โดย แตง » พุธ เม.ย. 06, 2011 4:36 pm
panisara_david เค้าไม่บอกด้วยว่าใส่แป้งอะไรลงไปบ้าง สินค้าอื่นๆปรกติเค้าจะมีข้อความระบุว่ามีอะไรบ้าง
ที่ถุงแป้งบอกให้นวด หมายถึง ต้มน้ำตาลทรายกับกะทิแล้ว พอน้ำเชื่อมเย็น ตักหยอดลงในแป้งทีละน้อยพอให้แป้งเปียกแล้วนวดจนแป้งนิ่มเหนียว จึงค่อยเทน้ำเชื่อมที่เหลือลงไปจนหมด คนให้ละลายเข้ากันดี ที่จริงการที่ไม่ได้นวดก็ไม่น่าจะทำให้แป้งแข็งมากเพียงแต่ขนมอาจไม่เหนียวเท่ากับที่นวด
ตัวอย่างที่โพสไว้ก็ไม่ได้นวดแป้งเหมือนกัน แถมไม่ต้มกะทิกับน้ำตาลด้วย แค่ใส่ทุกอย่างรวมกันแล้วคนให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี แต่ถ้าขยันก็นวดได้ไม่เสียหายอะไร
ถ้าเป็นแบบนี้ลองทำดูปริมาณน้อยก่อนได้แป้งนิ่มถูกใจแล้วคราวหลังค่อยทำปริมาณมาก ลองใช้แป้ง ๑ ถ้วย กะทิ ๒ ถ้วย น้ำตาล ๓/๔ ถ้วย คนเข้ากันดีแล้ว ตักหยอดในกระทะ จี่ให้สุก หรือตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มเล็กๆ เข้าไมโครเวฟ ๑๕ หรือ ๒๐ นาที สุกแล้วชิมดูว่าแป้งขนมนิ่มหรือแข็ง หวานมากน้อยแค่ไหน ถ้าแป้งแข็งมากไป เพิ่มกะทิอีก ๑/๔ ถ้วยตวง ถ้าแข็งไม่มากนัก เติมทีละ ๒ ช้อนโต๊ะ แล้วทำให้สุกชิมดูอีก หรือทำออกมาแล้วขนมเหลวไปเล็กน้อยก็เติมแป้งสำเร็จรูปนั้นเข้าไปทีละ ๑ ช้อนโต๊ะ แต่ถ้าขนมเหลวมากไปก็เติมแป้งทีละ ๒ ช้อนโต๊ะ กะดู ถ้าแป้งไม่เหนียวนุ่ม เติมแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดเข้าไป ทีละ ๑ ช้อนโต๊ะ ส่วนความหวานก็เพิ่มน้ำตาลทรายทีละ ๑ ช้อนโต๊ะ พอใจแล้วค่อยแบ่งผสมสี ก่อนเอาไปนึ่งตามปรกติ
วิธีการพับเป็นกุหลาบ ลองเข้าไปดูที่ห้องขนม ของว่าง ของหวาน มีคนโพสไว้อยู่สองรายการ ต้องหัดพับกระดาษทิชชู่ก่อน ทำได้แล้วค่อยไปพับขนมชั้น แต่ขนมลื่นบางทีก็พับยากกว่าจะได้แต่ละดอก นี่ก็นั่งพับนั่งพันอยู่ตั้งนานกว่าจะได้แต่ละดอก มันเหมือนกับว่าเราพับไปหลังยาวนิดหนึ่งแล้วพับขอบกลับมาเป็นปรกติยาวนิดหนึ่งก็พับไปหลังอีก ดูตามรูปที่เค้าสอน พับไปพับมาพร้อมพันไปด้วย ลองทำดู ถ้าทำแล้วไม่เป็นกุหลาบ ตอนทำไปวัดก็ใช้ที่ตัดคุกกี้รูปสวยๆตัดเป็นดอกไม้หรืออื่นตามชอบก็ได้
อร่อยเหาะ หยิบไปได้ตามที่ขอจ๊ะ ว่างๆก็ลองทำทานดู
บุญเหมือนน้ำใสสะอาด ส่วนบาปเหมือนตะกอนในน้ำแห่งบุญ
คนเราควรทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่พอดีพออิ่ม อย่าทานเพราะความอยาก ทานเกินอิ่มซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มกิเลสตัณหา ทุกอย่างเข้าปากไปแล้วเวลาออกมาก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งนั้น
แวะทักทายที่ http://rueanthai2.lefora.com/