ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

อยากคุย อยากเล่า อยากบ่น เรื่องสุข เรื่องทุกข์ เรื่องสารพันปัญหา เชิญคุยกันได้ตามสบายที่ห้องนี้ค่ะ

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย tadja » ศุกร์ มิ.ย. 24, 2011 12:02 pm

น้องปานเป็นไงมั่ง สบายดีนะจ๊ะ ยังไปฟิตเนสอยู่รึเปล่า


ป้าติ๋มๆ...ๆ ๆ ๆ...จะจูนสัญญาณกันติดมั๊ยเนี่ย ฮิฮิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tadja
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 16, 2011 4:58 pm
ที่อยู่: samutsakorn/france

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก » ศุกร์ มิ.ย. 24, 2011 2:09 pm

ไม่ได้ไปสู้รบตบมือกับใครหรอกทัดเอ๊ย
แต่เขาแพ้กรรมที่เขาทำมาต่างหาก...
ถึงบอกไว้ว่า การที่เราจะไปว่าใครนั้น เราไม่ควรทำ
โดยเฉพาะเราไม่รู้ว่ามนุษย์ที่เราเห็นนั้น เขาสร้างกุศลมานานแค่ไหน
ยิ่งเขามีกุศลกรรมมานาน เราไปว่าอะไรเขา เราก็บาปมาก
ยิ่งถ้าเอาไปนั่งถกกันเป็นหัวข้อ เอามาเยาะมาเย้ย
รับรองว่าทั้งหมดนั่นแหละ...แล้วไม่เท่านั้น คนที่เขารักก็จะพลอยเจอกรรมที่เขาสร้างไว้
เคยได้ยินมั้ยว่า พ่อแม่ที่ค้าขาย แต่โกงตาชั่ง ลูกออกมาตาบอด...
หรือคนที่เคยสามหาวว่าคนที่มีศีลไว้ พ่อแม่เจ็บไข้ได้ป่วย
ลูกของเขาต่างทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เขาก่อ...สามีตกงาน ล้มละลาย....
เคยอ่านเจอเขาพูดว่า สวรรค์นรกไม่มีจริง
ก็เผลอคิดตามไปว่า เดี๋ยวก็จะเจอของจริงที่ไม่รู้ว่ามายืนจ่อคอยหอยอยู่
แต่พอคิดได้ว่า เราต้องไม่คิดไปแบบนี้ เดี๋ยวเขาเจอจริงตามที่เราคิด...
ดีนะที่หยุดได้ทัน.... :roll: :roll: :roll:

หญิงป้าจึงเกรงนักว่า หากเราปากพล่อย หลุดคำไม่ดีต่อใครไป
ลูกที่เรารักจะเจอกับความพล่อยของเราไปด้วย...

อ้าว...ไหนมาบอกใบ้กันแบบนี้ ว่าจะไม่พุดแล้ว
คุณหญิงป้า...นางเอกลิเกเก่า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2048
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 7:11 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย PHAN » ศุกร์ มิ.ย. 24, 2011 2:31 pm

tadja เขียน:น้องปานเป็นไงมั่ง สบายดีนะจ๊ะ ยังไปฟิตเนสอยู่รึเปล่า


ป้าติ๋มๆ...ๆ ๆ ๆ...จะจูนสัญญาณกันติดมั๊ยเนี่ย ฮิฮิ



สะบายดีคะพี่ทัด เหนื่อยทุกวัน ออกกำลังจันทร์ ถึง ศุกร์ หายไป อาทิตย์ ละ 2 กิโล พอเสาร์อาทิตย์ เจอข้าวเหนียวทำกับข้าวเอง สองกิโลกลับมาเหมือนเดิม หุหุ วนเวียนกันอย่างงี้ เอาเข้าง่ายแต่เอาออกนะอยากมากคะ แต่เฟริมหุ่นเฟริม คะ น้ำหนักไม่ยอมลด พี่ทัดสะบายดีนะคะ
<img src='http://i.imgur.com/DNncB.jpg' border='0' alt='user posted image' /><br><br><a href='http://olddreamz.com/bookshelf/properties/propcon2.html' target='_blank'>พูดดี ทำดี คิดดี</a><br><br><a href='http://www.consumerthai.org/main/index.php' target='_blank'><span style='font-size:10pt;line-height:100%'>มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค</span></a><br><br><a href='http://dodee2011.blogspot.com/' target='_blank'>เคล็ดลับในครัว</a>
ภาพประจำตัวสมาชิก
PHAN
แม่ไข่หวาน พ่อไข่เค็ม
 
