บัวลอยกะทิครีมสด
เมื่อวานตอนดึกๆเข้ามาโพสต์การทำ น้ำพริกมรกต จากถั่วแปบฝรั่ง ปิดท้ายรายการโพสต์รอบนี้ด้วยขนมหวานไทยที่หน้าตาอาจจะเป็นลูกครึ่งบ้างเล็กน้อยด้วยว่าวัตถุดิบและสถานที่ถ่ายทำอยู่ต่างแดนจ้า ไม่ว่ากันนะคะ
บัวลอยไข่หวานเป็นของหวานไทยๆที่เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี วิธีทำก็ไม่ได้ยากอย่างที่เคยคิด ส่วนสีของบัวลอยเราก็ใช้ผักต่างๆที่อยู่ใกล้ตัวมาทำเอา ปลอดภัยกว่าใช้สี อร่อยและสะอาดอีกต่างหาก สีบัวลอยวันนี้ทำจากน้ำบีทรูท ฟักทอง และผักโขมค่ะ ส่วนน้ำกะทิบัวลอยวันนี้มีแอบเอาครีมสดมาใส่ด้วยล่ะ...เชิญตามยายเข้าครัวกันเลยจ้า.....
วัตถุดิบที่ต้องใช้
1. แป้งข้าวเหนียว 400 กรัม
2. น้ำตาลปึก 200 กรัม เพิ่ม-ลดตามความหวานที่ชอบนะจ๊ะ
3. มะพร้าวขูด ปริมาณตามชอบ
4. บีทรูท 2 หัว ต้มเอาเฉพาะน้ำ
5. ฟักทอง 150 กรัม
6. ผักโขม 100 กรัม
7. กะทิ 300 มล.
8. ครีมสด 200 มล
9. เกลือเล็กน้อย
วิธีทำค่ะ
•เตรียมน้ำบัวลอยไว้ก่อน นำกะทิและน้ำตาลปึกต้มจนน้ำตาลละลายดี เทครีมสดลงไป เติมเกลือ ชิมรสดู ขาดหวาน ขาดเค็ม ก็ลด-เพิ่มตามชอบ จากนั้นต้มต่อจนน้ำกะทิเริ่มร้อนจัด ใส่เนื้อมะพร้าวลงไป ปิดเตา ยกลงเลยค่ะ ไม่ต้องให้เดือดปุดๆนะคะ.....ปิดฝาหม้อทิ้งไว้ให้เนื้อมะพร้าวนิ่ม..
**ใช้นมสด แทนครีมสดก็ได้ค่ะ อร่อยเช่นกัน**
**ยายไม่มีมะพร้าวสด ใช้มะพร้าวแห้งแทนค่ะ**
[/b]มาทำแป้งบัวลอยกันค่ะ
•ยายใช้แป้งข้าวเหนียว1ถุง หนัก 400 กรัม แบ่งทำบัวลอย 3 สี ในปริมาณที่ไม่ค่อยเท่ากันนัก ดังนั้นก็กะเอาประมาณ 100 กรัมเศษๆต่อหนึ่งสีนะคะ ลืมทำสีขาวอีกต่างหาก รู้ว่าลืมอะไรซักอย่าง คิดตั้งนาน มาคิดออกตอนแป้งหมดไปแล้ว..เลยได้แค่สามสีสามก๊กค่ะ..
•ปอกเปลือกบีทรูท นำไปต้มซัก 15 นาที กรองเอาเฉพาะน้ำซัก 1 ถ้วย ส่วนผักโขมต้มแล้วปั่น กรองเอาเฉพาะน้ำเช่นกันค่ะ ส่วนฟักทองใช้เนื้อที่ต้มสุก
•แบ่งแป้งมานวดผสมกับน้ำผักที่กรองไว้ทีละสี ค่อยๆเทน้ำผักลงไปแล้วนวดจนเหนียวปั้นได้ ส่วนฟักทองต้มให้นวดผสมกับแป้งก่อนเติมน้ำ ถ้าแห้งไปถึงเติมน้ำทีละนิดค่ะ
•ถ้าจะทำสีขาวเพิ่ม ก็แค่นวดแป้งกับน้ำเปล่าจนเหนียวค่ะ
**บัวลอยผักโขม สีไม่เขียวมากเพราะผสมน้ำเยอะไปนิดนึง**
**สีที่ได้จากบีทรูทค่ะ..ต้มแล้วสีจะเข้มขึ้น**
**เหลืองจากฟักทองของเรา**
•เมื่อได้แป้งที่เหนียวแล้ว เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟรอเลยค่ะ คลึงแป้งค่ะ วันนี้มีลูกหลานมาช่วยหลายมือ ขนาดและรูปร่างบัวลอยของยายก็เลยเป็นอย่างนี้ แฮ่ะๆๆ
•นำลงต้มในน้ำเดือด ถ้าแป้งลอยขึ้นแสดงว่าแป้งเริ่มสุก คอยให้เดือดซักครู่ถึงตักออกให้สะเด็ดน้ำ
•ต้มหมดทุกสีแล้วก็ย้ายเจ้าบัวลอยลงไปในหม้อกะทิที่ยังอุ่นๆเลยค่ะ.
***และแล้วหน้าตาก็ออกมาเป็นอย่างนี้เลย สีจัดจ้านมากจนเพื่อนๆไม่เชื่อว่าไม่ได้ใช้สีใส่อาหาร ส่วนคุณตาแกถามทุกครั้งที่ทำ(เพราะแกจำไม่ได้ว่าเคยทาน)ว่าใส่สีหรือเปล่า ฮ่าๆๆ…**
**ไข่หวาน**
•ไข่หวานที่ยายทำนี้ใช้ไข่3-4 ฟองมาตีพอให้แตกๆ แล้วเทลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือด คนให้ไข่สุก แล้วก็ตักเอาเฉพาะไข่ไปใส่รวมกับบัวลอย. ไม่เอาน้ำเชื่อมเดี๋ยวจะหวานมากไป..แต่เที่ยวนี้ไม่ได้ใส่ไข่หวานค่ะ
**เที่ยวก่อนนี้ใส่ไข่หวานด้วย**
***เที่ยวก่อนๆโน้น ก็ใส่ไข่หวานเหมือนกันค่ะ**
**เคยทำไข่หวานเป็นลูกๆ นานมาแล้ว..ยายว่าทั้งมันทั้งหวานอยู่แล้ว ใส่ไข่ทั้งฟองอาจจะหนักไปหน่อย..เขียวนี้ใบเตยค่ะ**
หมายเหตุ**บีทรูท สามารถใช้เนื้อที่ต้มให้เปื่อยแล้วนวดผสมแป้งได้ ซึ่งจะทำให้ได้แป้งบัวลอยที่สีเข้มกว่าเดิมมาก แต่ส่วนมากยายชอบเก็บเอาเนื้อบีทรูทที่ต้มแล้วคลุกกับเนยไว้ทานเล่น ส่วนผักโขมยายลองใช้แทนสีของใบเตย ซึ่งก็ได้สีเขียวสวยดีและมีประโยชน์ด้วย จะขาดบ้างก็คือกลิ่นใบเตยค่ะ**