เห็นร้านใหม่ยายหนูแล้วน่าชื่นใจกว่าร้านเก่าอีกนา ถึงจะยังไม่มีอุปกรณ์ทำครัวรึว่าโต๊ะเก้าอี้มาเสริม ก็มองว่าน่าจะตบแต่งแล้วออกมาดูดี และเรียกลูกค้ากลับคืนมาได้มากกว่าร้านเก่าค่ะ
เพราะว่าขาจรและขาประจำจากร้านเก่านี่ ต้องแวะมาชิมแล้วบอกต่อเหมือนเคยล่ะค่ะ
อาหารไทยนี่ขึ้นชื่อค่ะยายหนู จำได้ว่าเมื่อปี2000 ยายดาไปเดินเล่นที่ตลาดนัดในOliva,Spainแถวบ้านแม่สามีบ่อยๆ เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆที่เพิ่งจะมีร้านอาหารไทยไปเปิดเมื่อปีที่แล้วนี่เองค่ะ ผู้คนที่นั่นไม่มีใครพูดอิงลิชเลยเขาพูดสแปนิชล้วนๆ แม้แต่พนักงานธนาคารที่รับแลกตังค์ ก็ไม่ยอมพูดอิงลิชค่ะ พื้นฐานภาษาอังกฤษนี่ไกล้เคียงกับคนบ้านเรามากเลย เวลาซื้อของยายดาก็จะพูดอิงลิชนี่ล่ะค่ะ แล้วสังเกตดูหน้าจอเครื่องคิดตังค์ว่าเท่าไรแล้วถึงจ่าย
หลังจากไปซื้อของบ่อยๆ จนพ่อค้าแม่ค้าพากันจำหน้าได้ เขาก็เริ่มสงสัยในหน้าตาท่าทางสำเนียงอิงลิชแปลกๆของยายดาค่ะ เขาเลยถามอิงลิชสำเนียงแปลกๆกลับมา"แวร์ ยัวร์ ฟอร์ม" ยายดาก็บอกว่า"ไทยแลนด์"เขาตอบกลับมาว่า"ต้มยำกุ้ง-มัสหมั่น-ชิ้กเก้นกรีนเคอรี่ ไอซีๆๆ"ค่ะยายหนู แล้วก็พูดอะไรต่อไม่รู้ แต่พอเดาได้ว่าเขารู้จักเมืองไทย อาหารไทยแล้วชูหัวแม่โป้งมือบอกว่า"เวอรี่กู้ดๆ"
วันนั้นน้ำตาแทบเล็ดค่ะ เพราะว่าตั้งแต่เทียวไป-มาที่นั่นหลายรอบ จนเท่าทุกวันนี้ ยังไม่เคยเจอคนไทยที่นั่นสักคนเลย แต่คนที่นั่นเขารู้จักอาหารไทยดี อดีตผู้ช่วยกุ๊กแค่9เดือนอย่างยายดาภูมิใจมากเชียวค่ะ
แต่ร้านใหม่ของยายหนูนี่ น่าจะเรียกลูกค้าได้ดีกว่าร้านไทยที่เพิ่งไปเปิดแถวเมืองที่แม่สามียายดาอยู่ที่Spainนั่น เพราะยายหนูตั้งร้านเรียกลูกค้าริมทางมาก็นานแล้ว ลูกค้าเก่าก็เยอะ เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่ไปบ้างตามเหตุจำเป็น คิดว่าร้านที่เปิดใหม่ต้องหาค่าใช้จ่ายเลี้ยงร้านไปได้รอดเหมือน2ครั้งแรกที่ผ่านมาค่ะ
เพราะว่าเห็นยายหนูชอบคิดชอบทำ ดัดแปลงแจกสูตรอาหาร มาให้น้องๆพี่ๆแม่บ้านในครัวไกลบ้านช่วยชิมช่วยตั้งชื่อบ่อยๆ ยายดาก็เข้าไปลอกสูตรเรื่อยค่ะ แต่ทำออกมาแล้วบางทีก็สีไม่สวย หน้าตาอาหารก็ตลกเหมือนคนทำ เลยไม่ค่อยจะได้ส่งการบ้านกับเขาสักที
เป็นกำลังให้ยายหนูเหมือนเคยค่ะ บางกระทู้อาจไม่ได้เข้าไปตอบ เพราะมัวแต่จ่อมอยู่ห้องเจ๊าะแจ๊ะนู่นล่ะค่ะ หลังจากหายป่วยและพักฟื้นอยู่บ้านพักนี้ ก็เริ่มออกหาสูตรอาหารเพื่อที่จะทำทานเรียกน้ำหนักกลับมาเหมือนตอนก่อนป่วยมั่งแล้วค่ะ