โพสต์: 1485
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 07, 2009 6:54 am

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย Beminds » อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 10:28 pm

คิดถึงคุณ ญ ป้าจังเลยค่ะ จาก หนูหนิง ^^

เเวะมาทักทายทุกๆคนค่ะ รวมทั้งขอบคุณ พี่ปุย จขกท ด้วยค่ะที่เปิดกระทู้ต่อ
ป้าติ๋ม พี่ทัด พี่พิม พี่พิมมณี คุณปาน น้องป้อม และทุกๆท่าน สบายดีกันนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Beminds
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 847
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2007 1:06 am

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย Beminds » อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2011 10:39 pm

มีเรื่องมาเล่าค่ะ พอดีเพิ่งกลับจาก trip ฝั่ง west coast มา
เมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว เดินๆอยู่ที่ท่าเรือแถวๆ San Francisco เราเดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่ง และเค้าก็ตะโกนเรียกเรา ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเรียกเราค่ะ เค้าก็ตะโกนอีก excuse me หลายครั้งจนเราหันไป เห็นผู้ ญ คนหนึ่งเข็นรถเข็นเด็ก เค้าก็บอกว่า ยู นั่นล่ะ เค้าก็ยื่นนามบัตรให้ เค้าบอกว่า เค้าให้เราถามเค้าได้สาม
อย่าง อะไรก็ได้ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ขอบคุณ แล้วเค้าก็บอกว่าแปลกนะ จะดูดวงให้ฟรี ไม่เอาเหรอ เราก็เฉยๆค่ะ เค้าก็เลยทายมาหลายอย่างเลยซึ่งตรงทุกอย่าง เหมือนตาเห็น เราก็ถามว่าทำไมเรียกเรา เค้าบอกว่า เค้าเห็นอะไรบางอย่างในตัวเรา ซึ่งเค้าอยากจะทักขึ้นมา เค้ามาทานข้าวกับครอบครัวกำลังจะกลับและอยู่ๆ ก็เดินสวนกับเรา ก็น่าแปลกดีนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Beminds
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 847
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2007 1:06 am

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก » จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 4:19 am

เป็นแบบผู้หญิงที่เข้ามาทักหนุงหนิงเหมือนกัน
แต่ไม่ทักเขาค่ะ ใหม่ๆเคยพูด แต่เขาทำหน้าแบบ "อีนี่สงสัยจะบ้า"
พอตอนหลังเขาเห็นเราอีก เขามาถามเราว่าเรารู้ได้ไง
ทีนี้ หลังจากนั้นชีวิตไม่สงบค่ะ ถูกถามเรื่อย
จึงไม่ทักอะไรใครอีกต่อไป
คุณหญิงป้า...นางเอกลิเกเก่า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2048
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 7:11 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย chaba » จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 3:12 pm

สวัสดีกัลยามิตร ทุกๆท่านคะ

เข้ามายืนยันว่ายังเป็นแฟนคลับ พี่ปุยคะ
<img src='http://i929.photobucket.com/albums/ad139/altenfurt/SDC19976.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
chaba
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 463
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 24, 2006 1:54 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย Beminds » อังคาร มิ.ย. 28, 2011 5:55 am

หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก เขียน:เป็นแบบผู้หญิงที่เข้ามาทักหนุงหนิงเหมือนกัน
แต่ไม่ทักเขาค่ะ ใหม่ๆเคยพูด แต่เขาทำหน้าแบบ "อีนี่สงสัยจะบ้า"
พอตอนหลังเขาเห็นเราอีก เขามาถามเราว่าเรารู้ได้ไง
ทีนี้ หลังจากนั้นชีวิตไม่สงบค่ะ ถูกถามเรื่อย
จึงไม่ทักอะไรใครอีกต่อไป



