หน้า 1 จากทั้งหมด 2

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:45 pm
โดย {@-Enya-@}
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>ข้าวเม่าหมี่ โดย... @ - ENYA - @</span></span>

วันนี้เมื่อตอนเที่ยงๆค่ะ ตอนขากลับจากไปพบลูกค้ามา พิมก็แอบๆคิดว่าแวะตลาดหน้าปากซอยบ้านพิมค่ะ กะว่าจะหาของไปทำอะไรกินสักหน่อย (ไม่พ้นเรื่องกิน) แต่ก่อนจะเดินเข้าซอยตลาดพิมเห็นแม่ค้าเขาหาบพวกขมิ้นสด ไพล มาขายค่ะ อารามดีใจ เพราะหาซื้ออยู่หลายวัน พิมก็เลยรีบเดินไปที่แม่ค้าคนนั้นทันที แต่พอได้หยิบมัดขมิ้นก็เหลือบสายตาไปเห็นข้าวเม่าดิบอยู่อีกกระจาดค่ะ ซึ่งเจ้าข้าวเม่าเนี่ย พิมแอบคิดเอาไว้วันก่อนว่าอยากจะหามาทำข้าวเม่าคลุกจังเลย เพราะเห็นแม่เปรยอยู่ว่ากล้วยไข่ที่สวนใกล้จะสุกแล้วนะ อาทิตย์หน้าจะตัดมาให้ เผื่อจะเชื่อมหรือว่าพิมจะเอามาทำอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตอนนั้นพิมคิดแต่ทีแรกเลยว่า อยากกินข้าวเม่าคลุกค่ะ ไม่ได้กินมานานแล้ว (ไม่รู้เด็กๆสมัยนี้จะรู้จักไหม) เพราะงั้นพอได้เจอวันนี้ก็เลยรีบซื้อเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องไปหาที่อื่นอีก แต่พอพิมกลับมาถึงบ้าน พิมก็มา search หาข้อมูลสินค้าอะไรสักอย่างเนี่ยแหละค่ะ แล้วก็ไปเจอสินค้า OTOP ที่เป็นข้าวเม่าหมี่ พอเห็นภาพ ต่อมอยากทำอยากทานก็ระเบิดขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ก็เลยกลายมาเป็นข้าวเม่าหมี่ในวันนี้แหละค่ะ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:46 pm
โดย {@-Enya-@}
ข้าวเม่าหมี่เนี่ย พิมจำได้ว่าพิมเคยกินเมื่อตอนเด็กๆค่ะ (ไม่เกิน ๑๒-๑๓) และน่าจะเป็นยายที่ทำให้พิมกิน แต่พอพ้น ๑๕ มาแล้ว ไม่เคยได้กินฝีมือยายอีกเลยค่ะ เพราะว่าย้ายบ้านไปอยู่คนละทิศกันเลย และก็มีอยู่บ้างที่แม่ซื้อมาฝากเวลาไปกลับมากรุงเทพฯ แต่ก็ไม่บ่อยนัก และหลายครั้งที่แม่ซื้อมาก็กินไม่ค่อยได้ เพราะเขาทำค้างไว้นานแล้ว ข่าวเม่ามีกลิ่นหืนมากๆเลย พิมเองชอบข้าวเม่าหมี่มาก อาจจะเพราะเมื่อก่อนที่บ้านพิมไม่นิยมให้ซื้อขนมซองละ ๕ บาทน่ะค่ะ ซื้อทีไรโดนตีมือทุกที ผู้ใหญ่จะอ้างโน่นอ้างนี่ ว่ามันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้นะ แล้วก็จะทำของกินเล่นพวกนี้ไว้ให้กิน ตอนแรกพิมก็ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าขนมซองละ ๕ บาทเนี่ย มันไม่ดี ไม่อร่อย ไม่งั้นจะขายดีเหรอคะ แต่พอได้มาลองกินแล้วเทียบกับข้าวเม่าหมี่ที่ยายทำให้กินมาตลอด หลังจากนั้นพิมก็แทบไม่กินขนมซองละ ๕ บาทอีกเลยค่ะ ว่าแล้วก็มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่ามีส่วนผสมหรือส่วนประกอบอะไรบ้าง

เครื่องปรุง

◊ ข้าวเม่าดิบ ๓/๔ ถ้วย
◊ เต้าหู้เหลือง ๑ แผ่น
◊ กุ้งแห้งตัวไม่ต้องใหญ่ ๑/๓ ถ้วย
◊ กระเทียมสับหยาบ ๒ ช้อนโต๊ะ
◊ น้ำตาลทราย ๓/๔ ถ้วย
◊ เกลือป่น ๑/๒ ชช
◊ น้ำมันสำหรับทอดข้าวเม่า ๑ ๑/๒ ถ้วย
◊ น้ำมันสำหรับผัด ๑ ช้อนโต๊ะ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:46 pm
โดย {@-Enya-@}
ข้าวเม่าเนี่ย จริงๆจะใช้ข้าวเม่าดิบหรือข้าวเม่ารางก็ได้นะคะ ส่วนพิมเลือกใช้ข้าวเม่าดิบเจ้าค่ะ (จริงๆเพราะหาซื้อข้าวเม่ารางไม่ได้ต่างหาก) แต่ใช้ข้าวเม่าดิบพิมว่าดูท่าจะปลอดภัยมากกว่าใช้ข้าวเม่าราง ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาคั่วตั้งแต่เมื่อไหร่นะคะ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก ข้าวเม่ารางคือข้าวเม่าที่คั่วให้พองแล้วจ้า

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:46 pm
โดย {@-Enya-@}
เต้าหู้ พิมเลือกใช้เต้าหู้เหลืองค่ะ (เพราะสีสวยดี) แต่เหมือนจะจำได้ว่าตอนเด็กๆเคยห็นยายบอกว่าใช้เต้าหู้ขาวก็ได้นะคะ นำมาหั่นชิ้นเล็กๆเหมือนหั่นใส่ผัดไทยน่ะค่ะ แต่เล็กกว่าหน่อย จะได้ทอดให้กรอบง่ายขึ้นจ้า

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:46 pm
โดย {@-Enya-@}
กุ้งแห้ง เลือกใช้ที่ตัวไม่ต้องใหญ่นะคะ เพราะไม่งั้นเวลาเคี้ยวจะโดดเด่นกว่าส่วนประกอบอื่นจนเกินไปน่ะค่ะ เอาตัวพอดีๆก็พอ (ประหยัดด้วย)

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:47 pm
โดย {@-Enya-@}
เริ่มต้นในการทำข้าวเม่าหมี่ เราก็จะต้องทอดส่วนประกอบเกือบทุกอย่าง (ที่สามารถทอดได้) ให้กรอบซะก่อนค่ะ ซึ่งก็ได้แก่ ข้าวเม่า เต้าหู้ กระเทียม และก็กุ้งแห้งจ้า ว่าแล้วเราก็มาเริ่มทอดกันเลยดีกว่านะคะ เอาน้ำมันใส่กระทะสัก ๑ ๑/๒-๒ ถ้วยจ้ะ แล้วก็ยกตั้งเตา

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:47 pm
โดย {@-Enya-@}
พอน้ำมันร้อนได้ที่ ใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงค่ะ (อย่าใช้ไฟอ่อนเด็ดขาด ไม่งั้นข้าวเม่าจะอมน้ำมัน) ก็ให้กำข้าวเม่า ๑ กำมือเล็กใส่ลงไปในกระทะเลยค่ะ สังเกตว่าข้าวเม่าจะพองฟูทันที รีบใช้ตะหลิวโปร่งๆคนให้กระจายค่ะ (แต่ในภาพใช้ไฟอ่อนไปเล็กน้อย จริงๆตอนเอาข้าวเม่าลงกระทะ ต้องฟูกว่านี้ค่ะ)

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:47 pm
โดย {@-Enya-@}
ทอดจนข้าวเม่าพองฟูเต็มที่และเริ่มเหลืองกรอบ ก็ใช้ตะหลิวโปร่งช้อนขึ้นเลยค่ะ (ระวังส่วนที่เหลือในกระทะจะไหม้นะคะ)

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:47 pm
โดย {@-Enya-@}
แล้วก็เอาพักไว้ในตะแกรงตาถี่ๆให้สะเด็ดน้ำมัน ในรูปพิมรองตะแกรงด้วยกระดาษ มันจะช่วยดูดน้ำมันได้เยอะเลย หรือใครจะใช้กระดาษซับน้ำมันก็ได้นะคะ แต่คุณภาพพอๆกันค่ะ ใครไม่ชอบทอดจะใช้วิธีคั่วเอาก็ได้นะคะ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:48 pm
โดย {@-Enya-@}
จากนั้นก็หันมาทอดอย่างอื่นกันต่อค่ะ เริ่มต้นจากเต้าหู้ โดยใช้น้ำมันที่เหลือจากการทอดข้าวเม่าเนี่ยแหละ พอช้อนข้าวเม่าหมดเรียบร้อยก็เอาเต้าหู้หย่อนใส่ลงไปได้เลยค่ะ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:49 pm
โดย {@-Enya-@}
ทอดไปเรื่อยๆ ไฟกลาง หมั่นคนเป็นระยะๆค่ะ ทอดจนเต้าหู้เหลืองกรอบก็ใช้ตะหลิวหรือทัพพีหรือกระชอนโปร่งๆช้อนขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:50 pm
โดย {@-Enya-@}
เจ้าข้าวเม่าหมี่เนี่ยจะกรอบๆค่ะ กรอบจากของทอดทั้ง ๔ อย่างได้แก่ ข้าวเม่า กุ้งแห้ง กระเทียมเจียว เต้าหู้ แล้วก็หอมด้วยค่ะ หอมกลิ่นข้าวเม่า กลิ่นกระเทียม กลิ่นกุ้งแห้งทอด มีรสหวาน มัน เค็มเล็กน้อย สรุปว่าอร่อยค่ะ นี่ค่ะหน้าตาเจ้าหู้ที่พิมทอดจนเหลืองกรอบแล้ว พักให้สะเด็ดน้ำมันไว้ก่อนนะคะ แล้วค่อยมาใส่ถ้วยไว้เตรียมคลุกเคล้า

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:50 pm
โดย {@-Enya-@}
จากนั้นพอทอดเต้าหู้เสร็จก็ทอดกุ้งแห้งต่อจ้า เอาให้กรอบนะคะ แต่กุ้งแห้งเนี่ยทอดแป๊บเดียวเองค่ะ ไม่นานเหมือนเต้าหู้

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:51 pm
โดย {@-Enya-@}
และสุดท้ายก็อย่าลืมทอดกระเทียมนะคะ มีเคล็ดลับในการทอดกระเทียมที่ปริมาณไม่เยอะมากฝากค่ะ คือเวลาพิมทอดกระเทียมน้อยๆ แต่บังเอิญว่าน้ำมันในกระทะมีเยอะ พิมจะเอาตะหลิวหรือตะแกรง หรือกระชอนในลักษณะคล้ายแบบนี้มาเป็นตัวช่วยในการทอด คือใส่กระเทียมลงไปด้านในตะหลิว แล้วเอาลงไปทอดทั้งตะหลิวเลย แล้วปรกติตอนเจียวกระเทียมต้องคนๆด้วย แต่ถ้าใช้วิธีนี้เราจะใช้เขย่าๆตะหลิวในน้ำมันแทน วิธีนี้สะดวกตรงที่พอเจียวกระเทียมได้ที่แล้วก็ไม่ต้องมาคอยช้อนขึ้นค่ะ (ยกตะหลิวขึ้นเลย) ยิ่งบางทีจะต้องทอดอะไรต่อ หากช้อนเศษกระเทียมออกไม่หมดจะเป็นปัญหา ทำให้เกิดเศษกระเทียมไหม้ไปติดอาหารทอดจานต่อไปที่ใช้น้ำมันเดียวกันได้นะคะ

รูปภาพ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:51 pm
โดย {@-Enya-@}
พอทอดทุกอย่างเรียบร้อย และพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันแล้ว ก็เอาเต้าหู้ทอด ข้าวเม่าพอง และก็กุ้งแห้งใส่ชามใหญ่ๆรวมกันไว้ค่ะ (เพื่อเตรียมเอาไปผัด) กระเทียมเจียวยังไม่ใส่นะคะ เอาไว้ใส่ตอนหลัง

รูปภาพ