ครัวไกลบ้าน

ใส่พริกแกงที่เติมพริกแห้งป่นและกะปิแล้ว คนให้เข้ากัน

รอให้เดือดซักครู่

ใส่เนื้อ คนให้เข้ากัน พอเริ่มเดือดอีกครั้งลดไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำแห้ง

หลังจากเคี่ยวผ่านไป ๑๕ นาที เริ่มส่งกลิ่นหอมแล้วค่ะ เติมน้ำปลา น้ำตาล นิดหน่อย ทั้งนี้น้ำจะแห้งเร็วถ้าเปิดฝาหม้อหรือกระทะ และน้ำจะแห้งช้าถ้าปิดฝาหม้อ หรือกระทะ ที่ทำวันนี้แบบเปิดฝาหม้อค่ะ

เคี่ยวต่อไปอีก ๑๕ นาที หรือจนน้ำแห้งหมด ตอนนี้หอมกลิ่นพริกแกงที่โดนคั่วจนแห้งมากเลยค่ะ

เมื่อเคี่ยวจนแห้งตามต้องการแล้ว เติมใบมะกรูดหั่นฝอย อย่าลืมแบ่งไว้โรยหน้านิดหน่อยด้วยนะคะ

คั่วกลิ้งเนื้อ เสร็จแล้วโรยพริกแดงแต่งหน้ากับใบมะกรูดหั่นฝอย เป็นอันเสริฟได้ค่ะ

รับประทานกับข้าวสวย น้ำปลาพริกซักถ้วย ผักสดๆซักจานใหญ่ๆ อร่อยไปหนึ่งมื้อค่ะ

บทส่งท้าย

◊ คั่วกลิ้งอาจใช้เป็นเนื้อบด หมูบดได้ตามชอบ แต่เมย์ใช้เนื้อแบบหั่น เพราะพริกแกงจะติดอยู่ที่ชิ้นเนื้อน่ารับประทานดีค่ะ
◊ คั่วกลิ้งจะต้องเคี่ยวจนน้ำแห้งมากจนกลิ้งได้ เป็นที่มาของชื่อคั่วกลิ้ง
◊ พริกแกงสูตรนี้ใช้ทำแกงคั่ว แกงกะทิ หรือผัดเผ็ด (แต่ไม่ต้องใส่กะปิ) และไม่ใช่พริกแกงสำหรับแกงส้ม
◊ ถ้าไม่ต้องการทำพริกแกงเอง ก็สามารถใช้พริกแกงสำเร็จรูปก็ได้ค่ะ เช่น พริกแกงแดง
◊ คั่วกลิ้งถ้ารับประทานไม่หมดเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาได้เป็นอาทิตย์ และถ้าเก็บช่องแช่แข็งเก็บได้เป็นเดือนค่ะ

คั่วกลิ้งเนื้อ สูตรครูพี่เมย์ค่ะ

อร่อยมากๆค่ะพี่ ขอบคุณสำหรับสูตรอร่อยนะคะ

คั่วกลิ้งเนื้อสูตรคุณครูพี่เมย์ค่ะ จานนี้ไม่เผ็ดไม่ได้ค่ะ ลงมือเป็นแม่ศรีเรือนโขลกน้ำพริกเองกับมือ แถมวิ่งไปสวนหลังบ้านเด็ดเจ้าพริกขี้หนูสวนมาใส่เพิ่มด้วย บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะพี่เมย์ นี่ไงคะคั่วกลิ้งเนื้อของตุ๊ก

จะบอกว่าด้วยความหิว หนูเลยมีมาส่งแค่นี้ค่ะ เกียดซิคะตัก ๒ ที หายไป ๑/๒ ถ้วย นึกได้ก็เกือบไม่มีการบ้านมาส่งแล้วค่ะ เกียดเอาไปคลุกข้าว เหยาะน้ำปลาหน่อย พี่แกกินข้าวเป็นกะละมังเลยค่ะ

อร่อยจังค่ะคุณครู ขอบคุณสำหรับเมนูเด็ดๆนะคะ

หอม อร่อยจริงๆค่ะ

อีกรูปนะคะ