ขุนสุพรรณ เขียน: ในฐานะที่เคยเป็นเด็กวัดมาสิบกว่าปี พอได้อ่านชื่อนี้ก็นึกแว็บถึงความหลัง
สมัยนั้นพวกเราเด็กวัดจะรวบรวมอาหารที่เหลือจากพระทั้งตอนเช้าและตอนเพล ในวันที่ทำบุญใหญ่ซึ่งจะมีอาหารเหลือมาก เอามารวมกันในหม้อ วันไหนอาหารมากหน่อย ก็จะแยกประเภท เป็นแกง และตัม แกงนั้นไม่ต้องเลือกว่าแกงส้มหรือแกงเผ็ดแกงกะทิหรือแกงป่า รวมกันหมด ต้มก็ไม่ต้องเลือกว่าต้มจืดหรือต้มยำ รวมทั้งผัดทั้งหลาย ก็รวมกับต้ม แต่ถ้าวันไหนอาหารมีไม่มากนัก ทั้งต้มทั้งแกงก็รวมกันในหม้อเดียว เอารวมกันตั้งไฟให้เดือด เพื่อเป็นอาหารมื้อเย็นในวันต่อๆไป เพราะในวันธรรมดานั้น อาหารเหลือจากพระไม่มากนัก ก็ได้แกงรวมนี่แหละ ช่วยให้ไม่อดไปกระทั่งถึงวันพระทำบุญใหญ่ ซึ่งบางทีก็หมดเสียก่อน
.......แต่พวกผมเด้กวัดเรียกชื่ออาหารนี้ว่า <span style='color:red'>แกงสมรวม</span> ก็คงจะเป็นเพราะว่าเอามารวมกันหลายอย่าง...
ที่คุณแตงเรียก แกงสมรม นั้น อาจจะเป็นเพราะสำเนียงทางใต้เรียกอย่างนั้นก็ได้ แต่ชื่อนี้เด็กวัดทั้งต่างจังหวัดในภาคกลางรวมถึงหลายวัดในกรุงเทพที่ผมเคยไปอยู่ก็เรียกว่า แกงสมรวม
.....แต่จะเรียกแกงอะไรก็ตาม รสชาติอร่อยมากครับ อร่อยจริงๆ นึกถึงความหลังตอนนั้น ตอนเป็นเด็กวัดนั่นน่ะ ข้าวสวยเย็นๆ กับแกงสมรวมร้อนๆ.... เอาสเต๊กมาแลกก็ไม่ยอม.
สวัสดีค่ะคุณขุนสุพรรณ สวัสดีป้าติ๋มด้วยนะคะ สบายดีกันนะคะ
ที่บ้านนราฯ เรียกแกงสมรม หมายถึงเอาผักทุกอย่างมาสุมรวมกันลงไปในหม้อ มีอะไรก็ใส่ ๆ ลงไป ความหมายเหมือนกันกับแกงสมรวมของคุณขุนสุพรรณนั่นแหละค่ะ อร่อยนะคะ