ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

มาดูแล"หลัง"ของคุณและของคนที่คุณรักกันเถอะ

ห้องนี้สำหรับสมาชิกพูดคุย ปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ

โพสต์โดย tAd natchadapOrn » พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 4:15 pm

หัวเรื่อง: วิธีการดูแลหลังและกระดูกสันหลัง
ถึง:



สาระ การดูแลหลังและกระดูกสันหลัง
ทำไม ? ไอจามห้ามก้มหลัง !!

ฟอร์เวิร์ดเมล์ฉบับนี้ พรรคพวกที่อายุเลยหลักสี่ไปแล้วส่งมาให้ เหมาะสำหรับคนทำงานทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ทำงานที่่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิเตอร์ทั้งวัน ผู้ที่ชอบการออกกำลังกาย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ส่วนใหญ่คนเรามักละเลยหรือไม่เคยรู้มาก่อน โดยเป็นการบรรยายของ ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นายแพทย์เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้ อำนวยการ ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย เรื่อง "การดูแลสุขภาพ : ห่างไกลโรคข้อ - ปวดคอ ปวดหลัง และการปวดกล้ามเนื้อจากการทำงาน"
ในสภาวะปรกติ กระดูกคนเราจะมีทั้งการสร้างและการทำลายเนื้อกระดูกพร้อม ๆ กันไปตลอดเวลา โดยที่อัตราการสร้างและการทำลายนี้จะมีพอ ๆ กัน จึงอยู่ในสมดุล และในสภาวะบางอย่างจะมีการกระตุ้นให้มีการทำลายเนื้อกระดูกมากขึ้นโดยที่การ สร้างจะน้อยลง ก็จะเป็นปัจจัยให้กระดูกบางโดยเฉพาะในคนสูงอายุ จนสุดท้ายกระดูกนั้นจะหักง่าย ๆ ทรุดง่าย ๆ จุดที่พบได้บ่อยคือ ที่ข้อมือ สะโพก และกระดูกสันหลัง

@ กระดูกสันหลัง
กระดูกสันหลัง ประกอบด้วย กระดูกคอ ทรวงอก เอว และ ก้นกบ เรียงต่อกันจากคอลงมาถึงก้นมีลักษณะแอ่น(คอ) โค้ง(ทรวง อก) แอ่น(เอว) โค้ง(ก้น กบ) ตามลำดับ หักลบกันแล้วจะเป็นเส้นตรง

1. กระดูกคอ เคลื่อนไหวได้ทุก ทิศ คือ ก้ม เงย ตะแคงซ้าย ขวา หมุนซ้าย ขวา จึง ทำให้สึกหรอและปวดได้ง่ายกว่าที่อื่น สาเหตุุุุที่ทำให้คอสึก คือ การนั่ง นอน ทำงาน ในท่าที่ไม่ถูกต้อง

2. กระดูกทรวงอก เคลื่อนไหวก้ม ไม่ได้ ได้แต่อเนกับหมุนบิดซ้ายขวา จึงไม่ค่อย เสื่อม

3. กระดูกเอว เคลื่อนไหวได้มาก คือ ก้ม และ เงย

@ หมอน รองกระดูก มีลักษณะประกบกันเฉย ๆ โดยมีตัวยึด 4 จุด ตัว ที่ยึดนี้เรียกว่า ข้อ ตรงกลางหมอนรองกระดูกเป็น ศูนย์รวมประสาท เส้นประสาทจะโผล่ออกมาตามข้อ เพื่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หมอนรองกระดูกจะ สึกไปเรื่อย ๆ ตามอายุ ถ้าตลอดชีวิตสึก 4 ซม. ถือว่าปรกติ เช่นสูง 170 พอแก่อายุ 70-80 ปี ความสูงลดลงเหลือ 166 ถือว่าเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าเตี้ย ลงปีละ 1 ซม. ถือว่าเป็นโรคกระดูกผุ หญิงวัย 55 ปีขึ้นไป กระดูกจะทรุดลงตามธรรมชาติ ตัวก็จะเตี้ยลง และพุงยื่น

@ เส้นประสาทคอ
มี 8 คู่ ถ้าเกิดกระดูกคอเสื่อมจะเป็นต้นเหตุของอาการปวดตามที่ต่าง ๆ โดยคู่ที่ 1 จะไปที่หัว คู่ที่ 2 หลังหู กระบอกตา ขมับ คู่ที่ 3 ต้นคอ คู่ที่ 4 สะบัก คู่ที่ 5 บ่าและไหล่ คู่ที่ 6 ต้นแขน คู่ที่ 7 ปลายแขน และคู่ที่ 8 มือ @ เส้นประสาทเอว
มี 5 คู่ คือ คู่ที่ 1 เอว คู่ที่ 2 โคนขา คู่ที่ 3 หัวเข่า คู่ที่ 4 น่อง และคู่ที่ 5 เท้า การปรับ ปรุงท่าทางในกิจวัตรประจำวัน

