ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ admin@kruaklaibaan.com หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

เค้กลูกตาลสุก

สูตรดี สูตรเด็ด สูตรประจำตัว ทำแล้วอร่อย อยากแบ่งให้เพื่อนๆได้ชม ได้ชิม ได้หัดทำด้วย เชิญห้องนี้ค่ะ ถามคำถามเรื่องงานบ้านงานครัว เชิญที่ห้องถามมาตอบไปนะคะ

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:01 pm

ภาพนี้ทำด้วยเนื้อตาลสุก แต่สีไม่เหลืองเพราะว่าเนื้อตาลที่ซื้อไว้เก็บไว้นานเนื้อเลยออกสีน้ำตาล
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:02 pm

โรยหน้าด้วยมะพร้าวผสมเกลือป่น
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:02 pm

ภาพนี้ใช้ฟักทองสุกบดทำ
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:05 pm

ใครชอบเนื้อเค้กแบบเนื้อละเอียดก็ทำด้วยสูตรนี้ได้

สูตร ๒
เครื่องประกอบด้วย:-

แป้งเค้ก ๓/๔ ถ้วยตวง
เนื้อตาลสุก ๖ ช้อนโต๊ะ (ตัวอย่างนี้เราใช้เนื้อตาลสุก ๔ ช้อนโต๊ะ ฟักทองสุกบด ๒ ช้อนโต๊ะ)
ผงฟู ๑ ช้อนชา
กะทิข้น ๖ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช ๑/๔ ถ้วยตวง
เกลือป่น ๑/๘ ช้อนชา
ไข่ไก่ (ไข่แดง) ๒ ฟอง
ไข่ไก่ (ไข่ขาว) ๒ ฟอง
น้ำตาลทราย (๑) ๖ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย (๒) ๒ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
ครีมออฟทาร์ทาร์ ๑/๔ ช้อนชา หรือน้ำมะนาว ๑ ช้อนชา

(สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเนื้อเค้กเบานุ่ม)

วิธีทำ:-
ตอกไข่แยกไข่แดงไข่ขาว เทไข่แดงใส่ชาม ใส่น้ำตาลทราย(๑) ลงไป

ตีไข่แดงและน้ำตาลทรายเข้ากันดี ใส่น้ำมันพืช, เนื้อตาลสุก, กะทิลงไป

ตีให้เข้ากัน แล้วใส่แป้งที่ร่อนรวมกับผงฟูและเกลือป่นลงไป

ตีต่อให้เนื้อเนียนเข้ากันพักไว้

(ไม่มีภาพเครื่องประกอบให้ดู เพราะส่วนใหญ่คล้ายกับสูตร ๑ รวมทั้งหมายเหตุด้วย)
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:07 pm

เทไข่ขาวที่แยกไว้ใส่ชาม ตีด้วยเครื่องไฟฟ้าเบอร์สูงสุด จนเป็นฟองใหญ่ๆ ใส่น้ำมะนาวหรือครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป

ตีต่อจนเป็นฟองละเอียด ค่อยๆเทน้ำตาลใส่ทีละน้อย

ตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอดแข็งแต่ไม่แข็งมาก เพราะจะทำให้เนื้อเค้กแห้งเกินไป ลดความเร็วต่ำตีตัดฟองแป๊บหนึ่ง ประมาณ ๓๐ วินาทีก็ได้
(เราตีแค่ตั้งยอดอ่อนเครื่องดับมอเตอร์ไม่ทำงานใช้ต่อไม่ได้ เลยเอาภาพของไข่ขาวตั้งยอดตอนทำหม้อแกงเค้กมาประกอบให้ดูแทน)

แบ่งไข่ขาวที่ตีไว้ใส่ในส่วนผสมแป้งที่พักไว้ แบ่งใส่ ๓ ครั้งก็ได้
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:09 pm

แล้วคนเบาๆเร็วๆให้เข้ากัน คนแรงไปหรือช้าก็จะทำให้ไข่ขาวยุบตัวได้

เสร็จแล้วตักใส่พิมพ์ที่ใช้อบหรือนึ่ง

อบไฟ ๓๕๐ ฟาเรนไฮต์ ๑๕ นาที หรือจนสุก หากใช้พิมพ์ใหญ่ก็นานกว่านี้ หรือ นึ่งด้วยน้ำเดือดไฟแรง ๑๐ นาที พิมพ์ใหญ่ก็นานกว่านี้เช่นกัน

สุกแล้วเอาออกวางพักบนตะแกรงให้เย็น
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:12 pm

เค้กอบสูตรนี้เวลาเอาออกจากเตาอบหน้าจะยุบลงนิดหน่อย ไม่รู้เพราะอากาศบ้านเราเย็นด้วยหรือเปล่า พอความร้อนเจอเย็นจัดเลยยุบตัว

เนื้อในจะไม่ละเอียดเนื่องจากตีไข่ขาวแค่ตั้งยอดอ่อนไม่ตั้งยอดแข็งเพราะเครื่องตีเสียซะก่อน
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:13 pm

โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึุนทึกขูดผสมเกลือป่น
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:15 pm

ส่วนแบบนึ่งจะเป็นแบบนี้
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:20 pm

อีกสูตรเป็นการผสมระหว่างสูตร ๑ และสูตร ๒
สูตร ๓

เครื่องประกอบด้วย:-
แป้งสาลีอเนกประสงค์ ๓/๔ ถ้วยตวง
ผงฟู ๑ ช้อนชา
เกลือป่น ๑/๘ ช้อนชา
ไข่ไก่ ๒ ฟอง
กะทิ ๖ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช ๑/๔ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง
เนื้อลูกตาลสุก ๖ ช้อนโต๊ะ (เราใช้เนื้อตาลสุก ๔ ช้อนโต๊ะ ฟักทองสุกบด ๒ ช้อนโต๊ะ)

(สูตรนี้เหมาะสำหรับทั่วไป เนื้อเค้กจะเบาแต่น้อยกว่าสูตร ๒ ขึ้นอยู่กับการตีไข่ด้วยว่าตีขึ้นมากแค่ไหน)

วิธีทำ:-
ผสมแป้ง ผงฟู และเกลือป่นเข้าด้วยกัน จะร่อนสัก ๑ หรือ ๒ ครั้งก็ได้ แล้วพักไว้

ตอกไข่ใส่ชาม ใส่น้ำตาลทรายลงไป

ตีให้เข้ากันพอน้ำตาลละลาย (ถ้าชอบเนื้อเค้กเบาก็ตีให้ไข่ขึ้นมากๆ) ใส่น้ำมันพืชลงไป

ตีต่อให้เข้ากันดี ใส่กะทิ และเนื้อลูกตาลสุก หรืออื่นๆที่ใช้ลงไป

ตีให้เข้ากัน ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันแป้งไม่จับเป็นเม็ดใช้ได้

ตักใส่ภาชนะอบหรือนึ่งได้ ตามชอบ

(ภาพประกอบมีแค่บางส่วนของวิธีการทำเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่คล้ายกับสูตร ๑ และสูตร ๒)
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:23 pm

เราใช้วิธีนึ่งได้ขนมออกมาเป็นแบบนี้
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:24 pm

เนื้อในขนมเป็นแบบนี้
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:27 pm

สูตร ๔
เครื่องประกอบด้วย:-

แป้งสาลีอเนกประสงค์ ๑ ถ้วยตวง
เนื้อตาลสุก ๑/๒ ถ้วยตวง
ผงฟู ๑ ช้อนชา
ไข่ไก่ ๑ ฟอง
กะทิ ๖ - ๘ ช้อนโต๊ะ (ใช้ ๖ ช้อนโต๊ะก่อน ถ้าส่วนผสมข้นไปเติมอีก ๒ ช้อนโต๊ะ)
น้ำมันพืช ๑/๔ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๑/๒ ถ้วยตวง
เกลือป่น ๑/๘ ช้อนชา

(สูตรนี้เหมาะสำหรับทั่วไป)

วิธีทำ เหมือนสูตร ๓


เราใช้นมสดแทนกะทิ ใช้วิธีนึ่ง เสร็จแล้วได้แบบนี้ นึ่งน้ำเดือดไฟแรงแต่น้ำในหม้อชั้นล่างน้อย ขนมจะฟูแต่หน้าไม่แตก หรือแตกน้อย เพราะแรงดันไอน้ำมีน้อยกว่าใส่น้ำมากๆ
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 10:30 pm

