รัตติกับหมอฟันเป็นเพื่อนที่เกือบสนิทกัน(ไม่อยากเป็นเท่าไหร่) รัตติเป็นคนกลัวหมอฟันมากถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากจะไปเจอกันเท่าไหร่ อย่างมากก็ 2 ครั้งต่อปีก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่เมื่อครึ่งปีที่แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นเพราะหมอฟันบอกว่ารัตติมีฟันคุด 3 ซี่ที่กำลังจะงอกออก โตะใจหมดเลยคะเพราะเคยได้ยินคนข้างบ้านบอกว่าแกปวดฟันมากเพราะฟันคุดกำลังงอก ก็เลยบอกหมอว่าต้องถอนออกหรือเปล่า หมอบอกว่าถ้าไม่มีปัญหากับมันก็ปล่อยเอาไว้อย่างนั้นก่อนแล้วอีกครึ่งปีหมอจะนัดมาตรวจอีกทีก็เลยโล่งอกโล่งใจหน่อย
หลังจากนั้นอีก 1 เดือนน้องมีนก็ไปใส่เหล็กดัดฟัน แต่ก่อนทีจะไปใส่เหล็กดัดฟันก็ต้องไปเอาฟันออกก่อน เพราะน้องมีนมีฟันเยอะมาก น้องมีนต้องเอาออกทั้งหมด 4 ซี่ด้วยกัน(พอได้ยินแม่เกือบเป็นลมเลย) ตอนเอาฟันออก 2 ซี่ด้านขวาออกก่อนเพราะหมอไม่เอาออกหมดทีเดียวโล่งใจหน่อยหลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ก็เอาออกอีก 2 ซี่ด้ายซ้าย
ตอนเอาออกด้ายขวาน้องมีนไม่ค่อยมีอาการเจ็บสักเท่าไหร่แต่พอเอาออกด้านซ้ายสิคะ
น้ำตาไหลแต่เธอก็ยังบอกว่าไม่เป็นไรแม่ไม่เจ็บหรอก(เพราะรู้ว่าแม่กลัวหมอฟัน)พอเห็นลูกร้องไห้ก็สงสารร้องไห้กับลูกด้วยพอน้องกายเห็นแม่กับพี่มีนร้องไห้เธอก็ร้องด้วยร้องด้วยกันอยู่ในลิฟต์กัน 3 คน
น้องมีนต้องไปหาหมอฟันทุกเดือนเพื่อทำการจัดฟันให้เท่ากันทำทั้หมอก็ใช้เวลา 2 ปีครึ่ง(ส่วนมากจะใช้เวลาแค่ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี)แต่ละครั้งที่ไปหาหมอร้องไห้ทุกทีเวลากลับบ้าน เจ็บมาก สงสารลูกจริงๆ
เมื่อปลายเดือน พฦศจิกายน ฟันคุดของรัตติก็เกิดอาการอักเศบขึ้นมา ปวดมากๆๆๆๆๆ
กินอะไรก็ไม่ได้กินได้แต่ของเหลวอย่างเดียว นอนตะแคงก็ปวด นอนไม่ได้ต้องนั่งเอาอย่างเดียว ทนปวดอยู่เกือบ 1 อาทิตย์ ก็เลยไปหาหมอฟัน หมอก็บอกว่าต้องถอนออก
น้ำตาไหลเลยคะกลัวมาก หมอแกก็ใจดีบอกว่าไม่ต้องกลัวหรอกแกบอกให้ดูตัวอย่างอย่างน้องนีน(คิดในใจน้องมีนยังร้องไห้เลยแล้วเราจะรอดไหมเนื่ย)หมอให้ยาเพนนิสสิลินมากิน 5 วันอาการก็ดีขึ้นต้องถอนฟันคุดที่ โรงพยาบาล หมอนัดต้นเดือนมกราคมเพราะก่อนหน้านั้นไม่มีที่ว่างเลย
เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