ครัวไกลบ้าน

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>กะลอจี๊ โดย... แตง</span></span>

ขนมโบราณที่เดี๋ยวนี้หากินยาก ใครชอบมาดูกัน

วิธีทำไม่ยาก เครื่องก็มีไม่มาก เวลาทานเราชอบใส่งาดำมากๆจะได้แคลเซี่ยมมากๆน่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

◊ แป้งข้าวเหนียว ๑ ถ้วยตวง
◊ แป้งท้าวยายม่อม ๑ ช้อนโต๊ะ ไม่มีก็ใช้แป้งมันสำปะหลังหรือแป้งข้าวโพดแทนได้
◊ น้ำร้อน ๓/๔ ถ้วยตวง
◊ เกลือป่น นิดหน่อย
◊ งาดำและงาขาวคั่ว ปริมาณตามชอบ
◊ น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
◊ น้ำมันพืชสำหรับทอด

เริ่มทำก็ผสมแป้งข้าวเหนียวและแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกันในชามอ่าง

ค่อยๆเทน้ำร้อนใส่ลงไป อย่าเพิ่งเททีเดียวหมด เพราะเดี๋ยวจะแฉะมากไป

คนให้แป้งและน้ำเข้ากัน ถ้าแป้งแห้งไปก็ค่อยๆเติมน้ำร้อนที่เหลือ แล้วนวดจนแป้งนุ่มเนียนดี

ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมแบนหนาประมาณ ๑/๒ นิ้ว ความกว้างแล้วแต่ว่าชอบแผ่นใหญ่หรือเล็ก

เอาน้ำสะอาดใส่หม้อตั้งไฟปานกลางจนน้ำเดือด ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปต้ม

ต้มจนแป้งสุกลอยตัวขึ้นมา

ตักแป้งที่ต้มสุกแล้วใส่ในชามน้ำเย็น

ตักออกให้สะเด็ดน้ำ แล้วทาน้ำมันพืชให้ทั่วแป้งที่ต้มสุกแล้ว ใส่จานพักไว้

เอาน้ำมันใส่กระทะ ตั้งไฟปานกลาง พอร้อนใส่แป้งต้มลงไปทอดจนเหลืองกรอบทั้ง ๒ ด้านตักออกได้

สะเด็ดน้ำมันแล้วก็ใส่จานไว้

เมื่อจะทานก็เอากรรไกรตัดเป็นชิ้นพอคำตามชอบ หรือจะไม่ตัดก็ได้

ผสมงาดำและงาขาวคั่ว บุบพอแตกสักหน่อยจะได้มีกลิ่นหอมงา ใส่น้ำตาลทรายลงไปตามชอบ เกลือป่นนิดหน่อย ผสมให้ทั่วๆแล้ว ตักโรยบนแป้งที่ทอดเสร็จแล้ว ทานร้อนๆจะได้ความกรอบอร่อย

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>นกกระจอกติดหล่ม (กะลอจี๊ไทย) โดย... แตง</span></span>

ขนมนกกระจอกติดหล่มหรือกะลอจี๊ไทยนี้จะคล้ายกับกะลอจี๊จีน ต่างกันตรงที่ของจีนจะทอดแต่ของไทยไม่ทอด วิธีการทำก็ง่ายๆ ขนมนี้เป็นขนมของเมืองสุพรรณบุรีนะ คนโบราณเรียกขนมนกกระจอกติดหล่มเพราะแป้งมันเหนียวมาก จนนกที่ตกลงไปไม่สามารถที่จะบินขึ้นได้ เป็นขนมโบราณที่หากินได้ยากแม้จะทำง่ายๆ เครื่องก็ไม่เยอะแต่ไม่มีคนจะทำกิน ที่จริงขนมเหนียวแต่ว่าเราคลุกกับงาคั่ว ถั่วลิสงคั่ว น้ำตาลและเกลือป่น ช่วยให้ขนมไม่เหนียวมาก เคี้ยวเพลินดีด้วย