ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

อาหารล้างพิษ 20 ชนิด

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย แต้มสี » พุธ ก.พ. 03, 2010 4:49 pm

น่าสนใจดีค่ะเลยนำมาฝากกัน ทราบถึงคุณประโยชน์แล้วก็เลือกทานกันได้ตามใจชอบเลยจ้า

<span style='color:purple'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>อาหารล้างพิษ 20 ชนิด</span></span>รูปภาพ

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>1. กล้วย</span></span>
มี คุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรงแก่กระเพาะอาหารในขณะเดียวกันก็ให้ เกลือแร่ทีจำเป็นแก่ร่างกายเช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส
โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลวหรือ สารพิษส่วนเกิน ออกจากร่างกาย
โดยช่วยขับของเปลวหรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำ
ยังช่วยป้องกันท้องผูกทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปรกติอีกด้วย

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>2. อัลมอนด์</span></span>
เป็น ถั่วที่มีใยอาหารสูงมีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกายแม้จะมีไขมันแต่ก็ เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย
ในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควรกิน อัลมอนด์นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย (Hyperglycemia) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปรกติ หายใจไม่ออกไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่าไฮโป ไกลซีเมีย (Hypoglycemia)จะทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรงคิดอะไรไม่ออก

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>3. แอปเปิ้ล</span></span>
ประกอบ ไปด้วยเพกตินสูงเพกตินเป็นกากไยอาหารชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะ หนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร
เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมองนี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเปิ้ลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย
นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งฆ่าเชื้อ แบคทีเรียและเชื้อไวรัสจากการศึกษาทดลอง
ยังพบว่าแอปเปิ้ลช่วยขับสารเคมีที่ ปนเปื้อนในอาหารซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็กและทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>4. ตำลึง</span></span>
ผักใบ เขียวที่ขึ้นข้างรั้วหาง่าย และราคาไม่แพงนี้ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อย ๆ
แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่า แกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบและมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ
ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้นนอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึง
ยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย
<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>
5. อะโวคาโด</span></span>
อาจ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักแต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาด ทั่วไป
ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน (Glutathione) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
ทำให้หลอดเลือดมีความ ยืดหยุ่นทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิดและขณะเดียวกัน
ก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมี และโลหะหนักซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan)
พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ได้กินและมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>6. บีตรูต</span></span>
ผักสี แดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผักมหัศจรรย์ซึ่งประกอบไปด้วยไพโรเคมีคอล (Phytochemical) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิดซึ่งทำให้บีตรูตมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค
ทำความสะอาดเลือดทำความสะอาดตับและระบบน้ำเหลืองอีกทั้งมีคุณสมบัติพิเศษที่ส่งเสริมให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น
จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้นซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรดและด่างใน เลือดให้สมดุลด้วย้

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>7. กะหล่ำ</span></span>
เต็มไป ด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียด
ที่มีผลเสียต่อร่างกายทั้งยังช่วยทำความสะอาด ระบบย่อยอาหารรักษาและปกป้องกะเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ
พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลีและกะหล่ำปมผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม
เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ควันจากท่อไอเสียและช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้ เพียงพอในการกำจัดของเสีย

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>8. บลูเบอร์รี่</span></span>
เป็น ผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์สูงมากชนิดหนึ่ง และถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารรักษาโรค
เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มี สารแอสไพริน ตามธรรมชาติซึ่งช่วยลดการระคายเคืองสารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรีย
ในทางเดินปัสสาวะส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>9. กระเทียม</span></span>
จาก หลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือการกินกระเทียม
เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัสโดยเฉพาะทำความสะอาดเลือด
และทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิตนอกจากนี้ยังต่อต้านการ เกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น
แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไปซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มี กลิ่นกระเทียมไปด้วย


<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>10. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต</span></span>
เป็นผลไม้รสชาติดีที่ได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นกากไยอาหารประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต
สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือดนอกจากนี้
เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกะเพราะอาหาร และมะเร็งตับอ่อนสารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็น อันตรายต่อร่างกาย

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>11. มะเขือพวง</span></span>
คน ไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภทผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิและน้ำพริกสมัยก่อนแกงกะทิ
เช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วยใส่ไก่ น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลัก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้างแกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ
และคนก็เลือกกินแต่ ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัก่อนมะเขือพวง
เป็นผักที่เต็มไปด้วยกากไยอาหารซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย)
และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสีย
ออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย
<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>
12. แครอท</span></span>
เต็มไป ด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน (Alpha and Beta-carotene) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ
และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษใน สิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาทสายตา
ผิวหนังที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำและจากการวิจัยพบว่าสารในแครอทช่วยลดการ เกิดมะเร็ง
และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>13. ขึ้นฉ่าย</span></span>
ถือ ได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความสะอาดเลือดและช่วยลดความดันโลหิตสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
ควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำหรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้น จากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้าเพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่
ในขึ้นฉ่าย ยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็งและสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคน ที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ด้วย


<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>14. พืชตระกูลถั่ว</span></span>
เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ ไม่ได้กิน
และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วยพืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟ เบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่อีกทั้ง
ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำ ไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย


<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>15. ทับทิม</span></span>
ตำรา แพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามารถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้
เนื่องจากในทับทิมมี สารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยาแก้ปวด ช่วยล้าง
พิษลดการติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายและลดอาการอักเสบสำหรับผู้ที่ มีอาการไขข้ออักเสบปวดบวม ช้ำ
แนะนำให้กินทับทิมเพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ขณะเดียวกันยังมีกากไยอาหารสูงซึ่ง ช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>16. กระเจี๊ยบ</span></span>
น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดิน ปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ
ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปนหรือมี อาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>17. เมล็ดแฟลกซ์่</span></span>
ประกอบ ไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นอย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมองช่วยบำรุงความจำและมีผลดีต่อหัวใจ
เพราะช่วยลดระดับคอ เลสเตอรอลนอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>18. มะนาว</span></span>
เป็น สุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง
น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น
แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้งก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษใน ลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>19. หัวหอม</span></span>
ประกอบ ไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยทำความสะอาดเลือดช่วยลดระดับ
คอเลสเตอรอล LD ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจนอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทาง เดินหายใจทำงานดีขึ้น
ช่วยรักษาโรคหอบโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่

<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>20. สาหร่าย</span></span>
เป็น พืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้ามคุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal
แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกายในปัจจุบันเราไม่ สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่างๆ
จากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ซึ่งพลังงาน ความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ก่อให้เกิดมะเร็งได้ซึ่งสาหร่ายจะ ช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้นและสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก

โดย: พี่ทิพ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: <a href='http://www.teenpath.net/' target='_blank'>http://www.teenpath.net/</a>
EM121
<img src='http://widget.sanook.com/static_content/full/emo/31c670c8b046675c14e4319ef9a870ae_1206627299.gif' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
แต้มสี
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 450
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 6:46 pm

โพสต์โดย Jeab77 » พฤหัสฯ. ก.พ. 04, 2010 11:14 pm

ต้องแต ขอบคุณมากเลยจ้าที่เอาข้อมูลดีๆมาแชร์กัน
<img src='http://i604.photobucket.com/albums/tt123/Jeab77/Picture074-2.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeab77
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2058
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 03, 2009 4:57 pm
ที่อยู่: Ohio,USA

โพสต์โดย tAd natchadapOrn » ศุกร์ ก.พ. 05, 2010 12:35 pm

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ EM134
<span style='color:gray'><i><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>วาง&deg;&deg;&deg;เบา&deg;&deg;&deg;ว่าง</span></i></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tAd natchadapOrn
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 516
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 08, 2009 6:31 pm


ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron