ข่าวเมื่อวาน "พ่อหลวง"ของเรากำลัง ประชวนค่ะ

[คุณนาย]

เมื่อวานนี้นายทราบข่าวว่า "พ่อหลวง"ล้มลง เพราะไปสะดุด อะไรบางอย่างเข้า มีผิวหลังถลอก และกระดูกซี่โครงส่วนขั้นที่4 ประมาณนั้นค่ะร้าว ตอนนี้"พ่อหลวง" ไม่ได้ออกไปพบกับประชาชน

[กมลวัทน์]

ขอบคุณค่ะพี่นายที่บอกข่าวให้ทราบ ติงติง ยังไม่ทราบเรื่องเลยสงสัยต้องรีบหาข่าวดูแล้ว
ขอให้พระองค์ทรงหายประชวรเร็วๆนะคะ อยู่เป็นมิ่งขวัญให้พวกเราตลอดไปค่ะ

[คุณนาย]

ติงติงเข้าไปอ่านรายละเอียดดูนะคะ พี่เองอยากพิมพ์เล่ายาวๆ แต่กว่าจะพิมพ์ไทยได้ัสักบทหนึ่งเล่นเป็นชั่งโมงเลย และ อีกอย่างเกิด เขียนข่าวผิดพลาดพี่จะต้องโดนตำนิเอานะคะ

[คุณนาย]

พวกเรามารวมพลังตั้งภาวนาจิตอธิฐาน ขอให้"พ่อหลวงที่แสนดีที่สุดซึ่งไม่มีสิ่งมาเปลียบได้"ให้หายจากประชวนใวๆกันเถอะค่ะ

[ansan]

มาอธิฐาน ด้วยคนค่ะ อยากให้ ท่านหายป่วยไวไว

[คุณนาย]

พี่เขียนสรุปข่าวสั้นตามรายงานข่าวด่วนที่ได้ฟังมาเมื่อวาน ให้อ่าน บางคนอาจไปหาไม่ได้ หากใครรู้ ก็โพสลงในกระ ทู้พี่ได้เลยค่ะ เพื่อว่าใครๆ จะได้ทราบรายละเอียดมากขึ้นค่ะ
ขณะที่"พ่อหลวง" ?ทรงออกกำลังกายทุกๆเช้าทีพระตำหนัก พระองค์ไปสะดุดอะไรบางอย่าง ทรงพระวรกายด้วยพระองค์ แล้วเดินกลับไปที่พระตำหนัก หลังจากนั้นหมอทรงตรวจดูพระอาการ แล้วถ่ายเอ็กสเรย์พบว่ามีลอยร้าวที่ซี่โคลงชิ้นที่(ไม่แน่ใจว่าหลังหรือหน้า)4 หมอให้พักผ่อนและถวายพระโอสถแล้ว .. เรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

"ขอให้พ่อหลวงหายไวๆ" ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ลูก...nanai.

[Amelia]

ไม่ได้อ่านข่าวค่ะ ใครมีข่าวอัพเดตเอามาฝากด้วยนะคะ ขอให้ทรงอย่าเป็นอะไรมากเลยนะคะ

[nongnooc]

สามารถอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะ

<a href='http://www.kapook.com/hilight/view.php?id=207' target='_blank'>http://www.kapook.com/hilight/view.php?id=207</a>

...หายห่วงได้แล้วค่ะ....

[Amelia]

ขอบคุณค่ะน้องนก ที่เอาข่าวมาให้อัพเดต ค่อยยังชั่วหน่อย ที่ทรงไม่เป็นอะไรมาก ค่อยหายห่วงพระองค์ท่านหน่อยนะคะ

[ร้านหนังสือนกน้อย]

20 กค.ถวายผ่าตัด ในหลวง รักษาพระประชวร

หลังจากที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์พระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ทรงพระดำเนินออกกำลังพระวรกาย และทรงสะดุดล้มลง บริเวณถนนด้านหน้าของพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดยคณะแพทย์ ได้ถวายเอกซเรย์พบรอยร้าวเล็กน้อยที่พระผาสุกัฐิ (กระดูกซี่โครง) ซี่ที่ 4 ด้านขวา คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถ จนพระอาการดีขึ้นเป็นลำดับแล้วนั้น ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 17 ก.ค. สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์อีกฉบับเรื่องการถวายการรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า

ในปี พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการทรงก้าวพระบาทขวาไม่ถนัด ขณะทรงพระ ดำเนินเป็นครั้งคราว คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ ได้ถวายการตรวจพระวรกายและตรวจด้วยเอกซเรย์ พบว่าพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ระดับบั้นพระองค์ (Lumbar spine) มีการเปลี่ยนแปลงตามพระชนมายุ การตรวจเส้นประสาทและกล้ามเนื้อด้วยกระแสไฟฟ้า พบว่ามีการกดทับเล็กน้อยของเส้นประสาทที่แยกออกจากไขสันหลังระดับบั้น พระองค์ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในขณะที่ทรงพระดำเนิน คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถ พระอาการดีขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ.2546 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำเนินระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร มีพระอาการก้าวพระบาทข้างขวาไม่ถนัด คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ถวายตรวจพระ วรกายและถวายตรวจทางรังสีวิทยา คลื่นสนามแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging-MRI) และด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้รังสีเอกซ์ (Computerized Tomography-CT) พบว่าช่องทางเดินของเส้นประสาทไขสันหลังระหว่างปล้องของพระปิฐิกัณฐกัฐิตรงตำแหน่งดังกล่าวแคบลง (Lumbar spinal stenosis) ในปี พ.ศ.2548 คณะแพทย์ได้ปรึกษากันและได้ถวายการตรวจอีกครั้งหนึ่ง มีความเห็นว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัดก่อน หากไม่ได้ผล ควรต้องพิจารณาวิธีรักษาด้วยการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาท

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2549 คณะแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลศิริราช และจากสถาบันการแพทย์อื่น ได้ร่วมประชุมปรึกษากันและเห็นพ้องต้องกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ในการนี้ต้องถวายพระโอสถก่อนการผ่าตัดสักระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากการผ่าตัดจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อการบริหารพระกล้าม เนื้อเพื่อเสริมสมรรถภาพ จึงเห็นสมควรถวายการผ่าตัดหลังจากงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี คณะแพทย์จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาทของพระปิฐิกัณฐกัฐิระดับบั้นพระองค์ (Lumbar spine) โดยใช้กล้องจุลทัศน์ (Microsurgical decom pression) ณ โรงพยาบาลศิริราช ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2549 จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน


.........................

ข่าววันนี้ จาก ไทยรัฐค่ะ

[ร้านหนังสือนกน้อย]

'ฟ้าหญิง' เสด็จ รพ.ศิริราช ตรวจสถานที่ด้วยพระองค์เอง

จากแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2549 เรื่อง การถวายการรักษาพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินเข้ารับการถวายการผ่าตัดขยายช่องทางเดินประสาทของพระปิฐิกัณฐกัฐิระดับบั้นพระองค์โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ ณ โรงพยาบาลศิริราช ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) นั้น



วันนี้ (19 ก.ค.) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงตรวจสถานที่การถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ หอเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยมี ศ.น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล เฝ้ารับเสด็จ



ศ.นพ.ปิยะสกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ทางโรงพยาบาลศิริราชจะถวายการรักษาอย่างเต็มที่และดีที่สุดในชีวิต ส่วนเรื่องขั้นตอนรักษาคงไม่สามารถเปิดเผย ต้องให้สำนักราชวังเป็นผู้แจ้ง อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราชทุกคนจะพร้อมใจแต่งชุดเหลืองทุกคนเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



ขณะที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้มีบัญชาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประกาศแจ้งวัดทั่วราชอาณาจักร ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ในวันพรุ่งนี้ เวลา 17.00 น. ส่วนกลางกำหนดจัดที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนภูมิภาคให้ทุกวัด ประกอบพิธี ณ วัดของจังหวัดหรืออำเภอนั้นๆ ในวันและเวลาเดียวกัน



ด้าน น.พ.ศุภกร โรจนนินทร์ รองคณบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แจ้งว่า ทางสำนักพระราชวัง จะตั้งโต๊ะลงนามถวายพระพร ณ ศาลาศิริราช 100 ปี ภายในโรงพยาบาลศิริราช เปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพรในวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น.




ส่วน พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประสานงานกับจังหวัดต่าง ๆ รับแจ้งว่า ทุกจังหวัดได้จัดโต๊ะหมู่พระบรมสาทิสลักษณ์ พร้อมสมุดลงนามถวายพระพร ไว้ที่ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ และที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่ง โดยประชาชนทุกหมู่เหล่าสามารถร่วมลงนามถวายพระพร เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ สถานที่ดังกล่าว



“นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ผู้บริหาร อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ จะนำพุทธศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาร่วมกับคณะสงฆ์ทุกจังหวัด รวมทั้งได้ประสานงานกับผู้นำศาสนาอื่น ๆ ได้แก่ อิสลาม คริสต์ ซิกข์ ฮินดู ประกอบพิธีทางศาสนา ณ ศาสนสถานของตนพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันพรุ่งนี้ เวลา 17.00น. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว




.......................

ไทยรัฐค่ะ

[luck]

สวัสดีคะทุกๆคน,พี่พัช

LUCK มีเรื่องเล่าจากวังมาให้อ่านกันค่ะ น่ารักมากๆเลย


เรื่องเล่าจากในวัง....แล้วคุณจะรัก "ในหลวง"
ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก
เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด
และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาดแต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ"
เหตุการณ์นี้
ทำให้ข้าราชบริพาลที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน
เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก
ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย
ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอฐก็
งง...งง
ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่ พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆ นะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์
แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุกเลย
(ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง)
อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล
ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้
จึงมีคำกราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า
บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้าข้า.."
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน
ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า
" มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก
ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย
และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว "
เรื่องนี้ ดร.สุเมธ
เล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง

EM130

[บุษราคัม]

ขอบคุณ คุณลักมากค่ะที่ช่วยนำเรื่องดีๆมาเล่า...ถวาย...เอ้ยไม่ใช่เล่าสู่กันฟัง

ยังหัวเราะน้ำตาไหลอยู่เลยค่ะ

นกค่ะ

[เอื้อง]

ขอพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรเร็วๆค่ะ

[luck]

สวัสดีค่ะทุกๆคน

 &nsbp; &nsbp; <span style='color:blue'>luck</span> มีเรื่องแจ้งสมากชิกทุกท่านค่ะ เรื่องพ่อหลวงของเรา วันนี้วันที่ 28 กรกฎาคม 2549
พระองค์ทรงมีพระอาการดีขึ้นมากๆเลย สามารถยืนด้วยพระองค์เองได้เลยค่ะไม่ต้องมีเครื่องช่วยพยุงคะ ดีใจทีสุดเลย และปลื้มมากที่ประชาชนทุกๆคนที่เมืองไทย ต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองอีกครั้ง ค่ะ ใส่กันทุกวันที่ตั้งแต่พระองค์ท่านเข้า รพ. และ ใส่กันตลอด จนกว่าท่านจะหายพระชวร และ ที่มีความสุขมากที่เห็นประชาชนไปที่ รพ กันทุกวันแน่นไปหมด บางคนก็ไปร้องเพลงสรรเสริญ,ร้องเพลงพลังแผ่นดิน อะไรมากมายเลย ไปเข้าเฝ้ากันตั้งแต่ เช้า ถึง ดึกเลย ค่ะ หลังๆ พระองค์ท่านคงจะเป็นห่วง ประชาชนของท่าน พระราชินี สมเด็จพระเทพ พระองค์ท่านทรง ซื้อ ขนมมาแจกจ่ายประชาชนกันอย่างทั่วถึง พระองค์ทรงห่วงว่าประชาชนของท่านจะหิวกัน น่ารักมากๆ ประชาชนก็น่ารักมาก เป็นอีกครั้งที่ ประเทศไทยมีความสุขอีกครั้งค่ะ หลังจากงานฉลองครองราชครบรอบ 60 ปี ค่ะ ทุกครั้งดูข่าวที่ รพ ศิริราช ต้องน้ำตาไหลทุกครั้ง ปลื้มมากๆ ค่ะ

 &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; &nsbp; EM130