Phakdee เขียน:katai_123 เขียน:Phakdee เขียน:katai_123 เขียน: รถไฟจอดก็เดินดูวิว..มันยังสูงไม่พอจ๊ะต้องปีนเขากันต่อ
พี่ไหมสบายดีจ๊ะต่าย...แต่เบื่อๆเลยเข้ามาเทียวกับต่ายอีกรอบ
รูปนี้โค.ต.ร เท่ เลยเจ้าค่ะคุณน้อง (รองเท้าหนักไหม)
วิวก็สวยๆ อยากไปจัง
เอาน่าขายบ้านได้ กลับไปตั้งหลักที่เมืองไทยจะไปให้ได้ ฮ้าๆฝันไปโน้น
ขอบคุณค่ะพี่ไหมที่แวะมาทักบ่อยๆอิอิ.....รองเท้าแบบนี้ไม่หนักค่ะพี่ไหม
เป็นรองเท้าเฉพาะเดินป่า+บุกหิมะก็ได้.เบาระบายอากาศดีมากถุงเท้าก็เป็นแบบเฉพาะน่าร้อน
คิดว่าเป็นแฟชั่นของที่นั้นด้วยพี่.ใครๆก็ใครเหมือนกันหมด..สําหรับลุยๆ..แพงสะด้วยนะพี่อิอิ
ตกลงรองเท้าคู่นี้ต่ายยืมมาจากแม่ย่าค่ะอิอิ..ยืมใส่มา2ครั้งละมาครั้งนี้แม่ย่ายกให้หนูแล้ว
แกจะไปซื้อใหม่อิอิ.........เห็นไหมละพี่มีไซร์เดียวกันกับแม่ย่าก็ดีแบบนี้ละ
นั่นแน่ได้มาฟรีนี่เองถึงไม่หนักและเบาด้วย ..อิอิ
แพงเสียด้วย แต่คุณน้องได้มาฟรี แม่ย่าใจดีแท่น้อ
พี่ไหมเคยเห็นของทิมเบอร์แลนด์ หนักมาก ๆ
ความฝังใจกับรองเท้าคู้นั่นพี่ไหม สะเทือนใจมาก
ต่ายรู้ไหมสามีพี่ซื้อมันมาไม่เคยใส่เลย แต่วันที่สามีพี่ตัดสินใจลาโลก เขาให้พี่เอามาให้ใส่ เหตุผลของเขาคือ มันจะช่วยเขาได้ดีเวลาเขาขยับรถเข็ญไปให้น้ำเวลาที่พี่ไม่อยู่(เขาเดินไม่ได้) แต่อนิจจา พี่มาเข้าใจเมื่อพี่กลับจากข้างนอก ..ไอ้เจ้ารองเท้าปีนเขาคู่นั้นมันช่วยให้สามีพี่ขยับรถขึ้นเนินในสวนหลังบ้าน ปีนรั่วไปจบความเจ็บปวดทรมานนอกอานาเขตของตัวเอง
และด้วยว่ามันเป็นของมีค่า ตำรวจยังต้องมาถามว่าจะเอาคืนไหม?
ต่ายพี่ไหมเล่าไม่ไหวแล้ว.....
แล้วค่อยมาคุยน่ะ
พี่ไหมว่างๆเล่าเรื่องแฟนพี่ไหมหน่อยนะ..ว่าทําไมพี่ไหมถึงได้มาอยู่ตัวคนเดียวในต่างประเทศได้
ต่ายว่าพี่ไหมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สู้ชีวิต....จะรอฟังนะพี่ไหม........