เนื่องจากเราทำทานหลายครั้งและมักจะปรับปรุงไปเรื่อยๆ แต่เลือกมาโพสไว้ ๓ สูตร เป็นทางเลือก ชอบที่สุด คือสูตร ๑ แป้งจะเหนียวนุ่ม ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ค้างคืนไว้นอกตู้เย็นแล้วยังคงสภาพเดิม สำหรับสูตร ๒ และ ๓ หากค้างคืนไว้ แป้งอาจจะแข็งเกินไป แต่เรารีไซเคิล ทำเป็นของว่างทานเล่นแบบใหม่ได้ ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ โอกาสหน้าจะโพสให้ดูว่าทำเป็นอะไร วันนี้ทำโบ๊ะเกี้ยทานดีกว่า
ตัวโบ๊ะเกี้ย สำหรับ ๒ - ๓ ที่
เครื่องประกอบด้วย:-
สูตร ๑แป้งมันสำปะหลัง ๑/๔ ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า ๒ ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเหนียว ๒ ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน ๑/๔ ถ้วยตวง
(สูตรนี้แป้งเหนียวหนึบ และนุ่ม)
สูตร ๒ แป้งมันสำปะหลัง ๑/๔ ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า ๑/๔ ถ้วยตวง
น้ำร้อน ๑/๔ ถ้วยตวง
(สูตรนี้ตัวแป้งจะออกเหนียวหนึบแข็งกว่าสูตร ๑)
สูตร ๓ แป้งมันสำปะหลัง ๓ ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเจ้า ๕ ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน ๑/๔ ถ้วยตวง
(สูตรนี้แป้งจะคล้ายกับสูตร ๒ แต่นิ่มกว่าเล็กน้อย)
***หมายเหตุ*** ใช้น้ำร้อนเพราะเวลาเทผสมแป้งจะทำให้แป้งเหนียวจับตัวกันได้ดี หากใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นแป้งจะไม่จับตัวดี ทำให้ยากแก่การนวด
b2.jpg
วิธีทำ:- ตวงแป้งใส่ชาม คนให้เข้ากันทำหลุมตรงกลางแป้ง
เทน้ำร้อนใส่ลงไปทั้งหมด
ใช้ช้อนหรือไม้พายคนให้เข้ากัน
พอแป้งเริ่มอุ่นพอที่จับได้ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันจนเนียนเหนียว ลักษณะแป้งที่นวดได้ที่แล้ว จะคล้ายดินน้ำมันของเด็กเล่นซึ่งมีความยืดหยุ่นสามารถปั้นเป็นตัวได้
b3.jpg
แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ
คลึงให้เป็นตัวยาวหัวท้ายแหลมคล้ายลอดช่องไทย
ตวงน้ำใส่หม้อยกตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปต้ม ต้มสักครู่แป้งสุกจะลอยตัวขึ้นมารอสักพักกะให้แป้งสุกจริงๆ
ช้อนออกมาใส่ชามที่มีน้ำเย็นแป้งจะใสขึ้น
(ขั้นตอนการทำของเรา จะต้มน้ำให้เดือด แล้วปั้นแป้งใส่ลงในน้ำเดือด ปั้นไปต้มไป พอแป้งเกือบเต็มหม้อ ช้อนออกใส่นำ้เย็นไว้ แล้วปั้นแป้งที่เหลือต้มต่อ ไม่ต้องปั้นแป้งจนหมดแล้วจึงต้ม ทำให้เสร็จเร็วและแป้งที่ปั้นไม่แห้งก่อนต้ม)
b4.jpg
ช้อนออกให้สะเด็ดน้ำใส่ชามไว้ได้ ตัวอย่างภาพแป้งสุกข้างบนทำตามสูตร ๑ ส่วนชามล่างทำตามสูตร ๒
b5.jpg