ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ปากแตก ปากลอก รักษายังไงดีคะ

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย แจ่มจัง » พฤหัสฯ. ก.ค. 29, 2010 9:05 pm

หวัดดีค่ะเพื่อนๆ ครัวไกลบ้าน ไม่ทราบว่าเคยมีใครปากลอก ปากแตก แล้วรักษาหายบ้างคะ แจ่มทาวาสลีนก็แล้ว ใช้ลิปมันก็แล้ว ยังไม่หายเลยค่ะ เมื่อก่อนปากลอกเป็นแผ่นก็แกะ จนเดี๋ยวนี้ไม่มีให้ลอกแล้ว มันแสบมาก เวลาทานอะไรเผ็ดนิดก็แสบ กลางคืนโปะวาสลีนจนชุ่ม ก็ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ไปหาหมอ เค้าบอกให้เปลี่ยนยาสีฟัน ก็ทำแล้ว ไม่หายค่ะ เพื่อนคนไหนมีลิปหรือยาทาปากที่ใช้แล้วได้ผล ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
แจ่มจัง
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 9:05 pm

โพสต์โดย naddyswiss » พฤหัสฯ. ก.ค. 29, 2010 9:21 pm

<span style='color:red'>แก้ปากแตกแห้งด้วยวิธีธรรมชาติ</span>

ริมฝีปากขาดความชุ่มชื่น ตึง แห้ง ลอกเป็นขุย เป็นแผ่น หากเคลื่อนไหวริมฝีปากมากๆ ก็อาจแตกปริทำให้มีเลือดไหลซิบออกมา เมื่อหายแล้วอาจทิ้งรอยด่างดำ และดูหมองคล้ำไม่สดใส

เหตุที่ริมฝีปากแห้งแตกได้ง่าย ก็เพราะริมฝีปากไม่มีต่อมไขมันช่วยสร้างน้ำมัน เพื่อปกป้องเหมือนกับผิวหนังส่วนอื่นๆ ทั้งยังต้องสัมผัสกับอาหาร ตลอดจนสารเคมีต่างๆ นอกจากนั้น ปัญหาทางสุขภาพ และพฤติกรรมเคยตัวบางอย่าง ก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน

ตัวการทำริมฝีปากแห้งแตก

• การดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น เพราะบริเวณริมฝีปากจะสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงได้ง่าย
• ลม ฟ้า อากาศ อากาศร้อนลมแรงทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น ขณะที่อากาศที่เย็นและแห้งอย่างในฤดูหนาว ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดี แม้แต่คนที่นั่งทำงานในสำนักงาน ที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ก็มีริมฝีปากแห้งแตกได้เหมือนกัน
• แสงแดด การถูกแสงแดดเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน หรือบ่อยครั้ง ทำให้ริมฝีปากสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) ซึ่งเป็นตัวทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดรอยสลดย่น
• ลิปสติกและลิปบาล์ม ลิปสติกโดยเฉพาะที่มีคุณสมบัติ ทาติดทนนานอยู่ได้ทั้งวัน อาจมีสี น้ำหอม ลาโนลิน (ที่ให้ความชุ่มชื้น) และสารกันบูดที่ทำให้เกิดอาการแพ้ แห้งแตกได้ ลิปบาล์มทั่วไปมีสารสำคัญ ที่เป็นตัวดูดความชื้นจากริมฝีปาก นี่เองที่ทำให้เราต้องทาลิปบาล์มอยู่บ่อยๆ หากใช้จนติดเป็นนิสัยหรือในระยะยาวนาน อาจทำให้ริมฝีปากแตกแห้งมากขึ้น
• ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก การแห้งแตกอาจเกิดจากการแพ้ฟลูออไรด์ (ซึ่งพบได้น้อย) แพ้แอลกอฮอล์ สารที่ทำให้เกิดฟอง สารที่ให้ความสดชื่นหรือให้รสซ่าก็ได้
• การเลียริมฝีปาก วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกว่าริมฝีปากหายแห้งได้ (ชั่วคราว) แต่เมื่อความชื้นจากน้ำลายระเหยไปหมด ริมฝีปากจะแห้งมากขึ้น เพราะเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลาย จะยิ่งรบกวนริมฝีปากให้แห้งมากยิ่งขึ้น
• ภาวะขาดวิตามิน คนที่ขาดวิตามินบี ริมฝีปากจะแตกง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะวิตามินบีมีความสำคัญต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ
• อาการร้อนใน เมื่อมีอาการร้อนใน ริมฝีปากมักแห้งแตก ซึ่งอาจมีแผลในปากเกิดร่วมด้วยก็ได้

ตัดปัญหาที่ต้นเหตุ

• ดื่มน้ำให้เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื้นแก่ ทุกส่วนของผิวหนัง ซึ่งรวมถึงริมฝีปากแห้งๆ ของเราด้วย ข้อนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะคุณๆ ที่อายุเริ่มมากขึ้น เพราะเซลล์ในร่างกายจะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง
• หลีกเลี่ยงแสงแดด ทำได้สารพัดวิธี ไม่ว่าจะกางร่ม ใส่หมวก หรือใช้ผ้าคลุมก็ได้ เลือกใช้กันได้ตามความสะดวก และความเหมาะสม
• เพิ่มความชื้นภายในห้อง แนะนำให้วางน้ำสักแก้วไว้ใกล้ๆ เครื่องปรับอากาศ (ถ้าทำได้) เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับห้อง
• เปลี่ยนลิปติก เลือกใช้สีอ่อนๆ เนื่องจากจะมีปริมาณของสีน้อยกว่าลิปสติกสีเข้ม โอกาสแพ้จะได้น้อยลง หรือรุนแรงน้อยกว่า ส่วนลิปบาล์มนั้น ไม่ควรทาอยู่ตลอดเวลา
• เปลี่ยนยาสีฟัน เป็นยาสีฟันสมุนไพร ฟองน้อยลง รสอ่อน หรือลองเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันเด็ก หรือก่อนแปรงฟันอาจทาปิโตเลียมเจลลีเคลือบริมฝีปาก เพื่อป้องกันการระคายเคือง
• อย่าเลียริมฝีปาก ต้องยอมรับว่าข้อนี้อาจจะทำยากกันสักหน่อย แต่ควรระวังตัวเองไม่ให้เผลอบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ปากแห้งแตกยิ่งขึ้น
• รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี อย่างเช่น ธัญพืชไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ผักใบเขียว เช่นผักโขม บร็อคโคลี คะน้า และถั่วเปลือกแข็ง เช่น พวกเมล็ดอัลมอนด์ ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์

สมุนไพรคืนความนุ่มชุ่มชื่น

1. น้ำมันมะกอก ทาบางๆ ที่ริมฝีปาก จะทำหน้าที่เสมือนแผ่นฟิล์มธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงไป บรรเทาอาการแห้งตึงและเจ็บ ริมฝีปากจะรู้สึกสบายและนุ่มขึ้น วิตามินอี วิตามินเอ ในน้ำมันมะกอกยังช่วยป้องกันการทำลายจากแสงแดด และอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย
2. น้ำผึ้ง ทาน้ำผึ้งบางๆ จะช่วยคืนความชุ่มชื่นนุ่มนวลให้ริมฝีปาก สารแอนติออกซิแดนท์ในน้ำผึ้ง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ อุดมด้วยสารฆ่าเชื้อและป้องกันการติดเชื้อได้ ในกรณีที่ปากแตกมาก ช่วยให้ไม่เกิดการอักเสบ และช่วยสมานแผลให้หายเร็ว
3. ใบของต้นเปล้า เลือกใช้ใบเล็กหรือใบใหญ่ก็ได้ สัก 2-3 ใบ เด็ดให้ก้านติดมาด้วย จะได้น้ำยางใสๆ ไหลออกมา เอายางนั้นมาแต้มที่แผลริมฝีปากวันละ 2-3 ครั้ง สัก 4-5 วัน
4. น้ำตะไคร้หอม มีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ ต้มจิบแทนน้ำ ช่วยแก้ริมฝีปากแห้งแตกได้

ที่มา <a href='http://www.yourhealthyguide.com/article/ag-mouth-nature.html' target='_blank'>http://www.yourhealthyguide.com/article/ag-mouth-nature.html</a>
naddyswiss
 

โพสต์โดย แจ่มจัง » ศุกร์ ก.ค. 30, 2010 2:21 am

ขอบคุณมากค่ะคุณโหน่ง เดี๋ยวลองไปหาน้ำผึ้งมาซด เอ๊ย มาทาริมฝีปากดูบ้างเผื่อช่วยได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
แจ่มจัง
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 9:05 pm

โพสต์โดย moree » ศุกร์ ก.ค. 30, 2010 7:11 pm

ก่อนทาตัวบำรุงลองสครับปากด้วยการใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ จะดีขี้นค่ะ รอแผลหายก่อนนะคะเดี๋ยวจะเจ็บ ลองทำเองแล้วได้ผลดีทีเดียว
ภาพประจำตัวสมาชิก
moree
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 18
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 13, 2006 12:07 am

โพสต์โดย punnaporn » เสาร์ ก.ค. 31, 2010 7:34 pm

ถ้าดื่มกาแฟ ก็ให้เลิกดื่มเลยค่ะ เพราะประสบมากับตัวเองเลย กาแฟ ทำให้ผิวแห้งค่ะ แต่คงไม่เป็นกับทุกคนนะคะ ถ้ายังไม่ดีขึ้น วิธีนี้ก็น่าจะลองดูนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
punnaporn
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 14, 2008 2:10 pm
ที่อยู่: มาดริด สเปน

โพสต์โดย mummy2jasmine » เสาร์ ก.ค. 31, 2010 9:12 pm

หลานสาวอ้ำก้อเป็นค่ะ ลอกเป็นแผ่นๆเลย
น้ำค่ะ ปัจจัยหลัก ดื่มน้ำมากๆ น้ำเปล่าดีที่สุด แต่ถ้าดื่มน้ำเปล่าไม่ได้
เป็นน้ำหวานอะไรก้อได้ที่ชอบน่ะค่ะ ดื่มให้มากที่สุด

น้ำมันมะกอกผสมน้ำผึ้งผสมน้ำตาลทรายแบบละเอียด
ผสมกันแล้วน้ำมาถูๆขัดๆริมฝีปากเบาๆ อาทิตย์ละครั้ง
เสร็จแล้วล้างออก ทาวาสลีนตาม ริมฝีปากจะชุ่มชื่นขึ้นมากเลยค่ะ
<span style='color:red'>ดินภูเขาไฟBentonite พอกหน้าทำDetox,บัวหิมะ,ครีมบาชิ,หมอจุฬา,Haloxyl ลดรอยดำใต้ตา, <br>BB cream, Pro78 palette และอีกมากมาย ที่ตลาดสดค่ะ</span><br><img src='http://i201.photobucket.com/albums/aa75/jasaum/2222.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><span style='color:red'>www.facebook.com/aumzy.tanner (England)</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
mummy2jasmine
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 157
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 08, 2007 11:28 am

โพสต์โดย แจ่มจัง » อาทิตย์ ส.ค. 01, 2010 7:19 am

ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
แจ่มจัง
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 21, 2006 9:05 pm

โพสต์โดย กมลวัทน์ » อาทิตย์ ส.ค. 01, 2010 8:28 pm

เจ้เคยปากลอก จากสาเหตุุของยาสีฟันเหมือนกัน แตกลอก เห่อ ด้วย ยี้ห้อ คอลเกต ตอนอยู่ไทยใช้ได้ดีไม่มีปัญหา มาอยู่นี่ ดัดจริตแพ้คอลเกตซะงั้น ถ้าทำตามคำแนะนำเพื่อนๆแล้วไม่หาย ก็ลองเปลี่ยนยาสีฟันไปเรื่อยๆดู อาจจะเป็นสาหตุนี้ก้ได้นะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
กมลวัทน์
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 1601
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 16, 2006 10:33 am
ที่อยู่: FRANCE

โพสต์โดย pamie » อาทิตย์ ส.ค. 01, 2010 8:42 pm

อันนี้พึ่งค้นพบนะคะ และก็ได้แต่ขอบคุณสวรรค์ เพราะอาการเหมือนคุณแจ่มเลย ถ้าลิปบาล์มก็แล้ว หันมาใช้ลิปสติคที่มีมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ได้อย่างเดียว และทาบ่อยก็ไม่ได้ อาการลอกกำเริบ (คือต้องใช้แต่ของมียี่ห้อ) แต่สาเหตุุ เพราะสมัยสาวยี่สิบต้นๆ ไปเห็นโฆษณาทาครีมของเขา แล้วทำให้ปากสีชมพู ค้าาาา.. ปากชมพูจริงๆ มันก็ลอก ปอกเปิก ซะเลือดออกซิบๆ บวมซะเจ่อ วิ่งไปหาหมอ หมอก็รักษาอาการอักเสบหายคะ แต่หลังจากนั้นมาจนเดี๋ยวนี้ กลายเป็นคนริมฝีปากแห้ง เซ็นซิทีฟ ลิปสติกเนียะ ใช้ได้ไม่กี่ยี่ห้อ ต้องมีมอยซเจอร์เท่านั้น จนวันหนึ่งเข้าไปในร้านบูทส์ แล้วหยิบเอา คอลลาเจน ที่ใช้ทาริมฝีปาก ไม่เชื่อแต่ต้องเชื่อ หายแล้วคะ สุขภาพปากเริ่มดีขึ้น แต่ต้องใช้ตลอดตอนนี้ไม่มีอาการลอกหรือคันคะเยอแล้วคะ
พูดถึงวิธีที่คุณอ่ำแนะนำก็ดีนะคะ จะนำไปใช้ขัดริมฝีปากบ้าง จะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ลองใช้ดูนะคะ ตัว <span style='color:blue'>คอลลาเจน สำหรับทาริมฝีปาก</span> อาจจะดีขึ้นเหมือนปอมก็ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
pamie
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 797
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 14, 2009 9:16 pm


ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน