<span style='color:purple'>สวัสดีค่ะสมาชิกครัวไกลบ้านทุกคน วันนี้ออยพาพี่จูโบ้มายักคิ้วทักทายทุกคนเสียหน่อย ตอนนี้ออยมีเวลานั่งพักหายใจชิวๆ แค่ 3 ชั่วโมง เองเฮ้ออออ ….ว่าแล้วขอแวะเข้ามาขายนิยาย “บัวแล้งน้ำ” ของตัวเองสักหน่อยนะ อันนี้ตอน “เฉพาะกิจจริงๆ” เรื่องจริงผ่านคอมเหมือนกัน แต่ขอไม่ดังอย่างพี่แอร์กี่น๊า เดี๋ยวโดนท่านขุนลากไส้เอา 555 เหตุผลสำคัญคือออยอยากจะขอคำปรึกษารึคำแนะนำค่ะว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะทำอย่างไรดี ขอโพสแบบยาวโล้ดม้วนเดียวจบเลยนะคะ เวลามีน้อยพร่ำมากไม่ได้
คือ แม่สามีเป็นมะเร็งที่ตับอ่อน เป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว สถานการณ์นะเวลานี้เรียกว่าแย่ค่ะ ลักษณะอาการที่เป็นอยู่นะตอนนี้คือ ทั้งขาและเท้าบวมน้ำมาก เหมือนขาตุ๊กตา จับแล้วเหมือนเมโมรี่โฟมแน่นๆ กดเบาๆ ก็เป็นรอยนิ้ว ส่วนท้องบวมใหญ่เหมือนคนท้องแก่ ทำให้เขาไม่สามารถลุกเข้าห้องน้ำ รึขยับตัวเองได้ ท้องเขาก็เสียตลอดเวลา เมื่อเร็วๆ นี้ แม่เข้ารับการผ่าตัดครั้งสุดท้ายเพื่อเอาสายยางที่เคยใช้ระบายน้ำออกจากช่องท้องออก หมอต้องเตรียมการผ่าตัดอยู่สองวันกว่าจะได้ผ่า เพราะร่างกายแม่ไม่พร้อม คุณหมอบอกว่าผิดหวังกับการผ่าตัดครั้งนี้มากๆ เขาทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่าแค่เอาท่อสายยางออก ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บมันไว้อีก หมอพบเชื้อมะเร็งลามไปที่บริเวณปอด ลำไส้ กระเพาะ และตับ หมอไม่สามารถที่จะเอามันออกมาได้อีกแล้ว การที่ท้องบวมนั้นมันเป็นผลข้างเคียงจากการที่เซลในร่างกายอุ้มน้ำเก็บไว้เพื่อพยายามปกป้องตัวของมันเอง ซึ่งท่านขุนก็บอกหมอว่าเขาแปลกใจว่า เมื่อ 10 เดือนที่แล้ว ผลจากแล๊ปตรวจว่ามะเร็งมีเปอร์เซ็นต์กลับมาเพียงแค่ 30% ทำไมมันลามได้รวดเร็วนัก แต่สำหรับออยไม่ได้แปลกใจเลยว่าทำไม เพราะแม่ท่านขุนไม่เคยระวังเรื่องอาหารการกินเลย ซึ่งพอออยเตือนก็ถูกว่าลูกสะใภ้หวงกิน หมอบอกว่ามะเร็งตับมักเกิดกับผู้ที่กินอาหารมีเชื้อรา ออยก็รู้อีกแหละว่าแม่ท่านขุนมีนิสัยชอบซื้ออาหารมาตุนๆ ไว้ จนมันจะเน่าจะเสียก็มาปาดส่วนที่เสียๆ ทิ้งแล้วก็กิน รึเก็บฟรีสแล้วค่อยงัดมากินใหม่ ที่เขียนมานี้ออยไม่ได้ว่าแม่เขานะคะ แค่อยากให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องนี้ อย่าไปเสียดายมัน
สุดท้ายคุณหมอบอกว่าเขาไม่สามารถรักษามะเร็งต่อให้ได้อีกแล้ว ร่างกายของแม่เริ่ม shut down จะรักษาให้แต่อาการเบื้องต้นที่พบเท่านั้น เช่นหายใจไม่ออกก็ให้ออกซิเจนไป แม่ออกจากห้องผ่าตัดปุ๊บหมอเขาก็ส่งกลับบ้านทันที (กลัวตายที่โรงพยาบาลไงฟ่ะ) เขาเคลียร์เรื่องทุกอย่างของแม่ออกจากโรงพยาบาล บอกว่าไม่ต้องกลับมาที่นี้อีก ให้แม่ไปพักรักษาตัวสบายๆ อยู่ที่บ้าน ทางโรงพยาบาลเขาติดต่อกับประกันของแม่ ให้ส่งเตียง กระโถน สาระพัดอย่างจัดตรงส่งถึงบ้านจัดให้เหมือนเป็นห้องๆ หนึ่งในโรงพยาบาล และมีหน่วยงานหนึ่งเป็นพวกพยาบาลมาค่อยเช็คร่างกายทั่วๆ ไป และมาเช็ดตัวให้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรก็ให้ติดต่อกับทางหน่วยงานนี้ก่อน</span>