แก่นตะวัน หรือ artichoke หรือ sunchoke เป็นพืชมีต้นสูงพอควร มีดอกคล้ายทานตะวันหรือบัวตอง มีหัวใต้ดินคล้ายขิงหรือมันฝรั่ง ซึ่งหัวนี้ทานได้และมีประโยชน์หลายอย่าง
หัวของแก่นตะวันมีสารสำคัญ ชื่อ อินนูลิน ซึ่งเป็นน้ำตาลเชิงซ้อน ทำให้แก่นตะวันเป็นอาหารที่มีสารเส้นใยสูง และเนื่องจากในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กของคนไม่มีเอ็มไซม์ย่อยน้ำตาลในอินนูลิน จึงทำให้ไม่ถูกย่อยแต่ผ่านไปสู่ลำไส้ใหญ่ แล้วเป็นอาหารของแบคทีเรียกลุ่มที่เป็นประโยชน์ที่นั่น ทำให้แบคที่เรียที่ดีแบ่งตัวเพิ่มมากขึ้น มากกว่าแบคทีเรียที่ไม่ดีที่มีส่วนทำให้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ จึงเป็นการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
อีกทั้งแก่นตะวันมีใยอาหารมาก ช่วยให้ท้องไม่ผูก ขับถ่ายง่าย อุจจาระไม่มีกลิ่น และช่วยในการควบคุมอาหารสำหรับคนต้องการลดน้ำหนัก เพราะทานแล้วอิ่ม ส่วนอินนูลินช่วยป้องกันเบาหวานได้ด้วย
แก่นตะวันทานสดได้จะมีลักษณะกรอบคล้ายแห้วอ่อน หากทานสุกจะคล้ายๆมันฝรั่ง ใช้ทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ส้มตำ ยำ ผัด แกง ซุป ฯลฯ
เมนูวันนี้ทำเป็นซุป แต่ผสมผักอื่นๆลงไปด้วย เพราะแก่นตะวันราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าหากซื้อมาทำอาหารแล้ว ควรหั่นชิ้นส่วนแบ่งไปปลูกเองบ้าง ต่อไปจะได้ไม่ต้องซื้อเค้าอีก ปลูกง่าย หัวหนึ่งปลูกได้หลายต้น โดยหั่นแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆให้มีตาสัก ๒ - ๓ ตา ต่อชิ้น หั่นหนาอย่างน้อย ๑ - ๒ ซม. หน่อจะได้แตกเร็ว เพาะแค่สามสี่วัน จะมีรากหรือหน่องอกออกมา
ใช้เวลา ๒ - ๓ เดือนกว่าจะมีดอก และเมื่อดอกร่วงโรยต้นเริ่มแห้ง ถอนขึ้นมาเก็บหัวไว้ทำอาหารหรือทำพันธุ์ต่อไปได้ ต้นหนึ่งจะมีหลายหัว แล้วแต่ดินที่ปลูกถ้าดินร่วนซุยจะมีหัวมากต้นหนึ่งอาจได้หัวถึง ๒ - ๓ กิโลกรัม หากดินแข็งจะมีหัวน้อย จะปลูกในกระถางใหญ่ๆก็ได้เลือกขนาดไม่น้อยกว่า ๑๒ นิ้วขึ้นไป ถ้าเก็บหัวใต้ดินไม่หมด ต่อไปมันจะงอกเป็นต้นใหม่อีกเรื่อยๆ ฟาร์มบางแห่งที่เมืองนอกปลูกไว้ แล้วต่อมามันงอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากหัวที่เก็บไม่หมดจนกลายเป็นวัชพืชไปเลย ดังนั้นหากใครจะปลูกควรแยกมุมไว้ห่างจากผักสวนครัวอื่นๆ จะได้ไม่ถูกแย่งพื้นที่
ที่โพสไว้มีทั้งซุปแก่นตะวันผักรวม และซุปผักรวม (สำหรับคนไม่มีแก่นตะวัน) เป็นเพียงแนวทางในการทำ สามารถดัดแปลงเครื่องประกอบตามชอบ
ซุปแก่นตะวันผักรวม
ซุปผักรวม
ดอกแก่นตะวัน
ต้นแก่นตะวันที่กำลังออกดอก