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ท่านอน </span> ต้องเหมือนกับคน ยืนตรง เวลานอนให้ใช้หมอนหนุนคอ จงจำไว้หมอนมีไว้หนุนคอ ไม่ใช่หนุนหัว หมอนที่ดีมีลักษณะตรงกลางบางกว่าซ้ายและขวา หากไม่มีหมอนจะใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นแท่ง แล้วรองหนุนคอให้พอดีก็ได้

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>นอนหงาย </span> การนอนหงายจะทำ ให้หลังแอ่น วิธีแก้ต้องงอสะโพกและเข่า โดยมีหมอนรองใต้โคนขา หลังจะแบนเรียบติดที่นอน

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>นอนตะแคง </span> เป็นท่านอนที่ดีที่สุด หลังจะตรง นอน ตะแคงข้างใดก็ได้โดยกอดหมอนข้างใบใหญ่ ขาล่างเหยียดตรง ขาบนงอก่ายบนหมอนข้าง
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'> นอนคว่ำ</span> เป็นท่านอนที่ไม่ดี ห้ามนอนท่านี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่น ทำให้ปวดหลังระดับเอวมากขึ้น กระดูกเอวและคอเสื่อม สำหรับเด็กถ้าต้องการให้ หัวทุย ให้เด็กนอนคว่ำได้ 3 เดือน หลังจากนั้นค่อยหัดให้เด็กนอนหงาย หัวก็ยังทุยอยู่

การลุกจากที่นอนและการลงนอน ห้ามสปริงตัวลุกขึ้นมาตรง ๆ เพราะหลังจะสึกมาก ควรปฏิบัติดังนี้
**ถ้านอนหงายอยู่ให้งอเข่าขึ้นมาก่อน
***ตะแคงตัวในขณะเข่ายังงออยู่
**** ใช้ข้อศอกและมือยันตัวขึ้นในขณะที่ห้อยเท้าทั้ง 2 ข้าง ลงจากเตียง
*****ดันตัวขึ้นมาในท่านั่งตรงได้ โดยให้เท้าวางราบบนพื้น

ในท่าลงนอนให้ทำสวนกับข้างบนนี้

การดูโทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ ห้ามนอนดู TV หรือนอนอ่านหนังสือ เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกคอสึก นั่งจะดีกว่า
การนั่ง
**ควรนั่งเข้าให้สุดที่รองก้น
***หลังพิงสนิทกับพนักพิง หลังจะตรง
****เท้าวางบนพื้นได้เต็มเท้า

ส่วนสำคัญของเก้าอี้
- สูงพอดีเท้าวางราบบนพื้นได้
- ที่นั่ง รองรับจากก้นถึงใต้เข่า
- พนักพิง เริ่มจากที่นั่งสูงถึงระดับสะบัก โดยทำมุม 110 องศา กับที่นั่งรองก้น

โต๊ะทำงาน
ควรจะลาดเอียงเทเข้าหาตัว แบบโต๊ะสถาปนิก คอจะได้ไม่ต้องก้มอ่านหนังสือ
ท่านั่งคอมพิวเตอร์และ พิมพ์ดีด จอคอมพิวเตอร์ควรตั้งอยู่ตรงระดับหน้า เหมือนที่ตั้งโน้ตดนตรีและอยู่สูงพอดี ระดับตา จะได้มองตรง ๆ ได้ ห่างประมาณ 2-3 ฟุต มี แผ่นกรองแสง คีย์บอร์ดควรอยู่ระดับเอว หรืออยู่เหนือตักเล็กน้อย ไม่ควรวางคีย์บอร์ดบนโต๊ะเพราะต้องยกไหล่ ทำให้ปวดไหล่

ท่านั่งของผู้บริหาร เก้าอี้ ส่วนใหญ่ของผู้บริหารจะเอนไปข้างหลังได้ จึงจำเป็นต้องก้มคออยู่เสมอ ทำให้เหมือนกับนอนหมอนสูง วิธีแก้ ควรให้พนักพิงสูงขึ้นไปจนรองรับศรีษะได้ และควรจะให้บริเวณต้นคอนูนกว่าส่วนอื่น เพื่อรองรับกระดูกต้นคอด้วย หรือมิฉะนั้นให้นั่งเก้าอี้ที่เอนไม่ได้จะดีกว่า
ลุกจากที่นั่ง ให้เขยิบก้นออกมาครึ่งหนึ่ง ก้าวเท้า ออกไป มือยันที่ท้าวแขน แล้วลุกขึ้น