เรื่องแบบนี้ ถ้าคนไม่เชื่อ ก็ทำให้เค้าเชื่อยากนะคะ จนกว่าเค้าจะได้พบประสบด้วยตนเอง แต่ว่าหนุงหนิงเป็นประเภทเชื่อค่ะ แต่กรณีที่โดนเรียกนี้ แค่สงสัยและหวาดหวั่นเรื่องคนแปลกหน้ามากกว่าค่ะ ว่าจะทำอันตรายให้เราหรือไม่

เค้าถามด้วยค่ะว่า หนุงหนิงนับถือพุทธหรือเปล่า เชื่อเรื่องการตายและกลับชาติมาเกิดไหม และอีกหลายๆเรื่องที่ก็ทำให้เอะใจได้เลยว่าเค้าน่าจะมีพรสวรรค์ในเรื่อง ญานหยั่งรู้ได้ เค้าบอกว่า หนุงหนิงยึดติดเรื่องของอดีตชาติและนำพาให้เราไม่มีความสุข เพราะว่าเรายังไม่ยอมปล่อย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Beminds
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 847
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 23, 2007 1:06 am

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย tadja » อังคาร มิ.ย. 28, 2011 8:52 pm

อ่านเรื่องของคุณดาว หรือคุณหนิง ทำให้คิดถึง รายการคนอวดผี อาทิตย์ที่แล้ว
เรื่องของเก๋ ชลดา ที่ได้ดูไพ่ยิปซีที่อังกฤษ ประเภทโดนทักอะไร(ในต่างแดน) จากผู้มีญาณ
แล้วแม่นมาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
tadja
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 16, 2011 4:58 pm
ที่อยู่: samutsakorn/france

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย de loei » พุธ มิ.ย. 29, 2011 3:19 pm

tadja เขียน:น้องปานเป็นไงมั่ง สบายดีนะจ๊ะ ยังไปฟิตเนสอยู่รึเปล่า


ป้าติ๋มๆ...ๆ ๆ ๆ...จะจูนสัญญาณกันติดมั๊ยเนี่ย ฮิฮิ


น้องทัดเรียกดังออกอย่างนี้มีหรือจะจูนสัญญาณดิจิตอลแห่งจิตไม่ได้
แต่ที่มาช้าเพราะสัญญาณจิตที่ กทม.มันเข้มข้นเหลือเกินจ้าทั้งป้าพิมลุงอันโตและจีโน่เลยได้แต่
เข้ามาอ่านจ๊ะ ขอทักทายทุกคนเลยนะคะคิดถึงเหมือนกันน้องปุย หญิงป้า พี่พิมมณี น้องทัด น้องปาน
น้องหนิง(Beminds) น้องชบา และอีกหลายๆคนค่ะสบายดีกันทุกคนนะคะ
The road is narrow and long when eyes meet eyes and the feeling is strong.
ภาพประจำตัวสมาชิก
de loei
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 6:59 am

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย pa-tew » จันทร์ ก.ค. 04, 2011 7:13 am

ป้าติ๋วเข้ามาแอบอ่านด้วยคน มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของหลานๆ ไว้ประดับความรู้จ้ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pa-tew
แม่ไข่ยัดไส้ พ่อไข่ลูกเขย
 
โพสต์: 882
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 2:18 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย Puimek » จันทร์ ก.ค. 04, 2011 12:27 pm

พูดถึงเรื่องประสบการณ์คนทักแปลกๆ ของน้องหนุงหนิง
พี่ก็เคยโดนทัก แต่คนละแบบกัน เคยเล่าไปแล้วในครัวเก่า เอามาเล่าใหม่อีกทีนะคะ
ตอนนั้นเรียนอยู่อังกฤษ เข้าลอนดอนจะไปทำงานพิเศษ (อัดเสียง voice over ภาษาไทย)
ความที่ไม่ได้อยู่ลอนดอน ก็เลยงงๆ รถเมล์เล็กน้อย ขึ้นคันหนึ่ง กะจะไปต่ออีกสายหนึ่ง
บนรถไม่ได้พูดกับใคร แต่ตอนลง มีฝรั่งเดินแทรกข้างหลังมาแล้วอยู่ๆ ก็บอกว่า
ถ้าคุณจะไปที่นี่ ต้องไปต่อสายนี้ ทางฟากถนนนี้..ซึ่งไม่ใช่สายที่เราคิดตอนแรก
ปุยก็หันไปขอบคุณ ฝรั่งคนนั้นก็เดินหายไปในฝูงชน แต่พอนึกขึ้นได้
เราไม่ได้พูดกับใคร เขารู้ได้ยังไงว่าเราจะไปไหน ที่สำคัญ รู้ได้ไงว่าเราคิดจะไปขึ้นสายอะไร

สรุปแล้ว...บอกตัวเองว่าเทวดามาช่วย เพราะถ้าเราขึ้นรถผิด ก็จะไปสาย เสียงาน
เสียเงิน ๒๐๐ ปอนด์ค่าจ้าง ซึ่งปีนั้นเป็นปีฟองสบู่แตก...เราขาดเงินอย่างมาก
ต้องทำงานพิเศษเยอะจนแทบเรียนไม่รู้เรื่อง...๒๐๐ ปอนด์...ไม่น้อยเลยสำหรับสถานการณ์นั้น...

เป็นเรื่องทักเหมือนกัน แต่ทักคนละแบบค่ะ...ใครจำได้มั่งเอ่ย เคยเล่าไปทีนึงแล้ว

ปล. ป้าติ๋ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ประสบการณ์แปลกๆ ค่ะ แต่อธิบายไม่ได้
ป้าติ๋วมีอะไรก็เอามาแชร์หลานๆ น้องๆ บ้างนะคะ
<img src='http://i862.photobucket.com/albums/ab189/puimek09/robert%20redford/ottawa-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Puimek
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2117
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 8:14 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก » จันทร์ ก.ค. 04, 2011 1:47 pm

pa-tew เขียน:ป้าติ๋วเข้ามาแอบอ่านด้วยคน มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของหลานๆ ไว้ประดับความรู้จ้ะ


เดี๋ยวจะไปหลอนป้าติ๋วให้มะระเหี่ยว
คุณหญิงป้า...นางเอกลิเกเก่า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
หญิงป้า ณ คุ้มฮาแตก
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2048
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 23, 2011 7:11 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย Puimek » ศุกร์ ก.ค. 08, 2011 2:34 am

เจออะไรดีๆ..ก็เอามาแบ่งปันกันอ่านค่ะ







รวมวาทะจากดังตฤณ
by Avatarfive Payakon on Thursday, July 7, 2011 at 8:18am

1. ธรรมชาติน่ะลำเอียงไม่เป็นหรอก คนเราแค่ไม่รู้ว่าธรรมชาติยุติธรรมด้วยกติกาแบบไหน

2. ความบังเอิญไม่มีในโลก...มีแต่เหตุผลที่เราไม่รู้

3. ถ้าเชื่อเรื่องกรรมวิบาก ก็เท่ากับเลิกเชื่อความบังเอิญ หันมาเชื่อในเหตุผล
...เมื่อเชื่อว่าทุกสิ่งที่กำลังเห็นคือผลของเหตุ ก็ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งที่กำลังทำคือเหตุของผล

4. กรรม คืออะไรอย่างหนึ่งที่ปราศจากรูปร่างหน้าตา ปราศจากความรู้สึกนึกคิด ปราศจากเจตจำนง ไม่มีแม้กลุ่มพลังให้สัมผัสได้อย่างเปลวแดดหรือควันไฟ มีแต่ ‘ความจริง’ ให้รับรู้ว่ามันเป็นเงาตามทุกคนและคอยทำหน้าที่บันดาลเหตุการณ์ดีร้ายอย่าง ปราศจากอคติอยู่เท่านั้น

