้ค่ะ แต่ถ้าใช้ความร้อนจะยิ่งแย่
ยิ่งทำให้มันขายไปใหญ่ เป็นการไปเพิ่มมันค่ะ
ตอนนี้ก็ได้แต่ทนเอาเท่านั้น การนอนหลับก็ไม่ได้ช่วยให้หาย
มีเพื่อนเป็นเภสัชแนะนำมา เกี่ยวกับการใช้ไวน์ขาวช่วย
บางคนอาจดีขึ้น เลยเอาลิ้งค์มาฝากค่ะ
<a href='http://www.wineintro.com/glossary/t/tannins.html' target='_blank'>http://www.wineintro.com/glossary/t/tannins.html</a>

ตอนนี้หมอจะแนะนำคนไข้ว่า การออกกำลังกายจะช่วยให้อาการไมเกรนดีขึ้นมากที่สุด
และหมอด้านนี้โดยตรงจะให้ยาป้องกันค่ะ กินติดต่อกันแล้วเพิ่มปริมาณยาขึ้น
มากกว่าให้ยาแก้ปวดย่างเดียว
ตอนที่อยู่อเมริกา มีหมอสมองหลายๆคนเป็นเพื่อน และคนหนึ่งเริ่มเป็น
มาปรึกษาเราเพราะเห็นว่ามีประสบการณ์ด้านนี้มานาน(ไม่ใช่ว่ารู้ดี แต่เป็นมานานต่างหาก)
มาถามวิธีรักษาของเรา เราบอกว่าหมอทุกคนช่วยไม่ได้ เราต้องรักษาตัวเอง
สังเกตตัวเอง สั่งยาตัวเองว่าจะกินอะไร เพราะลองมาหมดแล้ว
หมอได้แต่เขียนใบสั่งยาตามที่เราต้องการ(ฮ่าๆๆ ใครใหญ่กว่าหมอสั่งหมอได้)
ทางอเมริกาหมอจะให้ยาสเตียรอยด์กิน หน้าก็ฉุ สิวก็ขึ้น(เห็นจากเพื่อนหมอที่เริ่มเป็นค่ะ)
แต่ทางเมืองไทยไม่เคยเห็นหมอสั่งสเตียรอยด์ หรือมีก็ไม่รู้ ไม่เคยถามหมอ
แต่คนไทย หมอที่ไม่ใช่หมอทางนี้โดยตรงนิยมสั่งยาที่มีส่วนผสมคาเฟอีนให้ค่ะ
แต่เราเคยซื้อมากินเอง(หมอไม่ได้ให้กิน)พอยาออกฤทธิ จะเวียนหัวมากๆ
คลื่นไส้ และจะนอนไม่หลับไปทั้งวัน ต้องกินยาตัวนี้พร้อมยานอนหลับหรือยาแก้เวียนหัว
ต้องกินตั้งแต่เริ่มมีอาการก็จะดีขึ้นหน่อย(หน่อยเดียว)
ถ้าปล่อยให้ปวดมากแล้ว อะไรก็เอาไม่อยู่ อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ
แต่เปิดเพลงบรรเลงเบาๆได้ แต่เดียวนี้ไม่มีโอกาสทำแบบนี้เลย
เพราะเลี้ยงลูกอ่อน หลบไปไหนไม่ได้ ต้องทนอย่างเดียว นอนไม่ได้
เพราะลูกไม่นอนก็อด ต้องอยู่กับลูกทั้งวันทั้งคืน
ก็ได้แต่อดทนรอว่า อายุมากขึ้น อาการปวดจะดีขึ้น ห่างขึ้น ก็ได้แต่หวัง นับวันแก่ตัวลงฮิๆๆ

ปล. ไม่รู้จะอ่านเข้าใจหรือเปล่า บรรยายไม่เก่ง จิ้มดีดไปเรื่อยๆ ปวดตาหน่อยนะคะ

เรื่องการรักษาไมเกรน พี่เจอแพทย์แผนไทยคนนึงที่เพื่อนแนะนำมา
เพื่อนพี่มีโรคปวดแขนแล้วรักษาหมอไหนก็ไม่หาย
ปรากฏมารักษากับหมอคนนี้หายค่ะ พี่เลยโทรไปปรึกษาแกเรื่องไมเกรน
แกให้คำแนะนำมา (เรื่องนวดท้ายทอยที่บอกไป) พี่ก็ทำตาม ก็ดีขึ้นเยอะ
แต่กลับไทยคราวนี้จะไปรักษากับแกที่เชียงใหม่
เห็นแกเคยรักษาคนเป็นไมเกรนหายมาหลายรายแล้ว

คุณปุย หมอแผนไทยคืออะไรคะ แล้วเขารักษาโรคอะไรได้บ้าง และเขาใช้วิธีการรักษาแบบไหนคะ ที่ถามนี่ก็เพราะสงสัยอยากรู้น่ะค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ อ้อ... จริงๆแล้วพี่สาวเป็นโรคภูมิแพ้ที่แปลกๆค่ะ คือเมื่อเกิดอาการแพ้จะคันคอแล้วไอๆๆๆๆๆๆๆๆ จนหอบเลยค่ะ แล้วก็หาสาเหตุุไม่ได้ว่าแพ้อะไร คุณหมอน้อยนี่รักษาโรคภูมิแพ้มั้ยคะ จะได้แนะนำพี่สาวให้ไปหาบ้าง

ไมเกรนเนี่ยมันเป็นไงที่น่ารำคาญ วันๆนึงนี่จะระแวงอยู่เสมอว่ามันจะเยี่ยมเราเมื่อไหร่หนอ ถ้ามาก็อย่าให้เป็นหนักเล้ยยยยยยยย........ขอแค่เบาะๆก็พอ นอนพักคืนเดียวก็หายประมาณเนี้ย ถ้าเป็นหนักๆก็ 2 วันทรมาน ลูกไม่เท่าไหร่แต่ปั๋วสิบ่นมากมาย ตอนเราไม่เป็นไรเรายกปัญหาเรื่องนี้มาพูดมาอธิบายก็ว่าเข้าใจเรา.........แต่พอเราล้มแบบก็ลืมคำพูดตัวเองทุกที ใล่แต่ให้ไปหาหมอเบื่อมาก แล้วการหาหมอที่เมืองนอกเมืองนามันเป็นอะไรที่น่าเบื่อต้องนัดเวลาพอถึงเวลานัด เราก็ไม่มีอาการแล้วมันวินิจฉัยยาก..........ไม่เหมือนเมืองไทยเป็นไรขึ้นมาเดินเข้าคลีนิคลูกเดียว รักเมืองไทยมากมายก็ตอนเจ็บไข้ได้ป่วยนี่แหละ ยาก็ลองมาสารพัดแต่ไม่หาย บทจะเป็นก็เป็นขึ้นมาแบบถี่ๆ แต่บทไม่เป็นก็ไม่เป็นเลยแปลกใจมาก เพื่อนบอกว่าโรคนี้เป็นโรคเวรโรคกรรม หมดกรรมเมื่อไหร่หายเป็นปลิดทิ้ง อ้าวว่าเข้าไปนั่น........ว่าแต่ว่าเมื่อไหร่กรรมเราจะหมดเล่า แบบนี้ถ้ากรรมเราเยอะๆก็ไม่มีวันหายนิ

ขอบคุณนะคะมาแชร์ประสบการ์ณเกี่ยวกับไมเกรน จะได้เอาไปดัดแปลงในการป้องกันและการใช้ชีวิตอยู่กันมัน......อีกหน่อยต้องขอแต่งงานกับไมเกรนแล้วแหละ

ไมเกรน

ผู้ใช้งานขณะนี้