โดย แตง » ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 12:28 am
ดีใจด้วยที่พ่อน้องโหน่งอาการดีขึ้น แต่โรคนี้ไว้ใจไม่ได้ดีไม่กี่วันก็ทรุดลงอีก ทำใจเผื่อไว้ก่อน
การช่วยต่อชีวิตคนป่วยนี่ถ้าเราทำบุญไว้มากๆเราก็สามารถช่วยเค้าได้ ตอนพ่อพี่เป็นมะเร็งอาการหนัก พี่ไหว้พระขอพรให้ตัดอายุพี่ไปให้พ่อ ๑๐ ปี เพื่อให้พ่อมีชีวิตอยู่ต่อไป ตอนที่หัวหน้าพี่ไปวัดป่าเอารูปพ่อไปให้พระท่านต่ออายุให้ ท่านบอกว่าที่พ่อยังมีลมหายใจอยู่นี่เป็นเพราะพี่ให้อายุท่านไป แต่ ๑๐ ปีของโลกมนุษย์นี่มันก็ไม่นานสำหรับนรกหรือสวรรค์เพราะมติมันต่างกัน แต่ก็ยังดีที่เราได้ทำ
เรื่องการทำบุญแล้วแบ่งให้คนอื่นนี่อยู่ที่คนที่เค้าต้องการบุญจากเราด้วย เวลาเราไปทำบุญกลับมากเจอใครก็บอกว่า เอาบุญมาฝาก คนรับต้องยกมือไหว้รับแล้วบอกว่า ขออนุโมทนาบุญด้วย เราก็ พูดว่า สาธุ หรือเวลาเราเห็นใครเค้าทำบุญ เราพูดว่าขออนุโมนทาบุญด้วย คนที่ทำบุญต้องบอกว่า สาธุ เราก็จะได้บุญจากเค้า อันนี้มีคนสอนไว้ต้องแต่ตอนที่พี่เรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายได้เพื่อนดีพาเข้าวัดบ่อยๆ
อีกอย่างหนึ่งอันนี้ไม่ได้แช่งพ่อน้องโหน่งหรอกนะ แต่พี่ได้รับการสอนมาตอนไปปฏิบัติธรรม เค้าสอนให้เราขอ ขมาพ่อแม่ ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ เพราะพ่อแม่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ เราไม่รู้ว่าล่วงเกินอะไรท่านไว้หรือเปล่า เช่นเราดื้อทำให้พ่อแม่เหนื่อยยากนี่ก็ถือเป็นการล่วงเกินแล้ว ให้เอาดอกไม้ จะใช้พวงมาลัยก็ได้ แล้วธูป เทียน เอาไปกราบพ่อแม่ขอขมาลาโทษท่าน ให้ท่านยกโทษให้เรา พ่อน้องโหน่งยังมีสติรู้สึกตัวดีอยู่ก็ขอขมาท่านซะ ถ้าท่านหายเป็นปกติก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดอาการทรุดลงอีกมันจะสายเกินไปที่เราจะทำ ทุกวันนี้ถ้าพี่ไปเยี่ยมแม่พี่ก็ยังคงทำอยู่เป็นประจำทั้งขอขมา และขอพรด้วยเลย
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/