ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

โพสต์โดย ยายหนู » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 9:26 am

หลังจากที่เราได้รับสมัครเด็กใหม่ เข้ามาแทน"มอนนิก้า"ที่ลาออกไป คนนี้เชื้อเกาหลีเป็นนักเรียนไฮสคูลอายุ16 เธอว่าทำได้ทุกอย่างเคยเป็นผู้ช่วยกุ๊กร้านจีนมาก่อน แต่พอเอาจริงเข้า ไม่เป็นอะไรเลย แม้กระทั่งปอกขิง หั่นต้นหอม..... เลยให้เธอไปเปลี่ยนงานกับบิล ให้บิลเข้ามาเป็นผู้ช่วยแทน....

เธอคิดเงินผิดๆถูกๆ 3ทุ่มเป๊ะแฟนมารอรับ บางวันขอกลับก่อนเวลา ล่าสุดผิดสังเกต ก่อนหน้าวันนั้นเราขายได้ 1000 เศษ แต่วันนี้ยุ่งมากกว่าทำไมได้แค่ 800 ทิปรวมที่เคยได้ 60-70 วันนี้ได้แค่ 27เหรียญ เลยเกิดการเช็คขึ้น บิลจำได้ว่าเธอยักยอก เลยให้เธอออก เธอไม่ได้แก้ตัวอะไรยอมออกไปด้วยดี....

เราจึงตกลงกันว่าถ้ารับคนใหม่เข้ามาจะไม่ให้ยุ่งเรื่องเงิน ส่วนผู้ช่วยในครัวจะพยายามฝึกอุษาอีกครั้ง...และหน้าที่ของคนใหม่นี้คือผู้ช่วยทั่วไป โดยบิลจะดูแลเรื่องเงินคนเดียว

คนนี้ชื่อ"แคซซี่"อายุ 19 เรียนมหาลัยแล้ว พ่อแม่เป็นครู เธอทำงานดีจะถามทุกครั้งที่เธอว่างว่ามีอะไรให้ช่วยหรือทำต่อไปอีกไหม...4วันผ่านไป ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีส่วนใหญ่แคซซี่จะอยู่ข้างนอก บิลจะเข้าๆออก เราคิดว่าคงจะออกไปคิดเงินลูกค้า...