ครีมเหลือจากเค้กวันเกิดลูกเลยเอามาแต่งหน้าเค้กลูกตาลสุก ได้แบบนี้
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

โพสต์โดย แตง » จันทร์ มี.ค. 21, 2011 11:22 pm

จบการทำเค้กลูกตาลสุกแล้ว ท้ายนี้ฝากข้อคิดเล็กน้อย

คราวก่อนพูดถึงปัญญาแล้ว วันนี้มาถึงเรื่อง สติสัมปชัญญะ บ้าง เพราะการมีปัญญาเพียงประการเดียวไม่พอ แต่ต้องมีสติด้วยจึงจะสมบูรณ์ เพราะบางครั้งเมื่อเราจะทำอะไรเพียงแค่ใช้ปัญญาแต่ขาดสติยั้งคิดก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ได้

สติ แปลว่า ความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ความไม่เผลอ ฉุกคิดขึ้นได้
สัมปชัญญะ คือ ความรู้ตัว รู้ชัด เช่น รู้ว่าเรากำลังอยู่ในอิริยาบถใด รู้ตัวที่เป็นไปในปัจจุบันขณะกำลังทำ กำลังพูด กำลังคิด หรือ ทำ พูด คิด อะไรอยู่ก็รู้ตัวขณะนั้น

เรามักจะพูดกันแต่คำว่าสติ เลยละคำว่าสัมปชัญญะไป ถ้าจะพูดง่ายๆก็คือ สติ เป็นความระลึกได้ สัมปชัญญะ เป็นความรู้ตัว ทำหน้าที่รู้สึก

สติที่มีนี้ควรเป็นสติที่เรียกว่า "สัมมาสติ" สติที่ระลึกรู้ในสิ่งที่ดี รู้ตัวทั่วพร้อม ทั้งกายและใจ รู้ในขณะที่กำลังทำด้วย เรียกว่ามี สติสัมปชัญญะ

การที่จะมีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลานั้นจะต้องฝึกฝน ฝึกให้รู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรอยู่ การฝึกนี้ทำได้ทุกอิริยาบถไม่ว่า ยืน เดิน นั่ง นอน ทุกเวลา เช่น เมื่ออ่านหนังสือก็ให้รู้ตัวว่าอ่านหนังสืออยู่ หั่นผักก็ให้รู้ตัวว่าหั่นผัก เปิดไฟ ปิดไฟ อาบน้ำ ก็รู้ตัวตลอดเวลาขณะที่กำลังทำ แต่ถ้าขณะทำไม่รู้ตัว แบบนี้เรียกว่าไม่มีสติ เช่น ขับรถอยู่แต่ใจกลับไปนึกถึงเรื่องอื่น หรือ ดูละครอยู่ก็อินไปกลับตัวละคร ลืมไปว่าที่ดูน่ะเป็นการแสดงแต่กลับเอาใจตัวเองเข้าไปเป็นตัวแสดง หากเผลอขาดสติไปแล้วมาระลึกรู้ทีหลังแบบนี้ก็เรียกว่ามีสติกลับคืนมา

ฝึกให้รู้ตัวบ่อยๆเป็นปรกติธรรมดา จะทำให้เกิดความเคยชิน ทำให้ไม่เผลอ ไม่ประมาท เป็นคนพิจารณาสิ่งต่างๆอย่างมีเหตุผล และเข้าใจปัญหา สามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาหรือเผชิญกับมันได้ ทำให้มีความสงบ รู้จักควบคุมอารมณ์

วิธีฝึกง่ายๆอีกอย่างคือ รู้การหายใจของตัวเอง หายใจเข้าก็รู้ว่าหายใจเข้า หายใจออกก็รู้ว่าหายใจออก หายใจเข้าสั้นหรือยาวก็รู้ชัด ลมหายใจเป็นสิ่งคู่กับตัวเราตลอดเวลานะ หมั่นระลึกรู้ถึงมันบ้าง อย่านึกถึงต่อเมื่อกำลังจะหมดลมหายใจ
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
แตง
แม่ไข่คาร์เวียร์
 
โพสต์: 7789
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 18, 2006 10:43 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง สูตรใครก็สูตรใคร

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron