ครัวไกลบ้าน

แถมอีกรูปละกันนะคะ

อยากทานมานานแล้วค่ะ คุณครูเคยสอนตั้งแต่เรียนชั้นประถม พอมาอยู่ไกลบ้านก็ไม่ได้ทานอีกเลย แถมยังลืมวิชาที่ได้เรียนมาด้วย ยังโชคดีที่มาเจอสูตรเลยช่วยชีวิตได้อีกหนึ่งวัน

ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะคุณครู

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>แกงเทโพ โดย... @ - ENYA - @</span></span>

วันนี้พิมทำเมนูที่อยากกิน และเพื่อนก็ขอมาด้วยค่ะ อันนี้ภาพตอนสำเร็จแล้วนะคะ

เริ่มแรกก็มาดูที่ส่วนผสมสำหรับทำแกงเทโพกันก่อนดีกว่าค่ะ

เครื่องปรุง

◊ เครื่องแกงเผ็ด ๑ ขีด
◊ มะพร้าวขูด ๑/๒ กิโล (คั้นเอาหัว ๑ ๑/๒ ถ้วย และน้ำกะทิ ๓ ถ้วย)
◊ ผักบุ้ง ๓๐๐ กรัม
◊ หมูสามชั้น ๒๐๐ กรัม
◊ มะขามเปียก
◊ น้ำตาลปี๊บ
◊ น้ำปลา
◊ เกลือป่น
◊ มะกรูด ๑ ลูกย่อมๆ
◊ ใบมะกรูด ๔-๕ ใบใหญ่ๆ
◊ น้ำสะอาด สำหรับทำน้ำมะขามเปียก

สัดส่วน น้ำปลา น้ำตาล เกลือ น้ำมะขาม ดูในวิธีทำที่จะโพสต์ต่อไปนะคะ

อันนี้พริกแกงนะคะ ที่บ้านพิมตำเอง ใช้เครื่องบดๆเอาก่อนแล้วก็ค่อยเอามาตำทีหลัง เบาแรงไปเยอะค่ะ บางคนถามพิมว่าบดแล้วก็ใช้ได้แล้ว ไม่เห็นจะต้องตำเลย ส่วนตัวพิมว่าบดเฉยๆไม่ค่อยหอมค่ะ เหมือนน้ำมันในเครื่องเทศสมุนไพรต่างๆ อย่างมะกรูด กระเทียม มันไม่ออกมา แต่ถ้าเราเอามาตำ สังเกตได้เลยค่ะว่าพริกแกงมันจะเหนียวๆ ไม่ร่วนเหมือนที่ปั่นหรือบดอย่างเดียวน่ะค่ะ บ้านพิมจะตำไว้ทีละเป็นกิโล แช่ตู้เก็บไว้ ถ้าไม่เอาไปทำกับข้าวขายก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์ แต่พริกแกงพวกนี้ ตำไว้นานมากก็ไม่ดีนะคะ เหมือนความหอมของสมุนไพรต่างๆมันจะจางหายไป จริงๆถ้าจะใช้ทีก็ตำที พิมรู้สึกว่ามันจะอร่อยกว่า แต่ขี้เกียจค่ะ ตำทีละเยอะๆอย่างนี้ดีกว่า

ส่วนอันนี้มะพร้าวขูดนะคะ จะเอาคั้นกะทิเอง พิมเลือกซื้อมะพร้าวขูดขาวมา เพราะว่าอีก ๑/๒ โลที่เหลือจะเอาไปทำขนมค่ะ ใครที่ขี้เกียจคั้น ไม่สะดวกคั้น ก็หากะทิกล่อง กะทิผง กะทิซอง กะทิอื่นๆมาใช้ได้ตามสะดวกเลยนะคะ แต่กะทิสดจะมีกลิ่น รสชาติ และความหอมมัน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบกะทิอีก เปลี่ยนเป็นนมข้นจืดอย่างพวกคาร์เนชั่น ก็ได้ค่ะ อร่อยได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่หอมเท่าใช้กะทินะคะ

หมูสามชั้น เลือกที่มันน้อยๆนิดนะคะเพื่อสุขภาพ หรือใครไม่อยากให้มันเยอะๆ จะเลือกพวกสันคออะไรอย่างนี้ก็ได้ค่ะ แต่สามชั้นนี่เข้ากันที่สุดแล้วค่ะกับแกงเทโพ หรือจะใช้ปลากังแทนหมูสามชั้นก็ได้นะคะ อร่อยเหมือนกัน แต่ถ้าใช้ปลากัง ส่วนใหญ่เรียกว่าแกงคั่วผักบุ้งกับปลากังมากกว่า

พิมซื้อหมูของเครือเบทาโกรมาค่ะ ดูสะอาดปลอดภัยดี เนื้อสีไม่แดงจัด และไม่หมกส่วนเขียวๆไว้ก้นแพคเหมือนพวก Discount Store บางที่ หมูนี่ใช้แค่ครึ่งเดียวของที่เห็นนี่นะคะ

หมูสามชั้นเอาไปทำความสะอาดซะก่อนจะหั่นนะคะ ดูตรงหนังหมูค่ะ บางทีเขาขูดขนออกไม่หมด เราก็เอามีดโกนขูดๆขนออกไปก่อนค่ะ แล้วก็เอาไปล้างซะ ๑ น้ำ ผึ่งพอสะเด็ดน้ำ เอามาหั่นเป็นชิ้นพอประมาณค่ะ พิมหั่นหนาสัก ๑/๒ ซม. ได้ หั่นหนากว่านี้เปลืองค่ะ เพราะคุณแฟนพิมก็กินชิ้นละคำอยู่ดี (จริงๆเปล่าหรอกค่ะ หั่นชิ้นพอประมาณจะได้เข้ากับน้ำแกงดี)

มะกรูด ใช้ผลย่อมๆ ๑ ผลค่ะ ใครไม่มีลูกมะกรูดใส่ใบมะกรูดเพิ่มขึ้นก็ได้ แต่ให้อร่อยเพิ่มขึ้น พิมว่าต้องมีลูกมะกรูดนะคะ

มะขามเปียก พิมใช้ปริมาณประมาณในรูปค่ะ ลืมชั่งไปว่าน้ำหนักเท่าไหร่ แต่อย่างว่านะคะ มะขามเปียกแต่ละแหล่งปลูก ก็ให้ความเปรี้ยวไม่เท่ากัน บางที่เปรี้ยวจี๊ด บางที่หวานพอๆกับเปรี้ยว ก็ลองดูนะคะ เอามะขามเปียกแช่น้ำอุ่นไว้ค่ะจะได้คั้นง่ายๆ น้ำอุ่นใส่ปริมาณพอๆกับในรูปนะคะ คือราว ๑/๒ ถ้วยกว่าๆได้ค่ะ

ลูกมะกรูดข้างบนล้างน้ำให้สะอาด ผ่าครึ่งไว้นะคะ เอาเมล็ดออก ใบมะกรูดก็ล้างน้ำเช่นกัน แล้วฉีกเป็นชิ้นย่อมๆ ขนาดประมาณในรูปน่ะค่ะ เคยไปทานบางร้านเขาใส่ทั้งใบก็มี แปลกดีค่ะ

ทีนี้ก็มาถึงนางเอกเราค่ะ ผักบุ้ง พิมเลือกใช้ผักบุ้งไทยชนิดขาว จริงๆอยากใช้ผักบุ้งแดงยอดใหญ่มากกว่า แต่ไม่มี จะว่าไป ลำพังแค่ผักบุ้งไทยยอดขาว ทั้งตลาดบางกะปิมีอยู่เจ้าเดียวค่ะ เขาว่าตอนนี้ผักบุ้งไทยหายาก ผลพวงจากน้ำท่วมเมื่อช่วงที่ผ่านมา ผักบุ้งตายหมดค่ะ แถมที่มีขายก็ยอดเล็กเหลือเกิน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเนาะค่ะ เอาผักบุ้งมาตัดส่วนโคนที่แก่ๆทิ้งไป ดึงใบใหญ่ๆออกไปบ้างค่ะ ใบเสียๆ เน่าๆ เหลืองๆ ก็เด็ดทิ้งไปเลยนะคะ

แล้วก็บีบตามลำต้นเบาๆค่ะ พอให้มีเสียงกร๊อบแกร๊บเบาๆ อย่าบีบแรง จะกลายเป็นผักบุ้งช้ำค่ะ บีบอย่างนี้นัยว่าจะทำให้เข้ากับน้ำแกงมากขึ้น

แล้วก็หั่นเป็นท่อน แช่น้ำเอาไว้ค่ะ