หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 2:19 am
โดย ไหมมัดหมี่
เคล็ดลับคู่บ้าน Thaiparents.comจ้ะ
<span style='color:red'>1.การล้างตู้เย็น</span>
จะล้างตู้เย็นให้สะอาดให้ใช้โซดาคาร์บอเนต ( โซดาทำขนม หรือ เบ้กกิ้งโซดา ) 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในน้ำประมาณ 1 ลิตร หรือ 4 ถ้วย แล้วล้างออก กลิ่นเหม็นจะ หมดไป

<span style='color:red'>2. ล้างจานหรืออ่างที่เป็นสแตนเลส</span>
อ่างล้างจานหรือตู้เก็บถ้วยจานที่เป็นสแตนเลสให้ใช้แอลกอฮฮล์หรือยาสีฟัน ทา แล้วจึงขัดออก ทำความสะอาดด้วยน้ำอีกครั้ง เช็ดด้วยผ้านุ่มๆให้แห้ง

<span style='color:red'>3.ล้างขวดแก้ว</span>
ขวดแก้วที่หมองขุ่น ใส่ทรายลงไปเล็กน้อยเติมน้ำอย่าให้เต็ม เขย่าแรงๆ แล้วจึง เทออก ล้างด้วยน้ำผสมผงซักฟอก แล้วจึงล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ขวดจะใส

<span style='color:red'>4. ล้างภาชนะที่เปื้อนแป้ง ไข่ นม</span>
จาน ชาม หรือภาชนะที่เปื้อน แป้ง ไข่ นม ให้ล้างด้วยน้ำเย็นธรรมดา จะล้างออก ง่ายกว่าน้ำอุ่นจะทำให้แป้ง ไข่ นมติดแน่นยิ่งขึ้น เพรราะความร้อนทำให้แป้ง ไข่ นมที่ติดกับภาชนะสุกทางที่ดีใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดออกก่อนแล้วล้างด้วยสบู่หรือ น้ำยาล้างจานแล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด

<span style='color:red'>5.ล้างถาดเงิน</span>
ถาดเงินเมื่อใช้แล้วต้องล้างให้สะอาดทันที แล้วเช็ดให้แห้งจึงเก็บ การเก็บเพื่อ ไม่ให้ถาดเงินด่างดำ ให้วางสารส้มไว้ในถาดสัก 1 ก้อน จะทำให้ถาดนั้นสะอาด อยู่เสมอ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 2:21 am
โดย ไหมมัดหมี่
<span style='color:blue'>6.ปัญหาเมื่อซื้อจานชาม หรือแก้วน้ำใหม่</span>
เมื่อแกะฉลากออกแล้ว แต่รอยที่เป็นกาวเหนียวๆ ยังติดอยู่ ล้างไม่ออก ทให้ มองดูไม่น่าใช้ โดยเฉพาะจะใช้รับแขก วิธีที่ง่ายที่สุดคือ หยดน้ำมันพืชบนรอย เปื้อน ทิ้งไว้สักครู่ กาวก็จะหลุดออก แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

<span style='color:blue'>7. ขจัดกลิ่นคาวที่ติดมีด</span>
บางครั้งเมื่อเรามีดมาหั่นผักหรือผลไม้ กลิ่นคาวที่ติดอยู่กับมีดจะทำให้ผลไม้นั้น คาวไปด้วย ฉะนั้นให้ใช้น้ำมะนาวล้างมีดหลังจากใช้หั่นของคาว หรือก่อนจะหั่น ผัก ผลไม้ จะทำให้มีดหายเหม็นคาวได้

<span style='color:blue'>8. แก้กลิ่นเหม็นติดภาชนะพลาสติก</span>
ปัจจุบันเครื่องพลาสติกถูกนำมาใช้เป็นภาชนะสำหรับใส่อาหารจำนวนมาก แต่ ปัญหาที่มักพบบ่อยๆ คือ กลิ่นอาหารจะติดภาชนะล้างอย่างไรก็ไม่ออก และบาง ครั้งกลับไปมีกลิ่นของสบู่หรือน้ำยาล้างจานแทน เมื่อนำมาใส่อาหารอื่นๆกลิ่นจะ ติดอาหารได้ วิธีแก้คือ ให้แช่ในน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แช่ไว้ 2 วัน แล้วจึงล้างด้วย น้ำธรรมดา กลิ่นจะหมดไป

<span style='color:blue'>9.ทำช้อนส้อมให้ดูใหม่</span>
ช้อนส้อมนับเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นของแทบทุกบ้าน และไม่ค่อยเกิดการชำรุด เสียหาย ฉะนั้นหากดูแลดีๆช้อนส้อมจะใช้ไปได้นาน ถ้าไม่เกิดหายไปเสียก่อน แต่ช้อนส้อมที่ใช้ไปนานๆจะแลดูเก่า ฉะนั้นให้นำช้อนส้อมที่ดูเก่าแล้ว จุ่มในน้ำ ที่ผสมเกลือประมาณ 1 ช้อนชา กับน้ำนมข้น 2-3 หยด ต่อน้ำ 1 แก้ว ช้อนส้อม จะดูใหม่น่าใช้ขึ้น

<span style='color:blue'>10.ซักผ้าเปื้อนคราบเหงื่อ</span>
เสื้อผ้าที่ใส่นานๆ มักจะมีคราบเหงื่อ โดยเฉพาะบริเวณปกเสื้อ หากเราซักโดย ใช้แปรงซักผ้าแปรงบางๆบ่อยๆ จะทำให้ผ้าบริเวณนั้นขาดเปื่อยยุ่ยได้ง่ายทำให้ เสื้อผ้าหมดอายุก่อนเวลาอันสมควร หากมีคราบเหงื่อตามบริเวณปกเสื้อ ปลาย แขน หรือโดยเฉพาะเสื้อแขนยาวให้ใช้น้ำผสมกับน้ำส้มสายชู หรือน้ำ ผสมกับ แอมโมเนีย แช่ผ้าทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปซักตามปกติ คราบต่างๆจะ หลุดหายไป ได้ เสื้อจะดูน่าสวมใส่ยิ่งขึ้น

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 2:22 am
โดย ไหมมัดหมี่
<span style='color:red'>11.ผ้าฝ้ายก่อนตัดควรแช่น้ำก่อน</span>
โดยใส่เกลือลงในน้ำที่แช่ แล้วรีบซักตาก พอผ้าหมาดๆ รีด

<span style='color:red'>12.การรีด</span>
เสื้อผ้าฝ้ายไทยสีมักซีดง่าย ซักแล้วตากลมพอแห้งหมาดๆ รีดด้านในผ้าฝ้ายที่มี ลายจิกหรือสอดไหม รีดด้านในเมื่อรีดให้ลายเรียบวางผ้าสีขาวทับข้างบน โดย พรมน้ำบนผ้าสีขาวก่อน แล้ววางทับแล้วจึงรีด จะไม่เป็นขน

<span style='color:red'>13.เก็บกระเป๋าถือผู้หญิง</span>
กระเป๋าหนังต้องใช้กระดาษม้วนบรรจุในกระเป๋าให้ได้รูปทรงแล้วจึงห่อหรือใส่ถุง พลาสติก ถ้าต้องการให้ขึ้นเงา ใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชทาบางๆพอทั่ว ปล่อยทิ้งไว้สัก ครู่ เช็ดด้วยผ้าสะอาดนุ่มๆ กระเป๋าจะหายหมอง

<span style='color:red'>14.ลบรอยน้ำผลไม้เปื้อนเสื้อผ้า</span>
เวลาดื่มน้ำผลไม้อาจจะมีการหกเลอะเทอะเปื้อนเสื้อผ้าบ้าง โดยเฉพาะเด็กๆ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจนแห้งจะซักไม่ออก ให้รีบถอดเสื้อผ้าแช่น้ำและซักทันที แต่ถ้ารอยนั้นแห้งแล้วให้ใช้แอมโมเนียประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 1 ลิตร ( 4 ถ้วย ) แช่ผ้าเฉพาะตรงรอยเปื้อน ทิ้งไว้สักครู่ใหญ่ๆ จึงซักออก และล้างผ้าให้ สะอาด รอยเปื้อนจะออกหมด

<span style='color:red'>15.ใช้ ถ่านแบบประหยัด</span>
การย่างหรือปิ้งหมู หรือสะเต๊ะนิยมย่างด้วยถ่าน ถ่านนับวันก็จะหายาก เราจึงใช้ ถ่านเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ การใช้ถ่านให้ประหยัดและคุ้มค่า โดยนำถ่านแช่น้ำ เกลือแล้วตากแดดให้แห้ง จึงนำไปใช้ ถ่านก็จะติดไฟแรงกว่าปกติ และไม่มอดไว

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 2:22 am
โดย ไหมมัดหมี่
<span style='color:blue'>16.ทำความสะอาดเขียง</span>
เขียงเป็นอุปกรณ์ภายในครัวที่ใช้เป็นประจำ บางครั้งเขียงจะมีคราบและกลิ่น ต่างๆติดอยู่ เนื่องจากทำความสะอาดได้ไม่หมด วิธีทำความสะอาดได้โดยง่าย ใช้สก็อตไบท์ชุบเกลือป่นขัดแรงๆ และใช้มีดขูดจนหมดคราบสกปรกแล้วล้างให้ สะอาด กลิ่นต่างๆก็จะหมดไป

<span style='color:blue'>17.ทำให้เตาไม่มีเขม่าดำ</span>
การปรุงอาหารที่ใช้เตาแก็ส ในบางครั้งอาจพบปัญหาแก็สมีสีแดง และมีเขม่า จำนวนมาก ทำให้หม้อดำทำความสะอาดได้ ยาก วิธีง่ายๆให้การทำให้ไม่เกิด เขม่าดำ โดยใช้เกลือป่นโรยบนเตาแก็สให้ทั่วก่อนที่จะปรุงอาหารทุกครั้ง

<span style='color:blue'>18. ช่วยขจัดกลิ่นหอมแดงติดมือ</span>
อาหารไทยส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของหอมแดง เพื่อทำให้อาหารมีกลิ่นหอม รส ชาติดีและทำให้อาหารน่ารับประทาน เมื่อปอกหอมแดงมักจะมีกลิ่นเหม็นติดมือ มีวิธีที่ทำให้มือหมดกลิ่นเหม็น โดยใช้เกลือถูมือให้ทั่ว แล้วจึงไปล้างน้ำให้ สะอาด เช็ดให้แห้ง

<span style='color:blue'>19. มะนาวดับกลิ่น</span>
มะนาวนอกจากจะใช้ปรุงอาหารให้รสชาติเปรี้ยวจิ๊ดจ๊าดแซบถึงใจแล้ว เปลือกมะนาวยังนำมาใช้ดับกลิ่นได้ กลิ่นที่ว่านี้คือกลิ่นคาวทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา หรืออาหารทะเล กลิ่นเวลาปอกหัวหอมหัวกระเทียมก็ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ตามร้านอาหารโดยเฉพาะร้านอาหารทะเล เมื่อรับประทานเสร็จจะมีโถใส่น้ำมีเปลือกมะนาวลอยมาให้สำหรับใช้ล้างมือเพราะนอกจากจะช่วยดับกลิ่นแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นอีกด้วย หรือใครจะดัดแปลง นำเปลือกมะนาวไปซุกไว้ในตู้เย็นก็ช่วยดับกลิ่นไม่พึงปรารถนาได้เช่นกัน แต่ถ้าเจอกลิ่นคาวปลาแบบที่รุนแรงมาก แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละครึ่ง ต้มให้เดือด จะหายกลิ่นคาวได้ หากใครอยากจะล้างอ่างล้างหน้าให้สดใสแวววาว ก็สามารถนำมะนาวสักเสี้ยวหนึ่งมาถูรอยเปื้อนที่ติดบนอ่างได้

<span style='color:blue'>20.แซนด์วิชน่าทาน</span>
คุณแม่บ้านที่ชอบทำแซนด์วิชให้ลูกๆ พกพาไปรับประทานตอนเช้า ในช่วงเวลาเร่งด่วน มักประสบปัญหาตัวขนมปังจะเละเทะ ไม่น่ารับประทาน วิธีแก้ไขก็คือ ให้นำขนมปังที่จะใช้ทำแซนด์วิชไปแช่ในช่องแข็งจนแข็งได้ที่เสียก่อนจะนำมาหั่น จะดีกว่าการใช้ขนมปังแบบสดๆ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 2:23 am
โดย ไหมมัดหมี่
<span style='color:red'>22. อาหารดีผมสวยงดงาม</span>
ใครๆก็อยากมีเส้นผมสวยงาม ดกดำทั้งนั้น วิธีง่ายที่สุดนอกเหนือจากจะต้องไปหาแชมพูมาใช้ ครีมนวดมาบำรุง ควรหันมาดูเรื่องอาหารให้ดีจะช่วยได้มาก อาหารพวกตับ ช่วยนำโลหิตไปหล่อเลี้ยงเส้นผม ทำให้ดกดำเป็นมัน งาดำบดละเอียด ช่วยให้ผมดำ ลำไยแห้ง มีแร่ธาตุป้องกันผมหงอก ร่วง ฟักทอง ช่วยให้ผมดำสลวยเป็นต้น

<span style='color:red'>23.ขจัดกลิ่นเหม็นท่อระบายน้ำ</span>
ท่อระบายน้ำล้างจาน บางทีมีกลิ่นเหม็นไม่พึงปรารถนาที่สร้างความรำคราญใจให้กับคุณแม่บ้านอย่างมาก วิธีแก้ไขง่ายๆ ก็คือ เทเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย ลงไป ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วค่อยเทน้ำส้มสายชูลงไปอีก 1 ถ้วย จะช่วยให้สามารถขจัดกลิ่นได้ดี

<span style='color:red'>24.การลวกผักให้มีสีเขียว</span>
 &nsbp; &nsbp; อาหารที่มีลักษณะเลี่ยน มัน หรือรสจัด เรามักนิยมใช้ผักลวกเป็นส่วนประกอบ ของอาหารชนิดนั้น เช่น น้ำพริกปลาทูผักลวก ไก่อบซอสผักลวก เป็ดสอดไส้คะน้า น้ำมันหอย ฯลฯ ซึ่งนอกจากผักลวกจะช่วยลดความเลี่ยนของอาหารจานดังกล่าว แล้วยังสร้างความอร่อยอย่างมีคุณค่าและทำให้อาหารดูน่ารับประทานยิ่งขึ้นอีกด้วย
การลวกผักให้สวยสามารถทำได้โดย การตั้งน้ำให้เดือด ใส่น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10ถ. พอน้ำเดือดนำผักลงลวก พอสุกตักขึ้น ใส่ลงในอ่างน้ำเย็นจัดๆโดยเติมน้ำแข็งเพื่อให้น้ำเย็นจัด พอผักคลายความร้อนเก็บ ผักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ผักลวกที่ได้จะมีสีเขียวสดและมีความเงาดูน่ารับประทาน ( การแช่ ผักในน้ำเย็นจัดๆเป็นการเปลี่ยนสภาพจากร้อนมาเป็นเย็นอย่างรวดเร็วจะทำให้ได้ผัก ลวกที่มีสีสันสวยงาม )

จบจ้า ขอบคุณเวบthaiparents.com

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 3:04 am
โดย Nicha_Aus
เคล็ดลับดีๆทั้งนั้นเลยคะ ขอบคุณคุณไหมมัดหมี่นะคะ มีหลายหัวข้อพึ่งรู้วันนี้แหละคะต้องจำเอาไปใช้แล้ว EM003

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 4:01 pm
โดย มะละกอ
วันนี้ได้ความรู้เพิ่มตั้งหลายอย่างแน๊ะ ขอบคุณค่ะ EM120 EM123 EM125 EM129 EM131 EM130

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 03, 2006 5:29 pm
โดย เมล่อนพันช์
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>ขอบคุณค่ะที่เอามาฝากได้ความรู้มากเลยค่ะ</span></span>