5. ถ้าอยากให้กรรมออกจากที่ซ่อนและ แสดงตัวเป็นรูปธรรมทันใจ ก็ให้เลือกเอากุศลกรรมเด่น ๆ ที่ทำประจำมาเป็นตัวตั้ง จากนั้นจงเอ่ยปากแบบเสียงดังฟังชัด อธิษฐานว่าหากกรรมวิบากมีจริง ก็โปรดบันดาลเรื่องดีสมกับกรรมดีที่ทำ เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ เพื่อเป็นกำลังใจ เพื่อให้มีมานะในการบำเพ็ญบุญกุศลยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด

พลัง แห่งความจริงนั้นน่าพิศวงเหนือพลังอื่นใด เมื่อใดอ้างถึงความจริง ทุกคนย่อมสามารถสัมผัสรู้สึกได้ถึงพลังที่มีอยู่จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นกุศลผลบุญอันหนักแน่นที่สั่งสมมานาน

6. ขอเพียงมีเจตนาก่อ เหตุการณ์ และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงตามเจตนา เหตุการณ์นั้น ๆ จะกลายเป็น 'สัจจะ' ขึ้นมาทันที พลังแห่งสัจจะนั้นเองถืออำนาจดลบันดาลสูงสุด และทำงานทำนองเดียวกับกระจกเงา ใครก่อภาพความสงบสุขแก่ผู้อื่น วันหนึ่งย่อมเห็นภาพสะท้อนเป็นความสงบสุขของตนเอง ใครก่อภาพความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น วันหนึ่งย่อมเห็นภาพสะท้อนเป็นความเดือดร้อนของตนเอง

7. กรรมเก่าเป็นฐาน เป็นแนวโน้ม และเป็นที่ตั้งของความรู้สึกสุขทุกข์จากเครื่องกระทบทั้งหลายว่ามีขอบเขตประมาณนั้น ส่วนกรรมใหม่เป็นตัวรักษา เป็นจุดเปลี่ยน หรือเป็นแรงขับดันให้ฐานเดิมงอกเงยต่อยอดหรือพังพินาศล่มสลายลง

8. กรรมเก่าจากอดีตชาติขุดทางให้เราเดินในชาติปัจจุบัน แต่ถ้ากรรมปัจจุบันมีพลังเหนือกว่าที่ทำไว้ในอดีตชาติอย่างชัดเจน ก็อาจยกระดับให้เดินสูงขึ้นได้ หรือกระทั่งฉีกทางแยกเป็นตั้งฉากเลยก็ยังไหว หนึ่งชีวิตของมนุษย์เรามีศักยภาพได้ขนาดนั้น

9. กรรมเก่าอาจทำหน้าที่สร้างฉากละครตอนแรก แต่กรรมใหม่ก็สามารถเป็นตัวกำหนดว่าจะให้เหตุการณ์ดำเนินไปจนถึงตอนจบได้อย่างไร

10. กรรมเก่าสร้างทางไว้ให้เดิน อย่างไรก็ต้องเดิน แต่ระหว่างเดินก็มีสิทธิ์ทำอะไรให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน

11. ถ้าหากไม่เปลี่ยนแปลงตัวตนเดิมๆ ก็จะต้องหลงวนอยู่ในวงโคจรเดิมๆ ไม่อาจเจอคนใหม่ที่ดีกว่า คล้ายสร้างเขาวงกตให้ตัวเองหาทางออกไม่เจอ หรือเหมือนขุดหล่มให้ตัวเองติดอยู่อย่างไม่อาจถอนเท้าขึ้นมาสำเร็จ

12. ตราบใดยังเป็นตัวเก่า ก็น่าสันนิษฐานว่าอาจเจออะไรแบบเก่า ๆ อยู่ร่ำไป

13. เรายกระดับตัวเองสูงขึ้นแค่ไหน โอกาสจะไปเจอคนในระดับนั้นก็มีสูงขึ้น

14.ยกระดับฐานะยากนัก ก็ยกระดับจิตใจเป็นไง...
ตราบใดที่ใจยังผูกพันกับคนเก่าแปลว่าเธอยังยินดีทุกข์กับทางโคจรของชีวิตแบบเดิม

15. ธรรมชาติมักหาเรื่องหลอกล่อให้มนุษย์ใช้ความฉลาดไปในทางโง่เสมอ ยิ่งฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งทำเรื่องโง่ได้รุนแรงขึ้นเท่านั้น สำรวจดูเถอะ ความเดือดร้อนนานัปการทุกวันนี้เริ่มต้นจากการใช้ความฉลาดของมนุษย์แทบทั้ง สิ้น

16. ดวงดาวมีอิทธิพลจริง แต่คนเราจะตกอยู่ใต้อิทธิพลของดาวดวงไหน ราศีอะไร ก็ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าส่งมา

17. คนเราจะเริ่มอยู่เหนือดวงชะตาก็เมื่อมีใจคิดสละสิ่งที่หวงไว้แบบผิด ๆ ทิ้งไป ถ้า ไม่ฝึกมีใจคิดสละ จิตจะหวงแม้กระทั่งสิ่งที่เห็น ๆ อยู่ว่าเป็นต้นเหตุทุกข์ก้อนใหญ่ แต่ละวันเราเจอเหยื่อล่อที่กรรมเก่าส่งมายั่วกิเลสทั้งนั้น ถ้าตะครุบหมดก็เท่ากับเก็บทุกข์มาหวงไว้ในอ้อมกอดทั้งหมด

แต่ถ้าสละบ้าง ทิ้ง ๆ มันบ้างด้วยปัญญาเพ่งเล็งเห็นโทษ ก็จะเหมือนทวนกระแสกรรมเก่าไปหาทิศทางใหม่ที่ดีขึ้น ทีละครั้ง ทีละหน

18. คนเราอยู่เหนือชะตากรรมได้ด้วยจาคะ ด้วยศีล แล้วก็ด้วยการภาวนา พอมีแก่ใจสละสมบัติหยาบ ๆ ได้ก็จะเริ่มมีกำลังรักษาศีล พอรักษาศีลได้ก็จะเริ่มมีกำลังปฏิบัติธรรมภาวนา
ถึงตอนนั้นโหราศาสตร์จะเริ่มทำนายเราพลาด คลาดเคลื่อน หรือกระทั่งเพี้ยนไปเป็นคนละเรื่อง เพราะกรรมใหม่มาโยกเกณฑ์เดิมไปเสียหมด

19. เมื่อ เรารับมือสถานการณ์อย่างมีสติ แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าตามกำลังปัญญา ไม่อิดออดโอดครวญหรือโทษฟ้าดิน อย่างนี้จะทำให้สงสารตัวเองน้อยลงเรื่อย ๆ หวั่นไหวน้อยลงเรื่อย ๆ
แล้วที่สุดก็จะยิ่งมีแก่ใจบำเพ็ญทาน บารมีกับศีลบารมีด้วยความผ่องแผ้วมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นแหละธรรมชาติความผ่องใสของจิตถึงจะเริ่มมีอิทธิพล เกิดการจัดสลับคิววิบากใหม่ในทางดีขึ้น

20. ทุกคนเกิดขึ้นเพื่อดำรงอยู่ในสภาพหนึ่ง ๆ ชั่วคราว แล้วจะต้องมีอันเป็นไป ดับลงจากสภาพนั้น ๆ เป็นธรรมดา
ผลกรรมที่ ทำมาในระหว่างมีชีวิต จะพิจารณาตัดสินเองว่าสมควรเปลี่ยนไปสู่ความมีสภาพใดต่อ ไม่รอฟังคำวินิจฉัย คำวิงวอน หรือคำอุทธรณ์ร้องขอใด ๆ จากญาติผู้อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

21. บาปใดที่ละได้แล้ว แม้ต้องเผล็ดผลก็จะไม่สม่ำเสมอ และมีกำลังอ่อน กับทั้งเปิดช่องให้บุญแทรกแซงได้ง่าย
ส่วน บาปที่ละไม่ได้ ใจยังติดอยู่ จะให้ผลแน่นอน มีความสม่ำเสมอ และยากที่บุญใด ๆ จะมาตัดรอน การที่หนูตั้งใจมั่นรักษาศีล ๕ และศีล ๘ ก็คือการเอาใจออกห่างจากบาปทั้งปวง เคลื่อนเข้าสู่สภาพตั้งมั่นในบุญทั้งปวงนั่นเอง นี่แหละวิธีเลือกเกิดใหม่อย่างฉลาดพร้อม

22. การเป็นคนใหม่อย่างแท้จริงคือการหลุดจากเส้นทางกรรมเก่า เลือกขึ้นเดินบนเส้นทางแห่งกรรมใหม่ที่ต่างไป ทุกครั้งที่เราให้อภัยจากใจ จะเป็นทุกครั้งที่ความผูกอยู่กับภพเดิมเคลื่อนไปเสมอ

23. ชนะนิสัยเสียๆของตัวเอง ก็คือชนะอกุศลกรรมเก่าด้วยกุศลกรรมใหม่ เป็นการทำให้ตัวเองหลุดจากเส้นทางที่น่าเหน็ดหน่าย สั่งสมกุศลให้ยิ่งๆขึ้นไปเถอะ จิตยิ่งสว่างขึ้นเพียงใด ชีวิตยิ่งเหมือนฝันที่เต็มไปด้วยแสงสวยสาดรอบมากขึ้นเพียงนั้น อะไรๆในฝันย่อมกระจ่างชัดและสนุกสนานตั้งแต่ต้นจนจบเสมอ

24. การเป็นผู้ชนะกิเลสในทางใดทางหนึ่งได้ตลอดชีวิต คงเส้นคงวาไม่หวั่นไหวแม้ถูกทดสอบหนักหนาเพียงใด นั่นแหละจะกลายเป็นนิสัยติดตัวข้ามภพข้ามชาติในระยะยาวได้

25. อะไรจะมีค่าไปกว่าการมีจิตที่ดีขึ้น ในเมื่อจิตคือสิ่งที่คุณต้องทนรำคาญหรือชื่นชมยินดีอยู่ตลอดวันตลอดคืน และจิตนี่เองเป็นต้นเค้าของกรรมทั้งปวง เมื่อจิตสว่างย่อมปรารถนาที่จะทำกรรมขาว สุคติย่อมเป็นที่หวัง เมื่อจิตมืดย่อมใคร่ที่จะทำกรรมดำ ทุคติย่อมเป็นที่หวัง
....สรุปคือ ขอเพียงจิตคุณดีอย่างเดียว อะไรอย่างอื่นที่จะตามมาก็ดีหมด หากการเปลี่ยนแปลงของคุณเข้าลึกมาได้ถึงจิต ก็แปลว่าทั้งปัจจุบันและอนาคตไม่มีอะไรน่าห่วงอีกแล้ว

26. คุณเปลี่ยนกรรมหน้าตาก็เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะในเรื่องของศีลจะเห็นผลชัดรวดเร็ว คือต่อให้คุณเป็นคนผิวดำ เมื่อรักษาศีลได้สะอาดสักระยะ กระทั่งรู้สึกตั้งมั่นในศีล จะเหมือนมีรัศมีความขาวทอตัวออกมาจากภายใน ผิวคุณจะดูขาวขึ้นจนคนอื่นทัก

27. เมื่อทำกรรมหนักไปทางด้านใดอย่างต่อเนื่องแล้วจิตเต็มดวงเป็นฝ่ายดำหรือฝ่าย ขาว ก็ก่อเหตุการณ์หรือดึงดูดบุคคลแบบนั้นเข้ามาสู่ชีวิต

28. การเริ่มต้นคิด พูด หรือทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับบุคคลชั้นเลิศเช่นสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นมหาบุรุษ ผู้ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง ผู้ชี้ทางสว่าง ผู้เป็นต้นทางออกจากวังวนทุกข์ ผู้ไม่มีใครในสามโลกเสมอเหมือนนั้น จะก่อให้เกิดแรงดึงดูดเข้าหากรรมขาวหรือกรรมดำได้เข้มข้นกว่ากรรมชนิดอื่น

29. การคิด พูด ทำกับพระพุทธเจ้าจะเบี่ยงเบนจากเส้นทางเดิมได้เร็วที่สุด เหมือน พระองค์ท่านเป็นกระจกขยายพลังกรรม ส่งแสงขาวเข้าไปกระทบก็สะท้อนแสงขาวกลับออกมา ส่งกระแสมืดเข้าไปกระทบก็สะท้อนกระแสมืดกลับออกมา ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นอย่างน่าตกใจ จิตที่เต็มดวงในทางคิดดีและเลื่อมใสพระพุทธเจ้าจะทำให้มีแต่เรื่องดีเกิด ขึ้นไม่สิ้นสุด แต่จิตที่เต็มดวงในทางคิดร้ายและหมิ่นพระคุณพระผู้มีพระภาคเจ้าจะทำให้มีแต่ เรื่องร้ายมากมายเกินคำนวณ เพราะบุคคลเมื่อเลื่อมใสผู้ใด ย่อมยอมรับและซึมซับแนวคิดในการดำเนินชีวิตของผู้นั้นมามากเสมอ

30. เมื่อศรัทธาและมีปัญญาเห็นแจ้งในเรื่องกรรมวิบาก ต่อไปหากน้อยใจวาสนา เราจะไม่โทษใครเลยนอกจากตัวเอง และหากจะขอบคุณชะตาชีวิต เราจะไม่สรรเสริญใครเลยนอกจากตัวเองเช่นกัน !!

......................................

จาก (กรรมพยากรณ์ : ชนะกรรม)

“ขอเพียงรู้กฎแห่งกรรม ดวงดาวก็ทำอะไรเราไม่ได้เลยใช่ไหมครับ?”

“ก็ ทำได้ในแง่ส่งอิทธิพลคุมรูปชะตา แต่ละคนมาตกอยู่ในร่องชะตาอย่างนั้นอย่างนี้ก็ด้วยกรรมเก่า ถ้าเราเรียนรู้ว่าเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นแต่ละอย่าง เป็นผลจากกรรมดำประเภทไหน ก็เพียงเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนความเคยชินที่จะก่อกรรมดำนั้นเป็นกรรมขาวขั้วตรงข้าม ในที่สุดก็เกิดภาวะกรรมชนะกรรมให้เห็นเอง”

นนทกานต์แย้มยิ้มแจ่มแจ้ง

“เข้าใจแล้วครับ”

อุปการะยิ้มตอบ

“ดวงดาวน่ะ เก็บไว้เป็นของสวยของงามไว้ดูเล่นตอนกลางคืนก็พอแล้ว กรรมเรานี่แหละ ที่ควรเอาไว้สำรวจดูจริงจังตลอดวันตลอดคืน ว่ากำลังเป็นดำหรือเป็นขาว เรา รู้จักกรรมอันเป็นประโยชน์สูงสุด คือกรรมไม่ดำไม่ขาว เพื่อความสุขในปัจจุบัน เพื่ออยู่เหนือกรรม เพื่อชนะกรรมทั้งปวง เพื่อพ้นจากทุกข์ในโลกนี้และโลกอื่นกันแล้วหรือยัง"

<img src='http://i862.photobucket.com/albums/ab189/puimek09/robert%20redford/ottawa-1.jpg' border='0' alt='user posted image' />
ภาพประจำตัวสมาชิก
Puimek
แม่ไข่กุ้ง พ่อไข่ปู
 
โพสต์: 2117
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 06, 2009 8:14 pm

Re: ประสบการณ์สัมผัสที่หก (หก) ต่อจากบ้านเก่า

โพสต์โดย tadja » ศุกร์ ก.ค. 08, 2011 3:01 pm

ขอบคุณมากค่ะพี่ปุย ใน30ข้อ มีเรื่องที่ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่นี่เขาเรียบเรียงใช้ถ้อยคำได้ดีมากๆ
เป็นบทความที่ให้ข้อคิดเตือนใจได้ดีจริงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tadja
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 16, 2011 4:58 pm
ที่อยู่: samutsakorn/france

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง คุยกันเจ๊าะแจ๊ะ

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน