<span style='color:red'>
วิธีทำ๑. หั่นเนื้อชิ้นบางๆ ตะไคร้หั่นเป็นท่อนบุบพอแตก ใบมะกรูดล้างทำความสะอาดฉีกก้านตรงกลางออก ใบแมงลักล้างให้สะอาดเด็ดใบเตรียมไว้
๒. ตำพริกแห้งกับเกลือให้แหลก
๓. เนื้อ พริกตำ ตะไคร้ ใบมะกรูดลงใส่ลงไปในหม้อ เหยาะน้ำปลา และใส่ชูรสตามลงไป
๔. ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ คั่วด้วยไฟกลางให้เนื้อพอสุกหอม แล้วเติมน้ำสะอาดลงไปในหม้อ(ไม่ต้องใส่มากเพราะแกงคั่วน้ำต้องน้อย) จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟแรงให้เนื้อเปื่อย เปื่อยมากน้อยตามชอบ ปิดฝาหม้อแล้วง้างไว้จนกว่าเนื้อจะเปื่อย
๕. พอเนื้อเริ่มเปื่อยให้ใส่แตงกวากับหัวหอมบุบลงไป ต้มไว้อย่างนั้นให้แตงกวาสุกเปื่อย
๖. ชิมรสดูก่อน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลาอีกรอบ ระวังอย่าให้เค็มจัด ปล่อยให้หม้ออีกสักพัก
๗. ใส่ต้นหอม ใบแมงลักลงไป คนให้เข้ากันดี ยกหม้อลงจากเตา</span>
เคล็ดลับความอร่อยสูตรนี้คือการน้ำเนื้อไปคั่วกับน้ำปลาและตะไคร้ ใบมะกรูดก่อน แล้วค่อยเติมน้ำเคี่ยวให้เนื้อสุกเปื่อย และเนื้อติดมันหน่อยจะอร่อยกว่าเนื้อล้วนๆ สูตรนี้ตาจำมาจากป้า ป้าเป็นคนที่ทำอาหารอีสานอร่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นแกงคั่ว อ่อม หรือพวกหมกทั้งหลายแหล่ ขอให้อร่อยนะคะ
หมายเหตุ ขั้นตอนการคั่วสามารถดัดแปลงเป็นเนื้อสัตว์อื่นได้ เช่น หมู ไก่ แต่เนื้อปลาจะไม่ทำการคั่วก่อน จะต้องต้มน้ำกับสมุนไพรต่างๆให้เดือนก่อนค่อยใส่เนื้อปลาลงไป ส่วนเรื่องของผักสามารถเปลี่ยนจากแตงกวาเป็นอย่างผักชนิดอื่นได้เช่นกัน แกงคั่วไก่ใส่ฟักแม้วก็อร่อยมาก รสชาติของฟักแม้วจะคล้ายๆลูกน้ำเต้า แกงคั่วเนื้อฟักทองฯลฯ อันนี้แล้วแต่ว่าใครจะชอบเนื้อสัตว์อะไรและชอบผักชนิดไหนค่ะ
แกงอ่อมก็ทำคล้ายๆกับแกงคั่ว แต่แกงอ่อมน้ำจะน้อยและข้นกว่าจากข้าวเบือ แกงอ่อมโดยมากแล้วจะใส่ผักรวมๆ ความอร่อยก็จะแตกต่างกันออกไปแต่ไม่มากนัก
<span style='color:brown'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'><b><br>33 ยังแจ๋ว!!</b></span></span><br><span style='color:brown'><b>...................................................................<br></b></span>