สะโพกไก่หมักงา
ว่างๆก็เลยแว๊บเข้ามาโพสต์แชร์เมนูหลักค่ะ เวียนมาเป็นอาหารจานไก่ๆอีกแล้วค่ะพี่น้อง ยายล่ะอยากให้อาทิตย์หนึ่งมีเกิน 7 วัน ซะจริงๆ จะได้มีเวลาเวียนรายการอาหารให้ยาวนานขึ้น แต่ว่ามีแค่เจ็ดวันก็ไม่เป็นไรค่ะ เราคนไทยไม่ไร้หนทางอยู่แล้ว โดยส่วนตัวยายชอบเนื้อไก่ส่วนน่องและสะโพกที่สุด อาจจะเป็นเพราะมีความเชื่อส่วนตัวว่ามันอร่อยกว่าส่วนอื่นๆ ถ้าเอาเนื้อส่วนหน้าอกมาทำจานนี้ก็จะได้เนื้อที่แห้งเกินไป ใช้ปีกไก่รึก็อาจจะมันไปนิด ถ้าเลาะเนื้อที่น่องหรือสะโพกออกมาหมักน้ำซอสให้ได้ที่ เราก็จะได้เนื้อนุ่มๆที่มีความมันแบบพอดีๆที่ดัดแปลงเป็นอาหารได้หลายชนิดเลยทีเดียว..คุณตาเคยบอกว่ายายชอบทำให้ชีวิตของตัวเองยุ่งยาก ทำไมไม่ใช้ไก่ทั้งน่องหรือทั้งชิ้นหมักไปเลย ต้องมายืนให้ปวดขาพร้อมกับเสียเวลาเลาะกระดูกออกทำไม..เอ..นั่นสิที่ตาแกพูดมาก็ถูก..แต่ยายว่าเนื้อที่เลาะออกแล้วเอาไปหมักเนี่ย มันให้รสชาดแตกต่างกว่าเนื้อทั้งชิ้นจริงๆค่ะ ถ้าไม่เชื่อต้องลองทำดูก่อนนะคะ..สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น จริงๆค่า...
สิ่งที่ต้องเตรียม( สำหรับ 5 ที่)
• สะโพกไก่ติดน่อง 5 ชิ้น
• น้ำมันงา 1 ชต.
• งาสีขาว-ดำ ปริมาณตามชอบ
• ซีอิ๊วขาว 3 ชต.
• ซอสหอยนางรม 1-2 ชต.
• น้ำตาล 2 ชช.
• พริกไทยบดหยาบ 2 ชช.หรือตามชอบ
• มาสตาร์ด 1ชต.
• แป้งโกกิหรือแป้งข้าวโพด 1 ชต.
ขั้นตอนการเลาะเนื้อไก่
•จัดการเลาะเนื้อไก่ออกจากกระดูก (ใช้เท็คนิคการเลาะเดียวกับกับการเลาะน่องไก่เพื่อทำต้มจืดไก่เด้งที่เคยโพสต์ไว้แล้วที่ ”สูตรใครก็สูตรใคร”)สำหรับท่านที่ไม่ทราบ เดี๋ยวยายลงให้ดูอีกทีก็แล้วกัน ใช้สะโพกแบบติดมันน้อยที่สุดค่ะ
•หามีดปลอกผลไม้มาลับให้คมๆซักด้าม ใช้มีดคัตเตอร์ก็ได้ วางน่องไก่บนเขียงตามรูปนะคะ ให้ด้านโค้งของชิ้นไก่โค้งเข้าหาเรา กดมีดลงลึกพอควรแต่ระวังอย่าให้ทะลุอีกด้านนะคะ เดี๋ยวจะได้เนื้อเป็นชิ้นขาดร่องแร่ง ดันให้ปลายมีดชิดกับกระดูก จากนั้นลากไปจนสุด
•กดมีดติดกระดูกอีกด้าน เลาะจนสุดน่องเหมือนอีกด้าน แซะเอาเนื้อออกจากกระดูกให้มากที่สุดละกันนะจ๊ะ
•เลาะกระดูกสำเร็จแล้ว ใช้มีดกรีดให้เนื้อแผ่ออกนะคะจะได้หนาสม่ำเสมอทั้งชิ้น กระดูกไก่ยายไม่ทิ้งค่ะ แช่แข็งไว้ต้มน้ำซุปคราวหน้า..เอ็นข้อไก่น่ะหลังต้มนุ่มๆแล้วเหยาะแค่ซีอิ๊วขาว..อร่อยอย่าบอกใครเชียว...
มาหมักไก่กัน
•ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างเข้าด้วยกัน คนๆจนแป้งกับน้ำตาลละลายและทุกอย่างเข้ากันดี
•นำสะโพกไก่ไร้กระดูกที่แล่ไว้ลงคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ใช้มือขยำแรงๆเพื่อให้น้ำปรุงซึมเข้าเนื้อไก่ให้หมด แพ็คเข้าตู้เย็นซัก 1 ชม.ค่ะ แช่ไว้ค้างคืนยิ่งดี เนื้อไก่จะได้นัวๆ... แต่ถ้าใจร้อนก็ไม่ต้องแช่ค่ะ ยายลองเทียบรสชาดดูแล้ว โดยส่วนตัว ยายรู้สึกว่าเนื้อที่แช่ตู้จะมีรสกลมกล่อม และลิ้มได้ถึงรสเครื่องเทศที่ผสมลงไปมากกว่า เนื้อที่ไม่แช่ ก็เลือกเอาวิธีการที่ชอบและสะดวกของใครของเราก็แล้วกันนะจ๊ะ ยังไงๆ คนเราก็ชอบต่างกันอยู่แล้วในเกือบทุกๆด้าน..ใช่มั๊ยคะยายก็..พาไปซะไกล...มาทำไก่หมักงากันต่อดีก่า...
•ตั้งกระทะเท็ฟลอนที่ไฟปานกลางจนร้อนได้ที่ค่ะ เทน้ำมันลงซัก1 ชต.เพื่อกันเนื้อชิ้นแรกติดกระทะ
•เอาเนื้อด้านติดหนังลงก่อนค่ะ ทีนี้ล่ะก็ คอยหลบการแตกและกระเด็นของงาให้ดีๆ เคยกระเด็นเข้าตายายมาหนหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง เจ็บไปหลายวันเชียว
•ปรับไฟให้พอดี อย่าใช้ไฟแรงไปนะคะ เมื่อหนังไก่กรอบได้ที่แล้วก็กลับข้างค่ะ ตอนนี้เราก็จะเห็นปริมาณน้ำซอสและน้ำมัน(ที่ออกมาจากหนังไก่)เพิ่มขึ้นในกะทะ ถ้าไม่ชอบมันๆก็ตักออกบ้างก็ได้จ้ะ แต่น้ำมันที่ปนซ๊อสตัวนี้แหละจ้า จะทำให้เนื้อไก่นุ่มขึ้นไปอีกมากๆเลย....ตักออกทิ้งหรือเอาไว้ วัดใจตัวเองเรื่องกินเรื่องใหญ่กว่าเรื่องน้ำหนักที่อาจจะเพิ่มตามมาดีๆละกัน..หุหุ
•เมื่อพอใจกับความสุกและกรอบของไก่แล้ว ก็เป็นอันว่าเสร็จพิธี..เรียนเชิญเจ้าอาวาสเริ่มก่อนเลยเจ้าค่ะ ส่วนเณรน้อย คอยไปพลางๆก่อนนะเจ้าคะ..
*กรอบนอก นุ่มใน เคเอฟซีก็KFC เถ๊อะ*
*ทานกับเบบี้แครอทและถั่วแขก ก็เข้ากั๊น เข้ากัน..เพิ่มเวอร์ชั่นมันฝรั่งอบกระเทียมเข้าไปอีก ยิ่งแซ่บเว่อร์ค่าาา..* *
*ทานกับเจ้าสลัดมันรวมมิตรของโปรดคุณตาจานนี้ แกบอกว่าก็ได้อีกฟีลลิ่งที่แตกต่าง..*
*แต่สำหรับยายน่ะ ยังไง๊ ยังไง ก็ขอทานกับข้าวละกัน ข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อนๆ ไก่หมักงาซักจาน น้ำพริกถ้วยนึง และผักสดเยอะๆ ยายขอแค่นี้แหละแฮ่ะๆๆๆ..