คืนนั้น 3ทุ่มปิดร้านแล้ว แต่ลูกค้าโต๊สุดท้ายกำลังกินอยู่ บิลจึงช่วยอุษาล้างหม้อ ยายหนูก็ทำความสะอาดครัว แคซซี่อยู่หน้าร้าน ....อุษาล้างจานเหลือโหลดสุดท้าย จึงเดินออกไปเช็คดูลูกค้าว่ายังมีอยู่อีกกี่โต๊ะ และช่วยเก็บจานโต๊ะสุดท้ายนั้นเข้ามา ยายหนูจึงบอกบิลให้ออกไปเก็บเงิน ลูกค้าจะกลับแล้ว...บิลละมือจากล้างหม้อ มายืนอยู่หลังประตูโดยแง้มประตูมองออกไปข้างนอก ยายหนูจึงถามว่า คุณให้แคซซี่เก็บเงินเองหรือ ...เท่านั้นแหละ
"ฉันจะเก็บเองได้อย่างไร ในเมื่อยืนช่วยคุณอยู่ตรงนี้"
" ทำไมไม่บอกล่ะว่าให้เธอเก็บเงินเองแล้ว ถ้าบอกฉันแต่แรก ฉันจะได้ไม่พูด"
"ทำไมฉันจะต้องบอกคุณทุกอย่าง คุณน่าจะเดาออก"
"อ้าว..ก็ฉันเห็นคุณเข้าๆออกๆ คิดว่าคุณออกไปเก็บเงิน แล้วอีกอย่างเราคุยกันแล้วไม่ไช่หรือว่าจะไม่ให้เด็กยุ่งเรื่องเงิน คุณจะไว้ใจคนที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานใหม่ไม่ได้ ถ้าเหมือนคนก่อนอย่ามาบ่นให้ฟังนะ แล้วอีกอย่างฉันเหนื่อยที่จะทะเลาะกับคุณ แค่เหนื่อยทำงานก็พอแล้ว"
"ฉันก็เหนื่อยเหมือนกัน"
"แต่คุณไม่สมควรที่จะมาเสียงดังใส่ฉันแบบนี้ พูดกันตอบกันดีๆก็ได้ "(ร้องไห้)
"บางครั้งคุณก็เสียงดังใส่ผมเหมือนกัน" บิลเริ่มเถียงข้างๆคูๆ แบบบันดาลโทสะอีกยาว จนยายหนูทนไม่ไหว จึงกรี๊ด..แล้วเอากำปั้นทุบโต๊ะสแตนเลสที่ข้างล่างเป็นตู้เย็น 3-4ครั้งแล้วก็ทุบหัวตัวเอง เจ็บใจที่เถียงไม่ทันและพูดภาษา(ด่า)ไม่เก่ง
บิลเห็นเข้ามากอดและขอโทษ ยายหนูร้องแล้วก็ร้องด้วยความเจ็บใจ ร้องเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่มันอัดอั้นอยู่ข้างในให้ออกมา แล้วคิดทบทวนอยู่ในใจว่าเราเรื่องมากไปหรือเปล่า ก็ปล่าว เสียใจมากจึงเดินออกจากร้านตากฝนพร่ำๆกลับบ้าน...
บิลตามมาถึงบ้านที่หลังยายหนูเพียง 5นาที ยายหนูจึงระเบิดใส่ ระบายทุกสิ่งทุกอย่างเช่น เรื่องรายได้หลังจากหักต้นทุนว่าได้เท่าไร ยายหนูไม่เคยรู้เรื่อง ตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ถามก็ไม่บอก ทำเหมือนเราเป็นหุ่นยนต์ ตื่นเช้ามา 8โมงก็ไปทำงาน ไม่เคยได้หยุด จนถึง 4-5ทุ่ม เข้าบ้านก็ต้องซักผ้า กว่าจะได้เข้านอนก็ ตี1 ตี2 7โมงก็ต้องตื่นอีกแล้ว
บอกเรื่องเงินให้เรารู้สักนิด ว่าเราได้มากน้อยคุ้มหรือไม่กับการที่เราสองคนต้องเหนื่อยกันขนาดนี้ ถ้าไม่คุ้มเพราะค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าผูช่วย จะได้หาทางแก้ไขได้ถูก ดีกว่าปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ เหมือนขายเพื่อเอาแค่ชื่อเสียง หรือคำชม
บิลบอกว่าไม่มีเวลาทำบัญชี ยายหนูก็ร่ายซ๊ะยาวเลยว่า หลังจากที่ไปซื้อของกลับมาต้องลงบัญชีในทันที แต่คุณกลับ รอ,เก็บไว้ก่อน,เดี๋ยวค่อยทำ ฉันเบื่อคำพูดพวกนี้ คุณจัดเวลางานของคุณเองไม่เป็นต่างหาก สมควรที่จะเอาเวลาว่างมาทำเรื่องบัญชี แต่คุณกลับเอาเวลานั้นไปทำความสะอาดส้วมและอื่นๆ ทำไมไม่เก้บงานเหล่านรชี้ไว้ให้เด็กมันทำ พอเด็กเข้ามางานทุกอย่างเรียบร้อย ถ้าคุณไม่จัดระเบียบตัวเองซะใหม่ ก็จ่ายค่าจ้างฉันมาเลยตามชั่วโมงแล้วฉันจะไม่ยุ่ง จะไม่ถาม และจะไม่อยากรู้ เรื่องกำไรและเรื่องอื่นๆ คิดเสียว่าฉันเป็นลูกจ้างคนหนึ่ง
บิลบอกว่าได้ถ้ายายหนูต้องการ ตั้งแต่พรุ่งนี้จะจ่ายเงินให้เป็นชั่วโมง
เช้าพอเปิดประตู้เข้าร้าน อดไม่ได้ที่จะถามว่า คุณทำงานหน้าร้านกันอย่างไร ใบรับออเดอร์ตัวจริง ก็อปปี้ แล้วก็ใบเสร็จที่ให้ลูกค้า
ปรากฏว่า ไม่อะไรเก็บไว้เป็นหลักฐษนเลยว่า ลูกค้าโต๊ะหนึ่งสั่งอาหารทั้งหมดเป็นเงินเท่าไร เก็บเงินจากลูกค้าเท่าไร ยายหนูเลยถามว่า แล้วอย่างนี้ ถ้าเด็กมันทำเหมือนอย่างคนก่อนจะรู้เรื่องไหม กลับตอบว่า แล้วคุณจะให้ผมทำอย่างไรในเมื่อผมก็ต้องช่วยคุณ
ก็ฉันบอกคุณแล้วไงว่า ไม่ต้องการให้คุณเข้ามาช่วยในครัว ต้องการให้คุณอยู่หน้าร้าน คุยกับลูกค้า คิดเงิน ส่วนรับออเดอร์กับเก็บโต๊ะก็ให้เด็กมันทำ บิลเถียงข้างๆคูๆอีก
ยายหนูโมโหร้องไห้ และเดินออกจากร้านโดยบอกว่าจะไม่ทำอีก จะกลับเมืองไทย ทำไปก็เหนื่อยเปล่า เช้านี้ฝนตกอีก บอลขับรถมาขวางหน้าและเรียกให้ขึ้นรถจะพาไปส่งบ้าน ยายหนูจึงยอมไป
เข้าบ้าน ยายหนูไม่พูด เข้าห้องนอนร้องไห้เสียใจ น้อยใจหลายเรื่อง และบอกว่าฉันขออยู่คนเดียวไม่ต้องถามหรือขอโทษหรือพูดอะไรทั้งสิ้น
บิลบอกว่าได้ แต่ขอร้องสองอย่างคือ ถ้าโมโหห้ามทำร้ายตัวเอง ให้ทำร้ายที่ตัวเขาแทน เขาไม่อยากเห็นยายหนูเจ็บ พูดแล้วบิลก็ร้องไห้ อีกข้อเขายอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนั้น เป็นเพราะหัวสมองแก่ๆซึ่งทำงานไม่คล่องของเขาเอง และที่เถียงก็เพราะกลัวเสียหน้า ยอมรับว่าที่ผ่านเขาผิดทั้งหมด...วันนั้นบิลจึงกลับไปร้านปิดป้ายว่า "ป่วย"
เช้ามา ลูกค้าถามว่าป่วยเป็นอะไร บิลบอกว่าไม่ได้ป่วยหรอก แต่เหนื่อย เวลาพักไม่พอ เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วหยุดก็ไม่ได้พักต้องไปซื้อของที่เมืองใหญ่ออกแต่เช้ามีดกว่าจะกลับขนของเสร็จก็เที่ยงคืนกว่า ลูกค้าซึ่งเป็นหมอบอกว่า "tired comes with success"
วันที่ปิดร้านนั้น ยายหนูคำนวนจากของที่ทำขาย ของใช้ต่างๆ และรายจ่ายต่างๆแบบคร่าวๆ ของเดือนที่แล้ว
อาหารสดแห้งต่างๆรวมทั้งกล่องโฟม 6,000
ค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟประกันค่าแก๊สโทรศัพย์และอื่นๆ 3,000
ผู้ช่วยในครัว 2,000
ผู้ช่วยหน้าร้าน 1,000
รวม 12,000
ขายได้เฉลี่ย วันละ 900X24
21,600-12,000 =9,600
นี่ไม่ได้คิดค่าของที่ลงทุนไป เช่น พวกโต๊ะเก้าอี้เครื่องทำน้ำแข็งและอื่นๆอีกหลายรายการ

เพื่อนๆคิดว่าคุ้มค่าเหนื่อยไหม ยายหนูกำลังสับสน จะขึ้นราคาอาหารอีกสักหน่อยจะดีหรือไม่ จานละเหรียญ วันละ100จานก็ 100เหรียญ เดือนหนึ่งก็เกือบสามพันแล้ว ทุกวันนี้หลายคนพูดว่าอาหารที่ร้านอร่อยแล้วก็ถูกด้วย หรือว่าจะลดปริมาณลง เพราะบิลบอกว่าหลายคนกินไม่หมดต้องขอกล่องใส่กลับบ้าน (หรือว่าไม่อร่อยกยว๊ะ)หรือว่ารายได้เท่านี้ก็พอแล้ว แต่ถ้าเราจ้างคนเพิ่มเพราะยายหนูจะได้หยุดพักบ้างก็ต้องหดไปอีก 2000-3000.. จะเอาไงดี ตี 1ครึ่งแล้ว ไปนอนล่ะนะ กู๊ดไน้ท์จ้า...

เอาหลักฐานของความโมโหมาให้ดู ที่ทุบโต๊ะ ตื่นขึ้นมาข้อมือบวมทั้งสองข้าง วันนี้เป็นวันที่สองเขียวเลยสมน้ำหน้า
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ยายหนู
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 15, 2006 11:54 pm

โพสต์โดย rose » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:05 am

ป้า ยายหนูค่ะ แอนอ่านและตามเรื่องราวของยายหนูตลอด แอบชื่นชมความแข็งแรงและแข็งแกร่งมา และยังจะขอเป็นกำลังใจให้ต่อไปอีกค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rose
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 19, 2006 7:17 am

โพสต์โดย Sanhathai » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:21 am

ยายหนู - เอมี่ว่าถ้าขึ้นอีกสักเหรียญ ลูกค้าคงไม่ว่าอะไรหรอกจ๊ะ ไม่ได้แพงเลยน่ะ
ถ้าเห็นตัวเงินแล้วไม่รู้สึกว่าคุ้มค่ากับเวลาและความเหนื่อย มันจะพาลทำให้ไม่มีกำลังใจ
เอานะยายหนู ถ้าเพิ่มมาอีกจานละเหรียญ เอมี่เชื่อว่าลูกค้าเต็มใจที่จะจ่ายอยู่แล้วล่ะ
แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ยายหนูนะ อ้อ แล้วรีบไปหายามาทาข้อมือที่ช้ำนะ เดี๋ยวมันจะปวดแล้ว
หยิบจับตะหลิว กระทะ อะไรไม่ถนัด อีกอย่างเดี๋ยวจะปวดเกินไปนะยายหนู


แล้วเรื่องที่ยายเด็กป่วงคนนั้นยักยอกเงิน ยายหนูได้แจ้งความกับตำรวจไว้หรือเปล่า
เอมี่สงสัยจังว่าตอนยายหนูจับได้เขาทำหน้ายังไง

เอมี่ / ดูไบ
<u><span style='color:purple'><b>Amy@Dubai</b></span></u>
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sanhathai
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 573
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2006 1:21 pm
ที่อยู่: Dubai, United Arab Emirates

โพสต์โดย ออย » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:23 am

ความเห็นออยว่ายายหนูขึ้นราคาดีกว่าค่ะ ไม่งั้นขาดทุนตายเลย...1 เหรียญก็ไม่ใช้ว่ามากมายอะไร เผลอๆ ขึ้นอีก 2-3 เหรียญก็ยังถูกอยู่เลย อย่าลืมคิดค่าเหนื่อยให้ตัวเองด้วยนะค่ะ ยายหนูยุ่งๆ ทุกวันอย่างนี้ ลูกค้าเยอะ ยายหนูต้องทำอาหารอร่อยแน่ๆ ค่ะไม่ต้องกังวล เห็นใจทั้งคู่...ต่างคนต่างเหนื่อย เป็นกำลังใจให้ทั้งสองนะค่ะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เอาใจช่วยยายหนูค่ะ
<img src='http://i69.photobucket.com/albums/i45/oye15/jubal-1.gif' border='0' alt='user posted image' /><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออย
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 512
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 08, 2006 3:36 pm

โพสต์โดย แมวเหมียว » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 11:22 am

ถ้าเธอเหนื่อยนัก หยุดพักเสียก่อน
ล้มตัวลงนอน แทบตักฉันนี่
จะหนาวจะร้อน จะคอยพัดวี
หลับฝันถึงสิ่งดี หลีกหนีสิ่งเลว
เป็นได้เพียงหนึ่งกำลังใจให้พี่ยายหนูค่ะ......หนูเหมียว
<br><span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรตรงลายเซน แต่เห็นคนอื่นเขามีกัน เราก็เลยอยากมีบ้าง</span></span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
แมวเหมียว
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 29
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 07, 2006 9:38 am

โพสต์โดย อ้อย จ้า » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 12:10 pm

น่าสงและเห็นใจพี่ยายหนูและคุณบิลนะคะเหนื่อยทั้งคู่เลยแนะนำให้ขึ้นราคาอาหารไปเลยค่ะพี่ยายหนู
เพราะอ้อยก็เห็นที่ร้านที่อ้อยทำงานอยู่เขาก็ขึ้นๆลงๆทุกอาทิตย์ค่ะและที่ร้านเห็นเขาหักค่าแรงของทุกคนออกนะคะพี่ยายหนูอาทิตย์หนึ่งเหลือเท่าไหร่เขาก็จะได้รู้ว่าถึงเวลาจ่ายภาษีเท่าไหร่กำไรเท่าไหร่บิลซื้อของมาทุกอย่างตองเก็บเอาลงสมุดไว้ค่ะเอาไว้หักกับภาษีนะพี่ทำร้านอาหารทุกอย่างต้องรัดกุมใครอมทิปไล่ออกลูกเดียวและยิ่งเรื่องเงินๆทองๆจะไว้ใจเด็กใหม่ๆไม่ได้เลยอย่างอ้อยทำกับเขามานานจนเขาไว้ใจก็ต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าของร้านเขาด้วยแหละยังไงก็ขอให้พี่ยายหนูสู้ต่อไปนะคะมีเรื่องไม่สบายใจก็เข้ามาระบายในนี้นะคะพี่ขอให้โชคดีค่ะ
สุดมือสอย..ก็ปล่อยมันไป๊ๆๆๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
อ้อย จ้า
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 544
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 3:48 pm

โพสต์โดย มุ้ยเองค่ะ » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 12:52 pm

<span style='color:purple'>อ่านเรื่องยายหนู ตั้งแต่คราวผู้ช่วยเจ้าปัญหาคนก่อน มาคราวนี้ก็เป็นปัญหาอันใหม่อีก
ถ้าตามความเห็นมุ้ยนะคะ คำนวณคร่าวๆตามที่ยายหนูบอก แบบเด็กบัญชีเก่า มันไม่คุ้มเลยค่ะ เหนื่อยไม่คุ้มกับเงิน
วิธีแก้ง่ายๆ ตามที่ยายหนูบอก ถ้าคิดว่าราคาถูกกว่าคนอื่นมากๆอยู่แล้ว ก็ลองปรับขึ้นมาอีกนิด
หรือ ถ้าราคาใกล้เคียงกันตอนนี้ ก็คงต้องใช้วิธีลดปริมาณลงหน่อย แค่พออิ่ม ไม่ต้องห่อให้เปลืองถุง เปลืองกล่องอีก
ส่วนเรื่องลูกจ้าง จำได้ว่ายายหนูมักจะจ่ายค่าจ้างสูงกว่าที่อื่น ก็น่าจะลดลงมาเป็นค่าแรงมาตรฐานทั่วไปก็พอค่ะ เพื่อประหยัดต้นทุน
เพราะส่วนใหญ่ งานที่ร้านยายหนู ก็ให้ทำเบาแรงกว่าที่อื่นๆเยอะ

มุ้ยขอแนะนำวิธีเพิ่มรายได้อีกวิธี ยายหนูลองตั้งมุมผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงเล็กๆในร้าน น้ำปลา ซอส น้ำจิ้มฯ
ซื้อมาจากเมืองใหญ่ หรือบางทีของเมืองไทย เอาไปบวกเพิ่มกำไรอีกนิด ลูกค้าบางคน อาจจะอยากได้ไปทำอะไรทานที่บ้าน
เราก็ได้กำไรจากตรงนี้ด้วย

ทำธุรกิจ การบริหารคน บริหารเงินสำคัญมากนะคะ ยายหนู กับคุณบิล ลองใจเย็นๆ
ต่างคนต่างลองนั่งลงเขียนปัญหาที่เจอ เหมือนคนทำงานคนละแผนกมาแชร์ปัญหากัน
แล้วก็ลำดับความสำคัญ นั่งถกให้เคลียร์ หาวิธีทดลองแก้ปัญหาไป จนลงตัว
มุ้ยว่าการเลิก การหันหลังย้อนกลับให้กับปัญหา หรือวิ่งใส่ตอนที่เรากำลังเป็นไฟ ไม่ใช่ทางออกที่ดีค่ะ

ที่สำคัญลองหันมาดูแลตัวเอง ให้เวลาพักผ่อนกับตัวเอง กับชีวิตคู่บ้างนะคะ
คนรักกันสองคน ช่วยกันทำมาหากิน แต่อย่าให้ปัญหาเรื่องงาน มาทำให้ชีวิตคู่ของเราสั่นคลอนเลยค่ะ
เอาใจช่วยทั้งสองคนเลยค่ะ ให้เข้มแข็ง ผ่านปัญหาต่างๆไปได้ ยังไงเงินก็สำคัญค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
อย่างที่เค้าบอก ตายไปก็เอาไปไม่ได้สักสตางค์แดงเดียว</span>

รูปภาพ
<img src='http://i47.photobucket.com/albums/f182/mamuii/al_m.gif' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://i47.photobucket.com/albums/f182/mamuii/al_u.gif' border='0' alt='user posted image' /><img src='http://i47.photobucket.com/albums/f182/mamuii/al_i.gif' border='0' alt='user posted image' /> <span style='color:purple'><b><br><br>~ แม่ครัวหัวเป็ด จากดูไบค่ะ ~</b></span><br><br>
ภาพประจำตัวสมาชิก
มุ้ยเองค่ะ
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 108
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 20, 2006 1:01 pm

โพสต์โดย Magarine » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 1:07 pm

ลองถามลูกค้าที่มากินประจำดูสิคะ ว่าเขาคิดยังไงถ้าเราจะขอขึ้นราคาสัก 1-2 เหรียญ คล้ายๆกับการทำประชาพิจารณ์ค่ะ ไม่แน่ลูกค้าประจำที่จริงใจกับเราเสมอมาอาจจะมีไอเดียอะไรดีๆก็ได้ ยังไงการทำธุรกิจแบบนี้เราอยู่ได้เพราะลูกค้าใช่ไหมคะ ทำไมไม่ลองฟังเสียงจากลูกค้าส่วนใหญ่ดูหละคะ

น้องเนยเทียมเข้าใจหัวอกคนค้าคนขายค่ะ อ่านเรื่องแล้วน้ำตาซึมตามพี่ยายหนูไปด้วย และไม่อยากให้ทะเลาะกับน้าบิลอีกเพราะเรื่องนี้เลยค่ะ มันไม่มีใครผิดใครถูกหรอกค่ะในเมื่อทั้งสองคนก็ช่วยกันทำและเหนื่อยพอๆกัน ต่างคนก็ต่างเหนื่อยเลยทำให้อารมณ์หงุดหงิดไปบ้าง แต่น้องเชื่อว่าน้าบิลรักพี่ยายหนูมากนะคะ โดยเฉพาะประโยคที่น้าบอกว่าให้มาทำร้ายน้าแทนที่จะทำร้ายตัวเอง มันบอกความรู้สึกได้อย่างดีที่สุดเลยค่ะ รักกันขนาดนี้ต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคใดๆได้แน่ค่ะ

น้องเนยเทียมขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้ค่ะ วันไหนที่ย่อท้ออีกขอให้นึกว่ายังมีพวกเราที่บ้านนี้คอยเชียร์พี่อยู่ข้างหลังเสมอนะคะ
<img src='http://img5.picsplace.to/img5/19/tipp1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Magarine
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 8:26 am

โพสต์โดย แอมเบอร์ » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 3:29 pm

ยายหนูใจเย็น ๆ นะ อย่าเพิ่งท้อถอย

เวลารับออเดอร์ ขอแนะนำให้มี copy อย่างน้อย ๑ ใบถ้าบิลเป็นคนเก็บเงินเอง ใบหนึ่งส่งให้ครัวเพื่อทำอาหาร อีกใบสำหรับคิดเงิน เมื่อแขกจ่ายเงินแล้วก็เอา copy ของ receipt คลิปติดไว้ทุกใบ แล้วเก็บไว้ที่ส่วนแคชเชียร์

เนื่องจากยายหนูขาย ๒ รอบคือ กลางวันกับเย็น เพื่อให้เราทราบรายรับของร้านว่าเป็นไง จึงสมควรต้องเคลียร์รายรับในแต่ละรอบทันที่ี่หมดเวลาขาย จะได้รู้ว่าเราไปได้ดีไหม ตรงไหนไม่ดี ต้องปรับปรุงอะไร ทั้งนี้รายได้จะเป็นตัวที่ทำให้เรากะวัตถุดิบได้ด้วยค่ะ

<span style='color:red'>การจัดการเป็นสิ่งสำคัญมากนะคะ</span> ถ้าบิลไม่ไหวไม่ถนัดที่จะทำยายหนูต้องเข้ามาช่วยจี้แซะ ๆให้ทำค่ะ ไ่่ม่งั้นเหนื่อยฟรี ไม่รู้ว่ากำไรหรือขาดทุนอย่างนี้ท้อแย่เลยค่ะ

ยายหนูเป็นหลักในครัว แต่ก็ต้องสอนลูกมือให้ทำจานที่เป็น signature ของร้าน แล้วก็คอยชิมให้เข้าที่เพื่อควบคุมรสชาติ ไ่ม่งั้นเหนื่อย ๆๆ หน้าเป็นมัน แล้วจะเครียดมาก ๆ ค่ะ

<span style='color:blue'>เรื่องเงินน่ะ อย่าให้หลวมหรือรั่วไหลนะคะ เวลาที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่นี้เราต้องลงทุนมาก ถ้าทุนไม่มีกำไรไม่ได้ จะอยู่ได้ไม่นานค่ะ</span>
ตอนทำยายหนูกับบิลได้คำนวณจุดคุ้มทุนหรือ yield หรือเปล่าคะ

เรื่องราคาที่จะขึ้นเชื่อว่าถ้าถามลูกค้า ใครจะอยากให้ขึ้น ไม่มีหรอกค่ะ ยายหนูเป็นคนพื้นที่ ลองดูร้านอาหารที่ระดับพอๆ กับเรา อาจจะไม่ใช่อาหารไทยก็ได้ ว่าขายกันราคาไหน

เราอาจจะขายราคาสูงหน่อย ลูกค้าพอควร คุณภาพ บรรยากาศดี
หรือแบบมวลชนนิดๆ ราคาที่ใครก็กินได้ไม่ต้องคิดนาน มาได้บ่อย ๆ กำไรได้จากการขายจำนวนมาก
อันนี้คือ positioning ของร้านเราว่าเราวางตัวเราไว้แบบไหนในตลาด
ราคาเป็นเรื่อง sensitive นะคะ อยากให้ยายหนูคิดดี ๆ แล้วตัดสินใจด้วยข้อมูลกับรายรับที่ผ่านมา

ขอให้โชคดีค่ัะ
<span style='color:red'>แม่น้อง <b>Dino</b> สุดหล่อ ครับผม</span>
ภาพประจำตัวสมาชิก
แอมเบอร์
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 351
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 15, 2006 4:58 pm

โพสต์โดย โทนโทน » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 4:33 pm

แอบอ่านอยู่นานเพราะไม่ค่อยมีเวลาตอบหรือเขียนทักทายเลย

จำกาญจน์ใด้ไหมคะ ที่ทำร้านอาหารอยู่ ยูคอนค่ะ

กาญจน์ขอแนะนำนิดนะคะ ว่า เรื่องคิดราคาขาย

พวกอุปกรณ์ ของใช้ เครื่องครัว โต้ะ เกาอี้ หม้อ เนี้ยะ พี่ ยายหนู ตั้ง เป็น ต้นทุนคงที่ หัก ออก ปีละ- เป็น รายปี

พวก ของสด ผัก ซอส หรือ ที่ใช้ แล้ว หมดไปค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าแรง ให้คิดให้ทุกคนที่ทำงาน รวมทั้งตัวยายหนูเอง กับคุณบิลด้วย ให้ หัก เป็น ต้นทุน ใด้ เลย ทุก ครั้ง

ที่เหลือให้เป็นกำไร แต่ต้องเหลือ 3 เท่าที่เราจ่ายไปถึงจะรอด ไม่งั้นเหนื่อยฟรีค่ะ

เห็นใจมากๆเลยค่ะ กาญจน์ทำแค่เป็นรายใด้เสริม ยังเหนื่อยเลย ตอนนี้ ทำ ปอเปี้ยส่งปั้ม สบายกว่าเยอะค่ะ

ยังไงเอาใจช่วยนะคะ เป็นนายตัวเองมันก็อย่างงี้หล่ะค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
โทนโทน
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 29, 2006 10:01 pm

โพสต์โดย พู่รี่ » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 5:36 pm

EM001 อ่านแล้วเห็นใจจังเลยค่ะ แต่อยากให้ยายหนูพยายามต่อไป สู้ ๆต่อไปนะ ค่ะ เห็นคนไทย ทำสำเร็จในต่างแดน แล้วปลื้มแทน จากขายในรถแวน เล็ก ๆ คนเป็นร้านใหญ่ มีลูกค้าติดใจ พู่รี่ว่ายายหนู สำเร็จไปแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ก็ต้องใจความอดทนหน่อย ไหน ๆ ก็พยายามมาตั้งเยอะ แล้ว เรื่องราคา เห็นด้วยค่ะว่า ลดปริมาณ ของการทำอาหารค่ะ ถ้าลูกค้าถามเราก็อธิบายให้ลูกค้าคงเข้าใจ คิดว่านะคะ เพราะเพื่อนที่เขาขายของที่นี่ส่วนใหญ่ เค้าจะลดปริมาณอาหารเอา เพราะเวลาเพิ่มราคาทำไปลูกค้าหาย เค้าว่านะคะ ใจก็พยายาม แล้วอดทนต่อไปนะคะ จะไปกำลังใจให้อีกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
พู่รี่
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 19, 2006 4:19 pm

โพสต์โดย แพม » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 5:39 pm

ยายหนูจ้าใจเย็นๆจ๊ะ ตามหลักบัญชี(ยายหนูไปซื้อสมุดเงินสด หรือสมุดอะไรก็ได้)มาไว้ลงบัญชีจะได้รู้ว่ารายรับร่ายจ่ายต่อวันเท่าไร แล้วยายหนูก็ต้องตั้งเงินเดือนให้ตัวเองด้วยและคุณบิล(ส่วนมากธุรกิจที่มีเจ้าของคนเดียวจะกินอยู่ใช้เงินในลิ้นชัก คือเงินส่วนตัวกับเงินขายอาหารต้องแยกจ้า มันจึ่งจะแน่นอน)
ใช้เหมือนน้องกาญจน์ว่า รายได้ทั้งหมดหักด้วยต้นทุนหักค่าเสือมราคาของอุปกรณ์
ขอเพิ่มหัก ค่าการกุศลก็ได้,ค่ายานพาหนะ(ค่าน้ำมัน)ค่ารับรอง ค่าโฆษณา ค่าภาษีป้าย สารพัดค่า
ที่เหลือเป็นกำไรก่อนหักภาษีรายได้ คือต้องคิดให้ละเอียดจ้า ให้คุณบิลรับหน้าที่อยู่หน้าร้านทำทุกอย่าง(รวมคิดเงิน ต้อนรับลูกค้า บัญชี รับโทรศัพท์ ประชาสัมพันธ์ สารพัดอย่าง)บางวันลูกค้าเยอะวันศุกร์นี้คุณบิลจะต้องรับออเดอร์ด้วย ร้านอาหารบางครั้งจุกจิก ค่าใช้จ่ายไม่แน่นอน(ไม่ใช้ซื้อมาขายไป ตัดสต็อกก็ลำบาก)ถ้าขายเหล้าด้วยสุดแสนจะยุ่ง เหล้าถือเป็นสินค้าสำเร็จรูป แต่ถ้าเปิดขวดขาย ยิ่งไปกันใหญ่ (แพมเคยทำปิดงบบัญชีให้สวนอาหารที่กรุงเทพ ) บอกจริงๆทำงบดุลให้บริษัทซื้อมาขายไปยังจะง่ายกว่า ไม่ยุ่งยาก พวกคนงานของร้านอาหารเราก็ต้องให้เค้าตามอัตราค่าแรงของกรมแรงงาน (ถ้าเค้าอยู่กับเราก็คิดค่ากินค่าอยู่ด้วยรวมแล้วจะต้องเท่ากับค่าแรงงานขั้นต่ำ) แล้วเล่นตัวด้วย เจ้าของพวกธุรกิจร้านอาหารโทรมาปรึกษาบ่อย เปลียนคนงานอยู่ทุกเดือน(แจ้งภ.ง.ด 1) ยื่นเสียภาษีเงินเดือน
ยายหนูอย่าทำร้ายตัวเองเน่อะ แพมเป็นห่วง ต่างคนต่างเหนื่อยแล้วรักษาตัวเองนะจ๊ะ แพมเองได้เรียนรู้จากยายหนูการทำอาหารมาก และคุณหมูแดง (ไม่เคยลืมจ๊ะ)แล้วครัวไกลบ้าน ขอบคุณค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
แพม
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 279
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:45 pm

โพสต์โดย nushanarthunt » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 6:44 pm

ป้ายายหนูค่ะ
หนิงอยากไปช่วยป้าเหมือนกันน่ะค่ะ แต่เราอยู่ไกลกันเหลือเกิน หนิงก็ชอบทำงานในครัวน่ะค่ะ
หนิงว่าสนุกดีออก หนิงเห็นใจป้ายายหนูจังเลยค่ะ ป้ายายหนูอย่าทำร้ายตัวเองอีกน่ะค่ะ
พักผ่อน และก็รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
nushanarthunt
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 06, 2006 8:52 pm

โพสต์โดย Amelia » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 9:08 pm

แจ๋อ่านที่ยายหนูเล่ามาแล้วเศร้าตามไปด้วยค่ะ เห็นใจนะคะ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ดีใจที่ยายหนูได้ระบายออกมาบ้าง อย่าทำร้ายตัวเองอีกนะคะ ความเหนื่อยหล้าทำให้เกิดความเครียดนะคะ แจ๋เห็นด้วยกับพี่แอมเบอร์ และคุณกาญจน์ค่ะ ค่อยๆคิด ใจเย็นๆนะคะ หาเวลาพักบ้าง ทุกวัน คงไม่ไหวนะคะ เป็นห่วงคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Amelia
แม่ไข่นกกระทา พ่อไข่จะละเม็ด
 
โพสต์: 2791
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 5:45 pm
ที่อยู่: ใกล้ๆรังสิต

โพสต์โดย พี่มิ้นท์ » จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:59 pm

<span style='color:red'>ยายหนููจ๋า.....คราวหน้าอย่าทำร้ายตัวเองอีกนะคะ</span> มาจนถึงวันนี้แล้ว ต้องใช้สติ และรีบแก้ไขจ้ะ ทำร้านอาหารน่ะ

มันเหนื่อยมาก เหนื่อยทั้งสองคน เวลาพักผ่อนก็น้อย ความสุขในครอบครัวก็หดหาย เพราะมีแต่เวลางานๆ ที่ร้าน

ว่างก็ต้องทำความสะอาด เพราะครัวไทยละอองน้ำมันจากการผัดอาหารจะกระจายคลุ้งไปทั่วและจับตัวเป็นคราบเหนียว พี่มิ้นท์ติดตามยายหนููมาตลอด ชอบในความบากบั่น อดทน มุมานะ โดยเฉพาะฝีมือในการทำอาหาร

ยายหนููเป็นคนฉลาดและเก่ง ชีวิตของยายหนููอ่านแล้วมีประโยชน์มาก ดีต่อการเอาอย่างสำหรับคนที่ใฝ่ฝันอยากจะ

เป็นเจ้าของธุรกิจ ตอนนี้ยายหนููทำให้มันเป็นจริงแล้ว...<span style='color:red'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ความสำเร็จเบื้องต้น....คือการตัดสินใจลงทุน</span></span>
<span style='color:blue'>แต่ต่อจากนี้ยายหนููต้องทำการบ้านเรื่อง....การจัดการ การบริหารให้ดี.....</span>การที่ว่าดีคือ ต้องจัดการให้สอดคล้อง

กับเหตการณ์จริง ตอนนี้ต้องมาคิดแล้วว่าเงินลงทุนได้มาจากไหน...จากการก่อหนี้ หรือ ทุนรอนเดิม ( เงินสด )

จะได้แก้ปัญหาทางการเงินได้ถููกต้อง สอดคล้องกับสถานการณ์ การแก้ปัญหาต้องแม่นยำ ตรงจุด
พี่มิ้นท์คิดว่ายายหนููต้องทำได้ อย่าใช้อารมณ์ อย่าโกรธ รีบรวบรวมปัญหา และต้องแก้โดยตัวยายหนููเองให้สำเร็จ

ได้ด้วยตัวยายหนููเอง จึงจะชนะปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ นี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริงในโลกของการลงทุน ยายหนููต้องอาศัย

สัญชาติญาณ.สามัญสำนึก..ประสบการณ์...ข้อคิดเห็นแนวทางจากเพื่อนๆ....ที่สำคัญ เทคนิกในการแก้ปัญหา
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='font-family:Arial'><b>การให้อภัย ชนะการให้ทั้งปวง</b></span></span><br><br><span style='color:blue'><span style='font-family:Arial'><b> นอร์เวย์ค่ะ</b></span></span>
พี่มิ้นท์
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2013
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 15, 2006 8:17 pm

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron