<span style='color:blue'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:red'>จากใจผู้แปล</span>
<span style='color:green'>Message in a bottle</span> เป็นนิยายรักที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง
ของ Nicholas Sparks ซึ่งนําความรักและความงดงามอันบรรเจิด
แห่งผืนทะเลมาร้อยเรียงเป็นตัวอักษรได้อย่างหมดจดและงดงาม
เมื่อผู้แปลได้อ่านนิยายเล่มนี้แล้วมีความรู้สึกเหมือนกับว่า แกเร็ต
เธเรซ่า และแคธรีน เป็นอะไรที่ยิ่งกว่าตัวละครในนิยาย ภาพหลัง
หมดปรากฏในห้วงมโนนึกของผู้แปล โลดแล่นไปไกลจนสัมผัสได้
ถึงความรักอันบริสุทธิ์ของตัวละคร
หนังสือเล่มนี้เปรียบประดุจตัวแทนแห่งความรักในหลากหลาย
แง่มุม ซึ่งสะท้อนออกมาจากจิตใจอันละเอียดอ่อนและละเมียดละไม
ของผู้เขียน สําหรับผู้แปลแล้วถือเป็นต้นแบบของการเขียนนวนิยาย
ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว
อย่าอายหากคุณต้องหลั่งนํ้าตาในขณะอ่านนิยายเล่มนี้ ปลดปล่อย
อารมณ์ของคุณให้โลดแล่นไปในมิติแห่งรักและเก็บความสุขที่ได้รับไว้
ในใจคุณ แล้วคุณจะตระหนักว่า ความพลัดพรากไม่ใช่จุดสิ้นสุดแห่ง
ความรัก และการลาจากไม่ใช่การลืมเลือน
ความรักเป็นสิ่งที่ให้ได้ไม่มีวันหมด เมื่อคุณรักแล้วจงรักให้หมดใจ
และอย่าอาลัยต่อการพลัดพราก อย่ากลัวที่จะรักใหม่ แล้วอย่านําใคร
ไปเปรียบเทียบกัเพราะไม่มีใครแทนที่ใครได้ สุดท้ายแล้ว สิ่งสูงค่าที่
สุดซึ่งคุณได้รับโดยไม่ต้องเรียกร้องจากความรักที่มี ให้ผู้ใดอย่างบริสุทธิ์
ใจก็คือ พลังจากอานุภาพของรักแท้ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตคุณต่อไป
หากคุณต้องการเก็บใครหรือสิ่งใดไว้ให้นานที่สุดแล้ว จงเก็บไว้ในหัว
ใจของคุณ แต่อย่าให้สิ่งที่คุณเฝ้าเก็บถนอมไว้มาทําลายภาพชีวิตอันงด
งามแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน
ไม่ว่านิยายรักเรื่องใดจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรมอันแสนเศร้าเพียงใด
ขอให้คุณจงเชื่อมั่นว่า ความรักเป็นสิ่งงดงามเสมอ อย่ากลัวที่จะรัก หาก
คุณรักใครเพื่อที่จะให้ไป มิใช่ครอบครอง
<span style='color:green'>Message in a Bottle</span>
<span style='color:orange'>รักเธอชั่วนิรันดร์</span>
<span style='color:purple'>บทนํา</span>
ขวดใบนั้นถูกโยนลงจากเรือในเย็นวันหนึ่งของฤดู
ร้อนอันอบอุ่น ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ฝนจะเริ่มตกลงมา
มันเปราะบางเช่นเดียวกับขวดทุกใบ และอาจจะแตก
ได้ถ้าหล่นสูงจากพื้นเพียงไม่กี่ฟุต แต่เมื่อปิดให้แน่น
แล้วส่งลงทะเลเช่นเดียวกับขวดใบนี้มันกลายเป็นวัตถุ
ที่คงทนปลอดภัยในการออกทะเลที่สุดอย่างหนึ่งที่มนุ
ษย์รู้จัก มันสามารถลอยอยู่ได้อย่างปลอดภัยท่ามกลาง
พายุเฮอร์ริเคนหรือพายุโซนร้อน และยังสามารถเคลื่อน
ตัวขึ้นลงได้อย่างรวดเร็วบนกระแสนํ้าที่อันตรายที่สุด
ด้วยสภาพนั้น...มันคือที่อยู่อันลํ้าเลิศของสาส์นที่มันนําไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาส์นฉบับหนึ่งซึ่งส่งไปเพื่อทําตามคํา
มั่นสัญญา
เส้นทางของมันไม่สามารถคาดเดาได้ เช่นเดียวกับขวด
ทุกใบที่ทิ้งให้อยู่กับความไม่แน่นอนของมหาสมุทร ลมและ
กระแสนํ้า มีบทบาทสําคัญต่อทิศทางของขวดทุกใบ พายุ
และเศษขยะสามารถเปลี่ยนเส้นทางของมันได้ด้วย มีบ้าง
เป็นครั้งคราวที่แหจับปลาขะเกี่ยวขวดใบหนึ่งไว้และนํามัน
ไปไกลยังทิศทางตรงข้ามกับที่มันกําลังบ่ายหน้าไปนับสิบ
ไมล์ ผลที่ตามมาก็คือ แม้ขวดสองใบจะหย่อนลงทะเลพร้อม
ๆกัน ก็อาจสิ้นสุดการเดินทางด้วยการแยกกันไปคนละทวีป
หรือแม้แต่คนละซีกโลก ไม่มีทางคาดคะเนได้ว่าขวดใบหนึ่ง
จะเดินทางไปที่ใด และนั่นคือความลึกลับส่วนหนึ่งของมัน
ความลึกลับเช่นนี้กระตุ้นให้คนเราเกิดความอยากรู้อยาก
เห็นตราบเท่าที่มีขวดขึ้นมา และมีคนสองสามคนพยายาม
เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นให้มากยิ่งขึ้นมา และมีคนสองสามพ
ยายามเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นให้มากยิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 1929
ลูกเรือคนหนึ่งของคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้กํา
หนดเส้นการเดินทางของขวดใบหนึ่งไว้โดยเฉพาะ โดยกํา
หนดให้หย่อนลงสู่ทะเลบริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย
และมีการดาษเขียนข้อความสั้นๆอยู่ในขวด โดยขอให้ผู้พบ
ขวดใบนั้นบันทึกตําแหน่งที่คลื่นซัดมันขึ้นฝั่งไว้และให้ขว้าง
กลับสู่ทะเล เมื่อถึงปี ค.ศ.1935 ขวดใบนั้นเดินทางไปรอบ
โลกเป็นระยะทางประมาณ 6,000 ไมล์ อันเป็นระยะทางที่ยาว
ไกลที่สุดซึ่งได้รับการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ
สาส์นในขวดมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ
ศาสตร์ ตัวอย่างเช่น เบน แฟรงคลินใช้สาส์นที่อยู่ในขวดรวบ
รวมความรู้ขั้นพื้นฐานของกระแสนํ้าบริเวณชายฝั่งทะเลตะวัน
ออกในระหว่างช่วงกลางปี ค.ศ.1700 ถึงปี ค.ศ.1709 ซึ่งยัง
ปรากฏรายละเอียดที่สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้จนถึงทุกวัน
นี้ แม้แต่ในปัจจุบันกองทัพเรือสหรัฐก็ยังใช้ขวดในการรวบรวม
ข้อมูลเกี่ยวกับระดับนํ้า และยังมีบ่อยครั้งที่พวกเขาใช้ในการติด
ตามเส้นทางที่นํ้ามันรั่ว
สาส์นที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดเท่าที่เคยพบเป็นเรื่องเกี่ยวกับกะ
ลาสีหนุ่มคนหนึ่ง ในปี ค.ศ.1784 ชายผู้นั้นคือ ชูโนซุเกะ มัทซุ
ยาม่า ซึ่งติดอยู่บริเวณแนวประการัง โดยขาดแคลนอาหารและ
นํ้าจืดอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่เรือของเขาอับปางลง ก่อนตายเขา
ได้สลักเรื่องราวที่เกิดขึ้นลงบนแผ่นไม้ชิ้นหนึ่ง จากนั้นจึงนําสา
ส์นที่สลักไว้ใส่ในขวดแล้วปิดไว้อย่างแน่นหนา ในปี ค.ศ.1935
เป็นเวลา150ปีนับจากที่ลอยขวดไป คลื่นได้ซัดขวดใบนั้นขึ้น
สู่ชายฝั่งบริเวณหมู่บ้านชายทะเลเล็กๆ ในประเทศญี่ปุ่นอันเป็น
บ้านเกิดของเขานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ขวดที่หย่อนลงสู่ทะเลในตอนเย็นฤดูร้อนอันอบอุ่น
ไม่ได้มีเนื้อหาเป็นสาส์นเกี่ยวกับเรืออับปางลําใดลําหนึ่งทั้งยังไม่
สามารถนําไปใช้ประโยชน์ในการทําแผนที่กําหนดเส้นทางเดินเรือ
ในทะเลได้แต่มันมีเนื้อหาที่จะเปลี่ยนชีวิตคนสองคนไปตลอดกาล
หาไม่แล้วคนทั้งสองอาจไม่มีวันได้พบกันเลย และด้วยเหตุนี้จึงอาจ
เรียกมันว่าสาส์นแห่งโชคชะตา เป็นเวลา6วันที่มันลอยไปตามทิศ
ทางที่มุ่งไปสู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและเคลื่อนไปด้วยแรงลมจาก
สภาพความกดอากาศสูงที่ก่อตัวขึ้นเหนืออ่าวเม็กซิโก ในวันที่7 ลม
หยุดนิ่ง ขวดใบนั้นจึงบ่ายหน้าไปตามเส้นทางสู่ทิศตะวันออกได้ด้วย
ตัวมันเอง และในที่สุดมันก็พบเส้นทางไปสู่กระแสนํ้าอุ่น''กัลฟ์สตรีม''
(Gulf Stream-กระแสนํ้าอุ่นที่สําคัญมากในมหาสมุทรแอตแลนติกมี
พลังแรง ไหลไปด้วยความเร็วสูง ต้นกําเนิดอยู่ในอ่าวเม็กซิโก ไหล
ผ่านออกมาทางรัฐฟลอลิด้า ต่อไปยังแนวชายฝั่งทะเลแถบตะวันออก
ของสหรัฐอเมริกา กระแสนํ้าไหลผ่านไปจนถึงทวีปยุโรป ทําให้ประเท
ศในแถบยุโรปตะวันตกอบอุ่นขึ้นมาก) อย่างไรก็ตามในวันที่17เกิดพา
ยุก่อตัวขึ้นอีกลูกหนึ่ง คราวนี้เกิดขึ้นทั่วบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติค
ตอนกลาง และหอบลมตะวันออกมาซึ่งพัดแรงพอที่จะดันขวดใบนั้น
ให้ออกไปจากเส้นทางเดิมของกระแสนํ้า ขวดใบนั้นจึงเริ่มลอยไปยัง
มลรัฐ''นิวอิงแลนด์''(New England-มลรัฐทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยรัฐเมน, นิวแฮมเชอร์, เวอร์มอนด์, แมส
ซาซูเซตส์, โรดไอร์แลนด์ และคอนเนกติกัต) เมื่อไม่มีกระแสนํ้าอุ่นกัล
ฟ์สตรีมซัดพาขวดใบนั้นแล้ว มันจึงลอยไปอย่างช้าๆและลอยคดเคี้ยว
ไปหลากหลายเส้นทางใกล้บริเวณชายฝั่งรัฐแมตซาซูเซตส์เป็นเวลา
5วันจนกระทั่งจอห์น ฮานส์เกี่ยวมันขึ้นมาอยู่ในแหจับปลา ฮานส์พบ
ขวดใบนั้นห้อมล้อมอยู่ด้วยปลาเพิรช์ซึ่งกําลังดิ้นไปมานับพันตัวแล้ว
โยนขวดดังกล่าวไว้อีกฟากหนึ่งของเรือในขณะที่เขาสํารวจปลาที่จับ
มาได้ โชคดีเช่นที่มันจะต้องเป็นไป ขวดใบนั้นไม่แตก แต่เขาลืมมัน
ไปทันทีและมันยังคงอยู่ใกล้หัวเรือตลอดช่วงบ่ายที่เหลือไปจนถึงใกล้
คํ่า ในขณะที่เรือมุ่งหน้าเดินทางกลับไปยังอ่าว''เคปคอด''(Cape cod
Bay-อ่าวบริเวณแหลมเคปคอด ซึ่งเป็นแหลมที่มีรูปทรงคล้ายตะขอ
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐแมศซาซูเซตส์เป็นแหล่งท่อง
เที่ยวชายทะเลที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา)
คืนนั้นเวลา2ทุ่มครึ่ง เมื่อเรือแล่นเข้าสู่ภายในเขตอ่าวอย่างปลอดภัย
แล้ว ฮานส์พบขวดใบนั้นโดยบังเอิญอีกครั้งในขณะที่กําลังสูบบุหรี่ เขา
หยิบขวดใบนั้นขึ้นมา แต่ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติอยู่ในขวด เนื่องจากดวง
อาทิตย์บนท้องฟ้ากําลังคล้อยตํ่าลงมาเรื่อยๆเขาจึงโยนขวดใบนั้นลง
จากเรือโดยไม่ได้ชําเรืองมองเป็นครั้งมี่สองด้วยแน่ใจว่าคลื่นจะซัดขวด
ใบนั้นขึ้นไปตามแนวชายฝั่งของชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่งในหลายแห่งที่
เรียงรายอยู่รอบอ่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เช่นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นทันที ขวดใบนั้นลอยกลับ
มาอยู่สองสามวัน ประหนึ่งตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนก่อนเลือกเส้นทางของ
มัน และในที่สุดคลื่นก็ซัดมันขึ้นฝั่ง บนชายหาดแห่งหนึ่งใกล้เมืองชาธัม
แล้วขวดใบนั้นก็อยู่ที่นั่น หลังจาก26วัน และ 738ไมล์ และนั่นคือจุดสิ้น
สุดการเดินทางของมัน
</span></span>