นั่งขับรถยนต์
**เลื่อนที่นั่งให้ใกล้พวงมาลัย เมื่อเวลาเหยียบครัชเต็มที่ เข่าควรสูงกว่าสะโพก
***หลังควรมีหมอนรองถ้าที่นั่งลึกเกินไปและพนักพิงไม่ควร เอนเกิน 100 องศา
****ถ้าที่นั่งนุ่มและนั่งแล้วก้นจมลงในเบาะ ต้องมีเบาะเสริมก้นด้วย

การเข้านั่งรถยนต์ ให้เปิดประตู หันหลังให้เบาะนั่ง ลงนั่งตรง ๆ แล้วจึงค่อย ๆ หมุนตัวไปข้างหน้าพร้อมยกเท้าเข้ามาในรถทีละข้าง

การลงจากรถยนต์ ให้ทำย้อนทาง

การดันหรือผลักรถ หันหลังใช้ก้นดัน

การฉุดลาก หันหลังให้วัตถุที่จะฉุดลาก

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ไอจาม </span> ห้ามก้มหลังขณะไอจามเด็ดขาด เพราะเวลาไอจามจะมีแรงกระแทกมาก ให้ยืดหลังให้ตรง ใช้มือหนึ่งกดหลังไว้ อีกมือหนึ่งปิดปาก แล้วค่อยไอ หรือจาม

แปรงฟัน ให้นั่งแปรง ห้ามก้มหลังแปรงฟัน

อาบน้ำ ให้นั่งอาบ เวลาถูขาให้ยกขาขึ้นมาถู โดยไม่ต้องก้ม

การยืนนาน ๆ ควร มีตั่งรองเท้า สูงประมาณครึ่งน่อง เพื่อยกเท้าขึ้นพักสลับข้างกัน ทั้งนี้เพราะเวลางอสะโพกและเข่า กระดูกสันหลังจะตั้งตรงไม่แอ่น หรืองอ ทำให้ยืนได้นานโดยไม่ปวดหลัง และช่วยพักขาเวลาเมื่อยขา เปลี่ยนสลับขาบนตั่งได้

<span style='color:red'>ท่าบริหาร </span>
เป็นการป้องกันไม่ให้กระดูก เสื่อมเร็ว โดยมีหลักการคือทำอย่างไรให้กล้ามเนื้อทุกส่วนแข็งแรงเท่า ๆ กัน และออกแรงอย่างไรให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำท่าละ 10 รอบ ถ้าเกินจะทำให้กล้ามเนื้อเปลี้ย

มี 6 ท่า ดังนี้
1. กล้ามเนื้อหน้าท้อง
1.1 นอนหงาย งอเข่า 2 ข้าง มือสอดใต้คอ ยกหัวนิดหน่อยพร้อมเหยียดขาตรง นับ 1-5
1.2 นอนหงายขาซ้ายไขว่ ห้าง มือสอดใต้คอ ยกข้อศอกและลำตัวขวาเข้าหาขาซ้ายที่
ไขว่ห้างอยู่ นับ 1-5 ทำทั้งซ้ายและขวา
1.3 ยกขาลอยเหยียดตรง 1 ข้าง บิดสะโพก (ยักสะโพก) นับ 1-5 ทำทั้ง 2 ข้าง
1.4 ขมิบก้น นอนหงายกอดอก ขมิบก้นให้ก้นสูงขึ้นเล็กน้อย หลังแนบพื้น นับ 1-5

2. กล้ามเนื้อหลัง
-นอนหงายงอเข่า 2 ข้าง มือสอดใต้เข่า ดึงเข่าชิดหน้าอก นับ 1-5

3. กล้ามเนื้องอสะโพก
-ทำแบบท่ากล้ามเนื้อหลัง แต่งอเข่าข้างเดียว นับ 1-5 ทำทั้ง 2 ข้าง

4. กล้ามเนื้อเหยียด สะโพก
-นอนหงาย งอเข่าข้างหนึ่งไว้แล้วใช้ส้นเท้าอีกข้างหนึ่งกดเข่าที่งออยู่แล้วดันเอนมา จนชิดพื้น นับ 1-5 ทำสลับกัน

5. กล้ามเนื้อโคนขา
-นั่งกับพื้นงอเข่าข้างหนึ่ง ขาอีกข้างเหยียดตรง เอามือแตะปลายเท้าที่เหยียดตรง นับ 1-5 ทำทั้ง 2 ข้าง

6. กล้ามเนื้อน่อง
-ยืนหันหน้าเข้าหาโต๊ะ เอามือยันโต๊ะ งอเข่าหน้าไปข้างหน้า ขาหลังเหยียดตรง แอ่นตัวไปข้างหน้า นับ 1-5 ทำสลับข้าง

สรุปประเด็นสำคัญช่วงคำถามคำตอบ

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ที่นอน</span></span> ควรนุ่มพอควร เวลานอนไม่จมมาก จมแค่ 1-2 ซม. ควรเป็นที่นอนที่ใช้ใยกากมะพร้าว จะดีที่สุดเพราะโปร่ง อากาศผ่านได้ ราคาแพง ประมาณ 8,000-10,000 บาท ยี่ห้อที่ดีเช่น สายรุ้ง ของศรีมหาราชา ปัจจุบัน ปิดกิจการ

เก้าอี้เหล็กไฟฟ้า ตัวละ แสน เป็นกระแสแม่เหล็ก มีรังสีแม่เหล็ก เบต้า หรือแกรมม่า ทำให้เกิดมะเร็ง ใช้นวดกล้ามเนื้อ ไม่ได้ผล เป็นการหลอกลวง

สายไฟฟ้าแรงสูง คนที่ อยู่ใต้ไฟฟ้าแรงสูงในรัศมี 60 เมตร มีสถิติเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดสูง ต้องเกิน 100 เมตร ขึ้นไปจึงจะปลอดภัย

การเล่นกอล์ฟ การบาด เจ็บจะเกิดจากการไดร์ฟ 99% อีก 1% บาดเจ็บจากสนาม การไดร์ฟกอล์ฟปรกติไม่ มีปัญหากับ กระดูกสันหลัง แต่ถ้าไดร์ฟ ติดต่อกันโดยไม่หยุด เช่นมีเครื่องตั้งกอล์ฟ หรือ บางรายตีโดนอิฐ ดิน ไหปลาร้าหักได้

คนที่ผ่าตัด กระดูกสันหลังทับเส้นประสาทสามารถเล่นกอล์ฟได้โดยใส่เสื้อพิเศษ ป้องกัน

คนที่ผ่าตัดหมอนรองกระดูกที่ต้นคอโดยเอากระดูกเชิงกราน มาต่อ ข้อกระดูกคอจะหายไป 1 ข้อ และเชื่อมกระดูกแล้ว สามารถออกกำลังกายได้

<span style='color:red'>การเสื่อมของกระดูก จะ เกิดขึ้นมากในขณะที่เราอยู่เฉย ๆ</span> เช่น นอน นั่ง เพราะกินเวลานาน
แต่ถ้าเคลื่อนไหวการเสื่อมจะน้อยกว่า เพราะกินเวลาน้อย


<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>โยคะ</span>

การฝึกโยคะมีผลดี ต่อการฝึกลมหายใจและได้สมาธิ แต่ไม่ถือเป็นการออกกำลังกาย และ บางท่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่่เสี่ยงอันตรายต่อกระดูกเพราะเกินกว่าธรรมชาติ เช่น การทรงตัวบนพื้นด้วยศรีษะ การแอ่นหลัง ทำให้กระดูกหลังเสื่อมมาก

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ไท้เก๊ก</span>

เป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อาจารย์ เคยทำวิจัยเกี่ยวกับ ชี่กง (คือการออกกำลังกายตามมโนภาพ เช่น วาดมโนภาพว่ายกของหนัก น้ำหนักเท่าไรก็ได้แล้วแต่จะนึก) โดยใช้คน 30 คน เป็นเวลา 3 เดือน ได้ผลคือเหงื่อออกและกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นมาก นอก จากนี้อาจารย์มีโครงการจะทำวิจัยกับคนกลุ่มใหญ่ขึ้น โดยเน้นผลใน เรื่องหัวใจ ความดันโลหิต และชีพจร

เก้าอี้ไฟฟ้านวดทั้งตัว ไม่ มีประโยชน์เสียเงินเปล่า เพราะนวดทั้งตัว แต่เราต้องการเฉพาะจุด และไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ แต่รักษาที่ปลายเหตุ เช่นเดียวกับบริการของหมอนวด นวดวันนี้สบาย พรุ่งนี้ปวดอีกแล้ว ควรรักษาที่ต้นเหตุด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

การดึงคอ คือการดึงเอ็น ที่ยึดอยู่ให้ห่างออก คนที่ข้อต่อกระดูกหลังยุบ รักษาโดยการดึงคอได้
การดึงคอ มีข้อห้าม 3 กรณีคือ กระดูกหัก กระดูกเชื่อมต่อกันหมด หรือเป็นโรครูมาตอยด์ ทั้งนี้ต้องให้แพทย์ผู้ชำนาญวินิจฉัยก่อนว่าไม่ได้เป็น 3 โรคที่กล่าว และควรกระทำโดยผู้ชำนาญการจึงจะปลอดภัย


<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>จ็อกกิ้งและเต้นแอโรบิค</span> เป็น การออกกำลังกายที่หนัก และมีผลต่อกระดูกมาก ทำให้ข้อเสื่อมได้ง่ายกว่าการเดิน ยกตัวอย่าง การเดิน น้ำหนักขาที่เราวางบนพื้นเท่ากับน้ำหนักขา เช่น ขาหนัก 10 กก. เวลาเดินจะเกิดแรงกระแทกเท่ากับ 10 กก. แต่ถ้าวิ่ง น้ำหนักตัว 60 กก. วิ่ง 3 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะวิ่งไปข้างหน้า 2 ขาจะลอยจากพื้นแรงกระแทกจะ คูณ 3 เท่ากับ 180 กก.

การวิ่งทำให้กระดูกเสื่อมมากกว่าการเดิน ถ้าอยากถนอมกระดูกและข้อให้เดินดีกว่า การวิ่งมี ข้อดีทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง แต่มีข้อเสียคือขาพังเข่าพัง ขณะวิ่งห้ามหยุดทันทีเพราะเลือดจะตกไปที่ขาทำให้หัวใจวายได้ แม้แต่บิดาแห่งจ็อคกิ้งก็ยังหัวใจวายคาที่ ดังนั้นในการออกกำลังกายต้องเลือกท่าบริหาร พื้นลู่วิ่งและรองเท้าที่เหมาะสม


การออกกำลังกาย ต้อง คำนึงถึงวัยและความเหมาะสมกับตัวเรา ในวัยหนุ่ม สาวออกกำลังกายโดยการวิ่งได้ แต่เมื่ออายุมาก ขึ้น ๆ ต้องเปลี่ยนให้เบาลง เป็นว่ายน้ำ เดิน พออายุ 80-90 ปี แค่ยืนแกว่งแขน หรือรำมวยจีนก็พอ ขอให้คำนึงถึงสายกลางเพื่อสุขภาพ

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>นั่งสมาธิ</span> ไม่จำเป็น ต้องนั่งพับเพียบหรือขัดสมาธิ นั่งอย่างไรก็ได้ ที่ทำให้เกิดสมาธิดีที่สุด*****ควรนั่งเก้าอี้ดีที่สุด

การรักษาโดยหมอแผนโบราณที่ดึงกระดูกปุ๊บแล้วเข้าที่ มีความเสี่ยงสูงและไม่มีใครรับรองผล ที่ดึงแล้วหายก็มี แต่ที่ดึงแล้วเป็น อัมพาต หรือกระดูกหักก็มี

ท่าออกกำลังกายโดยการก้มเอามือแตะเท้า เป็นท่าที่อันตราย ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อม
นิ้ว ห้ามหักหรืองอ ให้ดึงได้อย่างเดียวคือดึงตรง ๆ จะเกิดเสียงดังเป๊าะ ในข้อนิ้วจะลดแรงกดดันทำให้สบายขึ้น

การนั่งซักผ้านาน ๆ จะทำให้ปวด หลัง ควรนั่งเก้าอี้และวางกาละมังผ้าบนโต๊ะ หรือยืนซักจะทำให้ไม่ปวดหลัง

การหยิบของที่พื้น ห้าม ก้มเด็ดขาด ให้ย่อเข่าลงแล้วหยิบ ถ้าของหนักให้ ย่อเข่าแล้วหยิบของมาอุ้มไว้กับอกแล้วลุกขึ้น


<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>คำเตือน - น้ำอัดลม ควรละเลิกการดื่มหรือบริโภค เพราะ กรด และ สารเคมีส่วนผสม มีส่วนทำลาย ย่อยสลายมวลกระดูกให้เสื่อมเร็วขึ้น นอกจากทำลายสุขภาพในส่วนอื่น ๆ และ ส่งผลเสียต่อสุขภาพของไต</span></span>
<span style='color:gray'><i><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>วาง&deg;&deg;&deg;เบา&deg;&deg;&deg;ว่าง</span></i></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
tAd natchadapOrn
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 516
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 08, 2009 6:31 pm

ย้อนกลับไปยัง คลีนิคชาวครัว

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน